ตอนที่ 195 เปิดงาน I
ตอนนี้เลิ่งเชาถิงรู้สึกเสียใจที่เขาโกหกกู้หนิง แต่ยังพูดว่า “ถึงผมจะไม่อยู่ที่นี่ ผมก็ยังช่วยคุณได้”
ใช่ ไม่ว่าเขาจะมาเมือง G หรือไม่ สำหรับเขานั้นเป็นเรื่องง่ายมากในการจัดหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กู้หนิง โทรกริ๊งเดียวก็ได้แล้ว
“ฉันสัญญาฉันจะมาหาคุณ หากฉันต้องการความช่วยเหลือ อย่าน้อยใจเลยนะคะ” กู้หนิงปลอบเขา
ได้ยินแบบนั้นเลิ่งเชาถิงก็อารมณ์ดีขึ้นมา “ครับ”
สิ่งที่น่าตื่นตะลึงมากที่สุดในงานคือหยกจักพรรดิ ดังนั้นพวกเขาจึงจัดโชว์หยกจักรพรรดิกึ่งกลางของห้อง โดยไม่มีหยกอื่นอยู่รอบๆ เพื่อให้มันเป็นจุดเด่นที่สุดของงาน
ผู้คนหลั่งไหลมาที่งาน บางคนมาที่นี่เพื่อดู ในขณะที่บางคนมาแสดงความยินดีกับโจวเจิ้งหง
หลิงซื่อและตากล้องมาถึงงานแต่เนิ่นๆ เพื่อดูว่าแขกที่มางานเป็นใคร
อาจารย์หยวน อาจารย์ฝู และอาจารย์ไป๋มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน
หยวนเจิ้งหลิน ผู้ว่าการเมือง G มาพร้อมกับผู้เป็นบิดาซึ่งก็คืออาจารย์หยวน และไป๋หลินเว่ยมากับบิดาของเขาเช่นกัน อาจารย์ไป๋
การมาถึงของบุคคลสำคัญตกเป็นเป้าความสนใจจากผู้มาร่วมงาน ใครจะคิดว่าโจวเจิ้งหงจะรู้จักบุคคลทรงอิทธิพลในเมือง G
วันนี้กู้หนิงเป็นเพียงลูกค้าทั่วๆไป เธอไม่ได้ปรากฏตัวพร้อมกับตำแหน่งในหยกบิวตี้จิวเวอรี่ อาจารย์ฝูและอาจารย์อีกสองท่านทราบเรื่องนี้ดี พวกเขาจึงเข้าไปแสดงความยินดีกับโจวเจิ้งหงแทน เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของกู้หนิง
เลิ่งเชาถิงเอาแต่เดินตามหลังกู้หนิง ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเขาและบรรยากาศที่เย็นชารอบตัว ข่มผู้คนรอบข้างไม่ให้เข้าไปใกล้
อาจารย์ทั้งสามท่านผ่านโลกมามากพอสมควร มองเพียงปราดเดียวพวกเขารู้ได้ทันทีว่าเลิ่งเชาถิงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วๆไป แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ตอนแรกคิดว่าเป็นคนรักของกู้หนิง แต่กู้หนิงยังเด็กเกินไป พวกเขาจึงแต่คลางแคลงสงสัย
กู้หนิงมักทำตัวเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง เป็นได้ว่าเธออาจมีความรักเร็วกว่าคนอื่นๆในวัยเดียวกัน แต่ถึงกระนั้นอาจารย์ทั้งสามท่านก็ไม่ได้ถามกู้หนิง มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ และพวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย ต่อให้เธอจะมีความรักจริงๆ แต่ก็ต้องเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นเชื่อถือได้
“คุณปู่ฝู คุณปู่หยวน คุณปู่ไป๋ ผู้ว่าหยวน ประธานไป๋ ยินดีที่ได้พบทุกท่านค่ะ!” กู้หนิงเดินเข้ามาทักทาย
“หนูไม่ต้องเรียกลุงว่าผู้ว่าหยวนหรอก เรียกว่าลุงก็พอแล้ว” หยวนเจิ้งหลินพูดอย่างใจดี เขาดูไม่เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐบาลเลยแม้แต่น้อย กู้หนิงเคยช่วยชีวิตเขา และเขาไม่อยากทำตัวเหมือนเจ้าหน้าที่รัฐต่อหน้าเธอ
“ค่ะ คุณลุงหยวน ยินดีต้อนรับค่ะ!” กู้หนิงเรียกเขาตามที่เขาต้องการ
“หนูกู้ หนูก็ไม่ต้องเรียกลุงว่าประธานไป๋เหมือนกัน เรียกว่าลุงไป๋เถอะ พวกเราไม่ใช่คนแปลกหน้ากันเสียหน่อย จริงไหม?”
ไป๋หลินเว่ยก็เป็นคนที่น่าพอใจเช่นกัน ที่สำคัญที่สุดคือเขาชื่นชมความสามารถของกู้หนิง
“ค่ะ คุณลุงไป๋!”
แน่นอนว่าเธอมีความสุขที่ได้รู้ว่าบุคคลสำคัญเหล่านี้เต็มใจที่จะสนิทชิดเชื้อกับเธอ
ในเวลานั้นรถจากัวร์สีดำคันหนึ่งขับมาจอดที่ถนนด้านนอกร้านหยกบิวตี้จิวเวอรี่ ลี่เจินหยูเป็นคนขับและฉินอี้ฟานนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร ขณะที่ลี่เจินเจินนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
แม้ว่าถนนจะกว้างและร้านอยู่ห่างออกไปหกเมตร แต่พวกเขาก็ยังจำกู้หนิงได้ตั้งแต่แรกเห็น
“ทำไมกู้หนิงถึงมาอยู่ที่นี่?” เมื่อเห็นกู้หนิง ลี่เจินเจินก็ตื่นตระหนกโดยไม่รู้ตัว กู้หนิงทำให้เธอกลัวจริงๆ
“เธอรู้จักกระตระกูลไป๋ ตระกูลหยวน และตระกูลฝูด้วยเหรอ?! ดูท่าทางจะสนิทกันด้วย!” ลี่เจินหยูประหลาดใจ แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากคือการที่เธอรู้จักกับคนสำคัญของเมือง G
ลี่เจินเจินรู้สึกแบบเดียวกัน
สองพี่น้องเคยคิดว่ากู้หนิงเป็นแค่เด็กสาวบ้านๆจนๆคนหนึ่งที่ไม่มีทางจะรู้จักกับเศรษฐีและตระกูลผู้ทรงอิทธิพลได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะสนิทกับพวกเขาเสียด้วย! บางทีอาจารย์ทั้งสามท่านอาจเมินเฉยต่อหลี่เจินหยูแม้ว่าเขาจะเข้าไปทักทายด้วยตัวเอง
ฉินอี้ฟานประหลาดใจกับภาพที่เห็น แต่ความสนใจของเขาคือผู้ชายที่อยู่ข้างกู้หนิง ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน?
ถึงแม้เขาจะไม่แน่ใจว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันหรือเปล่า บุคลิกและรูปร่างหน้าตาผู้ชายคนนั้นข่มเขาซะมิด ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีกว่าเขามาก เขาไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะเป็นผู้หญิงที่มองคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ถ้าเธอจะชอบผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นย่อมมีดีอย่างแน่นอน
ลี่เจินเจินรักฉินอี้ฟาน แต่เธอก็ชอบมองผู้ชายหล่อๆ โดยเฉพาะไอดอลผู้ชายและดารา แต่ฉินอี้ฟานคือผู้ชายคนเดียวที่อยู่ในใจของเธอ ส่วนคนอื่นได้แต่มองผ่านๆ
ดังนั้นเมื่อเลิ่งเชาถิงปรากฏตัวในสายตาของเธอ ลี่เจินเจินถูกเขาดึงดูดแทบจะทันที ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ยิ่งกว่าไอดอลของเธอ! ในเวลาเดียวกันเธอก็รู้สึกอิจฉากู้หนิง ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะเป็นอย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงเพื่อนกัน แต่ลี่เจินเจินก็ยังคิดว่ากู้หนิงไม่คู่ควรกับผู้ชายที่หล่อเหลาเช่นนี้
เพื่อที่จะทำให้ฉินฟานยอมแพ้เรื่องกู้หนิง ลี่เจินเจินจงใจชมเชยผู้ชายคนนั้นต่อหน้าเขา “ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นแฟนคุณกู้แน่เลยค่ะ เขาหล่อจัง!”
ฉินอี้ฟานรู้สึกเจ็บแปลบ แต่ไม่ได้พูดอะไร เขาไม่รู้ว่าลี่เจินเจินพูดแบบนั้นเพราะมีจุดประสงค์ เขาไม่โทษเธอ
ฉินอี้ฟานคิดว่ากู้หนิงต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านหยกบิวตี้จิวเวอรี่ แต่ลี่เจินหยูและลี่เจินเจินไม่คิดเช่นนั้น พวกเขาแค่คิดว่าเธอมาร่วมงานเปิดร้านเฉยๆ ถึงจะรู้ว่ากู้หนิงรู้จักกับโจวเจิ้งหง
เนื่องจากการปรากฏตัวของกู้หนิง ทั้งสามคนจึงยังนั่งอยู่ในรถ
“หนูกู้ ปู่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม? ชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร?” อาจารย์ไป๋เหลือบมองเลิ่งเชาถิง เขาไม่ได้อยากตรวจสอบภูมิหลังของผู้ชายคนนี้ แต่คิดว่าคงไม่สุภาพหากเมินเฉยต่อชายหนุ่ม
“อ้อ ใช่ นี่คือเพื่อนของหนูค่ะ เลิ่งเชาถิง” กู้หนิงแนะนำ
เลิ่งเชาถิงพยักหน้าเบาๆตามบุคลิกของเขา แต่ไม่ได้เป็นการไม่ให้ความเคารพแต่อย่างใด
อาจารย์ไป๋และคนอื่นๆพากันยิ้มให้เขา พวกเขาคิดตรงกันว่าเลิ่งเชาถิงไม่ใช่ผู้ชายพูดมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถือสา
“ไปดูหยกจักรพรรดิกันเถอะ! ทุกคนอาจจะเคยเห็นแล้ว แต่ผมยังไม่เคย” ไป๋หลินเว่ยเสนอ แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจหยกเป็นพิเศษ แต่หยกจักรพรรดิก็เป็นอะไรที่มีค่ามากพอให้ยลโฉมและถ่ายรูปเก็บไว้
ตอนที่ 196 เปิดงาน II
“ผมเห็นด้วย ถ้าไม่รีบไปดูตอนนี้ คนอาจจะเยอะกว่านี้ก็ได้” หยวนเจิ้งหลินกล่าว
“พวกเราก็อยากเห็นมันอีกครั้ง ไปดูกัน!” อาจารย์ฝูเป็นคนพูด เดินไปที่ตู้โชว์หยกจักรพรรดิอย่างไม่ลังเล ตามมาด้วยอาจารย์ไป๋และอาจารย์หยวน พวกเขาไม่อยากรบกวนกู้หนิง โดยเฉพาะเมื่อมีชายหนุ่มอยู่ข้างๆเธอ
ตระกูลไป๋ถูกจัดอันดับอยู่ในอันดับสาม และตระกูลฝูอยู่อันดับเจ็ดของตระกูลเศรษฐีและทรงอิทธิพล นอกจากนี้ยังมีตระกูลอี้ที่อยู่อันดับสองและตระกูลอูอันดับห้า
ถึงแม้ผู้นำตระกูลเหล่านี้จะไม่ได้มา คนที่มาก็มีแต่คนสำคัญๆของตระกูล เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ตระกูลอี้ส่ง อี้เหวยเฉิน หลานชายคนเล็กของนายท่านอี้มาร่วมงาน เขาอายุยี่สิบเจ็ดปี สูง หล่อ สง่า ด้วยรูปลักษณ์ของเขาสร้างความตื่นเต้นให้บรรดาหญิงสาวในงานได้เป็นอย่างดี ส่วนตระกูลอูส่ง อูเหนียนหยิน ผู้ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของผู้นำตระกูลมาร่วมงาน เธออายุสามสิบปี ทะเยอทะยาน และเป็นทายาทของตระกูลอู ตระกูลอี้และตระกูลอูมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาหลายชั่วอายุคน
“ฉันเป็นคนจัดการให้พวกเขามาที่นี่เอง” เลิ่งเชาถิงพูดกับกู้หนิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
กู้หนิงก็คิดเช่นนั้น เมื่ออี้เหวยเฉินและอูเหนียนหยินเหลือบมองเลิ่งเชาถิง เธอประหลาดใจที่เลิ่งเชาถิงรู้จักพวกเขา เพราะทั้งคู่มาจากตระกูลเศรษฐี ตอนนี้กู้หนิงยิ่งมั่นใจว่าเลิ่งเชาถิงไม่ใช่คนธรรมดา
ตอนนี้เธอสงสัยตัวตนที่แท้จริงของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะมีอิทธิพลมากกว่าที่เธอคิด อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ถามเขาออกไปตรงๆ เธอเลือกที่จะรอให้เขาเต็มใจเปิดเผยกับเธอเอง
ในขณะนั้นเองกู้หนิงไม่เข้าใจว่าทำไมอี้เหวยเฉินและอูเหนียนหยินดูตกใจเมื่อพวกเขาเข้ามาข้างใน เลิ่งเชาถิงเป็นคนจัดการให้พวกเขามาร่วมงานเปิดร้าน พวกเขาน่าจะรู้ว่าเลิ่งเชาถิงก็คงต้องอยู่ที่นี่ด้วย
หรือจะเป็นเพราะเธอ?
จำได้ว่าซู่จินเฉินเคยบอกเธอว่าเลิ่งเชาถิงไม่เคยมีแฟนมาก่อน หรือมีผู้หญิงข้างกาย กู้หนิงเดาเอาว่าพวกเขาต้องประหลาดใจมากที่เห็นเลิ่งเชาถิงอยู่กับเธอ
เธอเดาถูก ทั้งอี้เหวยเฉินและอูเหนียนหยินตกใจที่เลิ่งเชาถิงอยู่กับเด็กสาวคนหนึ่ง และดูจะสนิทสนมกันอีกด้วย! ทั้งคู่ไม่ได้เข้าไปทักทายเลิ่งเชาถิงเพราะไม่ต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์
หลังจากมอบของขวัญเสร็จ อูเหนียนหยินก็หลบออมาซุบซิบกับอี้เหวยเฉิน
“เหวยเฉิน บอสอยู่กับผู้หญิง โอ้ ไม่ เด็กสาวต่างหากล่ะ! เขาไม่ชอบอยู่ใกล้ผู้หญิงไม่ใช่เหรอ? หรือว่าจะเป็นแฟนกัน?” อูเหนียนหยินตื่นเต้นพอๆกับตกใจ นี่เป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียว
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน จะเป็นแฟนหรือไม่ได้เป็นแฟน แต่ที่แน่ๆคือสองคนนั่นสนิทกัน!” อี้เหวยเฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“แน่สิ!” อูเหนียนหยินกรอกตา
หลังจากนั้นบุคคลสำคัญของเมือง G ก็มาถึง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญหยกและนักธุรกิจ จ้าวหยูเฟิงก็มาเช่นกัน
หลายคนไม่รู้จักโจวเจิ้งหง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้มอบของขวัญราคาแพง แต่มีช่อดอกไม้มาให้ คงไม่เหมาะหากมามือเปล่า
“คุณกู้ บังเอิญอะไรเช่นนี้!” จ้าวหยูเฟิงประหลาดใจที่เห็นกู้หนิง ถึงแม้เขาจะไม่ได้ติดต่อกับกู้หนิงเป็นการส่วนตัว แต่เขาประทับใจในตัวเธอ เขาชื่นชมเธอ! ดังนั้นเขาจึงตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่พบเธอในงานวันนี้
“คุณจ้าว ยินดีที่ได้พบคุณค่ะ!” กู้หนิงเองก็ประหลาดใจเช่นกันที่เห็นจ้าวหยูเฟิง จากนั้นเธอก็เพิ่งนึกได้ว่าลืมเชิญเขามางาน และรู้สึกเสียใจนิดหน่อย ถึงอย่างไรก็คนรู้จักกัน ธุรกิจของกู้หนิงเน้นไปที่หยก พวกเขาจึงไม่ใช่คู่แข่งทางธุรกิจกัน จ้าวหยูเฟิงทำเกี่ยวกับอัญมณีหลายชนิด และหยกเป็นเพียงส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ตลาดของธุรกิจจ้าวหยูเฟิงไม่ใช่เมือง G เขามีเพียงสาขาที่นี่เท่านั้น
พวกเขาจึงไม่ใช่ศัตรูกัน
กู้หนิงไม่ต้องการปิดบังความจริงกับจ้าวหยูเฟิง ว่าเธอเป็นเจ้าของตัวจริงของหยกบิวตี้จิวเวอรี่ แต่มีคนมากมายอยู่รายล้อม ดังนั้นจึงไม่สะดวกที่จะบอกจ้าวหยูเฟิงตอนนี้
“คุณกู้ คุณรู้จักเจ้าของหยกบิวตี้จิวเวอรี่ไหมครับ?” จ้าวหยูเฟิงถามเธอ
“รู้จักค่ะ” กู้หนิงตอบ
“ผมไม่รู้จัก แต่ผมอยากเห็นหยกจักรพรรดิ เลยถือวิสาสะมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ” จ้าวหยูเฟิงกล่าว เขาดูขัดเขิน
“ให้ฉันแนะนำให้เอาไหมคะ?” กู้หนิงถาม
“จริงเหรอครับ? ดีเลย! ขอบคุณมาก คุณกู้!” จ้าวหยูเฟิงตื่นเต้น แม้ว่าตอนนี้หยกบิวตี้จิวเวอรี่แทบจะเทียบไม่ได้กับเครื่องประดับของเขา ก็ไม่ใช่ความคิดที่เลวร้ายอะไรที่จะสร้างสัมพันธ์อันดีต่อกัน
กู้หนิงพาจ้าวหยูเฟิงไปหาโจวเจิ้งหงที่กำลังต้อนรับแขก ขณะเดียวกันฉินอี้ฟาน ลี่เจินหยู และลี่เจินเจินก็ประหลาดใจที่กู้หนิงรู้จักกับจ้าวหยูเฟิงเหมือนกัน
ตระกูลฉินและตระกูลลี่ต่างเกี่ยวข้องกับวงการหยก และทั้งสองตระกูลก็สนิทสนมกันและค่อนข้างมีอิทธิพลในธุรกิจนี้
โจวเจิ้งหงใช้เวลาสั้นๆทักทายแขกของเขา ดังนั้นจึงไม่ถือเป็นการรบกวนเมื่อกู้หนิงและจ้าวหยูเฟิงเดินเข้าไปหา
“ลุงโจว นี่คือประธานบริษัทฟูหรง จ้าวหยูเฟิง” กู้หนิงแนะนำ
โจวเจิ้งหงจำจ้าวหยูเฟิงได้ก่อนที่กู้หนิงจะแนะนำเขา โจวเจิ้งหงทำงานในวงการอัญมณีมาก่อน แต่เมื่อกู้หนิงแนะนำจ้าวหยูเฟิง แสดงว่าทั้งคู่ต้องรู้จักกัน “ดีใจมากที่ได้พบคุณครับ ประธานจ้าว!”
“เช่นกันครับ คุณโจว ได้โปรดอย่าถือสาที่ผมมาโดยไม่ได้รับเชิญ” จ้าวหยูเฟิงพูด
“มิได้ๆ! ยินดีมากต่างหากครับ! ไม่ทราบว่าคุณจะร่วมรับประทานอาหารด้วยกันหลังจบงานไหมครับ?” โจวเจิ้งหงออกปากชวน
“ยินดีครับ!” จ้าวหยูเฟิงตอบ
พวกเขาคุยกันสักพักก่อนที่จ้าวหยูเฟิงจะเข้าไปข้างในเพื่อดูหยกจักรพรรดิ
ทุกคนในงานต่างตะลึงที่มีบุคคลสำคัญมากมายมาในวันนี้
โจวเจิ้งหงรู้ว่าเป็นเพราะกู้หนิง เธอช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ
แต่สิ่งที่ทำให้น่าตกใจยิ่งกว่านั้น
ซ่างจุนตง ผู้จัดการฝ่ายทั่วไปของชิงหัวกรุ๊ปก็มาด้วย ชิงหัวกรุ๊ปเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งฉิง