ตอนที่ 323 ประมูล
อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของตน
บริษัทประมูลเต๋อเทียนเป็นบริษัทประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง และสินค้าที่นำมาประมูลในวันนี้ล้วนราคาสูง มีเพียงสองหรือสามรายการเท่านั้นที่มีราคาไม่กี่ล้านหยวน ส่วนใหญ่จะมีราคามากกว่าสิบล้านหยวน และมีสองรายการที่ราคามากกว่าร้อยล้านหยวน
“รายการประมูลชิ้นที่หกที่จะประมูลคือ ภาพเสือบาดเจ็บของซูเป่ยหง ภาพนี้วาดขึ้นในปี 1938 เมื่อผู้บุกรุกจากประเทศ R เข้ายึดครองประเทศของเราส่วนใหญ่ ประเทศของเรากำลังไว้ทุกข์และประชาชนของเราได้รับความเดือดร้อน ซู่เป่ยหงรู้สึกเศร้าโศกและโกรธมากตอนที่เขาวาดภาพสิงโตบาดเจ็บ สิงโตในภาพวาดมองย้อนกลับไปและมีความหมายลึกซึ้งไม่รู้จบ เขาเขียนไว้ด้านหลังภาพว่า: เมื่อประเทศของเรามีปัญหา ผมได้พบกับคุณหลิวรั่วและแขกของเขา ผมวาดภาพนี้เพื่อแสดงความเศร้าของผม ภาพวาดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความสมจริงและความโรแมนติก ประเทศของเราเป็นที่รู้จักในนาม 'สิงโตหลับ' แห่งตะวันออก และถูกรุกรานโดยประเทศ R หลังจากนั้น 'สิงโตหลับ' ก็กลายเป็นสิงโตตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากภาพวาด เราจะเห็นได้ว่าสิงโตที่บาดเจ็บกำลังจ้องไปข้างหลังพร้อมที่จะต่อสู้”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนมีความเกลียดชังแบบเดียวกันกับประเทศ R ความแค้นระหว่างประเทศนี้ไม่สามารถแก้ไขได้
“ราคาเริ่มต้นสำหรับภาพวาดเสือบาดเจ็บคือ 5 ล้านหยวน และการบิดเพิ่มขั้นต่ำคือ 1 ล้านหยวน เริ่มประมูลได้!” นาทีที่จ้าวซีหยวนเริ่มประกาศ หลายคนเริ่มยกไม้พายขึ้นเพื่อเสนอราคา
เลิ่งเชาถิงร่วมประมูลภาพวาดนี้ด้วย คุณปู่ของเขาอยากได้มัน
บังเอิญที่ถังหยาซินก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมประมูลภาพวาดนี้ด้วยเช่นกัน
เลิ่งเชาถิงยังไม่ได้ยกไม้พายในตอนนี้ เพราะเขาต้องการรอจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย
“หมายเลข 39 สิบสองล้านหยวน”
“หมายเลข 57 สิบสามล้านหยวน”
“หมายเลข 62 ยี่สิบหกล้านหยวน” หมายเลข 62 ก็คือถังหยาซิน
ในตอนนี้ไม่มีใครสู้ราคา เลิ่งเชาถิงได้เวลายกไม้พายของตนขึ้น
“หมายเลข 32 ยี่สิบเก้าล้านหยวน”
หมายเลข 32 คือเลิ่งเชาถิง
ถังหยาซินมุ่งมั่นที่จะชนะ แต่เธอก็แปลกใจที่หมายเลข 32 ก็เข้าร่วมการประมูล อย่างไรก็ตาม มันเป็นกฎที่ผู้ซื้อที่ใจป้ำที่สุดจะได้รับสินค้าประมูล ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถหยุดเขาได้
