Your Wishlist

มู่หลันฮวา (โรงประมูลหยางไป๋)

Author: ชาเขียวuมสด

ลูกไก่ ที่กำลังเดินข้ามถนนอยู่ดีๆก็โดนรถชนจนได้ไปเกิดใหม่ในร่างเด็กน้อย อายุสิบขวบปีแถมยังมีครอบครัวที่น่ารักอีก ใครจะไปคิดว่าจะได้ย้อนยุค

จำนวนตอน : ตอนที่ 1

โรงประมูลหยางไป๋

  • 19/04/2564

“ท่านพ่อเสร็จรึยังเจ้าค่ะ”

“รอพ่อสักครู่หลันเอ๋อร์ พ่อไปเอาเกวียนก่อน”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่ พี่ใหญ่ ข้ากับท่านพ่อไปก่อนนะเจ้าค่ะตอนกลับไว้ลูกกับท่านพ่อจะซื้อเนื้อกับหมั่นโถวกลับมา”

“ไปลูก หลันเอ๋อร์ประเดี๋ยวจะถึงช้า”

มู่หลันฮวาจึงได้เดินขึ้นเกวียนทันทีที่พ่อของนางมาถึง ตลอดระยะทางมู่หลันฮวาได้นั่งมองสองข้างทางด้วยความสุขใจ เพราะในโลกก่อนของนางนั้นมีแต่ตึกสูงระฟ้า พื้นถนนคอนกรีต ต้นไม้เองแทบจะนับต้นได้ แต่พอมาดูตอนนี้สิเหมือนกับคนที่ติดอยู่ในห้วงฝันของธรรมชาติที่สวยงาม ที่มีทิวทัศน์เป็นภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ไล่ลงมาก็มีทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มปะปนไปด้วยทุ่งดอกไม้นานาชนิดยังกับอยู่ในดินแดนสวรรค์ นี่สินะที่เขาเรียกว่าความงามของผืนป่าที่ธรรมชาติรังสรรค์

“ท่านพ่อเจ้าค่ะ อีกนานหรือไม่กว่าจะไปถึงโรงประมูล”

“ประมาณสัก 1 ชั่วยามกว่าเห็นจะได้ หลันเอ๋อร์เบื่อรึลูก”

“เปล่าเจ้าค่ะ ลูกแค่ถามดูเท่านั้น”

หลังจากนั้น 1 ชั่วยามผ่านไป (แฮ่ม…!! ก็มันนิยายอะเนอะผ่านไปไวเหมือนโกหกเลย ><") ทั้งนางและมู่เหยียนชิงก็ได้เดินทางเข้ามาถึงตัวเมืองเยว่ชาง มู่เหยียนชิงจึงได้เอาเกวียนไปฝากไว้ก่อนที่จะพามู่หลันฮวาเดินลัดเลาะไปที่โรงประมูลหยางไป๋ เป็นโรงประมูลอันดับหนึ่งที่มีอิทธิพลอำนาจล้นมือ อืม…ถ้าได้โรงประมูลหยางไป๋เป็นผู้หนุนหลังให้กับตระกูลมู่คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว การที่จะไปจัดการกับคนพวกนั้นคงไม่ลำบากเท่าใดนัก อืม อืม ช่างคิดได้ดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า

มู่เหยียนชิงที่เห็นมู่หลันฮวานิ่งเงียบไปจึงได้หันไปมอง พอได้เห็นสีหน้าของนางก็อดที่จะขนลุกไม่ได้ราวกับว่าอีกไม่นานจะต้องมีคนไปวิ่งเต้นอยู่บนฝ่ามือของนาง

 

ณ โรงประมูลหยางไป๋

 

