ตอนที่ 379 หญิงสาวที่แอบชอบเลิ่งเชาถิง
“และ” ถางไห่เฟิงพูดต่อ “เธอไม่สนใจทรัพย์สินของตระกูลถางหรอก เพราะเธอคนเดียวก็โค่นตระกูลดังเมืองเถิงได้และยังก่อตั้งบริษัทจัดหาหยกด้วยเงินทุนกว่าพันล้านหยวน นี่แค่เริ่มต้นเองนะ!”
แม้ว่าจะไม่มีข่าวว่ากู้หนิงเป็นคนโค่นตระกูลหวาง ถางไห่เฟิงเชื่อว่าเธอต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน นับตั้งแต่กู้หนิงได้รับสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบ ผู้จัดหาวัตถุดิบรายใหญ่ที่สุดและผู้ให้บริการหยกหลากสีก็ได้รับการจัดการโดยบุคคลเดียวกัน ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่ากู้หนิงเป็นเจ้าของ นอกจากนั้น ถางไห่เฟิงเชื่อว่ากู้หนิงจะต้องประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ได้ยินว่ากู้หนิงประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย สมาชิกตระกูลถางต่างก็ตะลึงจนพูดไม่ออก
ถางไห่เฟิงเล่าเรื่องกู้หนิงต่อ “ตอนที่พ่อออกจากเมืองเถิง เธอยังมอบชิ้นส่วนปะการังสีแดงซึ่งมีราคาหลายล้านหยวนให้พ่อเชียวนะ! ราคาไม่เท่าไหร่หรอก แต่ปะการังสีแดงนั้นหายากมากเลยทีเดียว!”
สมาชิกตระกูลถางมีความรู้สึกหลากหลายและรู้สึกละอายใจเล็กน้อยที่คิดสงสัยในตัวกู้หนิง อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ความผิดของพวกเขา พวกเขาไม่รู้ว่ากู้หนิงมีธุรกิจของตัวเอง อีกอย่างทุกวันนี้มีแต่คนเข้ามาหาผลประโยชน์ พวกเขาจึงต้องระวังเอาไว้ก่อน
“น่าทึ่งมาก ผมอยากรู้จักเธอแล้วสิครับ คุณปู่ เมื่อไหร่เธอจะมาที่เมือง B ล่ะครับ?” ถางเจียข่ายถาม
ถางหยุนฮวนและหยวนซิวหยูก็มีความรู้สึกดีๆต่อกู้หนิง ทั้งสองคนต้องการพบเธอให้เร็วที่สุดหากเป็นไปได้ พวกเขาไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวและหยิ่งยโส พวกเขามองเธอในแง่ดีไม่ใช่เพราะเธอรวย แต่เป็นเพราะความสามารถที่โดดเด่นของเธอ ไม่สำคัญว่ากู้หนิงจะรวยมากแค่ไหน เธอก็ยังเทียบความมั่งคั่งของตระกูลถางในตอนนี้ไม่ได้อยู่ดี
“เธอจะมาที่นี่หลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว” ถางไห่เฟิงตอบคำถามหลานชาย เขาเองก็อยากเจอกู้หนิงอีก
“งั้นก็อีกนานเลยสิครับ!” ถางเจียข่ายผิดหวังนิดหน่อย
หลังจากคุยกับนายท่านถางทางโทรศัพท์ กู้หนิงก็โทรหานายท่านไป๋ นายท่านหยวน และนายท่านฝู
เมืองหลวง ที่บ้านตระกูลเลิ่ง....
มีแขกมาเยือนบ้านตระกูลเลิ่งในช่วงเช้า พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาวัยกลางคนและลูกสาวอายุประมาณ 23 ปี
“สุขสันต์ปีใหม่ทุกๆท่าน” คู่สามีภรรยายิ้มสุภาพและกล่าวสวัสดีปีใหม่ทันทีที่เดินเข้ามาข้างในบ้าน
“สุขสันต์ปีใหม่ค่ะคุณปู่เลิ่ง คุณลุงเลิ่งและคุณป้า” หญิงสาวก็ทักทายทุกคนด้วยความเคารพนอบน้อม
ชายวัยกลางคนชื่อเจินหยวนเฟิง เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของภรรยาผู้ล่วงลับของนายท่านเลิ่ง หญิงวัยกลางคนคือภรรยาของเขา เฉินฉิวหยิน และลูกสาวของพวกเขา เจินจื่อหลิน ตระกูลเจินไม่ใช่ตระกูลที่มีอิทธิพลในเมืองหลวง แต่ร่ำรวยมากและมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นเพราะความสัมพันธ์ของพวกเขากับตระกูลเลิ่ง
นายท่านเลิ่งรักภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วของเขามาก ดังนั้นเขาจึงดูแลคนตระกูลเจินเป็นอย่างดี
นายท่านเลิ่งยิ้มรับ “สุขสันต์ปีใหม่! พวกเธอไม่จำเป็นต้องเอาของขวัญมามากมายเลย”
เจินหยวนเฟิงส่ายหน้าเบาๆและพูดด้วยความจริงใจว่า “จะทำอย่างนั้นได้อย่างไรครับ พวกเรามาเยี่ยมมือเปล่าไม่ได้”
นายท่านเลิ่งยิ้มไม่ได้พูดอะไรอีก เลิ่งหยวนเฉียนจึงเป็นฝ่ายพูดว่า “เชิญนั่งๆ”
จากนั้นก็หันไปบอกสาวใช้ให้ช่วยรับของขวัญจากเจินหยวนเฟิงและรินชาให้พวกเขา
เจินหยวนเฟิงมองไปรอบๆหลังจากที่นั่งลง “เด็กๆไปไหนกันหมดครับ?”
“เชาหมิงอยู่ในห้องของเขา เชาเจี๋ยยุ่งกับการออกแบบของเธออยู่ ส่วนเชาซุน เชาซี เชาถิงอยู่สวนด้านหลัง” เลิ่งหยวนเฉียนตอบ
เมื่อได้ยินว่าเลิ่งเชาถิงก็อยู่บ้านด้วย ดวงตาเจินจื่อหลินก็ระยิบระยับ แม้ว่าเธอจะพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกที่มีต่อเลิ่งเชาถิง แต่ใบหน้าของเธอก็แสดงออกจนเห็นได้ชัด
ทุกคนรู้ว่าเจินจื่อหลินแอบชอบเลิ่งเชาถิง ตอนแรกนายท่านเลิ่งก็แนะนำเธอให้เลิ่งเชาถิง ตระกูลเจินเป็นญาติใกล้ชิดของตระกูลเลิ่ง และเจินจื่อหลินก็เป็นคนสวยน่ารัก แต่น่าเสียดายที่เลิ่งเชาถิงไม่ชอบเธอเลย นายท่านเลิ่งจึงต้องยอมแพ้ไป
ถึงอย่างนั้นตระกูลเจินไม่เต็มใจที่จะพลาดโอกาสที่พวกเขาจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลเลิ่ง ดังนั้น เฉินฉิวหยินจึงกล่าวว่า "จื่อหลิน ทำไมลูกไม่ไปสนุกกับคนอื่นๆล่ะจ๊ะ? น่าเบื่อแย่ถ้าลูกอยู่ที่นี่กับเรา” แน่นอนว่ามันเป็นแค่ข้ออ้าง
ตระกูลเจินต้องการให้เจินจื่อหลินแต่งเข้าตระกูลเลิ่ง ไม่ใช่แค่เหตุผลที่เจินจื่อหลินชอบเลิ่งเชาถิงเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องการผูกติดกับตระกูลเลิ่งต่อไป การแต่งงานเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยพวกเขาทำสำเร็จตามแผน
เลิ่งเชาหมิงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเลิ่งเชาถิงหากต้องแต่งงาน เพราะเลิ่งเชาหมิงเข้าถึงได้ง่ายกว่า ในขณะที่เลิ่งเชาถิงเย็นชาและเข้าถึงยาก แต่เจินจื่อหลินชอบเลิ่งเชาถิงคนเดียว ดังนั้นพ่อแม่ของเธอจึงได้แต่ทำตามความต้องการของลูกสาว ตราบใดที่ผู้ชายคนนั้นมาจากตระกูลเลิ่ง พวกเขาก็พึงพอใจแล้ว
“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวนะคะ จะไปหาเชาซี” เจินจื่อหลินกล่าวขอตัว
“ตามสบายเลยนะหนู” แม้ว่านายท่านเลิ่งจะรู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ เขาก็ไม่ได้ห้าม เพราะพวกเขาใช้เลิ่งเชาซีเป็นข้ออ้าง เรื่องนี้ไม่สำคัญหรอก เพราะถึงอย่างไรเลิ่งเชาถิงก็ไม่ชอบเจินจื่อหลินอยู่ดี และเขาก็มีแฟนแล้ว ดังนั้นนายท่านเลิ่งจึงไม่กังวลเรื่องนี้เลย
เจินจื่อหลินเดินไปที่สวนด้านหลัง เห็นเลิ่งเชาซุน เลิ่งเชาซี และเลิ่งเชาถิง เลิ่งเชาถิงกำลังสอนกังฟูเลิ่งเชาซุนอยู่ ในขณะที่เลิ่งเชาซีนั่งชิงช้าดูพวกเขา
เมื่อเห็นเลิ่งเชาถิงที่หล่อโดดเด่นเกินใคร หัวใจของเจินจื่อหลินก็เต้นแรง และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความชื่นชม เธอรู้ว่าเลิ่งเชาถิงเย็นชาอยู่เสมอและไม่ชอบอยู่ใกล้ใคร เขาไม่เคยสนใจเธอเลย แต่เรื่องนี้ก็ไม่ช่วยให้เธอหยุดรักเขาได้
“จื่อหลิน! มานี่สิ มานั่งตรงนี้!” เลิ่งเชาซีดีใจที่เห็นเจินจื่อหลิน
ในบรรดาคนรุ่นเยาว์ เลิ่งเชาซีเป็นคนเดียวที่สนิทกับเจินจื่อหลิน ส่วนเลิ่งเชาเจี๋ยหยิ่งเกินกว่าจะเป็นเพื่อนกับเจินจื่อหลิน และเจินจื่อหลินก็ไม่ชอบเธอเช่นกัน
ได้ยินเสียงเลิ่งเชาซี เจินจื่อหลินก็ถอนสายตากลับมา และยิ้มให้เลิ่งเชาซีพลางเดินไปหา “เชาซี สุขสันต์ปีใหม่!”
“สุขสันต์ปีใหม่!” เลิ่งเชาซีเอ่ย เลิ่งเชาซีเขยิบไปด้านข้างเล็กน้อยพอให้เจินจื่อหลินนั่งลง
“เชาซี เชาถิงกลับมาเมื่อไหร่น่ะ?” เจินจื่อหลินถาม แกล้งคุยถามตามปกติ
“เมื่อวานตอนบ่าย” เลิ่งเชาซีตอบ
“แล้วเขาจะกลับเมื่อไหร่?” เจินจื่อหลินถามอีกครั้ง
“ไม่รู้สิ” เลิ่งเชาซีตอบ เธอไม่รู้ว่าเจินจื่อหลินแอบชอบเลิ่งเชาถิง เธอเลยไม่ได้คิดอะไรมากกับคำถามของเจินจื่อหลิน
เลิ่งเชาถิงกำลังสอนกังฟูให้เลิ่งเชาซุน ดังนั้นเจินจื่อหลินจึงไม่เข้าไปรบกวนพวกเขา
ผ่านไปครู่ใหญ่ เลิ่งเชาถิงก็สอนจบบทเรียน เจินจื่อหลินได้โอกาสเดินเข้าไปหา “เชาถิง สุขสันต์ปีใหม่!”
ตอนที่ 380 เชาถิงมีแฟนแล้ว?
เลิ่งเชาถิงตอบรับเพียงเบา ๆ และหันหลังเดินเข้าไปในบ้าน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เลิ่งเชาถิงเมินเจินจื่อหลิน เธอรู้สึกเสียใจแต่ไม่เก็บมาใส่ใจ เพราะเคยชินเสียแล้ว เพื่อที่จะกลบเกลื่อนความเขินอาย เธอหันไปหาเลิ่งเชาซุน “เชาซุน สุขสันต์ปีใหม่!”
“สุขสันต์ปีใหม่เช่นกัน” เลิ่งเชาซุนตอบอย่างสุภาพ เขาไม่ได้เย็นชาเหมือนเลิ่งเชาถิง
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร ทุกคนก็เดินไปยังห้องส่วนหน้า เลิ่งเชาหมิงและเลิ่งเชาเจี๋ยเดินลงบันไดมาร่วมทานข้าวด้วย
“สวัสดีปีใหม่ค่ะ/ครับ คุณลุงเจิน คุณป้าเจิน” พวกเขาร้องทัก
“สวัสดีปีใหม่พวกเธอด้วยนะ” เจินหยวนเฟิงและเฉินฉิวหยินตอบกลับด้วยน้ำเสียงชื่นมื่น เจินหยวนเฟิงถึงกับกล่าวชมเชยว่า “ลุงไม่ได้เห็นเธอตั้งนาน เชาซุนเองก็โตขึ้นมาก สูง แล้วก็หล่อมากทีเดียว เชาซีเองก็สวยมาก”
แม้ว่าจะเป็นคำเยินยอ เลิ่งเชาซุนและเลิ่งเชาซีก็ยังกล่าวขอบคุณเขา “ขอบคุณครับ/ค่ะ ลุงเจิน”
“อ้อ เชาถิงล่ะ?” นายท่านเลิ่งเอ่ยถามหลานชายหลานสาว
“พี่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ครับ” เลิ่งเชาซุนตอบ
ไม่นานเลิ่งเชาถิงก็ตามมาสมทบ วินาทีที่เขาปรากฏตัว เจินหยวนเฟิงไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ คงดีไม่น้อยหากลูกสาวของเขาได้แต่งงานกับเลิ่งเชาถิง
“เชาถิงนี่เป็นคนหนุ่มที่โดดเด่นจริงๆแหละนะ ได้เป็นนายพลตอนอายุยังไม่มาก ลูกสาวตระกูลไหนได้แต่งงานกับเขา ถือว่าโชคดีมากจริงๆ!” เจินหยวนเฟิงกล่าวชมเชย ยามที่เจินหยวนเฟิงกล่าวนั้น ดูเหมือนว่าเลิ่งเชาหมิงจะยังโดดเด่นไม่พอ แต่พวกเขาไม่สามารถโต้กลับได้ เพราะมันเป็นความจริง
“ว่าแต่ เชาถิง หลานมีแฟนรึยัง?” เจินหยวนเฟิงถามเลิ่งเชาถิง
“มีแล้วครับ” เลิ่งเชาถิงตอบ เขารู้ว่าคนตระกูลเจินคิดอะไรอยู่ในใจ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจบอกไปเพื่อให้พวกเขาล้มเลิกความคิดที่จะเกี่ยวดองเขาเป็นเขย คำตอบง่ายๆของเลิ่งเชาถิงสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนยกเว้นนายท่านเลิ่ง
“อะไรนะ? จริงหรือ?” เลิ่งเชาซุนไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“ใช่” เลิ่งเชาถิงย้ำคำพูดของตัวเอง เมื่อนึกถึงกู้หนิง เลิ่งเชาถิงก็ดูอ่อนโยนขึ้นและการแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความรักซึ่งสร้างความประหลาดใจอย่างมากแก่สมาชิกตระกูลเลิ่ง เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นเลิ่งเชาถิงในมุมนี้มาก่อน
หลังจากการตกตะลึงครั้งใหญ่ ตระกูลเจินต่างก็ผิดหวัง แต่ก็ยังไม่สิ้นหวังทีเดียว ตราบใดที่เลิ่งเชาถิงยังไม่แต่งงาน เจินจื่อหลินก็ยังคงมีความหวัง และเรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ใช่เกย์!
เจินหยวนเฟิงแสร้งทำเป็นเฮฮา “ฮ่า ฮ่า ลุงไม่รู้เลยว่าหลานมีแฟนแล้ว ผู้หญิงโชคดีคนนั้นเป็นใครกันล่ะ?”
“คนที่ผมรักครับ” เลิ่งเชาถิงตอบ เขาไม่พูดถึงเบื้องหลังของแฟนสาว พูดอีกอย่างคือเขาไม่สนใจตราบใดที่เขารักเธอก็เพียงพอแล้ว
นายท่านเลิ่งหัวเราะ “พวกเราไม่สนใจเรื่องภูมิหลังครอบครัวหรอก ตราบใดที่เชาถิงมีความสุข ฉันจะสนับสนุนเขาเอง!”
คนตระกูลเจินไม่ใช่คนโง่ พวกเขาจึงยุติหัวข้อสนทนานี้
จานอาหารถูกนำมาวางบนโต๊ะอาหาร เจินจื่อหลินสูญเสียความอยากอาหารเมื่อได้ยินว่าเลิ่งเชาถิงมีแฟนแล้ว หลังทานข้าวเสร็จ เลิ่งเชาถิงก็ผละจากไปทันที เจินจื่อหลินรู้สึกเสียใจ แต่เธอทำอะไรไม่ได้ ถ้าหากเธอยังแสดงออกถึงความชื่นชอบต่อเขาหลังจากที่รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ตัวเธอคงถูกมองไม่ดี
เวลาเดียวกันที่เมือง F อู่เหลียนฉินถูกตำรวจจับที่บ้านพักของเขาหลังวันส่งท้ายปีเก่า และในไม่ช้าความลับสกปรกของเขาก็ถูกเปิดเผย ซึ่งทำให้พลเมืองในเมือง F ต่างตื่นตกใจ
เนื่องจากเป็นเทศกาลปีใหม่ อู่เหลียนฉินจึงถูกจับช้ากว่าที่วางแผนไว้หนึ่งวัน อย่างไรก็ตามเขาถูกจับกุมทันทีและถูกตัดสินจำคุกอย่างน้อย 10 ปี
ในเมื่ออู่เหลียนฉินถูกจับเข้าคุก กู้หนิงก็ไม่ได้ไปยุ่งกับเทียนหัวเรียลเอสเตท เพราะว่าเทียนหัวไม่ใช่บริษัทของอู่เหลียนฉิน
กู้หนิงยังได้ยินข่าวอื่น ๆ อีกในวันนี้ อ้ายยี่บอกพวกเธอในกลุ่มวีแชทว่าคนที่ขโมยเงินของครอบครัวของเขาก็ถูกตำรวจจับเช่นกัน แต่เงินถูกใช้ไปหมดแล้วดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาคืน กู้หนิงมีความเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่ออ้ายกวงเหยา โชคดีที่ชีวิตของอ้ายกวงเหยาดีขึ้นนับตั้งแต่เขาเริ่มทำงานให้กับกู้หนิง
ในตอนบ่าย เจียงจงหยูและนายท่านซู่ก็มาเยี่ยมนายท่านเลิ่ง
“เชาถิงไปไหนล่ะ?” เจียงจงหยูเอ่ยถาม เขารู้มาว่าเลิ่งเชาถิงกลับมาวันปีใหม่ แต่ยังไม่เห็นเขา
“เขาไปแล้วล่ะ” นายท่านเลิ่งตอบ
"อะไรกัน? ตอนนี้ยังเป็นเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ จินเฉินก็ยังอยู่บ้าน!” นายท่านซู่รู้สึกประหลาดใจ
“เขารีบไปหาแฟนน่ะ” นายท่านเลิ่งตอบ
“ฮ่า ฮ่า ดูเหมือนว่าแฟนจะสำคัญกว่าปู่สินะ” เจียงจงหยูล้อเลียนเพื่อน
นายท่านเลิ่งกรอกตา “ฉันดีใจที่เห็นเขาให้ความสำคัญกับแฟน อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการแต่งงานเขาอีกแล้ว”
“ฮ่า ฮ่า นายพูดถูก” นายท่านซู่และเจียงจงหยูเห็นด้วย ต่างพากันหัวเราะ
“พูดถึงแฟนเชาถิง เธอเป็นคนช่วยชีวิตครอบครัวฉันไว้” เจียงจงหยูเอ่ย
“คนช่วยชีวิต? หมายความว่ายังไง?” ได้ยินเช่นนั้น ทั้งนายท่านเลิ่งและนายท่านซู่ต่างทำหน้างง คนอื่นๆ รอบตัวพวกเขาก็เช่นกัน
“นายไม่รู้เรื่องนี้หรือ?” เจียงจงหยูแปลกใจ เขาคิดว่าเลิ่งเว่ยหัวรู้เรื่องนี้แล้วซะอีก
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณปู่เจียง? ทำไมแฟนของพี่เชาถิงถึงได้เป็นคนช่วยชีวิตครอบครัวคุณปู่?” เลิ่งเชาซุนถามด้วยความอยากรู้