ตอนที่ 337: พิษจากคนตาย
“ฉันว่าเราจบเรื่องที่นี่แล้ว กลับกันเถอะค่ะ” กู้หนิงเอ่ย
“ได้” เลิ่งเชาถิงตอบ จากนั้นเขาก็ไปถือกล่องไม้ แม้ว่ามันจะหนัก เขาก็ยังสามารถถือมันได้ พวกเขาหยุดที่ห้องโถงห้องแรก กู้หนิงตะโกนเสียงดังว่า “พวกคุณออกมาได้แล้ว”
ชายทั้งสามแทบรอออกมาข้างนอกไม่ไหว ทันทีที่สิ้นเสียงกู้หนิง พวกเขาก็รีบเปิดประตูและก้าวออกมา เหล่าเหยาถามว่า “เมื่อกี้มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นหรือ? ตกใจกลัวแทบตาย”
“ผีดิบน่ะ” กู้หนิงบอกออกไปตรงๆ ถ้าพวกเขาไม่รู้ความจริง พวกเขาอาจคิดว่าการขุดสุสานโบราณแห่งนี้เพื่อเอาวัตถุโบราณเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายดาย
“อะไรนะ?” ได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ตกใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ว่าผีดิบคืออะไร แต่เคยได้ยินจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น ไม่มีใครเคยเห็นผีดิบจริงๆ
“แล้ว แล้วเกิดอะไรขึ้นกับผีดิบ?” เหล่าเหยาถามอีกครั้ง
“ฉันเผามันตายไปแล้ว แต่เหล่าซานถูกมันฆ่าตาย” กู้หนิงตอบเสียงเรียบ
แม้ว่าชายทั้งสามจะเตรียมจิตใจไว้แล้ว กระนั้นก็ยังเสียใจที่ได้ยินข่าวร้าย
หลังจากไว้อาลัยอยู่ไม่กี่วินาที เหล่าต้าก็ถอนหายใจและเอ่ยว่า “ไปเอาร่างเหล่าซานออกจากที่นี่กัน” ถึงแม้เหล่าซานจะทรยศพวกเขา แต่พวกเขาก็สนิทกันมาก่อน อีกอย่างคนก็ตายไปแล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องนำร่างไปประกอบพิธีกรรมให้เหมาะสม
“รอก่อน” กู้หนิงหยุดพวกเขาเอาไว้ “เหล่าซานถูกผีดิบฆ่าตายและร่างของเขาก็ถูกพิษ ถ้าพวกคุณพยายามเคลื่อนย้ายร่างของเขา พวกคุณอาจติดพิษจากคนตายและอาจตายได้ และถ้าเขากลายเป็นผีดิบอีกตัว สุสานนี้ก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาไว้ได้ ฉันคิดว่าทิ้งร่างของเขาไว้นี่ก่อนดีกว่า”
กู้หนิงไม่ได้ขู่พวกเขาให้กลัว แต่มันมีโอกาสเป็นไปได้ ได้ยินคำเตือนจากกู้หนิงชายทั้งสามก็ตกใจ ไม่ว่าจริงหรือไม่จริง พวกเขาก็ไม่กล้าไปเอาศพเหล่าซานแล้ว พวกเขาไม่ได้สงสัยกับคำพูดของกู้หนิงเพราะพวกเขาได้ยินเสียงร้องของเหล่าซานและเสียงร้องของสัตว์ประหลาดที่ไม่ใช่เสียงมนุษย์แน่นอน
“ฉันว่าทิ้งศพไว้ที่นี่แหละ” เหล่าเหยาพูดอย่างขลาดกลัว เขาไม่อยากอยู่ในนี้แม้แต่วินาทีเดียว แม้ว่าเขาจะขุดสุสานมาหลายต่อหลายครั้งแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาผจญกับเรื่องแปลกประหลาดพิลิกกึกกือเหล่านี้ ไม่ใช่แค่เหล่าเหยา แม้แต่เหล่าต้าและเหล่าเอ้อร์ที่ขุดสุสานมาสิบกว่าปีก็ยังหวาดกลัว หลังจากนั้นพวกเขาสังเกตเห็นกล่องไม้อยู่ข้างเท้าของเลิ่งเชาถิง พวกเขารู้ว่าต้องมีวัตถุโบราณล่ำค่าอยู่ในนั้น แต่พวกเขาไม่คิดสนใจแล้ว อยากเอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อน
ถ้าพวกเขาไม่รู้ว่ามีผีดิบอยู่ พวกเขาคงไม่อยากพลาดวัตถุเหล่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองโชคดี หากพวกเขาโลภและเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อโชคลาภ พวกเขาก็คงไม่พ้นถูกผีดิบฆ่าตาย หากตายไปแล้ว สมบัติทั้งหลายก็ไร้ความหมาย
อันที่จริงเงินหนึ่งร้อยล้านหยวนเป็นเงินจำนวนมาก แต่ละคนได้ 25 ล้านหยวน ทว่าเหล่าซานตายไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะแบ่งปันเงินกับเหล่าซื่อที่เป็นคนขับรถมาที่นี่ แม้ว่าจำนวนเงินที่พวกเขาได้รับจะเทียบไม่ได้กับโบราณวัตถุอันล้ำค่า แต่พวกเขารักษาชีวิตไว้ได้
กู้หนิงเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาแล้วก็พอใจ
ทางเข้ามีขนาดเล็ก เข้าออกได้ทีละคนเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพกกล่องไม้และออกไปพร้อมกัน กู้หนิงตัดสินใจผูกเชือกรอบกล่องไม้แล้วดึงขึ้นมาหลังจากที่เธอออกไป เมื่อกล่องไม้ถูกดึงขึ้นไปก็ตามมาด้วยชายทั้งสามและเลิ่งเชาถิงเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากสุสาน
พวกเขาต้องเติมหลุมก่อนกลับ เลิ่งเชาถิงไม่ต้องการกู้หนิงทำงานใช้แรงงานกับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงบอกเธอให้นั่งเฝ้ากล่องไม้ไว้ในขณะที่ผู้ชายขยับหินมาปิดปากทางเข้าสุสาน พวกเขาใช้หินทับลงไปและตักดินถมทับอีกที หลังจากนั้นกู่หนิงก็ปลูกต้นไม้ต้นเล็กๆ ซึ่งหนาพอๆ กับแขนของเธอลงไปบนหลุม
“เอาล่ะ หลังจากที่พวกเราผ่านเรื่องร้ายมาด้วยกัน พวกคุณก็คงเชื่อใจฉันบ้างไม่มากก็น้อย ตอนนี้จะโอนเงินคงไม่ทันแล้ว ฉันว่าพวกเรากลับไปที่เมืองก่อน พักกันสักคืนแล้วพรุ่งนี้เราไปธนาคารด้วยกัน พวกคุณคิดว่าไง?” กู้หนิงถามพวกเขา เธอไม่ได้คิดจะหลอกพวกเขา แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นคนแปลกหน้ากันอยู่
“ได้ ไม่มีปัญหา”
เหล่าต้าเห็นด้วยกับกู้หนิง หนึ่งร้อยล้านหยวนเป็นเงินจำนวนมาก พวกเขาไม่สามารถโอนเงินออนไลน์ได้ นอกจากนี้ พวกเขายังเชื่อมั่นกู้หนิงอยู่พอสมควร ถ้ากู้หนิงไม่ยอมให้เงินกับพวกเขา เธอก็คงไม่ช่วยพวกเขา และพวกเขารู้สึกโชคดีที่มีชีวิตอยู่หลังจากผ่านพ้นเรื่องร้ายไปแล้ว เงินไม่สำคัญสำหรับพวกเขาในตอนนี้
“เพื่อนของเรากำลังรอพวกเราอยู่” เหล่าต้าเอ่ย
คงเป็นคนขับรถของพวกเขา ที่จริงคงสะดวกถ้ามีรถขนกล่องไม้กลับไป
“อ้อ คุณหมายถึงคนที่ขับรถมาส่งคุณที่นี่เหรอคะ? จะเป็นไรมั้ยถ้าฉันจะเอากล่องไม้ขนใส่รถกลับไปด้วย” กู้หนิงเอ่ย
ชายสามคนประหลาดใจ เธอรู้ได้ยังไง? ฉับพลันพวกเขาก็ตระหนักว่าเธอต้องเห็นพวกเขามาที่นี่แต่แรก
หลังจากนั้นพวกเขาก็ลงจากเขาตอนเที่ยงคืน
เมื่อลงมาถึงตีนภูเขา เหล่าต้าก็ส่งข้อความหาเหล่าซื่อ บอกให้เขามารับ เมื่อทุกคนเดินมาถึงทางเข้าหมู่บ้านเฟิงเหยียนก็มีรถตู้จอดรออยู่ก่อนแล้ว
ตอนที่ 338 คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อผู้ชายในรถเห็นกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงเขาก็ประหลาดใจ “เหล่าต้า พวกเขาเป็นใคร? เหล่าซานอยู่ไหน?”
“เหล่าซานตายแล้ว สองคนนี้เป็นคนช่วยชีวิตพวกเรา ตอนนี้มีชีวิตรอดก็ดีมากแล้ว ไว้ฉันจะบอกรายละเอียดนายทีหลัง พวกเรากลับกันก่อนเถอะ” เหล่าต้าเอ่ย
“อะไรนะ? เหล่าซานตายแล้ว?” เหล่าซื่อตะลึง ถึงตัวเขาจะไม่ค่อยชอบเหล่าซานแต่ก็รู้จักกันมานาน การตายกระทันหันของเหล่าซานเป็นเรื่องสะเทือนใจสำหรับเขา ว่าแต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในหลุมสุสานโบราณ? ทำไมคนแปลกหน้าสองคนนี้ถึงกลายเป็นคนช่วยชีวิต? เหล่าซื่อมีคำถามมากมายในหัวแต่เหล่าต้าไม่ยอมบอกอะไรจนกว่าจะออกไปจากที่นี่
ทุกคนขึ้นรถและมุ่งหน้าไปยังเมืองเล็กๆ ระหว่างทางพวกเขาก็แนะนำตัวเองให้อีกฝ่ายรู้จัก ชื่อเต็มของเหล่าต้าคือ หลี่เหมาซ่ง อายุ 42 ปี เหล่าเอ้อร์ชื่อว่าซุนเจา อายุ 38 ปี เหล่าซื่อชื่อว่าจ้าวเจียงฉวน อายุ 29 ปี และเหล่าเหยาชื่อว่าเกาอี้หยาง อายุ 26 ปี
กู้หนิงแนะนำตัวเอง แต่ไม่ได้บอกชื่อจริงของเลิ่งเชาถิงให้พวกเขาทราบ เธอบอกแค่ว่าเขาแซ่เลิ่ง และยังบอกว่าพวกเธอเป็นแฟนกัน
หลี่เหมาซ่งและกู้หนิงแลกเปลี่ยนโทรกันเพื่อที่เขาจะได้ติดต่อเธอได้
สิบนาทีต่อมา พวกเขาก็ขับมาถึงลานจอดรถที่รถของเลิ่งเชาถิงจอดอยู่ เลิ่งเชาถิงลงจากรถเอากล่องไม้ไปใส่ไว้ท้ายรถของเขา พวกเขาเตรียมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่มาด้วย จึงเอากล่องไม้ใส่ไว้ในนั้นแล้วถือเข้าไปในห้องพักด้วย
กู้หนิงจองห้องพักเพิ่มอีกสองห้องสำหรับผู้ชายอีกสี่คน ห้องของพวกเขาอยู่ทางด้านขวาถัดจากห้องของเธอและเลิ่งเชาถิง
หลังจากจัดแจงเรียบร้อย กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงก็กลับเข้าไปในห้องของพวกเขา หลี่เหมาซ่งและคนอื่นๆก็เข้าไปในห้องเช่นกันเพราะมีเรื่องต้องคุยกัน
“ได้อะไรมาบ้าง?” จ้าวเจียงฉวนเอ่ยถามทันทีที่พวกเขาเข้ามาในห้อง
“ไม่ได้อะไร” หลี่เหมาซ่งตอบ
“อะไรนะ? ทำไมล่ะ?” จ้าวเจียงฉวนตกใจ
“พวกเราเกือบตายในนั้น ใครจะไปสนของเก่าพวกนั้นกันเล่า?” ซุนเจาพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม จากนั้นก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสุสานโบราณให้จ้าวเจียงฉวนฟัง จ้าวเจียงฉวนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขณะที่ฟังก็ขนลุกซู่ไปด้วย ผีดิบ? พระเจ้า มันมีจริงๆหรือ? และผีดิบก็ฆ่าเหล่าซาน?
จ้าวเจียงฉวนไม่โทษพวกเขาที่ทำข้อตกลงกับกู้หนิงเพราะถ้าเป็นเขาก็จะทำแบบเดียวกัน ชีวิตสำคัญกว่าเงินหรืออะไรทั้งหมด! เหล่าซานเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อเงินและสุดท้ายก็ถูกฆ่าตาย
“แต่ว่าเราไว้ใจพวกเขาได้ไหม?” จ้าวเจียงฉวนถาม เขากลัวว่ากู้หนิงอาจจะหลอกพวกเขา
“ฉันไว้ใจพวกเขา ถ้าพวกเขาคิดจะเบี้ยวพวกเราก็แค่ทิ้งพวกเราไว้ในสุสานก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพาออกมาด้วย” หลี่เหมาซ่งเอ่ย “เอาล่ะ คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ นอนเอาแรงกันก่อนเถอะ!”
พวกเขารู้ว่าตอนนี้การคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไปไม่มีประโยชน์ จึงเห็นด้วยกับหลี่เหมาซ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดคุยเรื่องนี้และแยกย้ายกันไปนอน
คืนนั้นกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงหลับปุ๋ยเหมือนเด็ก แต่ชายทั้งสี่แทบนอนไม่หลับ ถึงบอกว่าไม่ต้องคิดมากแต่ก็อดคิดมากไม่ได้อยู่ดี
เช้าวันต่อมาประมาณเจ็ดโมงเช้า พวกหลี่เหมาซ่งตื่นแล้ว รวมตัวกันในห้องของเขา กำลังรอกู้หนิง
กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงตื่นเข้าเป็นนิสัย ดังนั้นพวกเขาจึงตื่นตอนเจ็ดโมงเช้า กู้หนิงเข้าใจว่าพวกหลี่เหมาซ่งคงกังวลจนนอนไม่หลับ เธอไม่อยากให้เขารอจึงโทรหาเขาตอนที่เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตามมันยังเช้าอยู่ และธนาคารยังไม่เปิด พวกเขาจึงต้องรอจนกว่าจะเก้าโมงเช้า
หลี่เหมาซ่งและเพื่อนของเขารีบเดินออกมารอข้างนอกทันทีหลังจากวางสายกู้หนิง ดังนั้นเมื่อกู้หนิงเปิดประตูออกมาก็เห็นพวกเขาทั้งสี่คนยืนรออยู่ตรงทางเดิน ภาพนี้ทำให้เธอรู้สึกขบขันในใจ
“ธนาคารยังไม่เปิด พวกเราไปกินข้าวกันก่อนเถอะค่ะ”
“อ้อ ได้ๆ”
หลังจากนั้นก็เช็คเอาท์และไปรับประทานอาหารเช้า จากนั้นพวกเขาก็ขับรถไปที่ธนาคาร เวลา 9.00 น. ธนาคารเปิดทำการ กู้หนิงและหลี่เหมสซ่งดำเนินการตามขั้นตอนการโอนจนเสร็จสิ้น เมื่อเงินถูกโอนเข้าบัญชีของพวกเขา ในที่สุดหลี่เหมาซ่งและเพื่อน ๆ ของเขาก็โล่งใจ
“คุณกู้ คุณเลิ่ง ขอบคุณพวกคุณมากที่ช่วยชีวิตพวกเราในครั้งนี้!” หลี่เหมาซ่งกล่าวขอบคุณกู้หนิงและเลิ่งเชาถิง ซุนเจาและคนอื่นๆ ก็ขอบคุณกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงด้วยเช่นกัน
“ด้วยความยินดีค่ะ” กู้หนิงตอบ “ลาก่อนนะคะ”
หลังจากแยกย้าย กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงก็กลับเมืองหลวง
“หนิงหนิง คุณจะเก็บวัตถุโบราณพวกนี้ไว้ที่ร้านเซียนหยุนหรือเก็บไว้ที่อื่น?” เลิ่งเชาถิงถาม
“บางส่วนเก็บไว้ที่ร้านอี้เซียน บางส่วนจะเก็บไว้ที่บ้านคุณก่อน” กู้หนิงเอ่ย เธอไม่อยากดึงดูดความใจมากนักเพราะการขุดสุสานนั้นผิดกฏหมาย
“ได้สิ” เลิ่งเชาถิงเอ่ย
หลังจากที่กลับมาถึงเมืองหลวง พวกเขาไปที่ถนนขายของเก่าก่อน
มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่บรรจุของเก่าไว้ข้างในและมันไม่ปลอดภัย ดังนั้นเลิ่งเชาถิงจึงนั่งอยู่ในรถ ปล่อยให้กู้หนิงเข้าไปที่ร้านคนเดียว อันที่จริงกู้หนิงก็คิดจะมาคนเดียว เธอจะเอาวัตถุโบราณที่เก็บไว้ในช่องเก็บของกระแสจิตออกมา และคงไม่สะดวกถ้าเลิ่งเชาถิงอยู่ด้วย
กู้หนิงไปซื้อกระเป๋าเดินทางขนาด 26 นิ้วก่อนและใส่วัตถุโบราณหลายชิ้นไว้ในนั้น เมื่อเธอเดินผ่านห้องน้ำสาธารณะ เธอเข้าไปข้างในและแอบเอาออกมาจากช่องเก็บของกระแสจิตของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ตรงไปที่ร้านเซียนหยุน
ตอนที่กู้หนิงมาถึง เธอเห็นคนทะเลาะกันในร้าน มีกลุ่มคนมารวมตัวกันที่ประตูร้านเซียนหยุน และผู้ชายข้างในก็โต้เถียงหน้าดำหน้าแดง “เฉินต้าหรง! คุณหลัวเพิ่งขายร้านเซียนหยุนไปไม่นาน คุณก็กำลังเริ่มทำลายชื่อเสียงร้านแล้ว! กาน้ำชานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นของปลอม แต่คุณอ้างว่าเป็นของจริง ฉันเสียเงินไปสองแสนหยวนกับมัน และคุณต้องชดใช้ให้ฉัน! ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”