เธอเจอร้านขายหยกร้านหนึ่ง 'ร้านขายหยกอี้ซุย' ด้วยประวัติอันยาวนานกว่าร้อยปี ร้านไม่ใหญ่มากนัก แต่ค่อนข้างมีชื่อเสียง
เพราะเจ้าของร้านอี้ซุยเป็นถึงนายกสมาคมหยกแห่งเมือง F หยกในร้านอี้ซุยเป็นที่รู้จักดีในด้านคุณภาพและราคาที่สมเหตุสมผล
ดังนั้นกู้หนิงจึงตัดสินใจไปที่ร้านขายหยกอี้ซุยที่มีประวัติร่วมร้อยปี
แม้ว่ากู้หนิงจะไม่รู้อะไรมากนักกับร้านอี้ซุย และยิ่งไม่รู้ว่ามันดีสมราคาคุยอย่างที่ในอินเตอร์เนตบอกไว้หรือไม่ แต่เธอไว้ใจร้านนี้มากกว่าร้านอื่น
เธอรู้ราคาหยก ถ้าเธอไม่ได้ราคาที่พอใจ เธอก็จะไม่ขาย
สาขาใหญ่ของร้านอี้ซุยอยู่ในตลาดขายของเก่า แต่ก็มีอีกหลายสาขาที่เปิดในห้างสรรพสินค้า
ตอนนี้กู้หนิงอยู่ในตึกขายของในเมือง เธอตัดสินใจจะไปร้านอี้ซุยทีหลัง
หลังจากหาข้อมูลเสร็จเรียบร้อย กู้หนิงก็เก็บมือถือและหยกใส่ในกระเป๋าเป้และหาข้าวกิน
หลังจากกินข้าวเสร็จ เธอตรงไปที่ร้านขายหยกอี้ซุยทันที
ร้านอยู่ชั้นสอง กู้หนิงใช้เวลาหาอยู่สักพัก ร้านอี้ซุยมีขนาดไม่ใหญ่มาก ตกแต่งสไตล์ย้อนยุค พนักงานของร้านต่างสวมชุดกี่เพ้า
นาทีที่กู้หนิงเดินเข้าไปข้างใน พนักงานของร้านเดินเข้ามาหาเธอ และทักทายอย่างสุภาพนอบน้อมถึงแม้เธอจะเป็นเพียงเด็กนักเรียนก็ตาม
"คุณหนูคะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ?" พนักงานหญิงเอ่ยถาม
"ไม่ทราบว่าหยกที่คุณภาพดีที่สุดของร้านคือชิ้นไหนคะ?" กู้หนิงตอบ
"ถ้าดีที่สุดของร้านจะเป็นหยกมรกตชิ้นนี้ค่ะ สีของมันออกสีเขียวจางๆ แต่ถ้าอยากได้สีม่วงซึ่งค่อนข้างหายากนิดหนึ่ง ถ้าคุณหนูต้องการ สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ค่ะ" พนักงานหญิงเอ่ยตอบ
"ร้านนี้มีหยกจักรพรรดิขายไหมคะ? กู้หนิงถาม
พนักงานหญิงหน้าเจื่อนเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดว่า "ต้องขอโทษด้วยค่ะ หยกจักรพรรดิค่อนข้างหายาก ดิฉันอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานาน ยอมรับว่ายังไม่เคยเห็นเลยค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นคุณรับซื้อมันไหม?" กู้หนิงสอบถาม
พนักงานหญิงประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่ากู้หนิงต้องการจะทำอะไรกันแน่
"เรารับซื้อหยกคุณภาพสูงเท่านั้น และให้ราคาแปดในสิบของราคาตลาดค่ะ
แปดในสิบก็ยุติธรรมดี
"ขอพบผู้จัดการร้านได้ไหมคะ ฉันอยากขายหยกจักรพรรดิขนาดประมาณไข่นกกระทาค่ะ"
"อะไรนะ? หยกจักรพพรดิ?!!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายพูดแทรกขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ชายหนุ่มหน้าตาดี อายุราวๆยี่สิบห้าปี สวมสูท เดินเข้ามากู้หนิงจากประตูด้านใน เขาถามด้วยความตื่นเต้นระคนสงสัยว่า
"คุณหนูท่านนี้มีจักรพรรดิขนาดเท่าไข่นกกระทาจริงๆเหรอครับ?!"
พนักงานหญิงเอ่ยทักเขาอย่างเคารพ "คุณฉิน"
"ใช่ค่ะ" กู้หนิงตอบ
"ขอผมดูหน่อยได้ไหม ถ้าจริงผมจะให้เท่าราคาตลาดเลย" ดวงตาของฉินอี้ฟานเต็มไปด้วยความคาดหวัง
แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่าเด็กนักเรียนจะมีหยกจักรพรรดิ แต่ขอดูสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา
หยกจักรพรรดิเป็นของหายากเกินกว่าจะพลาดได้
"ต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีว่าฉันตั้งใจจะขายให้ร้านอี้ซุย ฉันจะขายให้คุณ ถ้าทางร้านไม่รับซื้อหยกของฉัน" กู้หนิงเอ่ยขอโทษฉินอี้ฟาน
กู้หนิงเองก็อยากจะขายราคาตลาด แต่เธอตัดสินใจและพอใจกับราคาของร้านอี้ซุยแล้ว เธอไม่อยากทำลายความตั้งใจของเธอเอง
ฉินอี้ฟานและพนักงานร้านพากันประหลาดใจที่กู้หนิงยึดมั่นกับความตั้งใจแรกของตน
ทุกคนมองกู้หนิงด้วยสายตาแบบใหม่
"เอ่อ คุณหนูคะ คุณฉินคือลูกชายเจ้าของร้านค่ะ คุณสามารถคุยกับเขาได้โดยตรงค่ะ" พนักงานหญิงแนะนำ เธอยิ้มอย่างนอบน้อม
เขาคือลูกชายเจ้าของร้านอี้ซุย? กู้หนิงคาดไม่ถึง
"ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อฉินอี้ฟาน พ่อของผมเป็นเจ้าของร้านอี้ซุย" ฉินอี้ฟานแนะนำตัวเองกับกู้หนิง ยืนมื่อไปข้างหน้า
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อกู้หนิง" กู้หนิงยื่นมือมาจับ
"ถ้างั้นขอผมดูหยกจักรพรรดิได้รึยังครับคุณหนู?" ฉินอี้ฟานถามขึ้นอย่างไม่รีรอ
"ได้ค่ะ" กู้หนิงเอ่ย เธอใช้กระเป๋าเป้เธอบังไว้ขณะที่ดึงหยกออกมาจากห้องลับในพื้นที่กระแสจิต
หยกของกู้หนิงไม่ได้ถูกห่อหุ้มหรือใส่กล่องแต่อย่างใด ฉินอี้ฟานและเหล่าพนักงานต่างตกใจอีกครั้ง
ถ้านี่คือหยกจักรพรรดิจริง เธอไม่กลัวว่ามันจะมีรอยขีดข่วนเลยเหรอ?
ฉินอี้ฟานรับหยกมาและเริ่มประเมิน
ฉินอี้ฟานเกิดมาในครอบครัวนักขายหยก เขาจึงเติบโตมาพร้อมกับหยกทุกชนิดและเชี่ยวชาญในระดับหนึ่ง
แต่หยกจักรพรรดิเป็นหยกที่หายาก เขาจึงไม่เคยเห็นมันมาก่อน
หยกจักรพรรดิมีสีเขียวเข้ม
ภายใต้แสงไฟ หยกจักรพรรดิเปล่งประกายสีเขียวพิเศษ บางครั้งก็ดูเป็นสีน้ำเงินเข้ม แล้วก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน สีของมันเปลี่ยนไปตามแสงไฟที่ตกกระทบ
ใช้เวลาสักครู่ ฉินอี้ฟานแน่ใจแล้วว่าหยกชิ้นนี้คือหยกจักพรรดิของจริง
ฉินอี้ฟานตื่นเต้นแทบจะเป็นลม มือของเขาสั่นระริก "นี่คือของจริง นี่คือหยกจักรพรรดิ ขะ..ของจริง.."
"ถ้าเป็นของจริง โปรดบอกราคาของมันมาเถอะค่ะคุณฉิน" กู้หนิงมีเรียนต่อคาบบ่าย เธอไม่อยากเสียเวลากับที่นี่นานไปกว่านี้