ไม่กี่รอบต่อมา ใบหน้าของถังหยาซินเริ่มเปลี่ยนไป เพราะหมายเลข 32 ไม่คิดที่จะหยุดแข่งประมูลกับเธอ เลิ่งเชาถิงยกไม้พายขึ้นโดยไม่ชักช้า ราวกับว่าเขาไม่สนใจเรื่องเงินเลย
ถังปิงเสิ่นสั่งให้ถังหยาซินซื้อภาพวาดนี้เป็นของขวัญให้กับบุคคลสำคัญ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะยากสำหรับเธอที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ ไม่กี่รอบต่อมา ถังหยาซินต้องยอมแพ้เพราะตอนนี้ราคาอยู่ที่ 38 ล้านหยวน เธอรู้ว่ามันเกือบจะเป็นราคาสูงสุดของภาพวาด และมันก็ไม่คุ้มที่จะเสนอราคาให้สูงขึ้น แม้ว่าตระกูลถังจะไม่ขาดเงิน แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการที่เสียเงินเกินความจำเป็นเช่นกัน
ในตอนท้าย เลิ่งเชาถิงเป็นผู้ชนะได้ภาพวาดเสือบาดเจ็บในราคา 38 ล้านหยวน แน่นอนว่ากู้หนิงย่อมดีใจที่เห็นถังหยาซินแพ้ เลิ่งเชาถิงช่วยเธอแก้แค้นโดยไม่รู้ตัว
ไม่นาน รายการประมูลชิ้นที่เก้า ร้านขายของเก่าเซียนหยุน ก็พร้อมให้เริ่มประมูล
“ร้านขายของเก่าเซียนหยุนเป็นรายการประมูลที่เก้า” จ้าวซีหยวนกล่าว “เป็นร้านขายของเก่าที่มีชื่อเสียงที่มีประวัติยาวนานถึง 70 ปี หากครอบครัวของเจ้าของไม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุร้ายแรง เจ้าของคงไม่นำขึ้นประมูล กล่าวอีกนัยหนึ่ง อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ดังนั้นเราต้องถนอมคนที่เรารัก จะได้ไม่เสียใจภายหลัง” จ้าวซีหยวนหยุดชั่วครู่ มีกระแสความเศร้าในอากาศ ผู้คนต่างประทับใจกับคำอธิบายของเธอ
หยางเจี้ยนผิงถามตัวเองว่าเขาเสียใจรึเปล่า? แน่นอนว่าตอนนี้เขาเสียใจ แต่บางทีเขาอาจตัดสินใจแบบเดียวกับเมื่อสองปีก่อน เพราะตอนนั้นเขาไม่ได้ชอบจ้าวซีหยวนแล้ว
ไม่นานจ้าวซีหยวนก็พูดต่อว่า “เอาล่ะค่ะ ร้านเซียนหยุนมีของเก่าในร้านอยู่ 583 ชิ้น 7 ชิ้นเป็นของจริง 23 ชิ้นเป็นแบบจำลองและส่วนที่เหลือเป็นงานฝีมือทั้งหมด ราคาเริ่มต้นที่ยี่สิบล้านหยวนและการเพิ่มบิดขั้นต่ำคือหนึ่งล้าน เริ่มประมูลได้!"
“หมายเลข 48 ยี่สิบเอ็ดล้านหยวน”
“หมายเลข 62 ยี่สิบสองล้านหยวน”
กู้หนิงเองก็รอจนกว่าจะถึงจังหวะสุดท้าย
“หมายเลข 56 สามสิบสามล้านหยวน”
เมื่อไม่มีใครประมูลต่อ กู้หนิงจึงยกไม้พายของเธอขึ้น ตอนที่เธอยกไม้พาย เลิ่งเชาถิงและคนอื่นๆมองเธอด้วยความงุนงง แต่ไม่มีใครถามว่าเธอประมูลทำไม
“หมายเลข 31 สามสิบสี่ล้านหยวน”
“หมายเลข 56 สามสิบห้าล้านหยวน”
“หมายเลข 31 สามสิบหกล้านหยวน”
………..
“หมายเลข 31 สี่สิบหกล้านหยวน”
กู้หนิงชนะการประมูลร้านเซียนหยุนด้วยราคาสี่สิบหกล้านหยวน และการประมูลก็ดำเนินต่อไปจนถึงรายการชิ้นสุดท้าย
“เอาล่ะค่ะ รายการประมูลทั้ง 12 รายการได้ผ่านไปแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาแสดงรายการประมูลรายการสุดท้าย นั่นคือที่ล้างพู่กันจากราชวงศ์ซ่ง” สิ้นเสียงจ้าวซีหยวน ที่ล้างพู่กันก็ถูกวางไว้ที่ด้านหน้า “เยี่ยมมาก ตอนนี้ได้เวลาประมูลที่ล้างพู่กันจากราชวงศ์ซ่งแล้ว ราคาเริ่มต้นคือสองล้านหยวน และการเพิ่มบิดขั้นต่ำคือห้าแสนหยวน เริ่มประมูลได้!"
คนหลายคนยกไม้พายตัวเองขึ้นอย่างไม่รอช้า
“หมายเลข 3 สองจุดห้าล้านหยวน”
“หมายเลข 26 สามล้านหยวน”
“หมายเลข 2 สิบสองล้านหยวน”
“สิบสองล้านนับหนึ่ง สิบสองล้านนับสอง มีคนให้เพิ่มมากกว่านี้อีกไหมคะ? สิบสองล้านนับสาม ขายค่ะ!” จ้าวซีหยวนประกาศ “ยินดีกับหมายเลข 2 ด้วยค่ะที่ได้ที่ล้างพู่กันไป”
ที่ล้างพู่กันไม่ได้เป็นหนึ่งในสินค้าที่แพงที่สุดในบรรดาสินค้าประมูล อันที่แพงที่สุดขายได้ราคากว่าร้อยล้านหยวน
การประมูลสิ้นสุดลงหลังจากจ้าวซีหยวนพูดปิดงานสั้นๆ
“ไปกันเถอะ ไปกินข้าวกันที่เฟิงหลินเมาน์เท็นวิลล่า ฉันจองโต๊ะไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวาน” ซู่จินเฉินเอ่ย
มีร้านอาหารชื่อดังมากมายภายใต้ชื่อตระกูลซู่ แต่ซู่จินเฉินต้องการพากู้หนิงไปที่ใหม่ นอกจากนี้เฟิงหลินเมาน์เท็นวิลล่ายังตั้งอยู่ครึ่งทางขึ้นไปบนภูเขาและมีทิวทัศน์ที่สวยงาม
ตอนที่ 324 คนเราเปลี่ยนกันได้
ก่อนที่พวกเขาจะจากไป กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงก็ไปหลังเวทีเพื่อทำตามขั้นตอนให้เสร็จก่อน
“ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ ขอแค่บอกผมก็พอ” เลิ่งเชาถิงไม่ได้ถามกู้หนิงเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่เขาเต็มใจที่จะช่วยเธอเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอต้องการ
“ขอบคุณค่ะ”
หลังจากนั้นนายท่านเลิ่งก็โทรหาเลิ่งเชาถิง ถามว่าเขาได้ภาพวาดเสือบาดเจ็บมารึเปล่า เลิ่งเชาถิงตอบกลับไปว่าเขาประมูลได้มาแล้ว นายท่านเลิ่งดีใจมากและบอกให้เขารีบเอามาให้ทันทีที่ว่าง
เมื่อกู้หนิงและคนอื่นๆเดินมาถึงลานจอดรถ พวกเขาก็พบกับละครดราม่า ผู้ชายกำลังไล่ตามผู้หญิง ในขณะที่ผู้หญิงอีกคนกำลังไล่ตามผู้ชาย บทบาทในละครคือ จ้าวซีหยวน หยางเจี้ยนผิง และจางเจี๋ยเจีย หยางเจี้ยนผิงกำลังไล่ตามจ้าวซีหยวน ในขณะที่จางเจี๋ยเจียพยายามดึงหยางเจี้ยนผิงกลับมา
“หยางเจี้ยนผิง คุณกำลังทำอะไรอยู่? คุณสนใจความรู้สึกของฉันบ้างไหม?”
เป็นเพราะจางเจี๋ยเจีย หยางเจี้ยนผิงจึงไม่สามารถไล่ตามจ้าวซีหยวนได้ เขาก็เลยโมโหมาก “จางเจี๋ยเจีย ปล่อยผมนะ!”
จางเจี๋ยเจียถูกผลักจนเกือบล้ม แต่หยางเจี้ยนผิงไม่สนใจเธอซึ่งนั่นทำให้เธอโกรธมาก “หยางเจี้ยนผิง!”
ไม่มีจางเจี๋ยเจียคอยดึงไว้ หยางเจี้ยนผิงจึงวิ่งจามจ้าวซีหยวนทันและหยุดเธอไว้ “ซีหยวน พวกเราคุยกันหน่อยได้ไหม?”
“ฉันคิดว่าเราไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกแล้ว” จ้าวซีหยวนเอ่ย
“ซีหยวน” หยางเจี้ยนผิงสิ้นหวัง ในตอนนี้เขาคิดถึงวันเวลาเก่าๆที่พวกเขาเคยมีร่วมกัน
จางเจี๋ยเจียตามมาทันและยืนคั้นกลางทั้งสองคนราวกับว่าเธอกำลังป้องกันผู้ชายของเธอและชีวิตการแต่งงาน “จ้าวซีหยวน เธออย่ากับเจี้ยนผิงแล้ว ทำไมไม่หายไปจากพวกเราสักที?”
จ้าวซีหยวนอยากหัวเราะ “จางเจี๋ยเจีย นี่เธอโง่หรืออะไรกันแน่? ฉันทำงานให้บริษัทประมูลเต๋อเทียนและหน้าที่ของฉันคือเป็นผู้ดำเนินการประมูล อีกอย่าง สามีของเธอต่างหากที่ยืนขวางทางฉัน ไม่ใช่ฉัน”
อันที่จริงจ้าวซีหยวนก็คิดจะปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาเพื่อแก้แค้น แต่วันนี้เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ
จางเจี๋ยเจียนิ่งไปเพราะจ้าวซีหยวนพูดถูก ตั้งแต่จ้าวซีหยวนปรากฏตัว หยางเจี้ยนผิงก็ไม่สนใจเธอและเรื่องนี้จางเจี๋ยเจียโทษจ้าวซีหยวน
“หยางเจี้ยนผิง กลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้นะ!” จางเจี๋ยเจียดึงแขนหยางเจี้ยนผิงให้กลับบ้าน แต่อยางเจี้ยนผิงสะบัดเธอออก “พอได้แล้ว! ฉันแค่จะคุยกับซีหยวน” หยางเจี้ยนผิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“พวกคุณหย่ากันแล้วนะ มีอะไรต้องคุยกันอีก?!” จางเจี๋ยเจียไม่ใช่คนโง่ เห็นได้ชัดว่าหยางเจี้ยนผิงกลับไปตกหลุมรักจ้าวซีหยวนอีกครั้งเมื่อหล่อนปรากฏเข้ามาในสายตาของเขา หากพวกเขาลงเอยกันอีกครั้ง จางเจี๋ยเจียคงถูกสลัดทิ้ง และยิ่งตอนนี่จ้าวซีหยวนสวยกว่าแต่ก่อนมาก
“พวกเราจะคุยเรื่องเย่เย่หน่อยไม่ได้เลยเหรอ? เย่เย่เป็นลูกสาวของผม!” หยางเจี้ยนผิงตลาดจางเจี๋ยเจีย ได้ยินเช่นนั้น ทั้งจ้าวซีหยวนและจางเจี๋ยเจียเกิดอยากจะหัวเราะขึ้นมาพร้อมๆกัน
“หยางเจี้ยนผิง หยุดแสดงละครได้แล้ว! คุณไม่คิดว่านี่มันน่าสะอิดเอียนไปหน่อยเหรอ? คุณไม่เคยใส่ใจเย่เย่ตั้งแต่สองปีที่แล้ว และพวกเราก็เขียนข้อตกลงหลังหย่าแล้ว เย่เย่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณอีก” จ้าวซีหยวนกล่าว
หยางเจี้ยนผิงเป็นคนที่ไม่มีศีลธรรมขั้นพื้นฐานจริงๆ เขานอกใจภรรยาและแม้กระทั่งละทิ้งภรรยาของเขาพร้อมกับลูกสาวของตัวเอง
“ซีหยวน ผม...” หยางเจี้ยนผิงพยายามแก้ตัว แต่ไม่สามารถทำได้เพราะสิ่งที่จ้าวซีหยวนเอ่ยมานั้นเป็นเรื่องจริง
“ฉันขอเตือนคุณว่าอย่าตามฉันอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ” พูดจบ จ้าวซีหยวนก็หันหลังเดินออกไป
“ซีหยวน!” หยางเจี้ยนผิงต้องการไล่ตามไป แต่จางเจี๋ยเจียไม่ยอมปล่อยเขา “หยางเจี้ยนผิง เธอไม่อยากคุยกับคุณ ทำไมต้องทำตัวเองขายหน้าด้วย?”
ทันใดนั้นหยางเจี้ยนผิงตบหน้าจางเจี๋ยเจียเสียงดัง ดวงตาที่แดงก่ำของเขาจ้องไปที่จางเจี๋ยเจียราวกับว่าเธอเป็นศัตรูของเขา "มันไม่ใช่ธุระของคุณ!" หลังจากนั้นหยางเจี้ยนผิงก็ทิ้งจางเจี๋ยเจียไว้ตามลำพังและเดินไปที่รถของเขา เขาตัดสินใจว่าจะติดต่อจ้าวซีหยวนในวันอื่น
จางเจี๋ยเจียยืนอึ้งเพราะถูกตบ นี่มันนอกเหนือที่เธอคิดไว้ หยางเจี้ยนผิงไม่เคยทำร้ายเธอมาก่อน
กู้หนิงและคนอื่นๆยืนดูอยู่ข้างๆ พวกเขายังอยู่ไม่ใช่เพราะไม่มีอะไรทำ แต่เป็นเพราะเป็นห่วงจ้าวซีหยวน พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์ถูกทำร้าย
เมื่อเห็นจ้าวซีหยวนรับมือกับสถานการณ์ได้ พวกเขาก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง แต่รู้สึกเห็นใจเธอแทน
หลังจากละครดราม่า ซีหมิงก็เอ่ยว่า “ผู้ชายหน้าไม่อาย ทิ้งเมียกับลูก และยังตบผู้หญิงอีก! ทำผู้ชายคนอื่นขายหน้าไปด้วย”
“คุณแน่ใจไหมว่าจะไม่ทำแบบนั้น?” ฉิวอี้ซินถามด้วยความสงสัย
ได้ยินเช่นนั้นซีหมิงก็ประหม่าขึ้นและรีบเอ่ยว่า “ผมไม่มีทางทำแบบนั้นแน่!”
“ฮ่าๆ ใครจะรู้ คนเราเปลี่ยนกันได้” ฉิวอี้ซินไม่ได้จับผิดซีหมิง แต่เธอไม่มีความมั่นใจในตัวผู้ชายหลังจากที่เห็นอะไรมามากมาย อย่างไรก็ตามเธอก็ยังอยากแต่งงาน มีลูก เหมือนผู้หญิงทั่วๆไป
“ใช่ คนเราอาจเปลี่ยนไปได้ อย่างเช่นเชาถิง….” ซู่จินเฉินต้องการยกเลิ่งเชาถิงเป็นตัวอย่าง เพราะเลิ่งเชาถิงไม่เคยสนใจผู้หญิง แต่อยู่ดีๆก็ดันมีแฟนและรักกู้หนิงมาก แต่ก่อนที่ซู่จินเฉินจพูดจบ เลิ่งเชาถิงก็ส่งสายตาเย็นชามาให้ ซู่จินเฉินจึงต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่ว่า “เอ่อ ฉันเชื่อว่าเชาถิงไม่มีทางทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนั้นหรอก แต่ผู้ชายคนอื่นอาจไม่แน่” ซู่จินเฉินเปลี่ยนเป้าหมายเป็นซีหมิง