ตอนที่ 303 เขาท้าทายผม
หลังจากวางสายจากคุณปู่เลิ่ง เชาถิงก็ถามกู้หนิงว่า “คุณอยากไปพบคุณปู่ของผมไหม?”
“ยังก่อนค่ะ ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้ค่ะ” กู้หนิงบอกปัด เมื่อคิดถึงการพบปะกับครอบครัวของเขา กู้หนิงก็รู้สึกสั่นประสาท
เลิ่งเชาถิงบอกเธอว่าเขาแคร์เฉพาะปู่ของเขาคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นกู้หนิงจึงให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคุณปู่ที่มีต่อเธอมากที่สุด แต่เธอคิดว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะพบกับครอบครัวของเขาในเวลานี้
เลิ่งเชาถิงไม่คัดค้าน “งั้นผมจะพาไปที่บ้านที่ผมอยู่หลังจากเจอกับซื่อตู้เย่แล้ว จากนั้นผมจะกลับไปที่บ้านตระกูลเลิ่ง”
“ค่ะ”
อันที่จริงกู้หนิงสามารถเข้าพักในโรงแรมฮวงเติ้งได้ฟรี แต่เธอไม่ต้องการทำให้ เลิ่งเชาถิงผิดหวัง
เมื่อเครื่องบินแตะรันเวย์ ซื่อตู้เย่แทบรอไม่ไหวที่จะเปิดโทรศัพท์ของเขาดู เขารู้ว่ากู้หนิงจะตอบกลับข้อความของเขาอย่างแน่นอน เขาคิดถูก ซื่อตู้เย่โทรหากู้หนิงโดยไม่รอช้าหลังจากอ่านข้อความของเธอ
“กู้หนิง คุณอยู่ที่ไหน?” ซื่อตู้เย่ถาม
“ฉันอยู่ที่โรงแรมจินหลิน คุณถึงแล้วหรอคะ?” กู้หนิงถาม
“ใช่ แต่ผมยังไม่ได้ลงจากเครื่องบิน ลงเครื่องแล้วผมจะรีบไปที่นั่นทันที”
“ค่ะ เจอกันค่ะ” กู้หนิงพูดก่อนวางสาย
ซื่อตู้เย่บอกให้คนเตรียมรถให้เขาก่อนที่เขาจะขึ้นเครื่องบิน เขาจึงรีบขับรถไปที่โรงแรมจินหลินทันทีที่เขาออกจากสนามบิน
แม้ว่าเขาจะรู้แล้วว่ากู้หนิงสบายดีและปลอดภัย แต่เขาก็ยังรีบไปหาเธอ ดังนั้นเขาจึงขับรถด้วยความเร็วสูง ความเร็วตลอดทาง โดยปกติจะใช้เวลาอย่างน้อย 50 นาทีเพื่อไปที่โรงแรม แต่เขาใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีบนท้องถนน เมื่อเขาลงจากรถ ซื่อตู้เย่ก็โทรหากู้หนิง
กู้หนิงบอกเบอร์ห้องชาส่วนตัวให้เขา ซื่อตู้เย่วิ่งมาหาโดยไม่ลังเล
“เข้ามาได้ค่ะ” กู้หนิงพูดเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
ซื่อตู้เย่ตื่นเต้นที่จะได้เจอกู้หนิง แต่เขาก็ต้องนิ่งไปเพราะคนที่โผล่หน้าออกมาเปิดประตูคือเลิ่งเชาถิง
“นาย?”
ซื่อตู้เย่เคยพบเลิ่งเชาถิงมาก่อนแล้วในการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงไม่ชอบหน้าเลิ่งเชาถิงเป็นพิเศษ
เลิ่งเชาถิงเพียงกวาดตามองซื่อตู้เย่เฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร
“สวัสดีค่ะ” กู้หนิงโผล่หน้ามาทักทาย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจที่เห็นซื่อตู่เย่แสดงออกถึงความไม่ชอบใจเลิ่งเชาถิงอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอไม่ได้แสดงออก เธอเข้าใจว่ามีความไม่พอใจเก่าๆระหว่างพวกเขา เลิ่งเชาถิงเคยทำลายแผนการของซื่อตู้เย่มาก่อน ดังนั้นซื่อตู้เย่จึงเกลียดเลิ่งเชาถิงเป็นธรรมดา ตราบใดที่พวกเขาไม่ทะเลาะกันอีก กู้หนิงก็จะไม่เข้าไปยุ่ง
เมื่อเห็นกู้หนิง ซื่อตู้เย่ก็เปลี่ยนสีหน้าและน้ำเสียง “คุณไม่เป็นไรนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก ฉันรู้สึกผิดที่ทำให้คุณต้องบินมาหาฉันถึงนี่ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันกับเราสิคะ” กู้หนิงเอ่ย
“พวกเราเป็นเพื่อนกัน อย่าได้รู้สึกผิดเลย เพื่อนกันก็ต้องห่วงกันเป็นธรรมดา” ซื่อตู้เย่พูดอย่างมีเลศนัย ในขณะเดียวกันเขาก็ตกใจที่เห็นกู้หนิงอยู่กับเลิ่งเชาถิง เลิ่งเชาถิงเป็นแฟนเธองั้นเหรอ? เมื่อคิดเช่นนั้นซื่อตู้เย่ก็ตกตะลึง พวกเขาดูเหมือนคู่สามีภรรยามากกว่าแฟนธรรมดากันด้วยซ้ำ
ซื่อตู้เย่ยังกังวลว่ากู้หนิงอาจรู้จักตัวตนของเขาแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจ แต่ก็เป็นไปได้สูง ถ้ากู้หนิงรู้จักตัวตนของเขาทำไมเธอถึงยังเต็มใจที่จะเป็นเพื่อนกับเขาแทนที่จะรักษาระยะห่างจากเขาเหมือนคนอื่น ๆ ? บางทีเลิ่งเชาถิงอาจไม่ได้บอกความจริงกับเธอเพื่อความปลอดภัยก็ได้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ในเมื่อกู้หนิงไม่ได้แสดงออกอะไร ซื่อตู้เย่จึงตัดสินใจที่จะไม่พูด เขาไม่ได้ถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่มีแผนในใจ “แน่นอน ผมยินดีที่จะทานข้าวกับคุณ คุณเคยสัญญาว่าจะชวนผมไปทานข้าวด้วยกันและตอนนี้คุณก็ทำตามสัญญาในที่สุด”
กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงรู้สึกได้ทันทีว่ามีอะไรอยู่ในใจของซื่อตู้เย่ กู้หนิงไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่เลิ่งเชาถิงไม่พอใจอย่างมาก
“งั้นคุณไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะค่ะ ฉันจองห้องไว้ให้คุณแล้วและเราจะทานอาหารเย็นประมาณหกโมงเย็น เดินทางกันมาเหนื่อยๆ เราเองก็อยากจะพักเหมือนกัน” กู้หนิงกล่าว เธอหาข้ออ้างเพื่อแยกทั้งสองคนออกจากกันชั่วคราว
ซื่อตู้เย่รู้สึกผิดหวัง แต่เขาเข้าใจว่าเธอคงเหนื่อยจากการเดินทาง ก่อนจะกลับออกไป ซื่อตู้เย่ก็มองเลิ่งเชาถิงอย่างมีความหมายและยั่วยุอยู่ในที เขาตัดสินใจที่จะแข่งกับเลิ่งเชาถิงเพื่อกู้หนิง แม้ว่าตอนนี้เลิ่งเชาถิงจะเป็นแฟนของกู้หนิง แต่พวกเขายังไม่ได้แต่งงานและอนาคตก็ไม่สามารถคาดเดาได้!
กู้หนิงยังเด็กเกินไปที่จะแต่งงาน ดังนั้นเขายังมีเวลาอีกหลายปีเพื่อตามจีบเธอ
“เขาท้าทายผม!” เลิ่งเชาถิงบ่นหลังจากคล้อยหลังซื่อตู้เย่
“ฮ่าฮ่า” กู่หนิงหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงของคนรัก เธอคิดว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีที่ปล่อยให้ทั้งสองคนได้เจอกันในวันนี้ อย่างไรก็ตามมันได้เกิดขึ้นแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ “คุณไม่มั่นใจในตัวเองหรือว่าตัวฉันคะ?”
เลิ่งเชาถิงไม่ตอบคำถามของเธอ แต่สวมกอดและจูบเธอแทน เขาขาดความมั่นใจทั้งตัวเขาและกู้หนิง พวกเขายังไม่ได้แต่งงานกันและอาจมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่คบกัน สิ่งที่ทำให้เลิ่งเชาถิงกังวลมากที่สุดก็คือเขาอาจตายได้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเขาตาย เขาจะสูญเสียกู้หนิงไปตลอดกาล
เลิ่งเชาถิงระบายความกังวลของเขาด้วยการจูบกู้หนิงอย่างดุเดือด
กู้หนิงเข้าใจว่าเลิ่งเชาถิงรู้สึกหวั่นไหว แม้ว่าเธอจะสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างเขา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
ตอนที่ 304 ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะปฏิเสธผม
ซื่อตู้เย่ได้ท้าทายเขาซึ่งๆหน้า ดังนั้นเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ถ้าเขายังไม่พูดอะไรหรือทำอะไร เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้ว
ขณะที่จูบดูดดื่มกำลังดำเนินไป เลิ่งเชาถิงต้องการมากกว่าจูบ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสม เขาจึงถูกเธอผลักออกไป
เมื่อเห็นเลิ่งเชาถิงทำหน้าผิดหวัง กู้หนิงก็หน้าแดงและรู้สึกผิด “เอ่อ ตอนนี้ไม่เหมาะมั้งคะ”
เลิ่งเชาถิงเข้าใจ เขาพยายามระงับอารมณ์และความต้องการของตัวเอง แต่มันยากมากๆ เขาจับมือกู้หนิงจูงไปยังห้องพักของพวกเขาโดยไม่ลังเล
เลิ่งเชาถิงจองห้องสำหรับเขาและกู้หนิงด้วยตอนที่จองห้องให้ซื่อตู้เย่ อีกสามชั่วโมงถึงเวลาทานอาหาร และพวกเขาสามารถพักผ่อนได้จนกว่าจะถึงเวลานัด ไม่คาดคิดว่าตอนนี้ห้องพักจะมีประโยชน์มากในเวลานี้
นาทีที่พวกเขาย่างเท้าเข้าไปในห้อง เลิ่งเชาถิงก็กดตัวกู้หนิงลงบนเตียง เขายังไม่บุ่มบ่ามรีบร้อนเข้าไปในตัวเธอ สัมผัสและระดมจูบเธอทั่วร่างตามขั้นตอนเพื่อรอให้เธอพร้อมสำหรับเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาอยากกินเธอเข้าไปทั้งตัว กระนั้นเขาก็ยังห่วงความรู้สึกเธอด้วย กู้หนิงไม่ใช่เซ็กส์ทอยสำหรับเขาที่จะสามารถระบายความต้องการได้ทุกเมื่อ เขาให้เกียรติเธอมาก ร่างกายของกู้หนิงสั่นสะท้านจากการถูกเล้าโลมและพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
ภายในห้องสูทสุดหรูอีกห้อง ซื่อตู้เย่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างบานใหญ่กำลังใช้ความคิด
เขากำลังคิดถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อกู้หนิงและตัวตนของเขาเอง เขาสามารถทำให้กู้หนิงมีความสุขได้หรือไม่? มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องการฆ่าเขา และถ้าวันหนึ่งกู้หนิงกลายมาเป็นแฟนของเขาจริงๆเธอก็คงตกอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้เพียงเพราะเหตุนั้น ตราบเท่าที่เขาสามารถปกป้องเธอได้ พวกเขาก็จะปลอดภัยและมีความสุขด้วยกัน
ซื่อตู้เย่เหยียดยิ้ม ในฐานะหัวหน้าแก๊งฉิง เขามักจะมีจิตใจที่ว่องไว แต่ตอนนี้เขากลับลังเล เขาเปลี่ยนไปจริงๆหลังจากได้พบกับกู้หนิง
ในเมื่อเขาปฏิเสธที่จะยอมแพ้ งั้นเขาก็จะทำตามหัวใจของตัวเอง!
ซื่อตู้เย่ยังเข้าใจว่าเขาต้องใช้ทักษะเพื่อให้ได้หญิงสาวที่เขาต้องการ เขาไม่สนใจความจริงที่ว่ากู้หนิงเคยอยู่กับเลิ่งเชาถิง สิ่งที่เขาสนใจคือผลลัพธ์ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล!
ตอนนี้เป็นช่วงกลางวัน ดังนั้นเลิ่งเชาถิงจึงยังยั้งตัวเองไว้ได้ ทั้งสองเสร็จสิ้นหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง แต่กู้หนิงยังคงเหนื่อยล้าเพราะเลิ่งเชาถิงดุเดือดมาก
“เหนื่อยหรอ?” เลิ่งเชาถิงถามด้วยความเป็นห่วง เขารู้ว่าพวกเขายังต้องออกไปข้างนอกแต่เขาก็อดใจไม่ไหว
“ฉันอยากพักหน่อยค่ะ” กู้หนิงพูดจากนั้นก็พลิกตัวหันหลังให้เขา เธอไม่ได้โกรธ แต่ที่ผ่านมาพวกเขาทำตอนกลางคืน และเธอรู้สึกแปลกๆที่เปลือยตัวเปล่าต่อหน้าเขาในช่วงกลางวัน
เลิ่งเชาถิงเห็นว่ากู้หนิงไม่ได้โกรธ เขาจงรู้สึกโล่งอก เขาสวมกอดเธอจากด้านหลังและนอนเงียบๆ
พวกเขาพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงและตื่นขึ้นในเวลาประมาณ 17:30 น. พวกเขาแต่งตัวและลงไปที่ห้องทานอาหารส่วนตัวก่อนที่จะโทรหาซื่อตู้เย่
วินาทีที่ทั้งสองคนประจันหน้ากันเกิดความตึงเครียดสูง แม้ว่าพวกเขาจะไม่โต้เถียงหรือต่อสู้ แต่กู้หนิงก็รู้สึกไม่สบายใจ “ซื่อตู้ คุณอยากทานอะไรคะ? สั่งได้เลยค่ะ”
ซื่อตู้เย่ฉีกยิ้มที่เขาคิดว่ามีเสน่ห์ที่สุดและพูดกับกู้หนิงว่า “ได้เลย”
หลังจากนั้นเขาก็นั่งลง
ในความเป็นจริงซื่อตู้เย่ก็เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาเช่นกันและเขามีรอยยิ้มที่น่าดึงดูดใจ ถ้ากู้หนิงไม่ได้พบกับเลิ่งเชาถิงก่อน เธออาจจะตกหลุมรักเขาก็ได้
แม้ว่าเลิ่งเชาถิงจะดูดีกว่าแต่เขาไม่ยิ้มเลย ดังนั้นเขาจึงไม่น่าดึงดูดใจเท่าซื่อตู้เย่ ในทางกลับกันซื่อตู้เย่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารเสน่ห์ของเขา แต่ไม่ว่าเขาจะมีเสน่ห์แค่ไหน กู้หนิงก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเธอมีเลิ่งเชาถิงเป็นแฟนของเธออยู่แล้ว
“พวกเราพร้อมสั่งแล้วค่ะ” กู้หนิงหันไปพูดกับบริกร บริกรยื่นเมนูให้กู้หนิง กู้หนิงก็ยื่นเมนูให้ซื่อตู้เย่ต่อ
ซื่อตู้เย่ไม่ลังเล รับเมนูอาหารมาสั่งหลายอย่าง
“คุณจะกลับเมื่อไหร่?” ซื่อตู้เย่ถามกู้หนิงหลังจากที่สั่งอาหารเสร็จ
“คงอีกไม่กี่วันค่ะ” กู้หนิงตอบ “ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร โทรหาผมได้นะ” ซื่อตู้เย่เอ่ยสำทับ
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ ฉันช่วยหนิงหนิงได้” กู้หนิงยังไม่ทันพูดอะไร เลิ่งเชาถิงก็ชิงพูดขึ้นก่อน เมืองหลวงอยู่ภายใต้การขยายอิทธิพลของเขาและไม่มีสิ่งใดที่เขาไม่สามารถช่วยกู้หนิงได้
“ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะปฏิเสธฉัน นายและฉันมีภูมิหลังที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็แตกต่างกันเช่นกัน นายไม่กลัวที่จะทำร้ายตระกูลเลิ่งรึไง?” ซื่อตู้เย่ยิ้มเล็กน้อย
เลิ่งเชาถิงเงียบเพราะซื่อตู้เย่พูดจี้ใจดำ เขารับราชการทหารและต้องปฏิบัติตามหลักการที่เข้มงวด ดังนั้นจึงไม่สะดวกที่เขาจะจัดการกับบางเรื่องได้ตลอด เขาไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของซื่อตู้เย่ได้และตอนนี้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น