ตอนที่ 321 ประมูล II
ในฐานะลูกสาวตระกูลซู่ ซู่ฉินหยินมีโอกาสได้เข้าร่วมงานสังคมชั้นสูงมากมาย และฉิวอี้ซินเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงรู้จักพวกเธอ คนในงานส่วนใหญ่ต่างชื่นชมพวกเธอยกใหญ่ แต่ก็มีบางคนที่คิดตรงกันข้าม
“ถึงเธอจะสวยและเซ็กซี่ ก็แค่ผู้หญิงขายรูปร่างหน้าตาตัวเองเพื่อเงิน” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เธอกำลังอิจฉาฉิวอี้ซิน เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาดี อายุประมาณ 27 ปี แต่ก็เทียบฉิวอี้ซินไม่ติด “ใช่! ฉันว่าเธอต้องเป็นเมียน้อยหนึ่งในผู้ชายที่มาด้วยกัน”
“ฉันเห็นด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มีโอกาสมางานนี้หรอก” ผู้หญิงสองคนอายุไล่เลี่ยกันพูดเสริมผู้หญิงคนแรก
คนส่วนน้อยไม่รู้ภูมิหลังของฉิวอี้ซิน ถ้ารู้คงไม่ปากดีกับเธอ
ฉิวอี้ซินไม่สนใจเพราะเธอชินซะแล้ว ทุกคนที่ทำงานในวงการบันเทิงต้องเผชิญการถูกโจมตีจากผู้คน เธอเคยผ่านการจู่โจมด้วยวาจาบนอินเทอร์เน็ตมาก่อน และไม่กลัวความคิดเห็นที่ไร้ความปรานีเหล่านั้น ตรงกันข้าม ซีหมิงไม่พอใจอย่างมาก เขาชำเลืองมองผู้หญิงทั้งสามคนอย่างเย็นชา พวกเธอหลบสายตาเขาทันที
“ที่คุณพูดมีหลักฐานรึเปล่า? หรือนี่คือมารยาทของพวกคุณในการพูดถึงคนอื่นในที่สาธารณะ? รู้รึเปล่าว่ามีกฎหมาย คุณรู้ไหมว่าตามกฎหมายคุณต้องรับผิดชอบหากคุณทำร้ายชื่อเสียงของคนดังด้วยการใส่ร้ายพวกเขา?” ซีหมิงเอ่ยเสียงเย็น
หญิงสาวสามคนหน้าเปลี่ยนเพราะความกลัว ถึงแม้ว่าซีหมิงขู่พวกเธอแต่เขาพูดความจริง อีกอย่างผู้หญิงพวกนี้แค่อิจฉาฉิวอี้ซินและไม่มีหลักฐานในสิ่งที่พูด ซีหมิงไม่อยากเสียเวลากับพวกเธอ เขาได้พูดเตือนไปแล้วและไม่เหมาะที่จะมีเรื่องทะเลาะในงาน อยู่ ๆ เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น “โอ้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนขายเรือนร่างตัวเองทำตัวสูงส่งกว่าคนที่ขายรูปร่างหน้าตา?”
ทันใดนั้นผู้หญิงวัย 34 ปีก็เดินเข้ามา เธอให้ความรู้สึกสง่างามด้วยใบหน้างดงาม รอยยิ้มเย้ายวนบนริมฝีปากแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของเธอและได้รับความสนใจจากผู้ชายที่อยู่รอบๆได้เป็นอย่างดี เธอดูเหมือนคนได้รับการศึกษาดีและมีมารยาทดี ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เธอมีเสน่ห์มากกว่าผู้หญิงที่เซ็กซี่หรือมีสไตล์
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปกระตุ้นความอยากรู้ของผู้คน เห็นได้ชัดว่าเธอเล็งไปที่ผู้หญิงที่พูดจาหยาบคายกับฉิวอี้ซิน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่ผู้หญิงคนนั้นจะขายร่างของเธอเพื่อเงิน ทันใดนั้น ผู้คนต่างก็มองผู้หญิงคนนั้นแตกต่างออกไป แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้หญิงคนหนึ่งขายร่างกายเพื่อเงินท่ามกลางครอบครัวที่ร่ำรวยมหาศาล แต่ก็น่าละอายหากความลับสกปรกถูกเปิดเผยในที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจความคิดเห็นของคนอื่นที่มีต่อเธอ เพราะเธอตกใจมากกับผู้หญิงที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวต่อหน้าต่อตาเธอ “คุณคือจ้าวซีหยวน?”
เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะเชื่อว่าผู้หญิงที่มีเสน่ห์งดงามคนนี้คือจ้าวซีหยวน จ้าวซีหยวนเคยเป็นผู้หญิงอ้วนและน่าเกลียดมาก่อน แต่ตอนนี้… แม้ว่าจะรับไม่ได้ แต่ผู้หญิงคนนั้นมั่นใจว่าเธอต้องเป็นจ้าวซีหยวน เธอต้องยอมรับว่าจ้าวซีหยวนสวยงามและน่าทึ่งมากในตอนนี้ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอิจฉาและไม่สบายใจ
“อะไรกัน? เราเจอกันเมื่อสองปีก่อนนี้เอง คุณจางจำฉันไม่ได้เลยเหรอ? โอ้ คุณจางขโมยสามีไปจากฉันเมื่อสองปีก่อนนี่นา ฉันควรเรียกคุณว่าคุณหยางใช่ไหม?” จ้าวซีหยวนเอ่ยเน้นย้ำ
ทุกคนตกใจ ที่แท้ผู้หญิงปากไม่ดีคนนี้เป็นเมียน้อยและทำลายชีวิตสมรสของจ้าวซีหยวน! อย่างไรก็ตาม เธอแทบจะไม่สามารถเทียบได้กับจ้าวซีหยวน แม้ว่าเธอจะอายุน้อยกว่ามาก
อดีตสามีของจ้าวซีหยวนคือหยางเจี้ยนผิง รองประธานบริษัทชื่อดังและมีทรัพย์สินมากกว่าร้อยล้านหยวน พวกเขาแต่งงานกันเมื่อเจ็ดปีก่อนเมื่อหยางเจี้ยนผิงเพิ่งเป็นผู้จัดการแผนก และหยางเจี้ยนผิงได้รับความสำเร็จในภายหลังทีละขั้นตอนในปีต่อ ๆ ไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาร่ำรวย การแต่งงานของพวกเขาก็อยู่ในภาวะวิกฤติ
จ้าวซีหยวนได้ให้กำเนิดลูกสาวของเธอเมื่อห้าปีก่อนและกลายเป็นแม่บ้านหลังจากนั้น การเลี้ยงลูกนั้นเหนื่อยมาก เธอจึงไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เมื่อเธอน้ำหนักขึ้นจนอ้วนมาก สามีก็ทิ้งเธอไป จางเจี๋ยเจียกลายเป็นผู้หญิงของหยางเจี้ยนผิงเมื่อสามปีก่อน หยางเจี้ยนผิงหย่ากับจ้าวซีหยวนเมื่อสองปีก่อน เธอได้รับเงินสิบล้านหยวนและลูกสาวของเธอ
จ้าวซีหยวนไม่ได้พยายามรักษาชีวิตสมรสของเธอเพราะเธอเจ็บปวดใจมาก หลังจากหย่า เธอก็ใช้เงินไปกับการลงทุน แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้รวยมากแต่ก็มีเงินเก็บที่จะสามารถใช้ชีวิตดีๆได้
“เธอ...” จางเจี๋ยเจียอับอายมากและต้องการหนีไปจากตรงนี้ ในระหว่างนั้นผู้ชายในชุดสูทวัย 37 ปีก็เดินเข้ามา เขานิ่งไปทันทีที่เห็นจ้าวซีหยวนและแทบไม่เชื่อสายตา “จ้าวซีหยวน?”
“ไม่ได้เจอกันนานนะ อดีตสามี” จ้าวซีหยวนมองผู้ชายตรงหน้าด้วยรอยยิ้มงดงาม แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ผู้ชายคนนี้เคยหยิบมีดแทงหัวใจเธอมาก่อน!
“คุณ...” หยางเจี้ยนผิงเปิดปากพูดแต่ไม่รู้จะพูดอะไร จ้าวซีหยวนดึงดูดความสนใจจากเขาไว้ได้หมด ความจริงแล้วจ้าวซีหยวนเป็นผู้หญิงสวย แต่รูปร่างของเธอเปลี่ยนไปหลังจากคลอดลูก
เมื่อเห็นหยางเจี้ยนผิงเอาแต่มองจ้าวซีหยวน จางเจี๋ยเจียก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอดึงหยางเจี้ยนผิงสุดกำลังแต่ไม่ได้รับความสนใจซึ่งทำให้เธอโมโหมากจริงๆ
จ้าวซีหยวนยิ้มเย็นและพูดกับหยางเจี้ยนผิงว่า “ขอโทษด้วย ฉันมีบางอย่างต้องไปจัดการ” หลังจากนั้นจ้าวซีหยวนก็เดินจากไป
“ซีหยวน!” หยางเจี้ยนผิงต้องการหยุดเธอแต่ถูกจางเจี๋ยเจียดึงเอาไว้ไม่ให้ไป จ้าวซีหยวนสังเกตเห็นแต่ไม่สนใจพวกเขา เดินตรงไปด้านหลัง
ตอนที่ 322 เซียนหยุน ร้านขายวัตถุโบราณ
หยางเจี้ยนผิงรู้ว่าเขาไม่ควรแสดงออกแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้โต้เถียงกับเธอ แต่เขาต้องยอมรับว่าจ้าวซีหยวนได้ขโมยหัวใจของเขา เขาและจ้าวซีหยวนแต่งงานกันหลังจากคบกันได้ 3 ปี และมีความรู้สึกดีๆให้กันตลอดๆ แต่ผู้ชายมีสัญชาตญาณของสัตว์ เมื่อรูปร่างของจ้าวซีหยวนเปลี่ยนไป เขาก็ลังเลว่าจะอยู่กับเธอต่อดีไหม ยิ่งเขามีเงินมากขึ้นเขาก็เข้าสู่สังคมที่ต่างออกไป ผู้ชายหลายๆคนรอบตัวเขาต่างมีเมียน้อย และเขาล้มเหลวในการต่อต้านสิ่งเย้ายวนใจซึ่งนำพาให้เขาต้องหย่ากับจ้าวซีหยวน
ตอนแรกเขารู้สึกผิด แต่ทุกครั้งที่เห็นร่างอ้วนๆของจ้าวซีหยวน เขาก็รู้สึกรังเกียจอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ไม่รู้สึกผิดอีกต่อไป ที่จริงแล้วเขาหันไปหาจางเจี๋ยเจียเพียงเพื่อความสนุก แต่เขาเบื่อที่จะโต้เถียงกับจ้าวซีหยวนตลอดเวลา ดังนั้นในที่สุดเขาก็ตัดสินใจหย่า
หลังจากเหตุการณ์ดราม่า เฉินเมิ่งและคนอื่นๆก็เจอที่นั่งของพวกเขาและเดินไปนั่ง ในขณะที่ซู่จินเฉินพากู้หนิงและเลิ่งเชาถิงไปหาผู้ประเมินราคา
หลังจากประเมินราคา ที่ล้างพู้กันก็ถูกรับรองว่าเป็นของแท้และมีคุณสมบัติได้เข้าร่วมการประมูล อย่างไรก็ตามมันถูกมาช้า ดังนั้นจึงเป็นชิ้นสุดท้ายของการประมูล กู้หนิงไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอแค่อยากขายเอาสนุกเฉยๆ
เมื่อพวกเขากลับมาที่ห้องโถง สายตาของกู้หนิงก็ตกที่ร่างของผู้ชายและผู้หญิงคู่หนึ่ง ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเย็นชา ผู้ชายผู้หญิงคู่นั้นก็คือ ฉีซีเยว่และถังหยาซิน พวกเขากำลังพูดคุยกัน
“มีอะไรเหรอ?” เลิ่งเชาถิงและซู่จินเฉินถามกู้หนิงเมื่อเห็นว่าอยู่ๆเธอก็อารมณ์เปลี่ยนไป
กู้หนิงดึงอารมณ์ตัวเองกลับมา “ไม่มีอะไรค่ะ แค่เห็นคนที่เกลียด”
กู้หนิงจินตนาการถึงปฏิกิริยาของเธอเมื่อได้พบกับถังหยาซินและฉีซีเยว่นับครั้งไม่ถ้วนมาก่อน เธอคิดว่าสามารถสงบสติอารมณ์ได้ แต่จริงๆ แล้วเธอทำไม่ได้ และทั้งหมดที่เธอต้องการทำคือฆ่าพวกมันทั้งสองคนให้ตายคามือ
เลิ่งเชาถิงและซู่จินเฉินไม่ได้ถามอะไรอีก แต่รู้ว่ามันไม่ปกติ เพราะดูเหมือนว่ากู้หนิงจะมีรังสีสังหารแผ่ออมาจากตัวแปบหนึ่ง ฉีซีเยว่สัมผัสได้ถึงสายตาอาฆาตรุนแรงได้ แต่เมื่อหันไปดูก็ไม่พบอะไร
“เป็นอะไรไปคะ?” ถังหยาซินเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไร” ฉีซีเยว่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน จึงพูดได้แค่ว่าไม่มีอะไร
ในเวลานี้ เหล่าคนดังนั่งเรียงกันเพราะการประมูลกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
โต๊ะทั้งหมดในห้องโถงเป็นโต๊ะกลมและมีสามโต๊ะติดกัน แต่ละโต๊ะมีที่นั่งสำหรับหกคนที่จะนั่งด้วยกัน แต่มีเจ็ดคนในกลุ่มของกู้หนิง ดังนั้นจึงมีที่นั่งเพิ่มที่โต๊ะกลมของพวกเขา
ที่นั่งถูกจัดเรียงตามสถานะทางสังคมของผู้เข้าร่วม ในฐานะนายน้อยหนุ่มของตระกูลมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง แน่นอนว่าซู่จินเฉินได้ครอบครองตำแหน่งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง เขาและเพื่อนๆ ทั้งหมดนั่งทางด้านขวาของห้องในแถวที่สอง
ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่อาวุโสทุกคนนั่งในแถวแรก และเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่นๆ พร้อมครอบครัวที่ร่ำรวยมากนั่งในแถวที่สอง อย่างไรก็ตาม มีข้าราชการระดับสูงและครอบครัวที่ร่ำรวยมากจำนวนน้อยมากที่จะมา
ตระกูลถังได้ถูกจัดทางด้านซ้ายของห้องแถวที่สาม ดังนั้นจึงมีระยะห่างระหว่างพวกเขากับกู้หนิง
กู้หนิงไม่อยากคิดเรื่องถังหยาซินและฉีซีเยว่อีก ดังนั้นเธอจึงตั้งใจนั่งหันหลังให้กับพวกเขา อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถควบคุมความคิดของเธอไม่ให้ช่วยคิดเกี่ยวกับพวกเขาได้ โชคดีที่พวกเขายังไม่สังเกตเห็นเธอ
ไม่นานนักกู้หนิงก็ถูกดึงดูดโดยวัตถุที่แสดงในการประมูล มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถนำไปประมูลได้ เช่น ของเก่า อสังหาริมทรัพย์ ร้านค้า และอื่นๆ
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของกู้หนิงคือของชิ้นที่เก้า ซึ่งเป็นร้านขายวัตถุโบราณเซียนหยุน ตามที่อธิบายไว้ ร้านขายของเก่านี้ตั้งอยู่ที่ถนนโบราณที่มีทำเลดีเยี่ยม ร้านขายของโบราณเซียนหยุนมีประวัติยาวนานกว่า 70 ปี ดังนั้นจึงได้รับชื่อเสียงอย่างมากในเมืองหลวง อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านเซียนหยุนเพิ่งสูญเสียภรรยาและลูกชายของเขาไปในอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขารู้สึกเศร้าโศกมากและไม่อยากบริหารร้านอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำมันขึ้นประมูล
กู้หนิงคิดว่าจะดีกว่าถ้าเธอมีร้านขายของเก่าเป็นของเธอเอง เพราะมีของเก่าจริงๆ มากมายในพื้นที่ดวงตากระแสจิตของเธอ แม้ว่าเธอจะพบของเก่าจริงๆเพียงโหลเดียวจนถึงตอนนี้ แต่ไม่จำเป็นต้องขายของเก่าในร้านขายของเก่าของจริงเท่านั้น หลายคนชอบที่จะซื้อแบบจำลองเช่นกันเพราะราคาต่ำกว่ามาก ดังนั้นกู้หนิงจึงตัดสินใจประมูลร้านเซียนหยุน ร้านค้าไม่เล็ก และมีขนาด 86 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารสองหลังที่มีสองชั้น และเจ้าของได้ขายพร้อมกับฐานราก
บ่ายสอง การประมูลเริ่มต้นขึ้น ผู้หญิงในชุดกี่เพ้าสีแดงเดินขึ้นเวที
หลายคนจำเธอได้ในทันที เธอคือจ้าวซีหยวน คนที่โต้เถียงกับจางเจี๋ยเจียในตอนนั้น
เมื่อเห็นจ้าวซีหยวน หยางเจี้ยนผิงก็จ้องไปที่ร่างของเธออย่างไม่วางตา จางเจี๋ยเจียโกรธมากจึงหยิกเขาแรงๆ แต่หยางเจี้ยนผิงยังคงจ้องจ้าวซีหยวน ไม่สนใจจางเจี๋ยเจียเลยแม้แต่น้อย จางเจี๋ยเจียโกรธมากแต่ไม่กล้าส่งเสียงดัง
“สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่การประมูลในวันนี้ค่ะ ฉันจ้าวซีหยวน หัวหน้าผู้ประมูลของบริษัทการประมูลเต๋อเทียน”
จ้าวซีหยวนหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “วันนี้ควรจะมีวัตถุ 12 รายการ แต่เราเพิ่งเพิ่มรายการใหม่ มันเป็นที่ล้างพู่กันจากราชวงศ์ซ่ง ดังนั้นเราจึงมีของ 13 รายการที่เปิดให้ประมูลในวันนี้”
ที่ล้างพู่กัน? ทุกคนตะลึงเพราะมันเป็นของที่มีมูลค่าสูง
โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบตัวอักษรพู่กัน พวกเขามีความชื่นชอบตามธรรมชาติต่อ “ขุมทรัพย์ทั้งสี่แห่งการศึกษา” หลายคนจึงพร้อมที่จะประมูลมัน
“เอาล่ะ เริ่มประมูลของชิ้นแรกกันเลยค่ะ”
เมื่อของชิ้นแรกแสดงบนเวที ผู้ประเมินอยากเดินเข้าไปดูใกล้ๆ