“โรงประมูลหยางไป๋ยินดีต้อนรับขอรับ นายท่านและคุณหนูท่านนี้ไม่ทราบว่าพวกท่านมีธุระอะไรกับโรงประมูลหยางไป๋ที่แห่งนี้ขอรับ” ผู้ดูแลโรงประมูลแห่งกล่าวถามอย่างนอบน้อม อืม…โรงประมูลแห่งคัดคนได้ดียิ่งนัก สงสัยคงจะถึงเวลาที่นางต้องบอกให้ท่านพ่อหาคนเข้าตระกูลแล้วสินะ โรงประมูลทาสก็ดีไม่น้อย

“ข้าต้องการเอาของมาประมูล ไม่ทราบว่าของชิ้นนี้สามารถเข้าร่วมประมูลได้หรือไม่ เอ่อ ท่าน….”

“ข้ามีนามว่าจินเยว่ขอรับเป็นผู้ดูแลโรงประมูลแห่งนี้ให้นายน้อยหยางไป๋หลิงขอรับ”

“ข้ามู่เหยียนชิงขอรับ ส่วนนี้ลูกสาวข้านางชื่อมู่หลันฮวา” พูดจบมู่เหยียนชิงจึงยื่นของที่จะเอาไปประมูลให้แก่จินเยว่ดู

“นะ…นี่มัน โอสถทะลวงปราณความบริสุทธิ์สิบส่วน ท่านมู่เหยียนชิงและคุณหนูมู่หลันฮวาเชิญพวกท่านตามข้ามาด้านในก่อนนะขอรับ” จินเยว่จึงให้บ่าวรับใช้ไปยกน้ำชาและขนมมาให้มู่เหยียนชิงและมู่หลันฮวาทานระหว่างรอ หลังจากนั้นจินเยว่จึงได้รีบไปตามนายท่านหยางหนิงเทียนและนายน้อยหยางไป๋หลิงทันที จากนั้นไม่นานจินเยว่ได้เดินมาพร้อมกับบุรุษทั้งสองบุรุษ คนนึงนั้นดูมีอายุราวๆ ห้าสิบปีแต่ยังคงความสง่างามและความมีอำนาจออกมารอบๆ ตัวตามประสาคนใหญ่คนโต ส่วนอีกคนดูแล้วคงมีอายุมากกว่านางสามถึงสี่ปีที่มีสีหน้าเรียบเฉย

“ขออภัยพวกท่านที่ให้รอขอรับ นี่นายท่านหยางหนิงเทียนและนายน้อยหยางไป๋หลิง” จินเยว่กล่าวอย่างนอบน้อม

“ไม่เป็นไรขอรับท่านจินเยว่”

“พวกท่านคือมูเหยียนชิงกับหนูมู่หลันฮวาใช่หรือไม่ ที่เป็นคนเอาโอสถเม็ดนี้มาประมูล” หยางหนิงเทียนเอ่ยถามด้วยความตกตะลึง

“ใช่ขอรับนายท่านหยางหนิงเทียน”

“อืม จินเยว่เจ้ารีบไปประกาศในโรงประมูลว่าวันนี้จะมีของที่ดีที่สุดในรอบสามสิบปีมาให้ประมูล”

“ขอรับนายท่านหยาง”

“อ่อ และอีกเรื่องจินเยว่เจ้าไปจัดห้องที่ดีที่สุดบนชั้นสี่พร้อมกับมอบป้ายหยกมรกตให้ท่านมู่เหยียนชิงและคุณหนูมู่ผู้นี้ด้วย

“ขอรับ”

 

ด้านในหอประมูลที่สามารถบรรจุคนได้ราวๆ ห้าถึงหกหมื่นคน ด้านล่างนั้นสำหรับคนทั่วไปที่มีป้ายทองแดง ไล่ขึ้นไปชั้นที่สองพอมีฐานะดีขึ้นมาหน่อยจะเป็นป้ายเงิน ส่วนชั้นที่สามคือผู้ที่มีฐานะร่ำรวยรวมไปถึงพวกขุนนางทั้งหลายป้ายทอง และชั้นที่สี่นั้นระดับวีไอพีเลยก็ว่าได้เป็นป้ายหยกมรกตซึ่งน้อยคนที่จะได้ครอบครองป้ายนี้ ข้อดีของชั้นสี่นั้นผู้ที่นั่งอยู่ในห้องสามารถมองเห็นข้างนอกได้ทุกส่วนแต่ผู้ที่อยู่ข้างนอกเองนั้นจะไม่สามารถมองเข้ามาข้างในได้จะเห็นเพียงแค่ความมืดแทน

“และแล้วการประมูลก็มาถึงช่วงสุดท้ายแล้วนะขอรับ ของประมูลชิ้นนี้คือ โอสถทะลวงความบริสุทธิ์อยู่ที่สิบส่วน สรรพคุณของยาเม็ดนี้สามารถเลื่อนระดับได้สี่ถึงห้าขั้นหรือแม้แต่ท่านที่พลังปราณระดับเทวะที่ติดอยู่ขอขวดก็จะสามารถทะลวงเลื่อนระดับไปเป็นปราณมหาเทวะได้ขอรับ โอสถทะลวงปราณนี้มีแค่เม็ดเดียวเท่านั้น"

 

"เริ่มต้นการประมูลอยู่ที่ 1,000,000 เหรียญทองขอรับ” หลังจากที่เสี่ยวฉีประกาศออกไปทั้งโรงประมูลก็ได้ตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะนึง

“เริ่มการประมูลได้ขอรับ” หลังจากนั้นก็มีคนประมูลเข้ามาเรื่อยๆ อย่างที่ไม่มีใครยอมใคร

“1,500,000 เหรียญทอง”

“1,800,000 เหรียญทอง”

“2,100,000 เหรียญทอง”

“3,400,000 เหรียญทอง”

“5,000,000 เหรียญทอง”

หลังจากที่มีคนเสนอประมูลอยู่ที่ราคา 5,000,000 เหรียญทอง ก็เกิดความเงียบจากนั้นไม่นานการประมูลก็จบลง

 

“ท่านเหยียนชิงขอรับ กรุณารอสักครู่ได้หรือไม่พอดีว่านายท่านหยางอยากคุยกับท่านเหยียนชิงและคุณหนูมู่หลันฮวา” จินเยว่ไม่รอช้ารีบบอกไปตามต้องการของนายท่านหยางที่กำชับตนเองไว้ทันที

“ได้ขอรับ” มู่เหยียนชิงและมู่หลันฮวาจึงได้เดินตามจินเยว่เข้าไปยังด้านใน เมื่อพบหน้าท่านหยางหนิงเทียนจึงไม่รอช้า

“มีปัญหาอะไรรึไม่ขอรับนายท่านหยางหนิงเทียน” มู่เหยียนชิงกล่าวออกมาอย่างกังวล

ด้านหยางหนิงเทียนนั้นเมื่อได้เห็นสีหน้าที่กังวลของทั้งสองจึงรีบเอ่ยขัดขึ้นมาเพราะกลัวว่าทั้งสองจะคิดกังวลไปมากกว่านี้

“ไม่มีปัญหาอะไรทั้งแหละ ข้าเพียงอยากจะถามพวกเจ้าเรื่องโอสถเม็ดนี้เท่านั้นว่าพวกเจ้าไปได้มันมาอย่างไร”

มู่เหยียนชิงจึงหันไปมองมู่หลันฮวาผู้เป็นลูกสาวทันที เมื่อนางเห็นจึงพยักหน้าให้บิดา

“หากข้าบอกนายท่านหยางไปแล้ว ท่านต้องรับปากข้าว่าจะไม่แพร่งพรายและปกปิดเรื่องนี้นะขอรับเพราะข้าไม่อยากให้ครอบครัวต้องมีเรื่องวุ่นวายตามมาทีหลัง” มู่เหยียนชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“ได้สิข้ารับปากเจ้า ในนามของเจ้าของโรงประมูลหยางไป๋เลย และไม่ต้องเรียกข้าว่านายท่านหยาง ให้เรียกข้าว่าท่านหยางก็พอ ส่วนเจ้าก็เรียกข้าว่าท่านลุงหยางก็แล้วกัน” หยางหนิงเทียนเองที่รู้สึกถูกชะตากับสองพ่อลูกคู่นี้ได้เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู

“โอสถเม็ดนี้หลันเอ๋อร์ลูกสาวข้าเป็นคนหลอมเองขอรับ”

“ใช่เจ้าค่ะท่านลุงหยาง แล้วท่านก็เรียกข้าว่าหลันเอ๋อร์เช่นท่านพ่อก็ได้นะเจ้าค่ะ” มู่หลันฮวากล่าวออกไป พร้อมทั้งเก็บสีหน้าและอาการตื่นเต้นดีใจไว้ แผนการของนางแรกเริ่มก็ไปได้ดีซะแล้ว รอข้าก่อนเถอะตระกูลหลัก หึ หึ หึ

“ข้าชอบเจ้ายิ่งนักหลันเอ๋อร์ดียิ่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หยางหนิงเทียนหัวเราะเสียงดังลั่น หลังจากนั้นที่หยางหนิงเทียนได้อยู่คุยกับทั้งสองเพียงไม่นาน มู่เหยียนชิงและมู่หลันฮวาจึงได้ขอตัวกลับบ้านเพราะออกมานานเกินไปเกรงว่าที่บ้านจะเป็นห่วง

 

“ท่านพ่อ เพียงแค่เอาโอสถทะลวงปราณมาประมูลแค่เม็ดเดียว เรายังได้เงินมาตั้งสี่ล้านห้าแสนเหรียญทองเชียวนะเจ้าค่ะ” อืม ถ้าได้เงินเยอะขนาดนี้งั้นคราวหน้าข้าเอาน้ำทิพย์สวรรค์ในมิติออกมาขายซักขวดดีหรือไม่นะ แค่คิดถึงกลิ่นเงินนี่ช่างหอมหวนซะจริงเชียว อ่า..!! ข้าไม่ได้โลภนะแต่ข้าชอบเงิน ฮ่า ฮ่า ฮ่า

“พ่อว่าเราเอาเงินไปฝากที่ร้านฝากเงินก่อนเถอะหลันเอ๋อร์ จะถือเงินติดตัวจำนวนเยอะๆ แบบนี้มันอันตรายนัก” มู่เหยียนชิงบอกมู่หลันเอ๋อร์ก่อนที่จะเดินนำเข้าไปร้านฝากเงิน

“เจ้าค่ะ” เห็นทีท่าจะไปซื้อทาสต้องไว้คราวหน้าซะแล้ว เฮ้อ…

“หลันเอ๋อร์ ลูกจะซื้ออะไรกลับไปที่บ้านบ้างหรือไม่” พร้อมกับยื่นถุงเงินจำนวนห้าพันเหรียญทองให้นาง

“ซื้อเจ้าค่ะ ถ้าซื้อของเสร็จแล้วลูกไปรอที่เกวียนนะเจ้าค่ะ ท่านพ่อ ท่านอย่าลืมไปซื้อรถม้าคันใหม่สักคันนะเจ้าค่ะ” นางบอกมู่เหยียนชิงอย่างอารมณ์ดี

“รถม้าไว้ค่อยเข้ามาดูพรุ่งนี้นะหลันเอ๋อร์ เจ้าเองอยากจะไปโรงค้าทาสอยู่ไม่ใช่รึ"

“เจ้าค่ะ”

“รีบไปซื้อของแล้วรีบกลับนะหลันเอ๋อร์ นี่ก็เริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวจะถึงบ้านมืดค่ำกันพอดี” มู่หลันฮวาไปซื้อของไม่นานก็เดินทางกลับบ้านทันที

17/4/64
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป