Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่ 345 - 346: ให้บทเรียนถังหยาซิน, การต่อสู้)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่ 345 - 346: ให้บทเรียนถังหยาซิน, การต่อสู้

  • 22/06/2564

ตอนที่ 345 ให้บทเรียนถังหยาซิน

 

นอกจากนี้กู้หนิงไม่ต้องการทำให้ตัวเองบาดเจ็บเพื่อแก้แค้น เพราะเธอยังมีครอบครัวและเลิ่งเชาถิง เธอต้องคำนวณผลได้ผลเสีย

 

กู้หนิงใช้ตาทิพย์ส่องพวกเขาดูเป็นระยะๆว่าทำอะไรอยู่

 

ไม่นานนักถังหยาซินก็ลุกขึ้นและเดินออกไปเข้าห้องน้ำ นี่แหละคือโอกาสที่ดีของเธอ กู้หนิงจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน

 

เมื่อกู้หนิงเข้าไปในห้องน้ำ ไม่พบว่ามีใครอยู่เลย เธอใช้ตาทิพย์เพื่อค้นหาห้องที่ถังหยาซินเข้า ก่อนที่เธอจะหยิบขวดน้ำยาทำความสะอาดออกมาแล้วเทลงบนพื้นด้านหน้าห้องน้ำ หลังจากนั้นกู้หนิงก็ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำฝั่งตรงข้าม

 

ในไม่ช้าถังหยาซินก็ผลักประตูเปิดออกมา เหยียบน้ำยาทำความสะอาด ลื่นถอยหลังกรีดร้องด้วยความตกใจ

 

ถังหยาซินกระแทกชนกับชักโครกที่น้ำกำลังชักโครกอยู่ จึงทำให้หลังของเธอเปียกน้ำชักโครก

 

เสียงดังดึงดูดความสนใจจากผู้หญิงคนอื่นๆ ในห้องน้ำ พวกเธอทั้งหมดก็เดินออกมาทันที รวมถึงกู้หนิงด้วย

 

“คุณคะ เป็นอะไรไหมคะ?” กู้หนิงก้าวไปข้างหน้า “ให้ฉันช่วยนะ อ๊ะ!” อย่างไรก็ตาม ขณะที่กู้หนิงเดินไปที่ประตูห้องน้ำของถังหยาซิน เธอก็ลื่นล้มไปทับถังหยาซิน ด้วยเสียงกรีดร้องถังหยาซินได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง เธอเจ็บจนพูดไม่ออก

 

“โอ๊ะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่อยากช่วยคุณ” กู้หนิงแสร้งเป็นตื่นตระหนก เธอลุกขึ้นยืนเอ่ยคำขอโทษขอโพย

 

ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกขยะแขยง เพราะเธอก็ลื่นล้มในห้องน้ำด้วยเหมือนกันเพื่อที่จะล้มทับถังหยาซิน แม้ว่าเธอจะใช้ถังหยาซินเป็นเบาะรองรับ กู้หนิงก็ยังรู้สึกขยะแขยงอยู่ดี กระนั้นคนที่อยู่ในสภาพแย่กว่าคือถังหยาซิน ถังหยาซินเจ็บมากทั้งยังอักอายอีกด้วย แม้แต่ยืนเธอยังทำไม่ได้

 

เสียงกรีดร้องอันดังของถังหยาซินยังดึงดูดความสนใจจากคนที่อยู่ในห้องอาหารส่วนตัวที่อยู่ใกล้กับห้องน้ำหญิง หลายคนออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เลิ่งเชาถิงและฉีซีเยว่ก็ออกมาดูเช่นเดียวกัน

 

เลิ่งเชาถิงเพียงต้องการดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉีซีเยว่รู้ว่าเป็นเสียงของถังหยาซิน

 

พนักงานทำความสะอาดเข้ามาในห้องน้ำก่อนทุกคน เธอเดินหลบน้ำยาทำความสะอาดบนพื้นและช่วยถังหยาซินลุกขึ้น

 

“เธอ...” ถังหยาซินจ้องกู้หนิงหลังจากที่ยืนด้วยขาสองข้างได้แล้ว เธอยังเจ็บอยู่จึงยังพูดอะไรไม่ได้มาก

 

กู้หนิงก้มหน้าลงราวกับว่าเธอคือผู้บริสุทธิ์ แต่อันที่จริงเธอกำลังหัวเราะกับตัวเอง

 

เลิ่งเชาถิงเป็นกังวลหลังจากที่เขาพบว่าเสียงกรีดร้องเจ็บปวดมาจากห้องน้ำหญิงที่กู้หนิงเพิ่งเข้าไป

 

ก่อนที่เขาจะเข้าไปสอบถามรายละเอียด ก็มีผู้หญิงสองคนหิ้วปีกผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากห้องน้ำ ตามมาด้วยกู้หนิงและผู้หญิงคนอื่นๆ

 

“หยาซิน เกิดอะไรขึ้น?” ฉีซีเยว่วิ่งเข้ามาหาและช่วยพยุงเธอ

 

พนักงานทำความสะอาดชี้แจงว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ลื่นล้มในห้องน้ำค่ะ”

 

“มาเถอะ ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล” ฉีซีเยว่อุ้มถังหยาซินโดยไม่ลังเลและจากไป

 

เมื่อเห็นฉีซีเยว่อุ้มถังหยาซินออกไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกดูหมิ่นดูแคลนพาดผ่านดวงตาของกู้หนิง ซึ่งเลิ่งเชาถิงจับได้ เขามีความรู้สึกว่าเธอต้องเกี่ยวข้องกับ ‘อุบัติเหตุ’ ครั้งนี้

 

คนอื่นๆ แยกย้ายกันไป และกู้หนิงก็กลับไปที่ห้องอาหารส่วนตัวพร้อมกับเลิ่งเชาถิง หลังจากที่ทั้งสองนั่งลงแล้ว เลิ่งเชาถิงก็ถามเธอว่า “เป็นคุณหรือเปล่า?”

 

“ใช่ค่ะ” กู้หนิงยอมรับ

 

เลิ่งเชาถิงต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูด เขาอยากรู้ว่าทำไมแต่ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอจนเกินไป

 

กู้หนิงรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “ถ้ามีคุณมีอะไรอยากถามก็ถามมาเถอะค่ะ” “คุณสองคนมีความบาดหมางอะไรกัน? ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่คุณเจอผุ้หญิงคนนั้น ปฏิกิริยาของคุณก็เปลี่ยนไป ผมไม่ได้อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณ ผมแค่เป็นห่วง”

 

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าบางทีเขาอาจเคารพความเป็นส่วนตัวของเธอมากเกินไป เขาไม่รู้เลยว่าใครเป็นมิตรเป็นศัตรูของเธอ ในฐานะแฟน เขาควรจะรู้จักทั้งเพื่อนและศัตรูของเธอเพื่อที่เขาจะได้ช่วยเหลือเธอได้

 

“ฉันเกลียดพวกเขาจนอยากให้พวกเขาตาย” กู้หนิงเอ่ย แต่เธอไม่ได้บอกความจริงแก่เลิ่งเชาถิงทั้งหมด “ฉันรู้ว่าคุณคงสับสนมาตลอดว่าทำไมฉันถึงเก่งในการต่อสู้ เป็นเพราะครูสอนพิเศษของฉัน เธอชื่อถังอันหนิง เธอเป็นลูกสาวของตระกูลถังในเมืองหลวง ผู้หญิงที่คุณเพิ่งเห็นคือน้องสาวคนละแม่ของเธอ” เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในชาติก่อน กู้หนิงรู้สึกว่าในร่างกายของเธอมีไฟแห่งความเคียดแค้นลุกโชน

 

“เมื่อสิบปีที่แล้ว แม่ของถังหยาซินตั้งใจเข้าไปพัวพันกับการแต่งงานแม่ของครูสอนพิเศษของฉัน แม่ของถังอันหนิงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนนอนอยู่ในสภาพเป็นผัก หลังจากนั้นถังหยาซินและแม่ของเธอก็เข้ามาแทนที่ครูสอนพิเศษของฉัน ถังอันหนิงและแม่ของเธอในครอบครัว ครูสอนพิเศษที่น่าสงสารของฉันถูกพ่อของเธอทิ้งให้ไปอยู่ในองค์กรนักฆ่าเพื่อฝึกฝนอย่างเข้มงวด และเธอก็ต้องทำเรื่องสกปรกมากมายให้ตระกูลถังตลอดมา”

 

“เธอไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น แต่แม่ของเธออยู่ในกำมือพ่อของเธอ ถ้าเธอไม่เชื่อฟังคำสั่งของพ่อ พ่อของเธอจะฆ่าแม่ของเธอ เธอจึงทำสิ่งเลวร้ายมากมาย แต่เธอช่วยฉันและสอนกังฟูให้ฉัน ในสายตาของฉัน เธอคือครอบครัวของฉัน แต่เธอถูกน้องสาวต่างมารดาฆ่า ดังนั้นฉันต้องแก้แค้นให้กับเธอ!”

 

ยิ่งพูดกู้หนิงก็ยิ่งอยากร้องไห้ ตัวเธอสั่นด้วยความโกรธแต่มีความเศร้าอยู่ในดวงตา

 

เลิ่งเชิงเดินเข้ามาหาและกอดเธอเอาไว้ “ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะช่วยคุณเอง”

 

“ไม่ได้ ฉันจะแก้แค้นด้วยตัวเองค่ะ”

 

“ได้ๆ แต่ถ้าต้องการอะไร บอกให้ผมรู้ก็พอ” เลิ่งเชาถิงเอ่ย

 

หลังจากทานข้าวเสร็จ พวกเขาก็ไปดูหนังต่อก่อนกลับบ้าน

 

ฝั่งถังหยาซิน ความเจ็บปวดของเธอก็บรรเทาลงในที่สุด และเธอก็สามารถพูดได้ตามปกติ เธอตะโกนด้วยความโกรธจะไปร้องเรียนร้านอาหารที่สะเพร่าราดน้ำยาล้างห้องน้ำบนพื้นแล้วไม่เช็ดออก แต่เธอก็ถูกฉีซีเยว่ห้ามเอาไว้

 

หลังจากที่พวกเขาออกจากร้านอาหารไปแล้ว พื้นห้องน้ำก็ได้รับการทำความสะอาด หากไม่มีหลักฐาน พวกเขาก็ไม่สามารถร้องเรียนได้ แม้ว่าพวกเขาจะร้องเรียนได้ อย่างมากก็ได้เพียงคำขอโทษกลับมา

 

 

ตอนที่ 346 การต่อสู้

 

วันรุ่งขึ้น กู้หนิงตื่นนอนเวลาเจ็ดโมงเช้าเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน เลิ่งเชาถิงเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เธอแล้ว หลังทานอาหารเช้า เขาพาเธอไปส่งที่สนามบิน

 

ตอนที่ทั้งคู่จะแยกจากกัน เลิ่งเชาถิงก็มอบกุญแจให้กู้หนิง “นี่เป็นกุญแจบ้านผม ผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านที่เมืองหลวงเท่าไหร่ ถ้าคุณมาจะได้มีที่พัก”

 

กู้หนิงรับกุญแจมาโดยไม่ลังเล ที่พักฟรีใครจะปฏิเสธ แต่อย่างไรเธอกำลังจะซื้อบ้านของตัวเองเมื่อเธอไปเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง ซึ่งจะทำให้เธอรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่นอย่างแท้จริง

 

เลิ่งเชาถิงที่กังวลว่ากู้หนิงจะไม่ยอมรับกุญแจ แต่เมื่อเธอรับกุญแจไป เขาก็รู้สึกความสุข

 

“ไปแล้วนะคะ” กู้หนิงบอกลาเลิ่งเชาถิง เธอไม่อยากแยกจากเขา

 

“หลังปีใหม่ถ้าผมว่างแล้วจะไปหา” เลิ่งเชาถิงเองก็ไม่แยกจากเธอ ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะมัดตัวเธอแน่นไว้กับตัวเขา พวกเขาจะได้ไปไหนด้วยกันได้ทุกที่

 

“ดีจัง” กู้หนิงยิ้ม จากนั้นเธอก็กอดเขาและเดินไปยังห้องรับรองรอขึ้นเครื่องบิน ยังเหลือเวลาอีก 10 นาทีก่อนเครื่องออก กู้หนิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะโทรหาโจวเจิ้งหง วันนี้โจวเจิ้งหงไม่มีอะไรพิเศษที่ต้องจัดการ ดังนั้นกู้หนิงจึงบอกให้เขาไปรับเธอที่สนามบินเมือง G  แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ขัดข้อง

 

หลังจากที่กู้หนิงขึ้นเครื่องไปแล้ว เลิ่งเชาถิงก็กลับไปยังบ้านตระกูลเลิ่งเพื่อมอบภาพสิงโตบาดเจ็บ

 

นายท่านเลิ่งยิ้มด้วยความยินดีเมื่อเห็นภาพวาดสิงโตบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามเมื่อนายท่านเลิ่งได้ยินว่าเลิ่งเชาถิงกำลังจะกลับฐานทัพในไม่ช้า เขาก็ไม่พอใจและบ่นว่า “แกคิดว่าที่บ้านนี้เป็นโรงแรมงั้นหรือ? อย่างน้อยก็น่าจะนอนที่นี่สักสองสามวัน แต่แกไม่เคยอยู่หรือกินข้าวที่บ้านเลยตอนที่แกกลับมาเมืองหลวง”

 

เลิ่งเชาถิงรู้ตัวเองว่าเขาไม่ค่อยได้ใช้เวลาอยู่กับคุณปู่มากนัก เขาจึงพูดว่า “ก็ได้ครับ วันนี้ฉันผมจะทานข้าวที่บ้านก่อนออกเดินทาง”

 

ได้ยินเช่นนั้นน้ำเสียงของนายท่านเลิ่งก็สดใสขึ้นมา “ดีๆๆ มาเถอะ เล่นหมากรุกกันหน่อย” นานแล้วที่ปู่กับหลานไม่ได้เล่นหมากรุกก้วยกันและพูดคุยกันไปด้วย

 

กู้หนิงถึงเมือง G ตอนเที่ยง ทันทีที่ลงจากเครื่องบินเธอโทรหาเลิ่งเชาถิงเป็นอันดับแรก บอกเขาว่าเธอมาถึงเมือง G แล้ว

 

ในเวลานี้ เลิ่งเชาถิงเพิ่งทานอาหารกลางวันเสร็จและออกจากบ้านของตระกูลเลิ่ง “ดีแล้ว ผมกำลังจะกลับไปที่ฐานทัพ ผมไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ในขณะที่อยู่ฐานทัพ ไว้ว่างแล้วผมจะโทรหา”

 

“ค่ะ ดูแลตัวเองด้วย”

 

เธอเข้าใจว่าโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับการสื่อสารถูกห้ามในฐานทัพทหารเพื่อไม่ให้ศัตรูสามารถทราบตำแหน่งของพวกเขาโดยการติดตามสัญญาณดาวเทียม

 

“คุณด้วย ผมคิดถึงคุณ”

 

“เหมือนกันค่ะ

 

หลังจากคุยกันสั้นๆ พวกเขาก็วางสาย

 

กู้หนิงเดินไปที่ทางออก โจวเจิ้งหงก็เดินเข้ามาต้อนรับเธอ “ยินดีที่พบครับ บอส!”

 

“เช่นกันค่ะ ลุงโจว” กู้หนิงยิ้มรับ

 

“ตามผมมาทางนี้ครับ” โจวเจิ้งหงกล่าว

 

เมื่อเข้ามานั่งในรถ โจวเจิ้งหงก็เอ่ยว่า “บอสครับ ก่อนอื่นผมว่าไปทานข้าวกันก่อน” ตอนนี้เที่ยงครึ่ง กู้หนิงคงหิวข้าวแล้ว

 

“ได้ค่ะ”

 

“หลังจากทานข้าวเสร็จ พวกเราจะไปไหนต่อครับ?” โจวเจิ้งหงถาม

 

“ไปโรงงานค่ะ” กู้หนิงตอบ

 

"ได้ครับ" โจว เจิ้งหงขับรถไปยังทิศทางของโรงงานทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาผ่านอาคารสำนักงาน พวกเขาเห็นกลุ่มคนกำลังต่อสู้กัน กลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังทุบตีชายอีกกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดธรรมดา มีทั้งหมดประมาณ 50 คน

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนมีแท่งเหล็กอยู่ในมือ ส่วนคนที่ใส่เสื้อผ้าธรรมดามือเปล่าและได้รับบาดเจ็บ นี่มันโหดร้ายมากที่ รปภ. ทุบตีพวกเขาในที่สาธารณะแบบนั้น!

 

กู้หนิงสังเกตเห็นป้ายชื่อบริษัทหงหยุนเรียลเอสเตท เธอจึงตระหนักว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นจึงใช้ความรุนแรง และคงเป็นสาเหตุของความยุ่งเหยิงนี้

 

เธอบอกให้โจวเจิ้งหงจอดรถไว้ริมถนนและตัดสินใจเข้าไปดู

 

แม้ว่าแรงงานต่างด้าวเหล่านั้นจะเป็นพนักงานของหงหยุน แต่เพื่อประโยชน์ของกู้หนิง เธอใช้ช่วงเวลานี้ตักตวงผลประโยชน์จากพวกเขา แรงงานข้ามชาติเหล่านั้นไม่รู้เรื่องรู้ราว กู้หนิงจึงไม่อาจอยู่เฉยโดยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนงานของหงหยุนก็ตาม

 

“บอส นั่นคุณกำลังจะทำอะไร?” โจวเจิ้งหงไม่เข้าใจว่าเธอกำลังจะทำอะไร

 

“ฉันจะไปช่วยคนงานน่าสงสารพวกนั้น” กู้หนิงตอบ

 

“รปภ.ทุกคนมีแท่งเหล็กอยู่ในมือ! มันอันตรายเกินไปนะครับ!” โจวเจิ้งหงค่อนข้างกังวล

 

“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” กู้หนิงเอ่ย “ลุงรออยู่ในรถแล้วโทรเรียกรถพยาบาลด้วย มีคนงานบาดเจ็บหลายคน ถ้าตำรวจมาแล้วพาฉันไปสถานีตำรวจ ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันจัดการได้”

 

กู้หนิงลงจากรถอย่างรวดเร็วและพุ่งตรงไปยังกลุ่มคนที่กำลังทะเลาะวิวาทกัน

 

โจวเจิ้งหงยังคงเป็นกังวลอยู่ดี แต่เขาเชื่อใจกู้หนิง เขารู้ว่าเธอจัดการได้ เธอจะไม่ทำอะไรถ้าเธอจัดการไม่ได้

 

การตะโกนให้พวกเขาหยุดนั้นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงเข้าร่วมการต่อสู้ที่ดุเดือด เธอคว้าแท่งเหล็กจากมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งแล้วเตะเขาออกไป จากนั้นเธอก็ใช้แท่งเหล็กปัดแท่งเหล็กออกจากมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนหนึ่งแล้วเตะเขาออกไป

 

“อะไรวะเนี่ย!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ใกล้ๆ หงุดหงิดและฟาดกู้หนิงด้วยแท่งเหล็กในมือของเขา อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มือของเขาจะฟาดแท่งเหล็ก กู้หนิงก็จับข้อมือของเขาและบิดหักอย่างไว รปภ.คนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแท่งเหล็กก็ตกลงบนพื้น

 

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ถูกกู้หนิงต่อยภายในไม่กี่นาที ซึ่งทำให้ฝูงชนที่ยืนอยู่ห่างไกลตกใจ

 

“พระเจ้า! ผู้หญิงคนนั้นสุดยอดไปเลย! ผู้หญิงตัวคนเดียวสู้กับผู้ชายหลายคนได้ยังไง!”

 

“ใช่! ไม่น่าเชื่อ!”

 

พนักงานของหงหยุนก็งุนงงไม่ต่างกัน พวกเขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้เพราะหญิงสาวคนหนึ่ง

 

หลังจากที่รปภ.ถูกกู้หนิงต่อยจนร่วงไปนอนที่พื้น เหล่าแรงงานต่างด้าวก็ถอยออกมา พวกเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ และหนึ่งในสามของพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

เมื่อการต่อสู้ใกล้จะจบ รถตำรวจก็มาถึง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะได้ยินเสียงไซเรนของตำรวจ แต่ก็ไม่มีใครหยุด เพราะถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหยุด อีกฝ่ายก็จะฉวยโอกาส จึงต้องมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ

 

รถตำรวจสามคันจอดที่ริมถนน และตำรวจประมาณ 10 นายก็ก้าวออกมาจากรถ ตำรวจที่เป็นหัวหน้าตะโกนว่า “หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!” ไม่มีใครฟังเขาเลย

 

“ปัง!” หัวหน้าตำรวจโมโหที่ไม่มีใครฟังเขา เขายิงปืนขึ้นฟ้าและการต่อสู้ก็หยุดลง มีรปภ.ห้าคนที่ยังยืนอยู่ได้ ส่วนคนอื่นๆนอนเรียงรายบนพื้น

 

ในขณะเดียวกัน รปภ.คนหนึ่งพยายามตีกู้หนิงขณะที่ทุกคนหยุดนิ่ง แต่ถูกกู้หนิงเตะจนตัวลอยไปสองสามเมตร ทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้ง

 

“กล้าดียังไงถึงมาสู้กันในที่สาธารณะแบบนี้? จับพวกเขาทั้งหมดไปที่โรงพัก!” หัวหน้าตำรวจไม่เอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สั่งให้จับกุมกู้หนิงและคนอื่นๆไปที่โรงพักทันที เห็นได้ชัดว่าเขาทำเพราะอิทธิพลของหงหยุน

 

“รอเดี๋ยวค่ะ” กู้หนิงเอ่ย ตำรวจที่เดินเข้ามาจับพวกเธอก็หยุดอัตโนมัติ พวกเขารู้สึกเกรงกลัวเธอในระดับหนึ่งเพราะผู้หญิงคนเดียวสามารถต่อยผู้ชายหลายคนจนลงไปนอนที่พื้นได้

 

“จะขัดขืนงั้นเหรอ?” หัวหน้าตำรวจถาม

 

“ฉันทำร้ายพวกเขาจริง” กู้หนิงชี้ไปยังกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จากนั้นก็ชี้ไปที่กลุ่มคนงานต่างด้าว “แต่คนพวกนั้นก็ถูกพวกเขาทำร้าย ทำไมคุณถึงจับกุมแต่พวกเราล่ะ? ไม่เห็นหรือว่าพวกเขาบาดเจ็บ? คุณควรส่งพวกเขาไปโรงพยาบาลก่อนไม่ใช่หรือ?” กู้หนิงไม่พอใจ เธอไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะทำตัวสุภาพกับใคร

 

“เธอ...” หัวหน้าตำรวจหงุดหงิด แต่กู้หนิงพูดเรื่องจริง คนบาดเจ็บควรส่งตัวไปโรงพยาบาลก่อนเป็นอันดับแรก  ไม่ทันไรรถพยาบาลก็มาถึง

 

“นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล” หัวหน้าตำรวจสั่ง

 

หัวหน้าของหงหยุนยังไม่ออกมาจนถึงตอนนี้ และจากนั้นพวกเขาก็บอกคนอื่นๆ ให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บขึ้นรถพยาบาล

 

“รอก่อน” อยู่ๆกู้หนิงก็ส่งเสียงหยุดคนที่กำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บาดเจ็บไปยังรถพยาบาล “ฉันโทรเรียกรถพยาบาลมาเพื่อคนงานต่างด้าวที่บาดเจ็บเท่านั้น!”

 

“เธอ...”

 

“หยุดโหดร้ายได้แล้ว!” หนึ่งในผู้นำของหงหยุนกล่าวด้วยความโกรธ

 

“ฉันโหดร้าย? ฉันคิดว่าเราทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่นะ” กู้หนิงเยาะเย้ย “นอกจากนี้ พวกเขาถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหงหยุนทุบตี ดังนั้นหงหยุนจึงต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล”

 

“และเธอก็ทำร้ายคนของเราด้วย เธอควรจ่ายค่ารักษาพยาบาลของพวกเขาด้วย!” ชายอีกคนกล่าว

 

“ไม่ ฉันทำเพื่อเห็นแก่เพื่อนมนุษย์ ฉันคิดว่าฉันควรได้รับรางวัลด้วยซ้ำ” กู้หนิงเอ่ยเสียงเย็น

 

สิ่งที่กู้หนิงพูดทำให้คนจากหงหยุนดูแย่

 

“เธอมันไร้เหตุผลสิ้นดี!” หัวหน้าทางฝ่ายหงหยุนเอ่ย

 

“ฉันคิดว่ากล้องวงจรปิดจะบอกเองว่าใครเป็นฝ่ายถูก” กู้หนิงเอ่ย

 

"เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? คิดว่าสามารถทำร้ายหงหยุนได้จริงๆเหรอ?” ผู้นำอีกคนของหงหยุนถามด้วยเดือดดาล

 

“เดี๋ยวก็จะรู้เอง!” กู้หนิงไม่กลัว เธอมีหลักฐานการทำผิดของหงหยุนเรียลเอสเตทในมือ ไม่ช้าหรือเร็วเธอจะทำให้หงหยุนล้มละลาย

 

จากนั้นเธอไม่สนใจพวกเขา ช่วยคนงานต่างด้าวที่บาดเจ็บไปยังรถพยาบาล

 

จากนั้นคนที่เหลือรวมถึงกู้หนิงก็ถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจ

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป