Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่ 95 - 96: ขายบริษัท ซื้อบริษัท, เกย์?)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่ 95 - 96: ขายบริษัท ซื้อบริษัท, เกย์?

  • 05/04/2564

ตอนที่ 95: ขายบริษัท ซื้อบริษัท

 

อ้ายยี่ไม่ได้ผงกหัวขึ้นมาจนกระทั่งเขาได้ยินเสียงร้อง เขาเหลือบมองไปที่เด็กหนุ่มสามคนที่นอนอยู่บนพื้น และแปลกใจที่เห็นกู้หนิงยืนอยู่ตรงหน้าเขา

 

อ้ายยี่รู้สึกอับอายมากที่เทพธิดาของเขามาเห็นสภาพเขาในตอนนี้ กู้หนิงเข้ามาช่วยเขา เขาต้องขอบคุณเธอสิถึงจะถูก ต่อให้รู้สึกอายมากแค่ไหนก็ตาม

 

ดังนั้นอ้ายยี่จึงขอบคุณเธอด้วยความจริงใจ “ขอบคุณมากกู้หนิง”

 

“ด้วยความยินดี” กู้หนิงเอ่ย เธอมองไปที่จ้าวหรันและเพื่อนคนอื่นๆ

 

“มาช่วยเขาไปห้องพยาบาลที”

 

สิ้นเสียงกู้หนิง ฮ่าวหรันและคนอื่นก็ดึงสติกลับมาได้ จางเทียนปิงและฉินซีหุนก็วิ่งมาช่วยพยุงอ้ายยี่ลุกขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ห้องพยาบาล

 

มีรอยฟกช้ำทั่วตัวและใบหน้าของอ้ายยี่ โชคดีที่มีรอยฟกช้ำที่ผิวหนังด้านนอกเท่านั้น ยังไม่บาดเจ็บถึงกระดูก พักไม่กี่วันก็หายดี

 

ตอนนี้อ้ายยี่ไม่สามารถกลับบ้านได้เอง ดังนั้นกู้หนิงจึงให้อ้ายยี่กลับบ้านพร้อมฮ่าวหรันและฉินซีหุน

 

ฮ่าวหรันขับรถมาโรงเรียน รถของเขาจอดอยู่ที่ลานจอดรถด้านนอกโรงเรียน

 

อ้ายยี่รู้สึกอับอายที่เขากลับบ้านเองไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังยุ่ง ดังนั้นมันคงไม่ดีที่จะให้ครอบครัวมารับเขา

 

ระหว่างทางกู้หนิงก็ถามอ้ายยี่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น อ้ายยี่บอกเธอหมดทุกอย่าง

 

ก็ตามที่เด็กหนุ่มคนนั้นพูด แม่เลี้ยงของอ้ายยี่หนีไปกับเพื่อนสนิทของพ่อเขาที่เป็นนักบัญชีของบริษัทอสังหาเจิ้งหัว พวกเขาหอบเงินสดหนีไปมากกว่าร้อยล้านหยวนและเงินอีกสามร้อยล้านหยวนที่เป็นเงินกู้ยืมจากธนาคาร

 

ตอนนี้สถานะบริษัทง่อนแง่นเต็มที ถ้าบริษัทไม่มีเงินมารักษาสภาพคล่องภายในสัปดาห์นี้ เจิ้งหัวต้องล้มละลายแน่นอน

 

ด้วยสถานการณ์ของบริษัท เป็นไปได้ยากที่จะกู้ยืมเงินจากธนาคาร พ่อของอ้ายยี่พยายามยืมเงินจากคนรู้จัก แต่ไม่มีใครให้เขายืมเลยสักคน

 

ไม่มีใครกล้าให้ยืมเงินหลายร้อยล้านหยวนแก่เขา มีทางเดียวคือต้องขายบริษัทเพื่อจ่ายหนี้

 

มีผู้สนใจซื้อหลายราย พวกเขาพยายามซื้อบริษัทในราคาต่ำกว่าที่กำหนด ดังนั้นข้อตกลงจึงยังไม่แล้วเสร็จ แม้ว่าตำรวจจะพยายามติดตามแม่เลี้ยงและชายชู้ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

 

เมื่อได้รับรู้เรื่องราวของอ้ายยี่ ฮ่าวหรันและฉินซีหุนก็รู้สึกเสียใจแทนเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความประสงค์ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ

 

จำนวนเงินที่เขาต้องการนั้นมาก พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือได้

 

อย่างไรก็ตามกู้หนิงตัดสินใจที่จะซื้อบริษัทอสังหาเจิ้งหัว

 

บริษัทเจิ้งหัวเป็นหนึ่งในสามบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาที่ใหญ่ที่สุดในเมือง F แม้ว่าตอนนี้จะขาดสภาพคล่องอย่างหนัก แต่มันจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ววันถ้ามีเงินลงทุน

 

มันเป็นหนทางที่ดีกว่าที่กู้หนิงจะเริ่มธุรกิจจากศูนย์

 

บ้านของอ้ายยี่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน ยี่สิบนาทีพวกเขาก็มาถึงย่านหรูหรา ถึงแม้ว่าย่านนี้จะราคาต่ำกว่าเฟิ่งหัวแมนชั่น แต่ที่พักในย่านนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน ในสมัยนั้นมันเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

 

ครอบครัวของอ้ายยี่พักอยู่ในวิลล่าขนาดใหญ่ แต่ภายในดูว่างเปล่า พวกเขาไม่มีเงินจ้างแม่บ้านตั้งแต่บริษัทประสบปัญหา

 

ในห้องทำงานชั้นสอง พ่อของอ้ายยี่นั่งจมอยู่บนเก้าอี้ ไม่มีใครคนอื่นอีกในบ้าน ดังนั้นมันจึงเงียบวังเวง

 

เมื่อพ่อของอ้ายยี่ได้ยินเสียงเปิดประตูที่ชั้นล่าง เขาก็ผุดลุกขึ้นทันใด

 

ใคร?

 

ที่นี่ไม่มีคนอื่นนอกจากเขาและอ้ายยี่ที่มีกุญแจบ้าน แต่อ้ายยี่อยู่ที่โรงเรียนไม่ใช่หรือ?

 

หรือผู้หญิงคนนั้นจะกลับมาแล้ว?

 

เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นไม่กล้ากลับมาหรอก

 

อ้ายกวงเหยาจึงเดินออกไปดู

 

เมื่อเขาเดินมาที่บันได เขาเห็นอ้ายยี่ถูกหิ้วเข้ามาในบ้าน ตามเนื้อตัวใบหน้ามีรอยฟกช้ำดำเขียว เขาตกใจและรีบวิ่งลงมาจากบันได ยังไม่ทันได้ทักทายกู้หนิงและคนอื่น เขาก็รีบร้อนเอ่ยถามอ้ายยี่ด้วยความกังวล

 

“ยี่ เกิดอะไรขึ้นกับลูก?”

 

อ้ายกวงเหยาทำอะไรไม่ถูก เขาอยากจะเข้าไปดูลูกชายแต่ก็กลัวจะทำให้อ้ายยี่เจ็บมากกว่าเดิม

 

อ้ายยี่รู้ว่าเขาไม่อาจปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อได้ ดังนั้นเขาจึงเล่าให้พ่อฟังทุกอย่าง อ้ายกวงเหยาเจ็บแค้น แต่ไม่ว่าเขาจะโกรธมากแค่ไหน เขาก็ต้องข่มความรู้สึกเอาไว้ เขาขอบคุณเพื่อนนักเรียนลูกชายที่ได้ช่วยเหลือลูกชายของเขา

 

“ขอบคุณมากที่ช่วยลูกชายของฉันไว้”

 

“ไม่เป็นไรค่ะ” กู้หนิงและเพื่อนตอบ จากนั้นกู้หนิงก็หันไปบอกเพื่อนว่า

 

“ช่วยพาอ้ายยี่ไปที่ห้องของเขาแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ที” กู้หนิงตั้งใจให้เพื่อนๆออกไปเพราะเธอจะได้มีเวลาคุยกับอ้ายกวงเหยาลำพัง

 

“โอ้ ไม่ต้องๆ อยู่นี่เถอะ ฉันทำเอง” อ้ายกวงเหยาไม่อยากรบกวนพวกเขา

 

“คุณอ้าย ไม่เป็นไรค่ะ ให้พวกเขาจัดการเถอะ” กู้หนิงตอบ

 

“ครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเราเอง” ฮ่าวหรันและฉินซีหุนเอ่ย จากนั้นก็พยุงอ้ายยี่คนละข้างพาเดินขึ้นบันไดไป

 

อ้ายกวงเหยาไม่ได้ห้ามเพราะมันคงไม่เหมาะที่จะปล่อยให้กู้หนิงอยู่คนเดียวในห้องรับแขก อ้ายกวงเหยาเชิญกู้หนิงให้นั่งเก้าอี้ จากนั้นก็ยื่นน้ำให้เธอ

 

“ขอบคุณค่ะ คุณอ้าย” กู้หนิงรับแก้วน้ำมา

 

กู้หนิงมองอ้ายกวงเหยา อายุของเขาน่าจะประมาณสี่สิบปี แต่กลับดูมีอายุอาจเป็นเพราะปัญหาที่เขาต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้

 

กู้หนิงไม่อยากเสียเวลา ดังนั้นเธอจึงตรงเข้าประเด็นเลย “คุณอ้าย ยินดีที่ได้พบคุณค่ะ หนูชื่อกู้หนิง หนูทราบมาว่าบริษัทของคุณกำลังประสบปัญหาและคุณต้องการจะขายบริษัท หนูสนใจบริษัทของคุณค่ะ แน่นอนว่าราคานั้นสมเหตุสมผล คุณคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ คุณอ้าย?”

 

“อะไรนะ? อ้ายกวงเหยาประหลาดใจ เขาไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

 

เรื่องที่เกิดขึ้นกับเจิ้งหัวไม่ใช่ความลับ อ้ายกวงเหยาไม่แปลกใจที่กู้หนิงรู้เรื่องนี้ แต่เธอเป็นเพียงนักเรียนอายุสิบแปดปีและยังต้องการซื้อบริษัทของเขา?

 

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?

 

กู้หนิงทำตัวนิ่งสงบเหมือนคนที่โตแล้ว เธอดูไม่เหมือนล้อเล่น ใครจะกล้าล้อเล่นเรื่องแบบนี้กัน?

 

ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับอ้ายกวงเหยาที่จะให้เชื่อว่าเด็กนักเรียนสามารถซื้อบริษัทของเขาได้ ครอบครัวของเธอต่างหากที่เป็นคนซื้อ คิดได้แบบนั้น อ้ายกวงเหยาก็ถามกลับไปว่า

 

“ครอบครัวของหนูอยากจะซื้องั้นหรือ?”

 

ตอนที่ 96: เกย์?

 

“เปล่าค่ะ หนูอยากจะซื้อไว้เอง” กู้หนิงอยากจะทำงานร่วมกับอ้ายกวงเหยา ดังนั้นเธอจึงไม่ปิดบังเจตนาของเธอ เธอทำสีหน้าจริงจังเพื่อให้เขาเชื่อใจ

 

“หนูรู้ว่าคุณอ้ายไม่เชื่อหนูเพราะหนูยังเด็กอยู่ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หนูเด็กก็จริง แต่ข้อตกลงการซื้อขายมูลค่าหลายร้อยล้านหยวนพวกเราจะให้ทนายเป็นคนดำเนินการ ถ้าข้อตกลงยังไม่ถูกจัดทำขึ้นและไม่มีการลงนามในสัญญาจะไม่มีการชำระเงิน เมื่อถึงตอนนั้นหนูคงไม่หลอกคุณแล้วล่ะค่ะ ใช่ไหมคะ?”

 

อ้ายกวงเหยาจ้องกู้หนิง เขาไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาพูด ถึงแม้เขาจะเห็นด้วยกับกู้หนิง เขาก็ยังรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง

 

ในระหว่างที่อ้ายกวงเหยากำลังตกใจ กู้หนิงก็เขียนชื่อและเบอร์โทรของเธอลงบนกระดาษที่วางอยู่ข้างๆโต๊ะ เธอยื่นให้อ้ายกวงเหยา

 

“คุณอ้าย นี่เบอร์หนูค่ะ หนูคิดว่าเราคงคุยกันได้ไม่มากด้วยเวลาที่มีอยู่จำกัดตอนนี้ แต่หนูหวังว่าคุณจะเก็บไปพิจารณาหลังจากนี้”

 

อ้ายกวงเหยารับกระดาษมา “ได้ ฉันจะลองพิจารณาดู”

 

ที่จริงแล้วอ้ายกวงเหยาถูกกู้หนิงโน้มน้าวได้สำเร็จ คนซื้อคนอื่นๆกดราคาต่ำมาก เขาคงเสียก้อนก้อนใหญ่ถ้าต้องขายให้พวกเขา

 

เมื่อกู้หนิงคุยกับอ้ายกวงเหยาจบ ฮ่าวหรันและฉินซีหุนก็ลงบันไดมาพอดี จากนั้นก็พากันกลับไปที่โรงเรียน

 

เมื่อกู้หนิงและคนอื่นๆกลับไป อ้ายกวงเหยาก็ขึ้นไปหาอ้ายยี่ที่ห้องทันที

 

อ้ายกวงเหยาอยากจะสอบถามเรื่องกู้หนิงกับอ้ายยี่ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ถามออกไปถึงแม้ว่ากู้หนิงและเพื่อนๆจะบอกอาจารย์ประจำชั้นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับอ้ายยี่และหลักฐานจากห้องพยาบาล พ่อของอ้ายยี่ก็ยังต้องโทรหาอาจารย์ประจำชั้นด้วยตัวเอง

 

เมื่อกู้หนิงกลับบ้านในคืนนั้น เธอก็พบว่าครอบครัวของเธอดูไม่มีความสุข ลุงสามของเธอ ‘กู้ฉินหยาง’ และครอบครัวของเขาจะกลับมาที่เมือง F วันศุกร์นี้ เขาขอนัดทานข้าวกับพวกเธอ

 

กู้ฉินหยางไม่ได้อาศัยที่เมือง F แต่อาศัยอยู่เมือง G

 

ทั้งกู้ฉินหยางและภรรยาของเขาทำงานในแผนกต่างชาติ พวกเขาใช้ชีวิตสุขสบายมีเงินเดือนหลายหมื่นหยวน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่สามารถซื้อบ้านในเมือง G ได้ ไม่กี่วันก่อนพวกเขายังซื้อบ้านหลังที่สอง สวัสดิการของพวกเขาครอบคลุมเงินกู้สำหรับซื้อบ้านได้ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน

 

กู้ม่านไม่ได้ติดต่อกับแม่ของตนและหลินหลี่หยวน ดังนั้นเธอจึงไม่เต็มใจไปกินข้าวกับพวกเขา แต่กู้ฉินหยางเป็นคนชวนเธอด้วยตัวเอง มันคงไม่เหมาะที่เธอจะไม่ไป

 

ถึงแม้พวกเธอจะไม่ได้สนิทสนมกัน แต่ก็ยังถือว่าเป็นพี่ชายน้องสาว พวกเขาไม่เคยทำอะไรแย่ๆต่อกู้ม่านก็จริง แต่ก็ไม่เคยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

 

กู้หนิงไม่ได้ว่าอะไร ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับกู้ม่าน

 

สุดท้ายกู้ม่านก็ตอบตกลง ดังนั้นกู้หนิงจึงตัดสินใจไปเมือง G วันเสาร์แทน

 

เธอรู้ว่าสมาชิกตระกูลกู้ไม่อยากเห็นหน้าเธอ แต่เธอเป็นห่วงกู้ม่าน

 

ต่อให้กู้ชิงและเจียงซู่จะไปด้วย ทั้งสองก็ค่อนข้างต่อกรใครไม่ค่อยได้ ถ้าหากมีเรื่องทะเลาะกันเกิดขึ้น พวกเขาคงช่วยแม่เธอได้ไม่มากนัก

 

ก่อนเข้านอนกู้หนิงเพิ่งนึกได้ว่าลืมคืนปืนให้เลิ่งเชาถิง ถึงแม้เธอจะไม่เต็มใจแต่เธอได้เอ่ยปากออกไปแล้ว เธอต้องทำตามที่เธอสัญญา

 

ถึงอย่างไรเธอก็ต้องคืนปืนให้เขาอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจคืนให้เขาตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน

 

เธอส่งข้อความหาเลิ่งเชาถิง บอกเขาให้รอเธออยู่ประตูทางเข้าโซน G ตีห้าของวันพรุ่งนี้ เธอจะคืนปืนให้เขา ถ้าหากเขามาสายเธอจะไม่รอ

 

เอาล่ะกู้หนิงยอมรับว่าเธอตั้งใจไว้เช่นนี้ในตอนแรก หากเขาต้องการปืนเขาก็ต้องอดทน

 

เมื่อเลิ่งเชาถิงได้รับข้อความ เขาไม่ได้อยู่ในเมือง F ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่งข้อความกลับถามเรื่องสภาพอากาศ

 

กู้หนิงนิ่งอึ้ง เธอพิมพ์ตอบกลับไปว่า “ฉันจะคืนปืนให้นาย แต่นายไม่อยู่ ฉันคิดว่าปืนคงไม่ต้องการกลับไปอยู่กับนายแล้วล่ะ ทำไมนายไม่ทิ้งปืนไว้กับฉันล่ะ?”

 

เธอไม่รู้ว่าเลิ่งเชาถิงเห็นข้อความของเธอหรือไม่ เพราะเขาไม่ตอบอะไรกลับมา

 

เช้าวันต่อมา กู้หนิงก็เดินออกมาจากโซน G

 

ซู่จินเฉินอยู่ในชุดกีฬา และบังเอิญวิ่งจากอีกฝั่งตรงเข้ามาหากู้หนิง ใบหน้าของเขาแสดงความประหลาดใจ

 

“โอ้ เป็นเธอ! บังเอิญจัง! เธอกำลังจะไปโรงเรียนเหรอ?” เขาถาม

 

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ซู่จินเฉินแกล้งทำเป็นว่าบังเอิญต่างหาก

 

“ค่ะ คุณออกมาวิ่งเช้าขนาดนี้เลยเหรอคะ?”

 

แม้ว่ากู้หนิงแทบจะไม่รู้จักเขา แต่เธอก็ทักทายเขาอย่างเป็นมิตรเพราะเขาเคยช่วยเหลือเธอ

 

“ใช่ เธอพักอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? ฉันอยู่โซน G พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกัน โอ้ ว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอ? ฉันซู่จินเฉิน”

 

“กู้หนิงค่ะ” กู้หนิงเอ่ยตอบ

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก เอ่อ ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม? เธอกับเลิ่งเชาถิงเป็นอะไรกัน? อย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันแค่สงสัยเฉยๆ ฉันโตมากับเขาและก็ทำงานกับเขา ฉันไม่เคยเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน” ซู่จินเฉินไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้

 

ไม่เคยอยู่กับผู้หญิง?

 

ในตอนแรกกู้หนิงตกใจ แต่แล้วเธอก็เข้าใจ เลิ่งเชาถิงเป็นผู้ชายเย็นชา ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่กลัวเขา

 

แม้แต่กู้หนิงก็ยังรู้สึกเครียดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

 

เนื่องจากก่อนหน้านี้กู้หนิงมีความขัดแย้งเล็กๆกับเลิ่งเชาถิง เธอจึงพูดว่า “บางทีเขาอาจจะเป็นเกย์ ฉันเพิ่งรู้จักเขา เราเจอกันไม่กี่ครั้งดังนั้นไม่มีอะไรระหว่างเรา”

 

เกย์?

 

ได้ยินแบบนั้นซู่จินเฉินก็ประหลาดใจอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกเราก็คิดเหมือนเธอในตอนแรก แต่ฉันสัญญาได้เลยว่าเชาถิงเป็นผู้ชายเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์”

 

“โอ้ คุณเคยลองแล้วเหรอคะ?” กู้หนิงสวมสีหน้านางร้าย

 

ซู่จินเฉินเข้าใจความหมายของเธอ เขาโต้กลับไปว่า “เพ้อเจ้อ! ฉันไม่เคยทำแบบนั้น ฉันชอบผู้หญิง!”

 

กู้หนิงยักไหล่ไม่สนใจ “บางทีเขาอาจจะชอบแค่ตัวเขาเอง!”

 

“ฮ่า ฮ่า เธอนี่ตลกจัง” ซู่จินเฉินหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “ใช่ บางทีเธออาจพูดถูก เขาคงหลงรักตัวเอง”

 

จากนั้นกู้หนิงก็กล่าวว่า “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันต้องไปโรงเรียนแล้ว”

 

“โอ้ เชิญๆ” ซู่จินเฉินไม่รบกวนเธออีก

 

อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เชื่อว่าไม่มีอะไรระหว่างกู้หนิงและเลิ่งเชาถิง ไม่อย่างนั้นทำไมเลิ่งเชาถิงต้องออกมาพบเธอแต่เช้าด้วย?

 

บางทีเลิ่งเชาถิงอาจจะกำลังตามจีบเธออยู่!

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป