ตอนที่ 385 วันเกิดซูอันย่า
ข่าวใหญ่: หยวนจื่อซ่ง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลในเมือง F ถูกคนบ้าแทงที่ด้านนอกศูนย์ราชการ เด็กสาวเตะคนบ้าออกไปได้ทันท่วงทีและคู่หูของเธอเป็นจับคนร้ายได้ (ภาพที่แนบมา]
ภาพนี้ถ่ายหลังจากหยวนจื่อซ่งได้รับการช่วยเหลือเพราะตอนนั้นทุกคนตกใจอยู่ และไม่มีใครอยู่ในอารมณ์ที่จะถ่ายรูป
ไม่นานก็มีคนเปิดเผยตัวตนของคนร้าย เขาเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน ‘จางเชา’ เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานแอบอ้างใช้อำนาจหยวนจื่อซ่งจึงถูกไล่ออก จางเชาให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและเงินทองมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงเป็นบ้าหลังจากถูกไล่ออก และมาทำร้ายหยวนจื่อซ่ง จางเชาถูกตัดสินจำคุก 10 ปีในตอนแรก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะจบลงด้วยโทษจำคุกตลอดชีวิต
ผู้คนต่างชมเชยเด็กสาวที่ช่วยหยวนจื่อซ่งจากการถูกมีดแทง ภาพถ่ายถูกถ่ายจากระยะไกล ดังนั้นใบหน้าของกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงจึงไม่ชัดเจน แต่ฮ่าวหรันและคนอื่นๆ ที่คุ้นเคยกับพวกเธอจำได้ทันที พวกเขาโทรหากู้หนิง ถามว่าเธอปลอดภัยดีหรือไม่
โทรศัพท์ของกู้หนิงดังไม่หยุด เธอรับสายด้วยความอดทนเพราะรู้ว่าเพื่อนๆเป็นห่วงเธอ
นักข่าวหลายคนมาสัมภาษณ์หยวนจื่อซ่งหลังเกิดอุบัติเหตุ พวกเขาอยากรู้เกี่ยวกับเด็กสาวที่ช่วยชีวิตเขา แต่ถูกหยวนจื่อซ่งปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเธอ
เลิ่งเชาถิงได้รับมอบหมายงานในอีกไม่กี่วันต่อมาและเขาจำเป็นต้องจากไป
คืนก่อนที่เลิ่งเชาถิงจะจากไป กู้หนิงก็อยู่กับเขา
เลิ่งเชาถิงไม่รู้ว่าครั้งต่อไปเขาจะได้เจอกู้หนิงหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงสัมผัส จูบ และบอกรักเธอครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดทั้งคืน กู้หนิงเกือบจะหมดสติจากการบอกรักของเขา โชคดีที่เธอมีพลังช่วยเธออยู่
“หนิงหนิง” เลิ่งเชาถิงเรียกเธอด้วยน้ำเสียงแหบห้าว
“คะ” กู้หนิงครางตอบ ซึ่งทำให้เลิ่งเชาถิงไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ว พวกเขาไม่หยุดพักจนกว่าจะหมดแรง หลังจากโหมรันกันจนหมดแรง เลิ่งเชาถิงก็ยังกอดกู้หนิงไว้ในอ้อมแขนของเขา
“เชาถิง เราไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ถ้าฉันท้องล่ะ?” กู้หนิงถามทันที เธอใช้พลังของเธอเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์และหยุดสเปิร์มของเขาไม่ให้หลั่งเข้าไปข้างใน ที่เธอถามออกไปก็เพื่อทดสอบเขา บอกตามตรงเธอกลัวว่าเขาจะบอกให้เธอทำแท้ง
ร่างกายของเลิ่งเชาถิงแข็งทื่อเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถาม เขาไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถ้ากู้หนิงท้องจริงๆ เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตั้งหน้าตั้งตารอลูกของเขาเกิดมา “งั้นเรามาแต่งงานกันเถอะ” เขาพูดด้วยความกระฉับกระเฉง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของกู้หนิงก็เต้นแรง แม้ว่าเธอเชื่อว่าเลิ่งเชาถิงเป็นผู้ชายที่ไว้ใจได้ แต่เธอก็รู้สึกตื่นเต้นและซึ้งใจเมื่อได้ยินคำตอบ
“ฉันยังไม่อยากแต่งงานหรือมีลูกตอนอายุน้อย” กู้หนิงตอบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เลิ่งเชาถิงก็กังวล เขาพลิกตัวกดกู้หนิงไว้กับเตียง “แล้วเราควรทำไง?”
แม้ว่าเลิ่งเชาถิงยินดีที่จะแต่งงานกับกู้หนิงเพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันเป็นคู่สามีภรรยา แต่เขาไม่ต้องการให้เธอรู้สึกจนมุม เมื่อเห็นเลิ่งเชาถิงกังวลมากเกินไป กู้หนิงจึงพูดปลอบโยนเขาว่า “นี่ นี่ ครั้งหน้าเราก็ใช้ถุงยางอนามัย เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม หลังจากที่ฉันเรียนจบแล้ว เราค่อยแต่งงานกัน”
เลิ่งเชาถิงพลันรู้สึกผ่อนคลาย
วันเกิดของซูอันย่ามาถึงแล้ว และเธอก็โทรหาทุกคนแต่เช้าเผื่อพวกเขาจะลืม เธอบอกให้พวกเขามาที่บ้านของเธอตอน 4 โมงเย็นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานเลี้ยง บ้านของซูอันย่าอยู่ในละแวกเดียวกันกัฉินอี้ฟาน
กู้หนิงเกิดสังหรณ์ใจแปลก ๆ เมื่อเธอออกไปร่วมงานวันเกิด แต่เธอไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ เผื่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นขึ้น กู้หนิงจึงพาเกาอี้และเฉียวหยาไปด้วย
กู้หนิงแวะไปรับหยูหมิงซีก่อน ในขณะที่ฉู่เพ่ยหานไปรับมู่เค่อและอ้ายยี่ ส่วนคนที่เหลือฮ่าวหรันจะเป็นคนไปรับ
ขณะนี้เวลา 15.30 น. และงานเลี้ยงจะเริ่มเวลา 18.00 น. บุคคลสำคัญทางการเมืองและนักธุรกิจจะมาประมาณ 17.00 น. ดังนั้นกู้หนิงและเพื่อนๆ จึงยังไม่ได้สวมชุดที่เป็นทางการ พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนในภายหลัง
เมื่อพวกเขาเกือบจะถึง กู้หนิงก็โทรหาซูอันย่า ทันทีที่กู้หนิงมาถึง เธอเห็นซูอันย่ารออยู่ที่ประตู
แม้ว่าตระกูลซูและตระกูลฉินจะอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันของวิลล่า แต่บ้านของพวกเขาก็ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน และมีระยะทางยาวตรงกลาง
ซูอันย่าวิ่งไปหากู้หนิงทันทีที่พวกเธอลงจากรถ “กู้หนิง หมิงซี ยินดีต้อนรับ!”
ซูอันฮ่าวและจินเข่อซินก็อยู่ที่นั่นด้วย จินเข่อซินทำหน้ารผิดหวังเมื่อเห็นว่าเลิ่งเชาถิงไม่มา กู้หนิงสังเกตเห็น เธอโกรธเล็กน้อยแต่ไม่อยากสนใจจินเข่อซิน
“นี่เกาอี้และเฉียวหยา พวกเขาเป็นทั้งคนขับรถ บอดี้การ์ด และผู้ช่วยของฉัน” กู้หนิงพูดกับซูอันย่า กู้หนิงได้เกริ่นกับเธอเรื่องนี้เมื่อเช้าแล้ว ซูอันย่าจึงไม่ประหลาดใจ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”ซูอันย่าทักทายพวกเขา
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ/ค่ะ คุณซู” เกาอี้และเฉียวหยาเอ่ยทัก
“คนอื่นยังมาไม่ถึง พวกเราเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ ข้างนอกหนาวมาก” ซูอันย่านำทางพวกกู้หนิงเข้าไปข้างในบ้าน
ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น หญิงวัยกลางคนที่ยังดูสง่างามก็เดินตรงเข้ามาหา เธอเป็นแม่ของซูอันย่า ซู อันย่ามีพี่ชายอายุ 23 ปี ดังนั้นแม่ของซูอันย่าก็อายุเกือบ 50 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังดูสวยอยู่เพราะเธอดูแลรูปร่างหน้าตาของเธอเป็นอย่างดี
“แม่คะ นี่เพื่อนของหนูค่ะ กู้หนิง หยูหมิงซี เกาอี้ และเฉียวหยา” ซูอันย่าพูดกับแม่ของเธอ
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะจ๊ะ” คุณนายซูกล่าวต้อนรับ เธอไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงถามถึงเรื่องครอบครัวของเพื่อนของลูกสาว
ตอนที่ 386 การแสดงออกที่เจ้าเล่ห์
เธอเข้าใจตัวลูกสาวดีว่า ลูกสาวของเธอไม่ได้คบเพื่อนที่เป็นคนรวยด้วยกันเท่านั้น ในเมื่อลูกสาวเธอบอกว่าเป็นเพื่อน แสดงว่าเด็กกลุ่มนี้ต้องเป็นคนดี
“ยินดีที่รู้จักค่ะ คุณนายซู”
หลังจากนั้นซูอันย่าก็ดึงกู้หนิงออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าวและแนะนำเธออีกครั้ง “แม่คะ เธอป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูตามที่หนูเล่าให้แม่ฟัง!”
