ตอนที่ 171 โทสะของกู้หนิง II
เจียงซินหยูไม่ได้เห็นใจคนที่ตบเธอ แต่เธอกลัวว่ากู้หนิงจะมีปัญหาถ้าเด็กสาวพวกนี้เจ็บหนัก
“ใจเย็น พวกเขาไม่เป็นไรหรอก พวกเราก็ด้วย เชื่อพี่” กู้หนิงมองไปที่เจียงซินหยูและปลอบเธอเบาๆ
เจียงซินหยูเชื่อกู้หนิง ในเมื่อกู้หนิงบอกว่าไม่เป็นไร เธอก็เชื่อว่าไม่เป็นไร
กู้หนิงถีบพวกเด็กสาวไปแค่ครั้งเดียว เธอยังไม่หายโมโห แต่พวกเธอเจ็บหนักแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่เข้าไปต่อยนักเรียนหญิงสามคนอีก
ไม่นานอาจารย์หนุ่มและอาจารย์สาวก็มาถึง ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่มีนักเรียนคนหนึ่งแจ้งว่าเห็นนักเรียนหญิงเตะนักเรียนหญิงสามคนกระเด็นไปไกล คนหนึ่งหมดสติ คนหนึ่งขาหัก ส่วนอีกคนฟันหน้าหลุด
อาจารย์ทั้งสองไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงคนเดียวจะสามารถเตะนักเรียนหญิงอีกสามคนได้พร้อมๆกันในคราวเดียวและยังสร้างความเสียหายได้มากขนาดนี้ พวกเขาคิดว่าเป็นคำพูดที่ฟังดูเกินจริงไปสักหน่อย แต่เมื่อพวกเขาเห็นนักเรียนหญิงสามคน อาจารย์ทั้งสองก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกินจริงเลย
อาจารย์สาวเดินเข้าไปหานักเรียนหญิงที่หมดสติ ร้องเรียกด้วยความตื่นตระหนก “เจียวเจียว เจียวเจียว...”
นักเรียนหญิงที่หมดสติชื่อเจียวเจียว เธอไม่ตอบสนอง อาจารย์สาวจึงโทรเรียกรถพยาบาลทันที ในขณะที่อาจารย์ผู้ชายถามขึ้นว่า “ใครเป็นคนทำ?”
“หนูเองค่ะ” กู้หนิงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ เธอไม่กลัวเลยสักนิด
สายตาของอาจารย์หนุ่มตกมาที่ร่างของกู้หนิง เขาจำได้ว่ากู้หนิงไม่ใช่นักเรียนที่นี่แต่เป็นนักเรียนมัธยมปลายอันดับสาม เขาโมโหและถามเธอไปว่า “เธอเป็นนักเรียนโรงเรียนอันดับสามไม่ใช่เหรอ เธอมาทำอะไรที่นี่และยังทำร้ายนักเรียนของโรงเรียนเราอีก?”
กู้หนิงเผชิญกับสายตาโกรธจัดของเขาโดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย “เพราะว่าพวกเธอตบนักเรียนคนอื่นก่อน”
อาจารย์หนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตบใคร?”
“ลูกพี่ลูกน้องของหนูเอง” กู้หนิงตอบพลางชี้ไปที่เจียงซินหยู
อาจารย์หนุ่มมองเจียงซินหยู เธอขยับตัวด้วยความกลัว ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอยังคงบวมแดง
อย่างไรก็ตามมีเพียงรอยฝ่ามือสองอันที่ทับกันบนใบหน้าของเจียงซินหยู ในขณะที่นักเรียนหญิงสามคนนอนได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่พื้น ดังนั้นอาจารย์หนุ่มจึงมีแนวโน้มที่จะปกป้องเซี่ยเจียวเจียว และเด็กผู้หญิงอีกสองคนมากกว่า “ฉันคิดว่าเธอก็ดูไม่ได้เป็นอะไรมาก ส่วนเธอที่ทำร้ายนักเรียนสามคนจนเจ็บสาหัส มันมากเกินไป!”
“อะไรนะคะ? ถูกตบไปสองทียังไม่เป็นอะไรมาก?” เสียงของกู้หนิงเข้มขึ้น สายตาที่เย็นยะเยือกของเธอราวกับคมมีดแหลมคมพุ่งเข้าใส่อาจารย์หนุ่ม ที่อยู่ๆก็รู้สึกเย็นสะท้านไปทั้งร่าง
จากนั้นกู้หนิงชี้ไปยังนักเรียนหญิงสามคน “ผู้หญิงสามคนนี้ โดยเฉพาะคนที่ชื่อเซี่ยเจียวเจียว ตบหน้าน้องของหนูเพียงเพราะผู้ชายที่เธอชอบเขียนจดหมายให้น้องของหนู เธอทำแบบนั้นได้ยังไง? ใครให้อภิสิทธิ์เธอทำแบบนั้นได้? ประเด็นคือน้องของหนูไม่ได้รับจดหมายเลยด้วยซ้ำ เช้านี้ผู้ชายคนนั้นมาขอโทษน้องของหนูถึงสิ่งที่เซี่ยเจียวเจียวทำ จากนั้นแล้วไงคะ ผู้หญิงพวกนี้ตบน้องสาวของหนูอีกครั้ง! พวกเธอตบน้องของหนูได้แล้วทำไมหนูจะสู้เพื่อน้องไม่ได้? อาจารย์คิดว่าหนูจะยืนดูอยู่เฉยๆให้น้องถูกตบหรอคะ? ถ้าอาจารย์เป็นหนูจะยังยืนอยู่เฉยๆได้หรอคะ?”
คำพูดแดกดันของกู้หนิงทำเอาอาจารย์หนุ่มสะอึก เด็กสาวคนนี้ช่างแข็งแกร่งและทรงพลัง! เธอดูน่ากลัวซะยิ่งกว่าผู้อำนวยการเสียอีก โชคดีที่อาจารย์หนุ่มเป็นคนมีเหตุผล เขาจึงรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง
“แต่ถึงอย่างไรเธอก็ทำร้ายพวกเขาจนบาดเจ็บ ครูโทรเรียกตำรวจเรียบร้อยแล้ว และเธอหนีไปจากเรื่องนี้ไม่ได้!” อาจารย์สาวไม่อาจปล่อยกู้หนิงไปได้ถึงแม้เธอจะรู้สึกกดดัน
เซี่ยเจียวเจียวและนักเรียนหญิงอีกสองคนไม่ควรตบเจียงซินหยูก็จริง แต่กู้หนิงก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เธอทำ อันที่จริงกู้หนิงสามารถจ่ายเงินค่าทำขวัญแล้วจบๆกันไปได้ แต่อาจารย์สาวตั้งใจอยากให้กู้หนิงจ่ายอะไรที่มากกว่าเงิน
ตัดมาที่เจียงซินหยูที่หวาดกลัวกับคำพูดของอาจารย์สาวที่โทรเรียกตำรวจ กู้หนิงกุมมือเจียงซินหยูและส่งพลังให้เธอสงบลง
“หนูรู้ค่ะว่าหนุควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่หนูทำ แต่สิ่งที่พวกเธอทำกับน้องของหนูคือการตั้งใจทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งนั่นถือว่าร้ายแรงกว่า” กู้หนิงพูดแฝงความหมาย เธอไม่กังวลเลยสักนิด
“แล้วเธอจะทำอะไรได้?” อาจารย์สาวไม่เชื่อว่ากู้หนิงมีความสามารถมากพอที่สามารถต่อต้านเธอ เพราะเธอรู้พื้นฐานครอบครัวของเจียงซินหยู เธอไม่คิดว่ากู้หนิงสามารถทำอะไรเธอได้
จากทัศนคติของอาจารย์สาว กู้หนิงคิดว่าหนึ่งในนักเรียนหญิงสามคนต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอิทธิพล แต่แล้วไง กู้หนิงไม่ได้ยากจนและอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ถ้าพวกเขาต้องการใช้คอนเนคชั่นเพื่อผลประโยชน์ เธอก็จะทำแบบเดียวกัน
“น่าสนใจนี่คะ! แล้วเรามาดูกัน!” กู้หนิงไม่สนใจ กลับกันน้ำเสียงของเธอฟังดูยั่วยุ
ในสายตาของอาจารย์สาว ความมั่นใจของกู้หนิงช่างไร้เดียงสา อย่างไรก็ตามอาจารย์หนุ่มไม่รู้พื้นฐานครอบครัวของเจียงซินหยู เมื่อเห็นว่ากู้หนิงใจเย็นและมั่นใจไปหลายส่วน เขาเดาว่าเธอต้องมีอะไรดีซ่อนอยู่แน่ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เขาไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ภายในสองนาทีมีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน รวมทั้งอาจารย์หลายท่าน
ทุกคนตะลึงกับความจริงที่ว่ากู้หนิงเตะเซี่ยเจียวเจียวและนักเรียนหญิงอีกสองคนไกลไปหลายเมตร มีไม่กี่คนที่วิพากษ์วิจารณ์กู้หนิง อย่างที่กู้หนิงได้บอกเอาไว้ว่าเธอจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เธอทำ แต่การกระทำของเซี่ยเจียวเจียวนั้นเป็นการจงใจทำร้ายร่งกาย
ไม่กี่นาทีต่อมา ผู้อำนวยการโรงเรียนก็มาถึง ผู้อำนวยการมีชื่อว่าตู้ไห่ปิง เขาเป็นคนถือตัวและเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ
พ่อของเซี่ยเจียวเจียวเป็นหัวหน้าแผนกตรวจสอบและอนุมัติการบริหารของกระทรวงการศึกษา ‘เซี่ยหมิงชาน’ มันจะช่วยเขาได้มากถ้าเขาสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อของเซี่ยเจียวเจียว ไม่เช่นนั้นอาชีพของเขาคงจะจบลงในไม่ช้า ตู้ไห่ปิงไม่มีฐานเสียงและคนสนับสนุนสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงต้องเอาใจคนรวยและเจ้าหน้าที่รัฐ ในกรณีนี้เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าข้างเซี่ยเจียวเจียวอย่างแน่นอน
ตอนที่ 172 ทำร้ายตำรวจ
เมื่อเขาพบว่ากู้หนิงทำร้ายเซี่ยเจียวเจียวและเด็กสาวอีกสองคน เขาก็สบถด่ากู้หนิงโดยไม่ถามเหตุผล
วินาทีต่อมากู้หนิงตัดบทเขา “พอ!”
ความเกรี้ยวกราดของกู้หนิงทำเอาตู้ไห่ปิงนิ่งเป็นใบ้ เขาเบิกตากว้างมองกู้หนิง ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี
ทุกคนประหลาดใจที่กู้หนิงกล้าตะคอกใส่ผู้อำนวยการ แม้แต่อาจารย์สาวก็ยังตกใจ แต่เธอยังปฏิเสธไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะมีคนช่วย
ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันที่ยาวนาน
“ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน อาจารย์ตะคอกและตำหนิหนูโดยที่ไม่ถามสักคำว่าทำไม ทำตัวแบบนี้ไม่น่าเป็นอาจารย์เลย!” กู้หนิงค่อนข้างซีเรียส ไม่ใช่เพราะเธออวดดี แต่เป็นเพราะผู้อำนวยการไม่มีศีลธรรมเลยแม้แต่น้อย
สักพักตู้ไห่ปิงก็ตระหนักได้ว่าเขาถูกเด็กสาววัยรุ่นสั่งสอนและทำให้อับอาย “เธอกล้าพูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง! ก็เธอไม่ใช่หรือที่เป็นคนทำร้ายนักเรียนพวกนี้?”
“แล้วไงคะ? พวกเธอตั้งใจตบหน้าน้องหนูตั้งสองครั้ง สมควรโดนแล้ว” กู้หนิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เธอ...” ตู้ไห่ปิงโกรธจัด “น้องของเธอก็ดูสบายดี แล้วทำไมเธอถึงต้องทำอะไรรุนแรงด้วย?”
“ไม่อยากให้คนอื่นทำกับเราแบบไหน ก็อย่าทำแบบนั้นกับคนอื่น หนูคิดว่าหนูใจดีแล้วนะคะ”
“จิ๊ ทำไมถึงไร้เดียงสาแบบนี้! เธออาจถูกจับได้นะ!” ตู้ไห่ปิงขู่
“หนูไม่สน! หนูไม่ใช่คนเดียวหรอกค่ะที่ถูกจับ” กู้หนิงยักไหล่และกวาดตามองไปที่เซี่ยเจียวเจียวและนักเรียนหญิงอีกสองคน
“อย่าลืมว่ามีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าอำนาจในโลกนี้นอกเหนือจากความเท่าเทียม!” ตู้ไห่ปิงกล่าวด้วยความไม่ชอบใจ เขากำลังหัวเราะกับความไร้เดียงสาของกู้หนิง
“แน่นอนว่านอกจากความเท่าเทียมแล้วยังมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าอำนาจในโลกนี้” กู้หนิงตอบกลับอย่างมีเลศนัย “ดังนั้นอย่าไปหาเรื่องคนที่คุณไม่รู้จัก”
เห็นความมั่นใจเต็มเปี่ยมของกู้หนิง ตู้ไห่ปิงเกิดกังวลขึ้นมา หรือว่าเด็กสาวคนนี้มาจากครอบครัวที่มีอิทธิพล?
ในขณะนั้นเองทุกคนได้ยินเสียงไซเรนจากรถตำรวจดังมาจากที่ไกลๆ ตำรวจมาถึงโรงเรียนภายในสิบนาที
ถึงแม้สถานีตำรวจจะอยู่ไม่ไกล แต่ก็ไม่ได้ใกล้
เป็นเพราะอาจารย์สาวได้ย้ำเตือนตำรวจว่านักเรียนที่ถูกทำร้ายเป็นลูกสาวของเซี่ยหมิงชาน หัวหน้าแผนกตรวจสอบและอนุมัติการบริหารของกระทรวงการศึกษา ดังนั้นตำรวจจึงรี่ตรงมาโรงเรียนอย่างไม่รีรอ
โรงพยาบาลอยู่ไกลกว่าสถานีตำรวจ ดังนั้นรถพยาบาลยังมาไม่ถึง
รถตำรวจจอดอยู่ข้างๆฝูงชน ตำรวจสามนายเดินเข้าไปข้างใน
อาจารย์สาวรีบเดินไปข้างหน้าพูดกับตำรวจว่า “คุณตำรวจคะ เด็กคนนี้ค่ะที่เป็นคนทำร้ายนักเรียนหญิงสามคน!”
“พาเธอไป!” นายตำรวจคนหนึ่งสั่ง ตำรวจสองคนที่เหลือก้าวขาไปยังกู้หนิงพร้อมด้วยกุญแจมือ พวกเขาไม่ถามถึงสาเหตุด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกเงินฟาดปาก
“เดี๋ยวค่ะ!” กู้หนิงหยุดพวกเขา ตำรวจสองนายมองเธอด้วยสายตาไม่ชอบใจ หนึ่งในพวกเขาถามว่า “อะไร? จะขัดขืนเหรอ?”
“เปล่าค่ะ แต่คุณตำรวจควรจะถามถึงสาเหตุก่อนที่จะจับหนูนะคะ”
ได้ยินแบบนั้น ตำรวจสองนายหมดความอดทน พวกเขาคิดว่ามันไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตามต่อหน้าสาธารณชนพวกเขาไม่สามารถพูดออกเสียงดังออกมาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงถามคำถามเชิงตำหนิว่า “ได้ งั้นฉันขอถามเธอว่า เธอใช่ไหมที่ทำร้ายพวกเขา?”
“ใช่ค่ะ” กู้หนิงตอบ
“งั้นฉันคิดว่าไม่มีอะไรผิดที่พวกเราจะจับเธอ”
“แต่พวกเขาตบน้องของหนู คุณควรจับพวกเขาด้วยเหมือนกันสิคะ” กู้หนิงโต้กลับพลางชี้ไปที่เซี่ยวเจียวเจียวและนักเรียนหญิงสองคน
“เธอต้องไปโรงพักเพื่อให้ปากคำ ส่วนพวกเขาบาดเจ็บต้องไปโรงพยาบาลทันที จะมีตำรวจอีกชุดหนึ่งไปสอบปากคำพวกเขาที่โรงพยาบาล
ตำรวจพูดดูดี แต่เป็นแค่การแสดงต่อหน้าสาธารณชน เขาไม่ทำตามที่เขาพูดหรอก
กู้หนิงพยักหน้าเข้าใจ เธอเถียงตำรวจเพราะไม่ต้องการถูกมองว่าเป็นอาชญากร “แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทของประชาชน หนูไม่ใช่อาชญากร คุณไม่มีสิทธิ์ใส่กุญแจมือหนู”
กู้หนิงยังรู้ว่าการไปโรงพักเป็นกับดัก แต่เธอไม่กลัวเลย
“ได้ ไปกันเถอะ!” นายตำรวจสองคนตอบตกลง
กู้หนิงยังไม่ขยับทันที แต่มองไปที่ตู้ไห่ปิง เธอขู่เขาว่า “ผู้อำนวยการตู้ ถ้าน้องของหนูบาดเจ็บตอนที่หนูไม่อยู่ด้วย ตำแหน่งคุณมีคนมาแทนที่แน่”
เสียงอันเยือกเย็นของเธอช่างวังเวง ตู้ไห่ปิงเชื่อว่ากู้หนิงมีความสามารถในการหาคนมาแทนที่เขา
กู้หนิงไม่สามารถปล่อยให้เจียงซินหยูไปที่โรงพักกับเธอด้วยได้ ไม่สำคัญว่าเจียงซินหยูจะผิดหรือถูก ชื่อเสียงของเธอจะพลอยถูกกระทบไปด้วย ส่วนชื่อเสียงของตัวเธอเองนั้นกู้หนิงไม่สนใจ
“พี่คะ อย่าไป....” เจียงซินหยูจับกู้หนิงเอาไว้ เธอไม่ยอมปล่อยกู้หนิงไปโรงพัก
“ใจเย็น พี่ไม่เป็นไรหรอก อย่าบอกเรื่องนี้กับที่บ้านก็พอ” กู้หนิงจ้องตาเจียงซินหยู วินาทีนั้นเจียงซินหยูพลันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ
จากนั้นกู้หนิงจากไปพร้อมตำรวจ เมื่อพวกเขาขึ้นรถ รถพยาบาลก็มาถึงพอดี
ภายในรถ กู้หนิงหยิบโทรศัพท์ออกมา ตำรวจคนหนึ่งเอื้อมมือออกไปจับไว้ “ตอนนี้เธอเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว โทรศัพท์ของเธอจะถูกยึด”
กู้หนิงยกมือขึ้นจับมือเขาแน่น ตำรวจนายนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ในทันที
ผู้ชายที่โตแล้วล้มเหลวในการจัดการกับเด็กสาววัยรุ่น เขารู้สึกหงุดหงิดเพราะความอับอาย เขาขู่ว่า “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะจับเธอฐานทำร้ายตำรวจ!!”
“ทำร้ายตำรวจ? คุณคิดจริงๆหรือคะว่าหนูกลัว? อยู่ให้ห่างหนู คุณรับกับผลที่ตามมาไม่ได้หรอก!”
“เธอ...” เขาโกรธจนหน้าแดง แต่ไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับเด็กสาวคนนี้ดี ถึงอย่างนั้นก็ยังประหลาดใจกับความมั่นใจของเธอ อาจารย์สาวคนนั้นบอกว่าเด็กสาวคนนี้มาจากครอบครัวธรรมดาๆนี่นา นั่นเป็นสาเหตุที่เขาทำตัวหยาบคายกับเธอ เขาพูดประชดเธอว่า “เธอกล้าดียังไงที่ถึงได้ไปทำร้ายลูกสาวของคุณเซี่ยหมิงชาน! เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร? เขาเป็นหัวหน้าแผนกตรวจสอบและอนุมัติการบริหารของกระทรวงการศึกษาเชียวนะ! เธอไม่รอดแน่!”