คิดว่าแผนของพระองค์ล้ำเลิศนักใช่หรือไม่?! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน หม่อมฉันจะทำให้เห็นเองว่าแท้จริงแล้วหมากกระดานนี้เป็นของผู้ใด
คิดว่าแผนของพระองค์ล้ำเลิศนักใช่หรือไม่?! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน หม่อมฉันจะทำให้เห็นเองว่าแท้จริงแล้วหมากกระดานนี้เป็นของผู้ใด
หลังฝังศพสตรีในดวงใจเสร็จ ชินอ๋องก็ขอยกทัพกลับมาประจำการยังตำหนักที่ชายแดนทะเลทรายทางทิศบูรพาของแคว้นทันที แต่คิดหรือว่าเขาจะยอมกลับมามือเปล่า ปล่อยให้ผู้ที่ลงมือก่อเหตุนั้นอยู่อย่างสุขสบาย
ในเมื่อเสด็จพี่ไม่มีความยุติธรรมให้แก่เขา ตัวเขาก็จะขอเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง!
ด้วยเหตุนี้ ฉินซิ่นซื่อจึงลอบเข้าตำหนักซูฟางแล้วลักพาตัวซู่ซู่กลับมาด้วย
กระนั้นบนใบหน้าหวานของซู่ซู่ก็ยังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มบางๆ
“หรือทรงยอมรับความจริงไม่ได้เพคะ...ความจริงที่ว่าองค์หญิงแคว้นหลางผู้นั้นเป็นไส้ศึกที่เข้ามาเพื่อล้วงความลับแคว้นฉินและหาโอกาสลอบปลงพระชนม์เสด็จพี่ ท่านอ๋องเพคะ...แม้ปากของพระองค์จะเอ่ยเช่นนี้ แต่ในพระทัยกำลังนึกขอบคุณหม่อมฉันต่างหากที่ช่วยกำจัดสตรีผู้นั้นออกไป เพราะพระองค์ใจไม่แข็งพอที่จะทำมันด้วยตัวเอง สิ่งที่หม่อมฉันควรจะได้รับคือการสรรเสริญที่ทำทุกอย่างเพื่อแคว้นฉินของเรา เพื่อฝ่าบาท มิใช่การปฏิบัติเช่นนี้!!”
“เจ้าอย่ามากล่าววาจาเหลวไหลว่าร้ายผู้ที่ตายไปแล้ว เจ้าก็แค่ไม่พอใจที่เห็นข้าตัดใจจากเจ้าได้ ทนเห็นข้ามีความสุขมิได้” ยิ่งมองใบหน้าของสตรีตรงหน้าที่เชิดขึ้นอย่างอวดดี โทสะในใจของฉินซิ่นซื่อก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น ในขณะที่ซู่ซู่นึกสมเพชอีกฝ่ายในใจ
เสียแรงที่คนตรงหน้าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ หลักฐานก็มีอยู่ทนโท่ ทว่าแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ถูกความรักบังตาเห็นผิดเป็นถูก แต่จะเรียกว่าความรักได้หรือเปล่า!?
เพิ่งพบหน้ากันเพียงแค่ไม่ถึงสัปดาห์ก็ขอสมรสพระราชทาน...นี่มันใช่หรือ!?
นางคิดถูกจริงๆ ที่ไม่ได้ตอบรับความรักของเขาในตอนนั้น มิเช่นนั้นคงต้องแต่งงานกับบุรุษสติปัญญาต่ำผู้นี้
อา...
แต่จะว่าไปในเมื่อเขาเป็นคนเริ่มต้นจุดประกาย หากนางจะเติมเชื้อไฟสักหน่อยคงไม่เป็นไร
“ไม่เกี่ยวเลยเพคะ จะทรงรักกับผู้ใดก็เป็นเรื่องของพระองค์ แม้อยากจะคว้านางคณิกาในหอโคมเขียวมาแต่งเป็นพระชายา หม่อมฉันก็ไม่สนใจ หากมิติดว่ามันเกี่ยวพันกับแคว้นของเรา...และตัวของท่านพี่ชงเฉิน” แล้วซู่ซู่ก็พูดต่อพร้อมกับส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มที่มีเจตนากวนประสาทให้ชินอ๋อง
“ปากดีนัก ต่อหน้าเสด็จพี่เหตุใดไม่พูดเช่นนี้บ้าง! ?”
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉินซิ่นซื่อไม่นึกโกรธเคืองเสด็จพี่ของตน เพราะต่อหน้าฉินชงเฉิน สตรีตรงหน้ามักจะทำตัวบอบบางอ่อนแอน่าสงสารเสมอ เสด็จพี่เองวันทั้งวันก็ยุ่งกับราชกิจแทบตาย ไม่มีเวลามาจับผิดนางหรอก
“ก็เพราะท่านพี่ชงเฉินมีค่าให้หม่อมฉันทำตัวเรียบร้อยใส่อย่างไรเล่าเพคะ” แล้วซู่ซู่ก็พูดต่อ
“ทรงยอมรับเถอะเพคะ ว่าพระองค์ยังรักหม่อมฉันอยู่ แต่เสียใจด้วยที่ในใจของหม่อมฉันมีเพียงฝ่าบาทคนเดียว แม้ฝ่าบาทจะรับหม่อมฉันเป็นพระสนมไม่ได้ก็ตาม และพระองค์ก็ทรงใช้เรื่องม่านชิงเซียนมาเป็นข้ออ้างสำหรับตัวเองในการลักพาตัวหม่อมฉันมา..."
"เห็นทีเจ้าจะหลงตัวเองมากเกินไปแล้วกระมัง"
เมื่อเห็นสายตาโกรธแค้นที่มองมายังตนเอง นางก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดต่อ
"พระองค์บอกหม่อมฉันสมควรตาย...เช่นนั้นก็ฆ่าหม่อมฉันเลยเพคะ หากทำมิได้ก็ยอมรับเถิด..."
"หึ..." มุมปากของผู้ที่ถูกท้าทายกระตุกขึ้นเบาๆ ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมมาจับปลายคางของนางให้เงยขึ้นมาแล้วออกแรงบีบแน่น
"ผิดแล้วล่ะ ที่ข้าเอาตัวเจ้ามาเพราะข้าจะทำให้เจ้าได้รู้...ว่าสิ่งที่ทรมานกว่าความตายเป็นเช่นไร" ฉินซิ่นซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ถึงจะรู้สึกเจ็บแค่ไหน แต่ซู่ซู่ก็ยังสงวนท่าทีเรียบเฉยไว้ได้ ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปที่แววตาเรียวสีน้ำตาลเข้มของอีกฝ่าย แล้วเอ่ยวาจาโต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัว
"น่าสนใจนะเพคะ หม่อมฉันก็อยากรู้เหมือนกัน! "
ฉินซิ่นซื่อไม่พูดอะไรนอกจากสะบัดมือกลับอย่างรวดเร็ว ทำให้ใบหน้าเรียวเล็กของซู่ซู่สะบัดไปตามแรง ทว่าก็ไม่มีแม้แต่เสียงร้องหลุดออกมาจากลำคอของนาง ก่อนจะหันไปสั่งคนของตนด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจว่า
"ทหาร!! มาเอาตัวนักโทษผู้นี้ไปก่อกำแพงอิฐฝั่งตะวันตก!!!! "
ขืนให้สตรีผู้นี้ลอยหน้าลอยตากวนประสาทเขาต่อไป มีหวังคงได้ฆ่านางตายคามือก่อนได้รับบทลงโทษเป็นแน่แท้ คำสั่งของฉินซิ่นซื่อทำให้ซู่ซู่ตกใจจนเผลออุทานออกมา
“ก่อกำแพง!?”
“ขอรับ!” คนของฉินซิ่นซื่อรับคำอย่างแข็งขัน พลางรีบตรงเข้ามาคุมตัวซู่ซู่
"กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องตัวข้า? ข้าเป็นท่านหญิงนะลืมไปแล้วหรือ!!? "
ร่างบางตวาดพร้อมกับพยายามสะบัดตัวให้หลุดพ้นจากฝ่ามือสากๆ ของทหารสองนายที่จับลงมาบนข้อมือขาวเนียนของนาง
"ท่านหญิงตัวจริงตอนนี้อยู่ในวัง...ส่วนเจ้าเป็นเพียงนักโทษ..." ร่างสูงพูดพลางยิ้มเยาะ เมื่อนึกถึงคนที่เขาจัดหาให้ไปทำหน้าที่แทนสตรีที่เขาจับตัวมา
มันจะไปยากอะไร เพียงแค่หาคนมาเลียนแบบหน้าตาท่าทางกิริยาก็ใช้ได้แล้วมิใช่หรือ!?
“ทหารที่นี่ฟังแต่คำสั่งของแม่ทัพเช่นข้าเพียงผู้เดียว แม้ฝ่าบาทของเจ้าจะมายืนอยู่ตรงนี้ก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้!! "
"อีกไม่นาน...ฝ่าบาทจะต้องรู้เรื่องนี้!! และพระองค์จะต้องส่งคนมาช่วยหม่อมฉันแน่!!!” ซู่ซู่ตะโกนใส่ฉินซิ่นซื่อด้วยความมั่นใจ ขณะที่พยายามขืนตัวไว้ แม้รู้ว่าสุดท้ายจะสู้แรงของบุรุษสองคนไม่ได้ แต่เรื่องอะไรนางต้องยอมจำนนให้ถูกลากไปไหนมาไหนได้ง่ายๆ เล่า
เมื่อได้ยินคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของนาง ฉินซิ่นซื่อก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น พลางโต้กลับ
“ฝันหวานไปเถิด! คนอย่างเสด็จพี่มีราชกิจต้องทำมากมาย เขาไม่เสียเวลามาสนใจสตรีไร้ยางอายที่ตามเกี้ยวพานขอความรักแต่เขาไม่เอาเช่นเจ้าหรอก!”
แม้จะมิมีผู้ใดพูดออกมาตามตรง แต่ทุกคนทั่วทั้งวังหลวงต่างก็รู้ว่าท่านหญิงซู่ซู่แอบชอบฮ่องเต้ฉินชงเฉิน ถึงขนาดที่ว่าต้องหาข้ออ้างขอเข้าเฝ้าทุกวันเพื่อให้ได้พูดคุยกันตามลำพังมาตลอด ตั้งแต่ฉินชงเฉินยังเป็นไท่จื่อ [1] ด้วยซ้ำ!
เสด็จพี่ของเขาคงจะอึดอัดน่าดู...
กระนั้นคราหนึ่งเขาก็เคยพลาดท่าไปรู้สึกดีกับนาง...จนตัวเองต้องเจ็บเจียนตาย!
“ชินอ๋อง! จำคำของหม่อมฉันไว้นะเพคะ!! สิ่งที่ทรงต้องการพระองค์จะไม่มีวันได้สมใจ...ไม่มีวัน!!” ซู่ซู่ตะโกนทิ้งท้าย ก่อนจะโดนลากตัวออกไปจนพ้นประตู
“เดี๋ยวเราก็ได้รู้กัน ข้าจะทำให้เจ้าทรมานจนต้องคุกเข่าร้องขอความเมตตาจากข้า!” ฉินซิ่นซื่อตะโกนไล่หลัง
ไม่ต้องห่วง
นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น...
ยังมีบทลงโทษอื่นอีกมากมายที่ข้าได้เตรียมไว้ให้เจ้าโดยเฉพาะ
ข้าอยากจะเห็นเหลือเกิน ว่ายามที่ท่านหญิงซู่ซู่ผู้ร่านรักและหยิ่งผยองแห่งวังหลวง ต้องก้มหัวร้องขอความเมตตากรุณาจากผู้อื่นนั้นเป็นเยี่ยงไร!
[1] ไท่จื่อ = ตำแหน่งรัชทายาท เรียกเต็มยศว่า ‘หวงไท่จื่อ’
Writer:ซู่ซู่ ถามได้ตรงประเด็นมากลูก เปิดมาอนแรกก็แบบไอ้ซิ่นซื่อ ไอ้ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไอ้คนโง่ 5555
#หัวเราะทีหลังดังกว่า
ตอนนี้ก็จะแต่งไปเรื่อยๆๆๆๆ อาจมีใช้คำผิดบ้างถูกบ้าง ตรงไหนที่มันวิบัติชนิดที่ว่าแย่มากจริงๆ แย้งได้นะคะ และเรื่องหัวเราะทีหลังดังกว่าไม่มีการอิงประวัติศาสตร์&ชื่อบุคคลใดทั้งสิ้น เป็นเพียงเรื่องสมมติค่ะ
ถามว่าบอกทำไม.. ไม่ได้บอกค่ะ พิมพ์ =w=
เหมือนนี่เป็นเรื่องที่ไรท์รวมสิ่งที่เห็นผ่านตามาบูรณาการรวมกัน 5555
เเรงบันดาลใจสำหรับเรื่องนี้เลยนะคะ มันมาจากความอดทนอดกลั้นของไรท์ที่จะไม่ซื้อนิยายที่อยากอ่านเรื่อง บุปผาทะเลทราย จนกว่าจะวางขายอีบุ๊คของตัวเองเรื่องของอาซากับหนูหลิง (อดมานานเท่าไร สามเดือนแล้วค่ะ ฮืออ) ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้ซื้อ เลยเอาฉากส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายซะเลย+หมั่นไส้คู่ของหลินหลิงกับหยวนซา นี่นั่งตรวจคำผิดไปก็อยากหยิกแก้มทั้งคู่ไป แจ็คพ็อตเลยมาลงที่ซู่ซู่
//ไม่ได้ค่าโฆษณานะ ถถ แต่ใครอยากอ่านตามไปซื้อได้ เรื่องที่แปะไว้มีความย้อนยุค+มีการการแทรกวัฒนธรรมของชาวอังกฤษด้วย พระนางคือฮองเฮากะฮ่องเต้ที่เหมือนจะเกลียดกันแต่จริงๆ ไม่นะ ซึ่งไรท์ว่าคนเขียนๆ ได้ค่อนข้างดีเลย ติดตรงคำผิดกับรวบรัดไปนิดนึง T_T
*ไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงในชีวิตจริงเน้อ*
ชอบแนวดราม่าหน่วงๆ ที่มาของเรื่องนี้---------->ทางใครทางมัน! เราหย่ากันแล้ว!
ชอบแนวน่ารักไม่ซีเรียส----------> แต่งกับเจ้าแล้วไง! ข้าก็ไม่ได้รักเจ้าเสียหน่อย!
คลายเครียดอ่านฟรีจนจบ----------> ย้อนเวลา กลับชาติมาเป็นฮ่องเต้อีกครั้ง