"จริงเหรอ?" กู้หนิงทำท่าไม่เชื่
"แล้วทำไมเธอถึงถามฉันว่า ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? นี่ห้องเรียนของฉัน ถ้าฉันไม่อยู่ที่นี่แล้วจะให้ฉันอยู่ที่ไหน? กู้หนิงยังคงพูดต่อ
"ฉัน ฉัน ฉัน..." จ้าวเฟยเฟยขวัญเสีย เธอไม่รู้ว่าต้องรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
หยางหลูลู่และอู่ฉินหย๋ารู้จักจ้าวเฟยเฟยดี พวกเธอทั้งสองเข้าใจในทันทีว่าจ้าวเฟยเฟยต้องทำเรื่องไม่ดีกับกู้หนิงแน่ บางทีเธออาจจะทำสำเร็จแล้วเพราะอย่างนั้นเช้าวันนี้เธอจึงดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
แต่กู้หนิงกลับมาปรากฏตัวที่ห้องตามปกติเหมือนทุกวัน จ้าวเฟยเฟยจึงดูตกใจและคงรู้สึกผิด
จ้าวเฟยเฟยไม่กล้าบอกความจริง หยางหลูลู่และอู่ฉินหย๋าจึงหุบปากไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน พวกเธอไม่อยากราดน้ำมันรดกองไฟ ถึงแม้จ้าวเฟยเฟยจะต่อว่าพวกเธอทีหลังก็ตาม
โชคดีที่เสียงออดดังขึ้นและคาบแรกเป็นชั่วโมงอ่านหนังสือ ครูประจำชั้นเดินมาในห้องเรียน กู้หนิงจึงปล่อยจ้าวเฟยเฟยไปและเดินมานั่งยังโต๊ะตัวเอง
กู้หนิงยังไม่เปิดเผยความจริง เธออยากจะทรมานคนเล่นๆ
เมื่อเห็นว่ากู้หนิงเดินไปยังโต๊ะตัวเอง จ้าวเฟยเฟยถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เธอไม่ชอบใจที่เธอรู้สึกผิด กู้หนิงจะทำอะไรได้ถึงแม้จะรู้ความจริงแล้ว กู้หนิงก็เป็นแค่เด็กสาวยากจนคนหนึ่ง หล่อนไม่สามารถทำอะไรจ้าวเฟยเฟยได้
คิดได้อย่างนั้นจ้าวเฟยเฟยก็ไม่รู้สึกผิดอีกแล้ว เธอหันไปมองกู้หนิง ส่งสายตาเกลียดชังไปให้
ครั้งนี้เธอเชื่อว่ากู้หนิงโชคดีที่หนีรอดมาได้ แต่มันยังไม่จบหรอก จ้าวเฟยเฟยวางแผนขั้นตอนต่อไป
กู้หนิงได้รับสายตาไม่เป็นมิตรจากจ้าวเฟยเฟย แต่เธอไม่สนใจมัน
ครูประจำชั้นเดินออกจากห้องหลังจากนั้น
ถึงแม้ว่าสายตาของกู้หนิงจะจับจ้องไปที่หนังสือ แต่เธอกำลังครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับตัวเธอเอง ทำยังไงเธอถึงจะสร้างฐานอำนาจของตัวเองได้?
มันไม่ง่ายเหมือนการหาเงิน
ไม่มีทั้งอำนาจและทรัพยากร ไม่มีทางที่จะสร้างอาณาจักรด้วยเงินเพียงอย่างเดียวได้
ทรัพย์สินและข้อมูลก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญเช่นเดียวกัน
แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น กู้หนิงจำเป็นต้องหาเงินให้มากพอเสียก่อน
สำหรับกู้หนิงการเสี่ยงโชคกับหินมาขายเป็นหนทางที่หาเงินเร็วที่สุด เธอมีตาทิพย์และไม่เคยพลาด อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถหาหยกในหินได้ทุกที่ที่เธอต้องการ มันไม่สะดวก
หินหลักๆมาจากเมียนมาร์และเมือง Y ซึ่งอยู่ไกลจากเมือง F ค่อนข้างมาก
ไม่มีเครื่องบินบินตรงจากเมือง F ไปเมือง Y อีกด้วย
หนึ่ง ต้องใช้เวลารอประมาณสองชั่วโมงกว่าจะเปลี่ยนเครื่อง สรุปใช้เวลาประมาณเจ็ดชั่วโมงจากเมือง F ไปเมือง Y กู้หนิงมีเพียงวันหยุดเสาร์อาทิตย์เท่านั้น เธอไม่มีเวลามากพอที่จะทำอย่างนั้น
นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเรียนมัธยมปีสุดท้ายของม.ปลาย และยังต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลาหยุด กู้ม่านไม่อนุญาตให้เธอทำอย่างนั้นแน่
ดังนั้นกู้หนิงจึงเลือกเมืองที่ใกล้ที่สุดที่จะเสาะหาหยก
ซึ่งไม่รู้ว่ากฏหมายจะยอมให้เธอทำแบบนั้นไหม เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ดังนั้นเธอจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เนตหาข้อมูล แต่มือถือของเธอก็เก่าเกินไปที่จะใช้อินเทอร์เนตได้
เอาล่ะ เธอควรจะมีโทรศัพท์มือถือดีๆสักเครื่อง
เธอหาเงินก้อนแรกได้หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหยวนซึ่งแทบจะไม่พอที่จะซื้อหินสักก้อน
ดังนั้นกู้หนิงจึงตั้งใจที่จะขายหยกที่ได้รับจากเขาคนนั้น
เธอดูดพลังจากหยกเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มันจึงไม่มีประโยชน์สำหรับเธอ เมื่อเธอรวยแล้วเธอสามารถซื้อหยกชิ้นไหนก็ได้ตามที่เธอต้องการ
แม้ว่าพลังจะถูกดูดออกไปแล้ว หยกยังคงดูเปล่งประกายสวยงาม
กู้หนิงเป็นคนชอบลงมือทำมากกว่าพูด เมื่อพักบ่ายกู้หนิงออกจากโรงเรียนไปทันทีหลังจากบอกหยูหมิงซีว่าจะกลับเข้ามาอีกทีในคาบบ่าย
กู้หนิงเดินออกมานอกประตูโรงเรียน และโบกแท็กซี่เข้าตัวเมือง
ตัวเมืองอยู่ไม่ไกลนัก กู้หนิงใช้เวลายี่สิบนาทีก็มาถึง
เธอเดินตรงไปยังร้านขายโทรศัพท์มือถือและซื้อมือถือหนึ่งเครื่องพร้อมอุปกรณ์ที่ดีที่สุด ถ้าเธอมีเหตุผลที่ดีกว่านี้เธอจะซื้ออีกเครื่องให้กู้ม่าน
กู้หนิงออกมาจากร้านขายโทรศัพท์ เดินเข้าไปในพลาซ่า เธอพาตัวเองไปกินอาหารที่ร้านหรูๆหนึ่งมื้อ จากนั้นก็ท่องอินเทอร์เน็ตหาความรู้เกี่ยวกับหยก
ตอนนี้เธอต้องทำมาค้าขายกับหยก การเรียนรู้เกี่ยวกับมันก็เป็นเรื่องที่ดี
สำหรับตอนนี้ กู้หนิงต้องหาว่าหยกในมือเธอมีมูลค่าแค่ไหน และหาสถานที่ที่จะขายมันให้ได้ราคาดีที่สุด
ในความคิดกู้หนิง ร้านขายอัญมณีเป็นทางเดียวที่เธอจะสามารถขายหยกได้ แต่หยกต้องขายได้ราคาดีด้วย และร้านขายอัญมณีมักเต็มใจซื้อแต่หยกคุณภาพสูง
กู้หนิงรู้ดีว่าเธออาจจะไม่ได้ราคาสูงที่สุดในตลาดแต่ก็ไม่ต่ำเกินไปอย่างแน่นอน
แต่เธอตกใจเมื่อรู้ถึงประวัติของหยกชิ้นนี้
กู้หนิงรู้ว่าหยกของเธอมีคุณภาพเยี่ยม แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีค่ามากขนาดนี้ มันเป็นสุดยอดของสุดยอดหยก ‘หยกจักพรรดิ’
'หยกขักพรรดิ' ค่อนข้างหายากในตลาด และที่สำคัญมันมีราคาสูงมาก!!
แหวนที่ทำจากหยกจักรพรรดิมีมูลค่าประมาณหนึ่งล้านหยวนในตลาด ราคาของมันสามารถสูงขึ้นได้อีก แต่ก็ขึ้นอยู่กับการประมูล
หยกจักรพรรดิที่อยู่ในมือกู้หนิงมีขนาดใหญ่เท่ากับไข่นกกระทา มันหนักกว่าแหวนถึงสิบเท่า
พูดได้ว่าถ้าเอาน้ำหนักเป็นเกณฑ์ หยกของเธออาจมีมูลค่าถึงสองล้านหยวนเป็นอย่างต่ำ
ถ้าเอาไปประมูลอาจได้หลายล้านหยวนก็ได้
เมื่อคิดถึงราคาของหยกจักรพรรดิชิ้นนี้แล้ว กู้หนิงก็ถอนหายใจยาว ผู้ชายที่มอบมันให้เธอช่างมีน้ำใจที่กล้าให้ของมูลค่ามากกับเธอง่ายๆ
คนรวยแตกต่างจากคนจนจริงๆ
สิ่งที่กู้หนิงยังไม่รู้คือหยกจักรพรรดิชิ้นนี้ไม่มีความหมายอะไรสำหรับเลิ่งเชาถิง ในสายตาของเขา มันก็แค่หินก้อนหนึ่ง เขาคงจะขว้างมันทิ้งไปแล้วถ้ามันไม่ได้มีราคาสูง
เขาเก็บหยกจักรพรรดิไว้กับตัว เพราะเพื่อนของเขาอยากได้มันเท่านั้น เขามีแผนที่มอบให้เพื่อนเป็นของขวัญ แต่สุดท้ายตกมาอยู่กับกู้หนิง
แต่กู้หนิงเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลายจนๆ เธอไม่รู้ว่าจะเอาหยกไปประมูลที่ไหนดี
นอกจากนี้ ไม่มีการประมูลในเมือง F
กู้หนิงมีเวลาไม่มาก และยังหาวิธีที่จะนำหยกของเธอไปประมูลไม่ได้
ถึงแม้ต้องขายมันในตลาดเธอก็พอใจแล้ว