คุณนายซูรู้สึกประหลาดใจในตอนแรก จากนั้นจึงกล่าวขอบคุณกู้หนิงด้วยความจริงใจ “ขอบคุณหนูมากนะจ๊ะ!”
“ไม่เป็นไรค่ะ” กู้หนิงตอบ
“คนช่วยชีวิต?” ซูอันฮ่าวและจินเข่อซินทำหน้าไม่เข้าใจ “คุณป้าคะ เกิดอะไรขึ้นคะ?” จินเข่อซินเป็นคนถาม
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” คุณนายซูยังไม่ทันได้ตอบ ซูอันย่าก็ชิงพูดก่อน เธอเกลียดจินเข่อซินจริงๆ
“อันย่า ระวังคำพูดด้วย” คุณนายซูตำหนิ เธอรู้ว่าซูอันย่าไม่ชอบจินเข่อซิน แต่พวกเขาเป็นญาติกัน ไม่เหมาะไม่ควรที่ซูอันย่าทำตัวหยาบคายกับจินเข่อซินต่อหน้าคนอื่น
“คุณป้า เป็นความผิดของหนูเองค่ะ” จินเข่อซินกล่าวและทำราวกับว่าเธอถูกรังแก ในความเป็นจริง จินเข่อซินทั้งอิจฉาและเกลียดซูอันย่ามากไม่ต่างกัน แต่ครอบครัวของซูอันย่านั้นรวยมากและครอบครัวจินเข่อซินต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลซู ต่อหน้าจินเข่อซินไม่กล้าโต้เถียงกับซูอันย่า เธอชอบเล่นบทไร้เดียงสาและใช้กลอุบายมากมายเพื่อล่อให้ซูอันย่าติดกับ พ่อแม่ของซูอันย่าจึงได้แต่ตำหนิลูกสาวหลายครั้งเพราะเหตุนั้น เมื่อเห็นซูอันย่าถูกแม่ตำหนิ จินเข่อซินก็รู้สึกดีขึ้นมาก
เมื่อเห็นท่าทางไร้เดียงสาของจิยเข่อซิน ซูอันย่าก็หงุดหงิด แต่เธอไม่พูดอะไร เธอไม่อยากให้เพื่อนเข้ามายุ่งเรื่องวุ่นวายนี้
“เข้าไปนั่งกันเถอะ” ซูอันย่าหันมาพูดกับกู้หนิง ไม่สนใจจินเข่อซิน
“โอ้ ใช่ เชิญจ๊ะๆ เชิญนั่ง” คุณนายซูเอ่ย
จากนั้นกลุ่มของพวกเขาก็นั่งลง คุณนายซูบอกคนรับใช้ในบ้านให้เสิร์ฟผลไม้และชาให้พวกกู้หนิง และพวกเธอก็คุยกันระหว่างกินของหวาน
คุณนายซูถามกู้หนิงเกี่ยวกับงานอดิเรก การเรียน และอื่นๆ แต่ไม่เคยถามถึงภูมิหลังครอบครัวของเธอเลย
ไม่กี่นาทีต่อมา ฉู่เพ่ยหาน ฮ่าวหรัน และคนอื่นๆ ก็มาถึง ซูอันย่าออกไปต้อนรับพวกเขา
พวกเขาทั้งหมดมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ดังนั้นฮ่าวหรัน ฉินซีหุน และอ้ายยี่เคยพบคุณนายซูมาก่อน คุณนายซูรู้สึกประหลาดใจที่พวกเขาเป็นเพื่อนของซูอันย่าด้วย ซูอันย่าเป็นคนไม่ชอบอวดรวยและไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนรุ่นใหม่จากครอบครัวที่ร่ำรวย เพราะเธอคิดว่าพวกเขามักจะหยิ่งยโสและพูดด้วยยาก
“สวัสดีครับ คุณนายซู!” ฮ่าวหรัน อ้ายยี่ และฉินซีหุนเอ่ยทักทายเธอ
“สวัสดีจ๊ะ ยินดีต้อนรับ เข้ามาๆ” คุณนายซูเชิญพวกเขามานั่งกับเธอ
ไม่นานนัก พ่อของซูอันย่า ซูเจิ้นห่าวก็เข้ามา มีชายวัยกลางคนอีกคนอยู่กับเขา อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ซูเจิ้นห่าวปรากฏตัวในสายตาของกู้หนิง กู้หนิงก็ตกใจ เพราะซูเจิ้นห่าวดูซีดมากและหน้าผากของเขาปรากฏเป็นสีดำเข้ม เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับผลกระทบจากพลังหยิน
กู้หนิงมีความตั้งใจที่จะช่วยเขาแต่ไม่ทันแล้ว ยิ่งกว่านั้นเธอจะไม่ช่วยเหลือผู้คนโดยไม่มีเหตุผล ตระกูลซูค่อนข้างมีอิทธิพลในเมือง F ดังนั้นเธอจึงเลือกเวลาที่เหมาะสมที่จะช่วยเหลือแก่เขา ตราบใดที่ตระกูลซูยังเป็นหนี้เธอ ความเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาก็จะมั่นคง
กู้หนิงไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว แต่เธอกำลังสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง นอกจากนั้นกู้หนิงไม่ใช่นักบุญที่จะช่วยผู้คนด้วยความเมตตาเพียงอย่างเดียว แต่เธอจะใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเช่นกัน
“พ่อ!” ซูอันย่าวิ่งไปหาแล้วเอาแขนคล้องแขนพ่อของเธอ “พ่อคะ มาตรงนี้ค่ะ หนูจะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก”
“โอ้ เพื่อนของลูกงั้นหรือ?” ซูเจิ้นห่าวประหลาดที่ลูกสาวของเขามีเพื่อน แถมยังชวนมางานวันเกิดด้วย
ซูเจิ้นห่าวเดินเข้าไปหา กู้หนิงและคนอื่นๆยืนขึ้น “ยินดีที่ได้พบค่ะ/ครับ คุณซู”
“สวัสดีครับ ลุงซู!” ฮ่าวหรันและครนที่คุ้นเคยกับเขาทักมายซูเจิ้งห่าวตามสบาย
“คุณลุง คุณพ่อ” จินเข่อซินทักพวกเขา ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างซูเจิ้นห่าวคือพ่อของจินเข่อซิน
“สวัสดีค่ะ คุณลุงซู คุณลุงจิน” ซูอันฮ่าวทักทายพวกเขาอย่างสุภาพ
“โอ้ พวกเธอก็อยู่ที่นี่กันหมดเลยหรือ!” ซูเจิ้นห่าวร้องทักอย่างร่าเริงเมื่อเห็นฮ่าวหรัน อ้ายยี่ และฉินซีหุน
ซูอันย่าแนะนำกู้หนิงและคนอื่นๆ ให้รู้จักกับพ่อของเธออีกครั้ง “พ่อคะ นี่กู้หนิงงค่ะ เธอเป็นคนช่วยชีวิตหนูที่หนูเคยบอกพ่อ!”
เมื่อได้ยินว่ากู้หนิงเป็นคนช่วยชีวิตซุอันย่า ซูเจิ้นห่าวก็ขอบคุณกู้หนิงด้วยความจริงใจทันที “หนูกู้ ขอบคุณมากที่ช่วยลูกสาวของฉัน! ถ้ามีปัญหาอะไร ก็บอกมาได้เลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ” กู้หนิงยิ้ม
“คนช่วยชีวิต? เกิดอะไรขึ้นกับอันย่า?” พ่อของจินเข่อซิน ‘จินจิงเว่ย’ เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“อันย่าเกือบถูกรถชน เป็นหนูกู้ที่มาช่วยไว้ได้ทันพอดี” ซูเจิ้นห่าวตอบแต่ไม่ได้ลงรายละเอียด
หลังจากอุบัติเหตุเกิดขึ้น ตระกูลซูก็ได้แก้แค้นทั้งครอบครัวของเกาอวี้เฉินและอู่ซินหยูแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าทั้งสองเป็นเด็ก ซูเจิ้นห่าวคงจะทำให้ทั้งสองครอบครัวตกที่นั่งลำบาก
“อ้อ ขอบคุณหนูมากนะ” จินจิงเว่ยกล่าว แต่กู้หนิงสัมผัสได้ถึงความผิดหวังที่แวบผ่านดวงตาของเขา ดูเหมือนว่าจินจิงเว่ยคนนี้หวังให้ซูอันย่าตกอยู่ในอันตราย จินเข่อซินมีสีหน้าผิดหวังเช่นเดียวกัน เธอยังอยากให้ซูอันย่าถูกรถชน ตายไปเลยยิ่งดี
กู้หนิงเยาะเย้ยอย่างเงียบๆในใจ พ่อยังไงลูกก็ยังงั้น ทั้งจินจิงเว่ยและจินเข่อซินอยากให้ซูอันย่าที่เป็นคนตระกูลซูเกิดเรื่อง เห็นได้ชัดว่าตระกูลจินกำลังวางแผนต่อต้านตระกูลซู
“ฉันไม่รบกวนพวกเธอล่ะ มีเรื่องจะคุยกับจิงเว่ย” ซูเจิ้นห่าวเอ่ยและเดินขึ้นไปชั้นบนกับจินจิงเว่ย
พวกกู้หนิงคุยกันจนถึงห้าโมงเย็น แขกก็เริ่มทยอยมา ซูอันย่ากับสาวๆ ยกเว้นจินเข่อซินไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของเธอ