ตอนที่ 395 โฆษณายา
"หากว่าเป็นโรคที่หายาก ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่ายาจะช่วยรักษาให้หายขาดหรือเปล่า แต่อย่างน้อยอาการจะดีขึ้น ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคหัวใจก่อนหน้านี้กินยาไปห้าเม็ด และโรคหัวใจของเขาก็ค่อยๆดีขึ้น ตอนนี้เขามีสุขภาพดีและยังแข็งแรงมากอีกด้วย" กู้หนิงโฆษณายาของเธอ
พากันได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่มีใครเชื่อเพราะนี่มันดีเกินจริงเกินไป ทว่าซูอันย่าเป็นตัวอย่างที่ดี บาดแผลของเธอเลือดหยุดไหลและความเจ็บก็หายไปหลังจากกินยาของกู้หนิง แต่ก็มีบางคนที่คิดว่าบาดแผลของซูอันย่าไม่ร้ายแรงมาก ยาของกู้หนิงบังเอิญช่วยไว้ได้พอดี
"หนูกู้ ลุงไม่รู้จะขอบคุณหนูเท่าไหร่ถึงจะพอ หนูเป็นคนช่วยชีวิตตระกูลซูของเรา!" ซูเจิ้นห่าวเอ่ยขอบคุณกู้หนิงด้วยความซาบซึ้งใจ
กู้หนิงตอบว่า "ลุงซูคะ อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ อันย่าเป็นเพื่อนสนิทของหนู"
"คุณกู้ ยาของเธอได้ผลจริงๆเหรอ?" มีคนเอ่ยถาม
"ฉันทราบดีค่ะว่ามันอยากที่จะเชื่อ แม้ว่าจะมีอันย่าเป็นตัวอย่าง อย่างไรก็ตามไม่สำคัญว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ ยาวิเศษนี้ย่อมล้ำค่าในอนาคต แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับฉันว่าอยากจะขายหรือไม่" กู้หนิงกล่าวอย่างภูมิใจ เธอไม่สนว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อเธอ เธอรู้ว่าพวกเขาอยากได้ยาเมื่อพบว่ามันได้ผล
"คุณกู้ ยาของเธอสามารถรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ไหม? ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความหวัง เขาคือหลานหยูบิน ประธานบริษัทหลานตูทราเวล ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ชั้นนำในเมือง F แม้ว่าเขาจะไม่ติดในรายชื่อคนรวยในเมือง F แต่บริษัทของเขามีทรัพย์สินหลายร้อยล้านหยวน
ลูกชายของหลานหยูบินได้รับผลกระทบจากโรคที่หายากเมื่อสี่ปีก่อน และกล้ามเนื้อน่องขวาของเขาก็อ่อนแอลงเมื่อเวลาผ่านไป เขาไม่สามารถเดิน ได้แต่นั่งรถเข็นได้ทั้งวัน แม้ว่าวิทยาศาสตร์การแพทย์จะพัฒนาไปมาก แต่โรคหายากก็ยังรักษาได้ยาก
“ถ้าคุณเชื่อฉัน ค่ะ มันสามารถรักษาได้” กู้หนิงเอ่ย
“ถ้าอย่างนั้น เธอขายให้ฉันได้ไหม?” หลานหยูบินตื่นเต้น เข้าเชื่อกู้หนิง และคว้าทุกโอกาสที่จะรักษาลูกชายของเขา
“ได้
ค่ะ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าคุณจะเต็มจ่ายไหมนี่สิ” กู้หนิงเอ่ย
“แน่นอน ผมเต็มใจ” หลานหยูบินเอ่ยอย่างไม่ลังเล ตราบใดที่ยาสามารถรักษาลูกชายเขาได้ แพงเท่าไหร่เขาก็ยอม
“คุณไม่แม้แต่จะถามถึงราคา แสดงว่าคนป่วยต้องสำคัญกับคุณมาก ฉันประทับใจในตัวคุณค่ะและฉันก็ไม่ใช่คนใจร้าย ยาหนึ่งเม็ดราคาหนึ่งล้าน แต่ไม่ต้องกังวลไป ถ้ายาไม่ได้ผล 80% คุณไม่ต้องจ่ายสักหยวน และฉันต้องการพบผู้ป่วยด้วยตนเองเพื่อตัดสินใจว่าจะต้องใช้ยากี่เม็ด” กู้หนิงกล่าว
ได้ยินราคา ทุกคนก็ต้องตะลึงอีกครั้ง เม็ดละหนึ่งล้านหยวน? แต่สิ่งที่น่าตะลึงมากกว่าคือหากยาไม่ได้ผล 80% ไม่ต้องจ่ายเงิน กู้หนิงพูดอย่างนั้นเพราะเธอกลัวว่ายาของเธอจะมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ หรือเธอมั่นใจว่ายาของเธอสามารถรักษาโรคได้? ทุกคนมีความสงสัยอยู่ในใจ
“ไม่มีปัญหา ว่าแต่เธอว่างเมื่อไหร่?” หลานหยูบินไม่ได้คิดว่ายาราคาแพงเกินไป เขาอยากให้เธอไปพบลูกชายของเขาให้ไวที่สุด
“พรุ่งนี้ฉันไม่ว่างค่ะ เอาอย่างนี้ไหมคะ ตอนนี้เราไปพบคนป่วยด้วยกันเลย” พรุ่งนี้กู้หนิงจะไปเมือง G และตอนนี้เพิ่งสองทุ่ม
“ดะ ได้สิ” นี่เป็นคำตอบที่หลานหยูบินอยากได้ยิน
ในตอนนี้รถพยาบาลมาถึงแล้ว กู้หนิงเอ่ยว่า “แม้ว่าตอนนี้บาดแผลของอันย่าจะไม่มีเลือดออกแล้ว แต่หนูคิดว่าเธอยังต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูค่ะ”
กู้หนิงไม่ต้องการให้มันดูผิดปกติจนเกินไป ดังนั้นเธอจึงยังทิ้งรอยแผลเอาไว้อยู่ แผลของซูอันย่ามีผมคลุมไว้ดังนั้นจึงไม่ได้ดูน่าเกลียด กู้หนิงช่วยลบรอยแผลเป็นให้ได้หากซูอันย่าต้องการ
หลังจากนั้นซูเจิ้นห่าวและภรรยาของเขาก็พาซูอันย่าไปโรงพยาบาลทันที จินเข่อซินก็เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเช่นกันเพราะเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อจินเข่อซินออกจากโรงพยาบาล เธอจะถูกศาลตัดสินจำคุก
หยวนจื่อซ่งยังอยู่รอส่งแขกในนามของซูเจิ้นห่าว
ฉู่เพ่ยหานและคนอื่นๆกลับบ้านด้วยกัน ขณะที่กู้หนิงพร้อมด้วยเกาอี้และเฉียวหยาตามหลานหยูบินไปที่บ้านของเขา บังเอิญหลานหยูบินก็อาศัยอยู่ในเฟิ่งหัวแมนชั่นด้วย
เมื่อเห็นหลานหยูบินเดินเข้ามาพร้อมกับคนแปลกหน้า คุณนายหลานไม่ได้ถามอะไรแต่บอกให้แม่บ้านรินน้ำชา
“เจียหยวน นี่คือคุณกู้ เธอมียาวิเศษที่สามารถรักษาโรคได้หลายโรค วันนี้คุณหนูตระกูลซูบาดเจ็บที่ศรีษะ แต่เลือดที่แผลหยุดไหลหลังจากที่เธอกินยาของคุณกู้ ดังนั้นผมจึงเชิญเธอมาดูเทียนฮั่ว” หลานหยูบินพูดกับภรรยาของเขา เทียนฮั่วเป็นลูกชายของเขา หลานเทียนฮั่ว
ดวงตาของคุณนายหลานเป็นประกายขึ้นมาทันที "จริงหรือๆ?"
“ขอฉันดูน่องขาเขาก่อนค่ะ” กู้หนิงยังไม่อยากให้คำสัญญาใดๆตอนนี้ เพราะพวกเขาจะรู้ผลในไม่ช้านี้
“ได้สิ” คุณนายหลานเอ่ย เธอช่วยดึงขากางเกงหลานเทียนฮั่วขึ้น
เมื่อเห็นว่ากู้หนิงยังเด็กอยู่มาก คุณนายฮ่าวก็เกิดความสงสัย อย่างไรก็ตามเธอมีความรู้สึกเดียวกับหลานหยูบิน ตราบใดที่มันได้ผล เธอก็ไม่อยากพลาดโอกาสที่จะรักษาลูกชาย และหลานหยูบินยังบอกว่าคุณกู้คนนี้ได้รักษาอาการบาดเจ็บของคุณหนูซู ดังนั้นเธอจึงเชื่อมั่นในตัวกู้หนิง
หลานเทียนฮั่ว แน่นอนว่าเขาอยากกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง กล้ามเนื้อที่น่องขาของเขาอ่อนแรงมากจนเหลือเพียงกระดูกน่องเท่านั้น กู้หนิงเดินไปข้างหน้าและบีบน่องของเขา แต่หลานเทียนฮั่วไม่มีความรู้สึกเลย
“คุณกู้ เป็นไงบ้าง? พอจะรักษาได้ไหม?” หลานหยูบินเป็นกังวล
“ได้ค่ะ แต่ต้องใช้ยาสามเม็ด” กู้หนิงตอบ
ตอนที่ 396 พระพุทธรูปทองคำ
“จริงหรือ?” หลานหยูบินและภรรยาของเขารู้สึกตื่นเต้นที่รู้ว่าลูกชายของพวกเขาสามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร
“เอาล่ะค่ะ ฉันจะให้ยาเขาตอนนี้ ภายในห้านาทีน่องของเขาจะกลับมารู้สึกอีกครั้ง” กู้หนิงกล่าวและหยิบขวดกระเบื้องขนาดเล็กที่มีผลึกพลังงานอยู่ข้างใน
“อะไรนะ? ภายในห้านาที?” หลานหยูบินและภรรยาเบิกตากว้าง ไม่อยากเชื่อหูตนเอง จากนั้นกู้หนิงก็เทผลึกพลังออกมาและมอบให้หลานเทียนฮั่ว “เทียนฮั่ว รับไป ขาของนายจะกลับมารู้สึกอีกครั้ง”
“จริงหรือ?” หลานเทียนฮั่วปวดเกินกว่าที่จะยืนขึ้น หลังจากการรักษาเป็นเวลาหลายปี เขายังคงนั่งรถเข็น
“ค่ะ” กู้หนิงตอบด้วยรอยยิ้ม
“ดี เอามาเลย” หลานเทียนฮั่วเอ่ย เขาอ้าปากแล้วกลืนยาที่กู้หนิงยื่นให้เขา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงกระแสความเย็นไหลเวียนทั่วร่างซึ่งทำให้เขารู้สึกสบายตัวมาก
หลานหยูบินและภรรยาของเขาเอาแต่จ้องหลานเทียนฮั่ว ทั้งสองค่อนข้างกระวนกระวายใจ
หนึ่งนาที สองนาที สามนาทีต่อมา น่องขาของหลานเทียนฮั่วก็ค่อยๆมีความรู้สึกอีกครั้ง มันกระตุกอยู่สองสามที หลานหยูบินและภรรยาสังเกตเห็นและถามออกไปทันทีว่า “เทียนฮั่ว ลูกรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
“เจ็บนิดหน่อยครับ แต่เย็นสบาย” หลานเทียนฮั่วตอบ ความเจ็บปวดนั้นพอทนได้
“ถ้าคุณรู้สึกเจ็บ นั่นหมายความว่าน่องขาของคุณกำลังฟื้นฟูตัวเอง” กู้หนิงเอ่ย มันต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าน่องขาของเทียนฮั่วจะกลับมาเป็นปกติ ดังนั้นมันจึงเจ็บเป็นธรรมดา
ได้ยินเช่นนั้น หลานหยูบินและภรรยาก็ร้องไห้ออกมา มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข
กู้หนิงมอบยาให้กับหลานหยูบินและกล่าวว่า “มีอีกสองเม็ดในนั้น ให้เขากินยาทุก ๆ สามวันและผลของมันจะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากกินยาสามเม็ดแล้วก็มีแนวโน้มที่จะเดินได้ แต่ว่าในช่วงเวลาดังกล่าว น่องของเขาจะต้องได้รับการนวดทุกวันเพื่อให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น”
หลานหยูบินรับขวดยามา มือของเขาสั่นด้วยความดีใจ เขาถือมันไว้แน่น เจ้าสิ่งนี้สามารถรักษาลูกชายเขาได้!
“ขอบคุณมากคุณกู้” หลานหยูบินเอ่ย
ยาสามเม็ดสามล้านหยวน หลานหยูบินเอาเช็คออกมาและเขียนจำนวนเงินลงไป เขายื่นเช็คให้กู้หนิง และกู้หนิงก็ส่งต่อให้เกาอี้ หลังจากเสร็จธุระ กู้หนิงก็ออกมาจากบ้านตระกูลหลาน
กู้หนิงบอกเกาอี้ให้เอาเช็คไปขึ้นเงินพรุ่งนี้ เธอไม่ชอบเช็คเท่าไหร่ มีเงินสดอุ่นใจกว่า เกาอี้และเฉียวหยายังต้องจองตั๋วเครื่องบินไปเมือง G ในวันพรุ่งนี้อีกด้วย ตอนนี้พวกเขาทั้งสองกลายเป็นผู้ช่วยที่กู้หนิงไว้ใจไปแล้ว
ฉินฮ่าวเจิ้งกลับบ้านด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก คุณนายฉินเป็นห่วงเขา ฉินฮ่าวเจิ้งเล่าให้ภรรยาฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลซู มันไม่ใช่ความลับอีกต่อไปตั้งแต่มีคนมากมายที่งานเลี้ยง
เมื่อคุณนายฉินทราบว่ากู้หนิงคือเจ้าของตัวจริงของหยกบิวตี้จิวเวอรี่ เธอค่อนข้างทึ่ง ไม่สงสัยคำพูดของสามีสักนิดเดียว แต่เรื่องที่กู้หนิงช่วยรักษาซูอันย่าด้วยยาวิเศษของเธอ คุณนายฉินยังคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเกินไป
“หนูกู้นี่น่าทึ่งจริงๆนะคะ อายุยังน้อยแต่มีทรัพย์สินเป็นพันล้าน!” คุณนายฉินเอ่ยชม
“ใช่ ผมคิดว่าอี้ฟานคิดถูก ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะยังเทียบกับครอบครัวเราไม่ได้ก็จริง แต่อีกไม่นานเธอจะกลายเป็นคนรวยติดอันดับในเมือง F แน่นอน” ฉินฮ่าวเจิ้งเอ่ย
“แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ชอบอี้ฟานของเรา” ในตอนแรกคุณนายฉินไม่ต้องการให้ฉินอี้ฟานคบกับผู้หญิงธรรมดาๆ แต่หลังจากที่รู้ว่ากู้หนิงไม่ธรรมดา เธอรู้สึกเสียดายที่กู้หนิงบอกปฏิเสธลูกชายของเธอ
ฉินอี้ฟานยืนอยู่ที่บันไดและได้ยินการสนทนาของพ่อแม่ เขาไม่ตกใจเท่าไหร่ตอนที่ได้ยินว่ากู้หนิงเป็นเจ้าของตัวจริงของหยกบิวตี้จิวเวอรี่ เพราะเขาก็มีความคิดแบบเดียวกัน สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือกู้หนิงช่วยชีวิตซูอันย่า แม้ว่าเขาจะรู้ว่ากู้หนิงเป็นเด็กสาวที่พิเศษไม่เหมือนใคร แต่เธอทำให้เขาประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไรก็ตาม เขาสนใจเธอไม่ใช่เพราะเธอมีทักษะที่น่าเหลือเชื่อมากมาย แต่เป็นเพราะบุคลิกของเธอ
หลังจากเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ฉินอี้ฟานก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับหลังจากถูกกู้หนิงปฏิเสธ แม้ว่าจะยังเจ็บปวดใจอยู่เมื่อคิดถึงเธอ ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังในความรักแม้ว่าจะทุ่มเทมากแค่ไหนก็ตาม
ระหว่างเดินกลับไปที่โซน G กู้หนิงก็พลันนึกถึงซูเจิ้นห่าว เธอคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะจัดการกับปัญหาของเขาตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงโทรหาซูอันย่าทันที
ซูอันย่ากำลังอยู่ระหว่างการตรวจรักษา ดังนั้นซูเจิ้นห่าวจึงเป็นคนรับสายแทนซึ่งเป็นสิ่งที่กู้หนิงกำลังต้องการพอดี
“หนูกู้ อันย่ากำลังตรวจเช็คอาการ เธอไม่สะดวกรับสายตอนนี้” ซูเจิ้นห่าวเย
“คุณลุงซู อันที่จริงหนูอยากคุยกับคุณลุงค่ะ” กู้หนิงเอ่ย
“อ้อ มีอะไรงั้นหรือ?” ซูเจิ้นห่าวถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดว่ากู้หนิงอาจต้องการความช่วยเหลือจากเขา
“คุณลุงซูคะ ช่วงนี้คุณลุงรู้สึกไม่ค่อยสบายและนอนฝันร้ายเป็นบางครั้งรึเปล่าคะ? และเกือบเป็นลม?” กู้หนิงถาม
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูเจิ้นห่าวก็ตกตะลึง “แน่นอน ช่วงนี้ลุงยุ่งมากและไม่ค่อยได้พักผ่อน” ซูเจิ้นห่าวกล่าว เขาไม่คิดว่าเขาป่วยหรืออะไร แต่คิดว่าเขาทำงานมากเกินไป
“เมื่อเร็ว ๆ นี้คุณลุงได้รับของเก่าบ้างไหมคะ?” กู้หนิงถามอีกครั้ง
ซูเจิ้นห่าวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมกู้หนิงถึงถามแบบนั้น แต่เขาเชื่อว่ากู้หนิงไม่ได้คิดจะทำร้ายเขา ดังนั้นเขาจึงตอบว่า “ใช่ เพื่อนสนิทของลุงส่งพระพุทธรูปทองคำมาให้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน”
“คุณลุงเริ่มรู้สึกไม่สบายหลังจากได้รับพระพุทธรูปทองคำหรือเปล่าคะ?” กู้หนิงถาม
ซูเจิ้นห่าวฉลาดพอที่จะเข้าใจความหมายของกู้หนิง เป็นไปได้ว่าพระพุทธรูปทองคำเป็นสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายในช่วงนี้