Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่ 169 - 170 ผมจะไปรับคุณ, โทสะของกู้หนิง I)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่ 169 - 170 ผมจะไปรับคุณ, โทสะของกู้หนิง I

  • 06/04/2564

ตอนที่ 169 ผมจะไปรับคุณ

 

กู้หนิงตั้งใจจะปฏิเสธ แต่จู่ๆก็เปลี่ยนใจ “แล้วแต่”

 

เลิ่งเชาถิงใจชื้น เขาทิ้งรถไว้ที่เฟิ่งหัวแมนชั่น วิ่งไปโรงเรียนพร้อมกู้หนิง

 

ระหว่างทางทั้งสองไม่คุยกันเลย เลิ่งเชาถิงอยากคุย แต่เขาไม่รู้จะคุยอะไรดี

 

เมื่อทั้งสองมาถึงโรงเรียน เลิ่งเชาถิงพูดว่า “ไปกินข้าวเช้าด้วยกัน”

 

“เอ่อ ฉันมีนัดกับเพื่อนแล้ว พวกเราจะไปกินข้าวเช้าด้วยกัน” กู้หนิงโกหก

 

“แล้วตอนเที่ยงล่ะ ว่างรึเปล่า?” เลิ่งเชาถิงชวนอีกครั้ง

 

“โทษที ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการ” กู้หนิงปฏิเสธอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการจริงๆ เธอจะไปสั่งสอนเด็กสาวที่รังแกเจียงซินหยูเมื่อวานนี้

 

เลิ่งเชาถิงขมวดคิ้ว เขาผิดหวังแต่ไม่ยอมแพ้ “งั้นตอนบ่ายเป็นไง?”

 

กู้หนิงไม่อยากเห็นเลิ่งเชาถิงเสียใจ เธอเลยลังเลว่าจะปฏิเสธเขาอีกครั้งดีไหม

 

“ได้สิ”

 

หลังจากได้ยินคำยืนยัน ดวงตาเลิ่งเชาถิงสว่างขึ้น “คุณอยากกินอะไร?”

 

“อาหารทะเล”

 

กู้หนิงรู้ว่าเขาแพ้อาหารทะเล เธอตั้งใจพูดแบบนั้นเองแหละ

 

เธอรู้ว่าสัญชาตญาณผู้ชายคือนักล่า และเธอจะไม่มีวันปล่อยให้เขาจับเธอได้ง่ายๆ

 

เป็นเขาเองที่เตือนเธอว่ายังเด็กเกินไปที่จะมีความรัก ตอนนี้เขาจึงถูกปืนยิงเข้าที่เท้าตัวเอง

 

กู้หนิงก็เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีอารมณ์ธรรมดาเหมือนคนทั่วไป บางครั้งเธอก็ทดสอบผู้ชายที่เธอชอบ

 

“ได้สิ ไม่มีปัญหา” เลิ่งเชาถิงรู้ว่ากู้หนิงจงใจแกล้งเขา แต่เขายอมรับโดยสดุดี

 

“ผมจะมารับนะ”

 

“ฉันว่ามันไม่ค่อยดีมั้ง ถ้าเพื่อนฉันรู้เข้า พวกเขาจะเอาไปซุบซิบ คุณค่อยบอกฉันละกันว่าคุณอยู่ไหน แล้วฉันจะไปหาคุณเอง” กู้หนิงกล่าว เธอไม่ได้กังวลเรื่องซุบซิบอะไรนั่นหรอก เธอมีแผนที่จะไปสายและปล่อยให้เขาคอย

 

“อ้อ คุณพูดถูก”

 

“ไปนะ บาย บาย” กู้หนิงบอกลาเขาก่อนจะวิ่งเข้าโรงเรียนไป

 

เลิ่งเชาถิงจ้องมองไปที่ด้านหลังของกู้หนิง จนกระทั่งเธอหายไปจากสายตาของเขา

 

“หนิงหนิง”

 

เสียงของฉู่เพ่ยหานดังขึ้นด้านหลังกู้หนิง

 

กู้หนิงหยุดวิ่งและหันกลับมา เห็นฉู่เพ่ยหานที่กำลังยิ้มมีเลศนัย ดูเหมือนว่าเธอเป็นพยานเห็นเลิ่งเชาถิงและกู้หนิงอยู่ด้วยกัน

 

จริงด้วยสินะ….

 

“บอกฉันมานะ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” ฉู่เพ่ยหานถาม “เพื่อน” กู้หนิงตอบ

 

“งั้นหรอออ? เพื่อนแบบไหนล่ะ?” ฉู่เพ่ยหานพาดแขนของเธอบนไหล่กู้หนิง เธอจะไม่ยอมปล่อย ถ้ากู้หนิงไม่ยอมบอกความจริง

 

“ก็เพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง” กู้หนิงอดกรอกตาไม่ได้ “ฮ่า ฉันไม่เชื่อ” ฉู่เพ่ยหานหรี่ตามอง

 

“ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ!” กู้หนิงพูดราวกับว่าเธอกับเลิ่งเชาถิงไม่มีอะไรในกอไผ่

 

“ก็ได้ ฉันเชื่อเธอ!” ในเมื่อกู้หนิงบอกว่าเพื่อนก็เพื่อน ฉู่เพ่ยหานแค่อยากหาเรื่องซุบซิบไปงั้น ไม่ได้หมายความว่าเธอจะคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันซะหน่อย

 

ผู้ชายกับผู้หญิงก็อาจเป็นพี่น้องกันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนกัน อีกอย่างกู้หนิงกับผู้ชายคนนั้นดูไม่สนิทสนมกัน

 

ตั้งแต่ที่กู้หนิงรู้ว่าซื่อตู้เย่เป็นหัวหน้าแก๊งฉิง แสดงว่าฉู่ซวนเฟิงต้องเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งฉิงแน่ เขาคงเป็นคนสำคัญข้างกายซื่อตู้เย่ ตำแหน่งระดับสูง

 

ส่วนฉู่เพ่ยหาน กู้หนิงไม่แน่ใจว่าเธอเป็นสมาชิดแก๊งฉิงรึเปล่า ช่างเถอะ กู้หนิงไม่ใส่ใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว เธอยินดีที่จะคบค้าสมาคมกับแก๊งฉิง

 

ในเมื่องฉู่เพ่ยหานไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอ เธอไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ ดังนั้นกู้หนิงจึงเก็บเป็นความลับ

 

“อ้อ หนิงหนิง เธอเลือกจะเข้ามหาวิทยาลัยที่ไหนเหรอ?”

 

“มหาวิทยาลัยเมืองหลวง แล้วเธอล่ะ?” กู้หนิงถามฉู่เพ่ยหาน

 

“ฉันเองก็อยากจะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอ! พี่ชายฉันสามารถช่วยพวกเราอยู่หอเดียวกันได้” ฉู่เพ่ยหานตื่นเต้น

 

“ไม่เลวนี่ ยังไงก็เถอะ บอกเธอไว้เลยละกัน ฉันจะอยู่โรงเรียนอีกหนึ่งเดือนหรือสองเดือน ฉันกำลังจะเริ่มทำธุรกิจและคงจะยุ่งมากๆ มันสะดวกสำหรับฉันมากกว่าที่จะอยู่ข้างนอกโรงเรียน”

 

“หา! เธอจะทำธุรกิจหรอ?” ฉู่เพ่ยหานทึ่ง เธอมองกู้หนิงด้วยสายตาชื่นชม “บอส เธอเป็นไอดอลของฉันจริงๆ! ฉันไม่มีความคิดจะทำธุรกิจเลยสักกะติ๊ด แค่อยากใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ บอส ถ้าเธอประสบความสำเร็จในอนาคต อย่าลืมฉันนะ!”

 

ฉู่เพ่ยหานจับแขนกู้หนิง ออดอ้อนเธอทำเหมือนกู้หนิงจะทิ้งเธอไป ฉู่เพ่ยหานไม่ต้องการให้ใครมาดูแลหรอก เพราะครอบครัวของเธอร่ำรวยและมีอิทธิพล

 

“ได้สิ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอถ้าฉันประสบความสำเร็จในอนาคต แล้วจะหาผู้ชายดีๆแต่งงานกับเธอ”

 

“ฉันไม่อยากแต่งงาน! ฉันจะอยู่เป็นโสดและใช้ชีวิตอิสระ!”

 

กู้หนิงระบายยิ้มบนใบหน้า ต่างคนต่างความคิด ฉู่เพ่ยหานยังเด็กเกินไปที่จะคิดถึงเรื่องนั้น เมื่อเธออยู่ในวัยที่เหมาะสมหรือพบกับคนที่ใช่ บางทีเธออาจเปลี่ยนใจ

 

ที่เมือง G โจวเจิ้งหงเตรียมโฆษณาร้านในตอนเช้า

 

นอกจากผนังด้านนอกของร้านแล้ว พื้นที่โฆษณายังมีจอ LED ที่ด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง และผนังอีกด้านหนึ่งของห้างสรรพสินค้า

 

ดูเหมือนเพียงเล็กน้อย แต่โฆษณาก็ดึงดูดสายตาคนทั่วไป

 

 

ตอนที่ 170 โทสะของกู้หนิง I

 

ลูกค้าแต่ละรายสามารถรับส่วนลด 10% ในวันเปิด ส่วนลด 10% นั้นถือว่าไม่น้อยเลย หากคุณจ่ายเงินหนึ่งล้านหยวน คุณจะได้รับส่วนลดหนึ่งแสนหยวนซึ่งค่อนข้างมาก

                                               

โฆษณาของร้านหยกบิวตี้จิวเวอรี่ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อคนธรรมดาและคนที่ไม่ได้ชื่นชอบหยก แต่ยังส่งผลถึงวงการอุตสาหกรรมหยกอีกด้วย

 

เหตุผลหลักคือหยกจักรพรรดิที่หยกบิวตี้จิวเวอรี่ใช้โฆษณานั้นน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ร้านอื่นจะใช้หยกระดับกลางค่อนไปสูง

 

ในเมือง G ไม่มีหยกจำนวนมากมายนัก ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่จะหาหยกระดับสูงได้ หยกบิวตี้จิวเวลรี่ต้องร่ำรวยและทรงพลังมากถึงได้หยกระดับสูงมา!

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านหยกและนักธุรกิจหลายคนให้ความสนใจหยกจักรพรรดิอย่างมาก พวกเขาต้องการเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ยลโฉม พวกเขาหลายคนวางแผนที่จะซื้อมันเพื่อสะสม แม้ว่าพวกเขาจะเคยเห็นหยกหลายชนิดและครอบครองไว้ไม่น้อยแต่คอลเลคชั่นส่วนใหญ่ของพวกเขาเป็นหยกทั่วไปหรือไม่ก็ระดับกลาง นับประสาอะไรกับหยกจักรพรรดิที่มีเพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นมัน และมีน้อยคนที่เป็นเจ้าของมัน แม้ว่าคุณจะมีเงินซื้อ แต่คุณก็คงไม่มีโอกาสซื้อ

 

 

หยกบิวตี้จิวเวอรี่เปิดแอคเคาท์เว่ยป๋ออย่างเป็นทางการ ซึ่งเขียนไว้ในโพสต์โฆษณา ทำให้หลายคนสมัครติดตามแบรนด์ภายในเวลาอันสั้น

 

เมื่อวานช่วงบ่าย กู้หนิงโทรหาอาจารย์ฝู อาจารย์หยวนและอาจารย์ไป๋ บอกพวกเขาว่าเธอจะเอาหยกจักพรรดิมาแสดงในงานเปิดตัวร้าน เครื่องประดับทั้งหมดสามารถจองได้ในวันนั้นด้วย เธอจะให้พวกเขาดูก่อนเป็นคนแรกเมื่อเธอไปที่เมือง G

 

อาจารย์ทั้งสามท่านตื่นเต้นที่ได้ยินข่าว พวกเขาบอกกู้หนิงให้รีบมาเมือง G ไวๆ

 

ทั้งอาจารย์ฝูและอาจารย์ไป๋ต้องการซื้อหยกจักรพรรดิ แต่กู้หนิงบอกปฏิเสธ ถ้าอาจารย์ทั้งสองต้องการก็สามารถจองได้ในวันเปิดงาน ตอนนี้กู้หนิงเป็นนักธุรกิจเต็มตัวแล้ว และผลกำไรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของเธอ อาจารย์ทั้งสองท่านต่างก็เป็นนักธุรกิจเหมือนกัน พวกเขาจึงเข้าใจถึงการตัดสินใจของกู้หนิงและไม่ได้คัดค้าน

 

อาจารย์ไป๋และอาจารย์ฝูมีแผนจะจองแหวนที่ทำจากหยกจักรพรรดิ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือธุรกิจของกู้หนิงด้วย

 

อาจารย์หยวนมีความสนใจในของเก่ามากกว่าหยก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขัน เขาแค่อยากไปดู อย่างไรก็ตามอาจารย์ฝูและอาจารย์ไป๋ต่างตั้งหน้าตั้งตารอการมาถึงของกู้หนิง การรอเป็นเรื่องทรมานมากสำหรับพวกเขา

 

แม้ว่ากู้หนิงจะบอกพวกเขาล่วงหน้า แต่อาจารย์ฝูและอาจารย์ไป๋ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นโฆษณา เพราะพวกเขาได้เห็นภาพของหยกจักรพรรดิ อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงรูปภาพ พวกเขายังคงต้องรออีกสักพักกว่าจะได้เห็นของจริง

 

ลี่เจินหยูโทรหาฉินอี้ฟานทันทีที่ได้ยินข่าว ฉินอี้ฟานตกใจ เขาตั้งใจจะไปงานเปิดตัวร้านหยกบิวตี้จิวเวลรี่ด้วย

 

กู้หนิงออกจากโรงเรียนในตอนเที่ยง กู้หนิงไม่ค่อยอยู่โรงเรียนเท่าไหร่ ดังนั้นเพื่อนๆจึงพากันบ่นว่าเธอไม่มีคุณสมบัติของการเป็นหัวหน้า

 

กู้หนิงมีเรื่องจำเป็นต้องไปจัดการจริงๆ และเพื่อนๆก็ไม่สามารถรั้งเธอได้

 

จริงๆแล้วกู้หนิงก็รู้สึกละอายใจเช่นกัน ระยะนี้เธอยุ่งมากและไม่มีเวลาฝึกพวกเขามากนัก

 

โรงเรียนอันดับสามอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนอันดับสี่ กู้หนิงใช้เวลาเพียงสิบนาทีก็วิ่งมาถึง กู้หนิงปีนกำแพงเข้าไปข้างในโรงเรียน เครื่องแบบนักเรียนของพวกเขามีสีเดียวกัน แต่มีการออกแบบที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่ากู้หนิงมาจากโรงเรียนอื่นเว้นแต่พวกเขาจะเข้าไปดูใกล้ๆ

 

เมื่อกู้หนิงมาถึง เธอโทรหาเจียงซินหยู เจียงซินหยูรับโทรศัพท์แต่ไม่ได้พูดอะไร ถึงอย่างนั้นกู้หนิงได้ยินเสียงดังจากปลายสาย

 

“เจียงซินหยู ฉันเตือนแกแล้วนี่ว่าให้อยู่ห่างจากเซิงหาง แกกล้าดียังไงถึงไม่สนใจคำสั่งฉัน!”

 

“ฉันเปล่านะ เป็นเขาเองที่มาขอโทษฉันถึงสิ่งที่เธอทำกับฉันเมื่อวาน” เจียงซินหยูโต้กลับ

 

“ขอโทษ? ขอโทษทำไม? แกสมควรโดนแล้ว!”

 

บ้าเอ้ย! กู้หนิงหัวเสียขึ้นมาทันที เธอคิดว่าจะเสียเวลาในการค้นหาพวกเขา แต่คาดไม่ถึงว่าพวกเขาอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตามกู้หนิงได้ยินแต่เสียงของพวกเขาเท่านั้น เธอไม่รู้ตำแหน่งที่ตั้งของพวกเขา

 

 

 

 

โชคดีที่กู้หนิงได้ยินเสียงอย่างชัดเจน เธอจำเสียงรอบตัวเจียงซินหยูผ่านทางโทรศัพท์ มันเป็นเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อต้นไม้กวัดแกว่งไปมาและใบไม้เสียดสีกัน มันต้องเป็นสถานที่ที่มีต้นไม้มากมาย กู้หนิงนึกถึงป่าทันที

 

เธอเคยเรียนที่โรงเรียนอันดับ 4 เธอจึงคุ้นเคยกับมัน มีป่าในโรงเรียน ดังนั้นกู้หนิงจึงวิ่งไปที่ป่าทันที เธอวิ่งเร็วมาก เร็วกว่านักกีฬาอาชีพด้วยซ้ำ เด็กนักเรียนระหว่างทางตกตะลึง อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขากลับมามีสติและต้องการอัดคลิปวิดีโอ กู้หนิงก็วิ่งหนีหายไปแล้ว

 

เสียงจากปลายสายยังคงดังต่อเนื่อง

 

“ในเมื่อแกไม่เชื่อฟังพวกเรา ฉันจะสั่งสอนแกอีกรอบ”

 

ได้ยินแบบนั้น กู้หนิงก็หวั่นวิตก เธอกลัวว่าเจียงซินอยูจะบาดเจ็บ ในไม่ช้าเธอก็ได้ยินเสียงตบ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดของเจียงซินหยู

 

ไฟโทสะกู้หนิงพุ่งขึ้นมา แม่งเอ้ย!

 

สิ่งที่เธอคิดไว้ตอนแรกคือสั่งสอนพวกเขาเบาๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอต้องทำให้พวกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำกับเจียงซินหยู!!

 

เมื่อกู้หนิงหาเจียงซินหยูพบ เจียงซินหยูก็ถูกตบไปสองครั้งแล้ว

 

กู้หนิงพุ่งไปข้างหน้าทันที เธอถีบนักเรียนหญิงสามคนที่อยู่รอบๆเจียงซินหยูกระเด็นไปหลายเมตรด้วยแรงมหาศาล

 

นักเรียนหญิงสามคนไม่มีโอกาสแม้แต่จะตั้งตัว คนหนึ่งกระเด็นใส่ต้นไม้ล้มลงพื้นหมดสติ อีกคนกระแทกหินจนขยับตัวไม่ได้ ได้แต่ร้องไห้ด้วยความเจ็บ อีกคนล้มปากฟาดพื้น ฟันหน้าหลุดออกจากเหงือก เลือดไหลออกจากปากไม่หยุด เธอได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ร้องไห้ไม่ออกด้วยซ้ำ

 

เจียงซินหยูตื่นตะลึงกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า

 

ในป่านอกจากพวกเธอแล้วยังมีนักเรียนคนอื่นอีกสองสามคน พวกเขาต่างตกใจกับพละกำลังของกู้หนิง ถึงแม้พวกเขาจะเห็นใจเจียงซินหยู แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเธอ

 

ถึงอย่างนั้นเมื่อเห็นเพื่อนร่วมโรงเรียนบาดเจ็บ ก็มีคนรีบวิ่งไปบอกอาจารย์ทันที

 

กู้หนิงรู้ แต่เธอไม่สนใจ เธอไม่สามารถหนีไปได้ในตอนนี้และจะไม่ปล่อยเจียงซินหยูไว้ลำพัง! เธอควรจัดการเรื่องยุ่งๆที่เธอก่อ

 

“พี่คะ…” เสียงของเจียงซินหยูสั่น “พวกเขา พวกเขา…”

 

แม้ว่าเจียงซินหยูจะประหลาดใจกับพละกำลังของกู้หนิง แต่ก็หวาดผวากับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป