ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นในการฝึกฝนของกู้ซีหวงแล้ว นกเฟิ่งหวงที่หายเข้าไปในหน้าผากของนางก็บินออกจากหว่างคิ้วของนาง ก่อนจะพ่นไฟออกมาอย่างกะทันหันและห่อหุ้มกู้ซีหวงให้อยู่ในนั้น
กู้ซีหวงกัดฟันอดทนกับความเจ็บปวด และเปลวไฟก็แผดเผานางทั้งเป็นก่อนที่เลือดจะไหลออกมา
“โอ๊ย” ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว กู้ซีหวงกรีดร้องออกมาเพื่อยุติความทรมานจากไฟลูกนั้น
เมื่อมองดูร่างสมมติของนกเฟิ่งหวงอีกครั้งก็ไม่เห็นร่องรอยของมันแล้ว ไม่รู้ว่ามันหายไปแล้วหรือกลับเข้าไปในหว่างคิ้วของนางกันแน่
ลมกลางคืนพัดผ่านผ้าม่านเข้ามา มีกลิ่นตุๆ ลอยมาแตะที่ปลายจมูก เมื่อเทียบกับกลิ่นของเหม็นเน่านี้แล้ว ข้าวผัดกลิ่นเหม็นเปรี้ยวในแดนเนรเทศเมื่อชาติที่แล้วก็มีกลิ่นอ่อนไปเลยทันที
ถึงแม้จะใช้คำว่ากลิ่นเหม็นเน่าก็ยังสาธยายมันออกมาไม่ได้ด้วยซ้ำ!
กู้ซีหวงทนกลิ่นเหม็นเน่าของตัวเองต่อไปไม่ไหวจนต้องวิ่งพุ่งไปยังบ่อน้ำที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ก่อนจะพุ่งลงไปให้น้ำท่วมตัวอย่างไม่ลังเล
ในขณะเดียวกัน ตระกูลกู้ก็ไม่รู้ว่ามีลมอะไรพัดมา ไม่ใช่สิ มันคือกลิ่นเหม็นเน่า ทำเอาทั้งในและนอกรั้วบ้านตระกูลกู้เหม็นเน่าไปหมด
ถึงแม้ว่ากู้ซีหวงจะวิ่งเร็วปานใด แต่กลิ่นเหม็นเน่านั้นสามารถแผ่ออกมาได้ทันที จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บ้านตระกูลกู้มีกลิ่นเหม็นไปด้วย
สุดท้ายแล้วกู้ซีหวงที่แช่อยู่ในน้ำครึ่งค่อนคืนก็สามารถสลัดกลิ่นเหม็นเน่าออกไปได้ในที่สุด ก่อนจะวิ่งกลับไปที่เรือนของตัวเองด้วยเนื้อตัวเปียกโชก
ขณะเดินอยู่บนทางเดิน นางก็เพิ่งสังเกตว่าร่างกายของนางไม่เหมือนเดิม ไม่ต้องพูดถึงร่างกายที่อ่อนแอในตอนที่เพิ่งฟื้นจากการจมน้ำ แค่นางแช่อยู่ในน้ำทั้งคืน แม้แต่คนที่ร่างกายแข็งแรงก็คงจะหนีไม่พ้นหวัด แต่ท่าทางของนางกลับเหมือนคนปกติอย่างไรอย่างนั้น
เพราะนางตั้งใจใช้ทางลัดที่ไร้ผู้คน จึงทำให้ตลอดทางนั้นเงียบสงบ เมื่อถึงหน้าห้องก็ปะทะกับสาวใช้ชุดชมพู
สาวใช้ชมพูเห็นกู้ซีหวงแต่ไกล จึงรีบโค้งคำนับ “คุณหนู อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ!”
กู้ซีหวงตอบกลับอย่างเฉยชา “อือ อรุณสวัสดิ์”
ที่นางเป็นคุณหนูของจวนนั้นก็มาจากการที่ท่านป้าของนางตามใจนางมาก ตอนที่นางเพิ่งถือกำเนิด บิดาก็ได้ลาจากโลกนี้ไป การนางที่ไม่มีบิดามารดาทำให้กู้หลิงอวี้รักนางมาก จึงรับนางมาเลี้ยงดู
สาวใช้ชุดชมพูไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ยินเสียงตอบรับจากกู้ซีหวงจึงเงยหน้าขึ้นด้วยความแปลกใจ ก็พบเจอกับใบหน้าที่งดงามยิ่งกว่าเทพธิดา แต่สิ่งที่พิเศษแปลกตาคือรูปนกฟินิกซ์ที่อยู่กลางหน้าผาก ทำให้ใบหน้าเดิมของนางที่งดงามอยู่แล้วมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร!
สาวใช้ชมพูอึ้งไปสักพักก่อนจะรู้สึกตัวอีกครั้ง กู้ซีหวงก็เดินไปไกลมากแล้ว สาวใช้นางนี้ถึงกับเอ่ยปากด้วยความตกใจ “คุณหนูช่างงดงามยิ่งนัก”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางได้เจอกับคุณหนู เพียงแต่รู้สึกว่าคุณหนูให้ความรู้สึกไม่เหมือนปกติ
เมื่อกลับถึงห้องนอนของนาง กู้ซีหวงเปลี่ยนเป็นชุดคลุมยาวสีขาวพลางเอาผ้าคาดศีรษะสีอ่อนมาคาดหน้าผากเพื่อปกปิดรูปนกเฟิ่งหวงบนหน้าผาก
กู้ซีหวงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วจึงเดินมุ่งไปยังห้องอาหารของตระกูลกู้ และตอนนี้ก็เป็นเวลาทานอาหารพอดี กู้หลิงอวี้กับหลิงซื่อผู้เป็นสามีกับสองสามีภรรยาโจวซื่อและหลี่ซื่อกำลังรับประทานอาหารกันพอดี
เมื่อเห็นกู้ซีหวงเดินเข้ามาในห้องอาหาร กู้หลิงอวี้ก็วางตะเกียบลงก่อนจะกวักมือเรียกให้นางเดินมาหา
“อรุณสวัสดิ์ท่านป้า อรุณสวัสดิ์ท่านลุง” กู้ซีหวงเอ่ยปากทักทาย ก่อนจะนั่งลงตรงที่นั่งข้างๆ กู้หลิงอวี้
เพิ่งจะนั่งลง กู้หลิงอวี้ก็คีบขาหมูกระด้างให้นางพลางเอ่ยปากว่า “มาเร็วหลานรัก กินขาหมูกระด้างเสริมสมองสักหน่อย!”
“ท่านป้า…” กู้ซีหวงอธิบายอย่างท้อแท้ “ใครๆ ต่างก็บอกว่ากินนั่นแล้วบำรุงนี่ แต่ไม่เคยเห็นมีใครบอกว่ากินขาหมูแล้วจะช่วยบำรุงสมองเลยสักนิด”
กู้หลิงอวี้โบกมือไม่สนใจ “ก็เพราะว่าพวกเขาไม่รู้อย่างไรเล่า ว่าขาหมูนั้นไม่ต่างกับสมองของหลานรักบ้านเราสักเท่าไหร่!”
กู้ซีหวงหน้าเจื่อน พลางคิดในใจว่านี่คือป้าแท้ๆ ของนางจริงๆ หรือ?