Your Wishlist

จางหลี่จิ้ง (ขนมเข่งเป็นเหตุ)

Author: ชาเขียวuมสด

งื้ออออ...กินก็ยังไม่อิ่ม..เงินอั่งเปาก็ไม่ทันได้ใช้ ต้องมาตายเพราะขนมเข่งติดคอ เวรกรรมจริงๆน่านเอ้ย

จำนวนตอน :

ขนมเข่งเป็นเหตุ

  • 23/04/2564

สวัสดีครับก่อนอื่นผมก็ต้องแนะนำตัวก่อน ผมชื่อ น่านนที ธีระภักดิ์ ชื่อเล่นก็ น่าน สั้นๆเลยครับ อายุยี่สิบสี่ปี เป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อหรือแม่เหมือนคนอื่นหรอก ขนาดตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าพ่อแม่เป็นใครหน้าตาแบบไหน ผมหนีออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าเองตอนนั้นอายุประมาณสิบสี่หรือสิบห้านี่หละครับ เนื่องจากผมโดนเพื่อนที่อยู่บ้านเด็กกำพร้าด้วยกันกลั่นแกล้งทุบตีบางครั้งก็โดนแย่งขนมและอาหารบางมื้อเวลาที่แม่ใหญ่ไม่อยู่ตัวเขานั้นมักจะโดนเพื่อนๆ รวมตัวกันแกล้งบ่อยที่สุดเพราะเป็นน้องคนเล็ก หลังจากที่ออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าแล้วผมก็เร่ร่อนไปทั่ว พยายามหางานตามร้านขายข้าว ร้านก๋วยเตี๋ยว รับจ้างล้างจานบางครั้งก็แลกกับอาหารหนึ่งมื้อตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวทำยังไงก็ได้ให้มีชีวิตรอด

ในแต่ละวันของผมนั้นมีแต่งานไม่มีหรอกครับ ใครจ้างทำงานอะไรก็ทำแทบทุกอย่างที่ได้เงินไม่เคยเกี่ยงงานหรือปริปากบ่นเลยสักครั้ง แม้บ่อยครั้งที่โดนเพื่อนในที่ทำงานเอารัดเอาเปรียบอยู่บ่อยแต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ผมทำได้แค่ปล่อยวางทุกอย่างแล้วเดินต่อไปข้างหน้าเพื่อที่สักวันหนึ่งตัวของผมเองนั้นจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยคนเดียวนั้นมันทำให้ผมเองก็เหงาอยู่ไม่น้อยแต่ผมก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่ได้รู้จักพี่แพมและพี่ดลทั้งสองช่วยดูแลผมมาเป็นอย่างดีจากเด็กข้างถนนวันนั้นกลายมาเป็นน่านได้อยู่ทุกวันนี้ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ทั้งสองคน

 

“น่านจ้ะ…น่านช่วยพี่ยกของพวกนี้ออกไปไว้ด้านนอกหน่อยได้ไหมจ้ะ”

“ได้ครับพี่แพม แล้วพี่ซื้อของเตรียมไหว้ตรุษจีนครบหรือยัง”

“ใกล้ครบแล้วจ๊ะน่าน เหลือแค่พวกอาหารที่ยังไม่ได้ออกไปสั่งเลย”

“แล้วหมู…เป็ด…ไก่…ละครับให้น่านไปช่วยสั่งมั๊ย”

“ไม่ต้องจ๊ะ พี่ให้พี่ดลไปจัดการให้เรียบร้อยแล้ว”

“โอเคครับ” จากนั้นไม่นานทั้งสองก็ได้ลงมือจัดการล้างผลไม้เตรียมถ้วยชามไว้สำหรับวันไหว้ตรุษจีนเพื่อขอพรไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือบรรพบุรุษที่จะถึงในวันพรุ่งนี้

 

วันรุ่งขึ้น

น่านที่รีบตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อไปช่วยพี่แพมและพี่ดลจัดของไหว้ก็ได้รีบวิ่งออกจากบ้านมาอย่างไว

“ไงเรา หอบมาเชียววิ่งมาอีกแล้วล่ะสิ” น่านเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ได้ยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับพี่ดล”

“เออๆ หวัดดี” น่านมาถึงได้สักพักแต่ก็ยังไม่เห็นพี่แพมจึงได้เอ่ยถามพี่ดล

“แล้วพี่แพมล่ะครับ”

“กำลังแต่งตัวอยู่น่ะเดี๋ยวก็ลงมาแล้ว…ว่าแต่น่านกินอะไรมารึยัง”

“กินมาเรียบร้อยแล้วครับ” รอไม่นานพี่แพมก็ลงมา

“มาไวเชียวนะเราอ่ะ”

“แน่นอนสิครับน่านจะพลาดได้ยังไง” นพดลที่เห็นว่าได้เวลาสมควรแล้วจึงได้ขัดจังหวะของทั้งสอง

“แพม…น่าน…หยุดคุยกันก่อนไปช่วยยกของออกมาจัดไหว้ได้แล้วถึงเวลาแล้วนะ”

“ครับ…พี่ดลน่านจะไปเดี๋ยวนี้เลย”

“ไปเถอะน่านเดี๋ยวคนแก่แถวนี้จะบ่นเอาได้ 55555” พุดจบแพมก็ได้ลากน่านออกไปทันที

“หึหึหึ” นพดลได้แต่ส่ายหัวให้กับทั้งสอง

 

และแล้วเวลาก็ล่วงเลยมาถึงช่วงเย็น

“อ่ะ…น่าน นี่อั่งเปาของพี่กับพี่ดล”

“ขอบคุณครับพี่แพมพี่ดล” น่านรีบยกมือขึ้นไหว้แพมและนพดล จากนั้นก็ได้เปิดซองอั่งเปาดูเมื่อเห็นจำนวนเงินที่อยู่ข้างในน่านก็ต้องตกใจอ้าปากค้าง

“นะ….นี่มันจะเยอะเกินไปแล้วนะครับให้น่านแค่ไม่กี่บาทก็พอพี่แพมพี่ดลน่านเกรงใจ”

“รับไว้เถอะน่านอย่าทำลายน้ำใจพี่กับแพมเลย”

“ใช่จ๊ะ…ในเมื่อผู้ใหญ่ให้เด็กอย่างเราก็ต้องรับไว้ห้ามปฏิเสธเด็ดขาดไม่งั้นพี่จะงอน”

“เฮ้อ…ก็ได้ครับ น่านต้องขอบคุณพี่ดลกับพี่แพมมากนะครับที่รักและดูแลน่านมาอย่างดีแม้น่านจะไม่ใช่คนในครอบครัวหากวันไหนน่านได้ดีขึ้นมาน่านจะไม่มีวันทอดทิ้งพวกพี่แน่นอนครับ”

“พูดอะไรเป็นลางนะเราไม่เอาไม่พูดวันนี้วันดี อ่ะขนมเข่ง” แพมก็ได้หยิบขนมเข่งมาชิ้นนึงพร้อมกับยื่นไปให้น่านชิม

“งื้อออ….ขนมเข่งน่ากินจังเลยครับพี่แพม”

“ลองชิมดูสิน่าน ขนมเข่งเจ้านี้อร่อยนะพี่กล้ารับประกันเลย” เมื่อได้ยินพี่แพมยืนยันแบบนั้นน่านก็ไม่รอช้ารีบเอาขนมเข่งเข้าปากอย่างไว

“อื้มมมมมมมม…..อาหย่อยยยยยยยย” น่านพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข

“ใช่มั้ยล่ะพี่บอกแล้ว…นี่ๆ ลองขนมถ้วยฟูด้วย”

“โห…พี่แพม…ทั้งหวาน…ทั้งนุ่ม…ละมุนลิ้นเอามากๆ เลย” น่านรับมาอย่างไม่อิดออดก่อนจะกัดขนมเข้าปากอีกครั้งพร้อมกับทำหน้าเคลิบเคลิ้มความรู้สึกจมดิ่งอยู่กับรสชาติของขนมถ้วยฟู

“อร่อยใช่มั้ยล่ะ”

“ฮะ อร่อยฝุดๆ ไปเลย…นี่ก็เริ่มดึกมากแล้วน่านขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับพี่แพม”

“จ้าๆ เดินกลับบ้านดีๆ ล่ะเรา”

“ครับ” ก่อนจะกลับพี่แพมได้นำผลไม้และขนมต่างๆ ใส่ถุงมาให้เขาเพื่อนำกลับไปกินที่บ้าน เดินเข้าซอยไปไม่ถึงห้าหลังก็ถึงบ้านก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านทุกครั้งน่านจะต้องหันมองซ้ายขวาเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยแล้วจริงๆ จะให้น่านทำไงได้ทุกวันนี้พวกโจรช่างชุกชุมก็ต้องระวังตัวเองเป็นธรรมดาหลังจากที่เข้าบ้านน่านก็รีบปิดประตูบ้านพร้อมล็อกกุญแจลงกลอนไว้เรียบร้อย จึงเดินขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำล้างตัวชำระร่างกายให้สะอาด เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็ได้ทำการทาครีมเป่าผมให้แห้งแล้วเดินไปหยิบนิยายที่ชั้นวางหนังสือออกมานอนอ่านจนเผลอหลับไปในที่สุด

 

“อืม…เช้าแล้วเหรอเนี่ยเผลอหลับไปตอนกันนะ” จากนั้นน่านก็ได้ลุกขึ้นนั่งแล้วบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะลุกเดินเข้าไปยังห้องอาบน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายก่อนที่จะออกไปทำงาน เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยน่านก็ได้เดินออกไปเพื่อที่จะทำงานร้านป้าจี้ตรงหน้าปากซอย ท้องน้อยๆ ของน่านก็ได้เริ่มทำการประท้วงทันที

“ชักจะหิวแล้ว” น่านจึงหยิบขนมเข่งที่พี่แพมให้มาเมื่อคืนกินอย่างอร่อย ในระหว่างทางที่น่านเดินไปกินไปก็เท้าก็ได้ไปสะดุดเข้ากับฟุตบาทถนนทำให้น่านเสียหลังล้มลงหน้าทิ่มพื้นจนทำให้ขนมเข่งที่น่านกำลังกินอยู่นั้นติดคอ จะกลืนก็กลืนไม่ลง จะคายก็คายไม่ได้ น้ำก็ไม่ได้พกมาอีก เวรกรรมทำไมถึงได้อนาถตัวเองแบบนี้

“งื้อ…กินก็ยังไม่อิ่ม…เงินอั่งเปาก็ยังไม่ได้ใช้ กลับต้องมาตายเพราะขนมเข่งติดคอ เวรกรรมจริงๆ เลยน่านเอ้ย” แล้วนี่เขาจะได้ไปลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ละนี่ ทำไมรอบๆ ข้างถึงได้มืดมองอะไรไม่เห็นแบบนี้ น่านนทีได้แต่เดินไปข้างหน้าอย่างคนไร้จุดหมาย พลางก็คิดเสียดายขนมเข่งที่ยังกินไม่หมด ‘เฮ้อ ขนมเข่งที่รักของน่านเราคงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วลาก่อนนะเงินอั่งเปาที่ยังไม่ได้ใช้ บัดซบจริงๆ’ หลังจากที่น่านนทีเดินไปบ่นเสียดายไปก็ได้มีแสงสว่างเล็กๆ ส่องมาทำให้น่านรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในแสงสว่างนั้นก็ได้คิดในใจว่าหากเขาได้ไปเกิดขอให้เขานั้นเกิดมาในที่ที่ดีอย่าได้ลำบากยากจนอีกเลย

วูบบบบบบบ!

แต่…………

“หยุดนะเจ้าหลี่จิ้ง มาให้ข้ากระทืบเจ้าซะดีๆ ไอ้ขอทานตัวเหม็น” ใครหยุดก็โง่เต็มทนล่ะ แต่นี่มันบัดซบอะไรกัน เขาขอให้ไปเกิดใหม่ในที่ดีๆ ไม่ลำบากยากจนนะเฟ้ยยยย! แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ในร่างขอทานแบบนี้ละเนี่ย ไอ้น่านคนนี้อยากจะบ้าตายอีกรอบจริงๆ เลยเว้ยยยยยยยย!

กลับหน้าหลัก ตอนถัดไป