เธอ ‘หัวหน้าแม่มดแห่งเมียวเจี่ยง’ เกิดใหม่ในร่างสาวน้อยที่น่าสมเพชที่ถูกทุกคนรุมรังแก เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงและโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจบันเทิงและกลายเป็นเจ้าชายแห่งชาติที่มีเสน่ห์ต่อหัวใจของหญิงสาว
เธอ ‘หัวหน้าแม่มดแห่งเมียวเจี่ยง’ เกิดใหม่ในร่างสาวน้อยที่น่าสมเพชที่ถูกทุกคนรุมรังแก เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงและโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจบันเทิงและกลายเป็นเจ้าชายแห่งชาติที่มีเสน่ห์ต่อหัวใจของหญิงสาว
มู่เสวี่ยหลิงพาเด็กทั้งสี่คนมาที่โรงแรม ในขณะที่หลิงเจิ้นเฉิงอยู่จัดการเรื่องที่เหลือต่อ
หลิงจื่อเดินรั้งท้ายด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ ในขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังคุยกัน
“แม่ครับ ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน!” หลิงอิงพูดกับมู่เสวี่ยหลิง
หลิงเซียวพยักหน้าหงึกหงัก “ใช่ครับ ครอบครัวของเราอยู่กันอย่างสุขสบายดี มีคนมาตรวจสายเตาแก๊สทุกสัปดาห์ อยู่ดีๆ มันจะขาดได้ยังไง?”
หลิงอิงก็พูดเสริมว่า “หรือว่าเป็นศัตรูของคุณพ่อคะ?”
มู่เสวี่ยหลิงไม่เอ่ยคำใด แน่นอนเธอรู้ว่ามันมีปัญหา แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ กระทั่งหลักฐานก็ยังไม่มี พูดไปก็ไร้ประโยชน์
หลิงเซิงไม่พูดอะไร ดวงตาของเขาดำมืดยิ่งกว่าเคย
เมื่อพวกเขามาถึงโรงแรม พนักงานต้อนรับจำมู่เสวี่ยหลิงได้และกล่าวทักทายเธอด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่า “คุณนายมู่ มาทำอะไรที่นี่หรือคะ?”
“มีเรื่องเกิดขึ้นที่บ้าน คืนนี้พวกเราจึงต้องมานอนโรงแรม ช่วยเตรียมห้องเพรสซิเดนท์เชียลสวีทให้พวกเราด้วยค่ะ” ความตื่นตระหนกบนใบหน้าเธอเลือนหายไปแล้ว และมู่เสวี่ยหลิงก็กลับมาเป็นภรรยาของผู้ว่าราชการจังหวัดผู้สูงส่งตามเดิม
“ต้องขอประทานอภัยค่ะ ห้องเพรสซิเดนท์เชียลสวีทถูกจองไปแล้ว ดิฉันสามารถเตรียมห้องแฟมิลี่ให้คุณได้ค่ะ ห้องไม่แตกต่างกันมากนัก” พนักงานต้อนรับเอ่ย
เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่วันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งมาที่โรงแรมและขอห้องเพรสซิเดนท์เชียลสวีทสองห้องที่ชั้นบนสุด
“ถ้าอย่างนั้นเอาห้องแฟมิลี่ พวกเรามีทั้งหมดหกคน”
“ขอโทษด้วยค่ะ คุณนายมู่ ห้องแฟมิลี่ของเรารองรับได้เพียงห้าท่าน” หล่อนมองหน้าคุณนายลู่เป็นเชิงขอโทษ นี่มันช่าง...
หล่อนอยากทำให้คุณนายผู้ว่าประทับใจ แต่ไม่คาดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น
“แม่คะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ชายอยู่ห้องด้วยกันได้ ส่วนหลิงจื่อก็ให้อยู่ห้องคนเดียว” หลิงอิงขยิบตาให้มู่เสวี่ยหลิง
มู่เสวี่ยหลิงเข้าใจความหมายที่ลูกสาวต้องการสื่อ แต่เธอยังคงลังเล ถ้าเจิ้นเฉิงกลับมาคืนนี้และพวกเขาปล่อยให้หลิงจื่อนอนในห้องน้ำโรงแรม เขาจะไม่โกรธแย่เลยหรือ?
เขายิ่งอารมณ์ไม่ดีหลังจากที่บ้านถูกไฟไหม้ ถ้าหลิงจื่อร้องไห้และสร้างเรื่องขึ้นมา อาจจะกลายเป็นข่าวพาดหัวเลยก็ได้
เธอมองไปที่หลิงจื่อด้วยสายตาอย่างอ่อนโยน “อาจื่อ? ป้าจะจองห้องให้เธอนอนคนเดียว ถ้าพรุ่งนี้พวกเราย้ายเข้าบ้านใหม่ เอาไว้ป้าจะหาห้องที่ดีกว่านี้ให้ ดีไหมจ๊ะ?”
“โอเคฮะ” หลิงจื่อพยักหน้าเบาๆ เธอแทบรอห้องส่วนตัวไม่ไหวแล้ว
พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและเธอเป็นเพียงคนนอก
ต่อหน้าบุคคลอื่น หลิงอิงไม่สามารถระเบิดอารมณ์ตัวเองได้ เธอทำได้เพียงข่มอารมณ์เอาไว้
หลิงจื่อทำเธอเจ็บ แต่พ่อกลับไปไม่โทษเขา ตอนนี้แม่ก็ยังจองห้องเดี่ยวให้มัน เธอโกรธมาก!
พนักงานรีบจองห้องและยื่นการ์ดห้องให้พวกเขาสองใบ เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ห้องแฟมิลี่อยู่ชั้นแปด และห้องเดี่ยวอยู่ชั้นสิบสามค่ะ”
หลิงจื่อรับการ์ดมาและเดินทอดน่องไปที่ลิฟต์
หลิงเซียวกำหมัดแน่น ไอ้เด็กเวรนั่นกล้าดียังไงมาผยองต่อหน้าเขา!
“พี่ชาย ไว้พวกเราค่อยจัดการมันพรุ่งนี้!” หลิงอิงพูดด้วยความโกรธขีดสุด เธอกระซิบที่พูดที่ข้างหูหลิงเซียว
หลิงเซียวพยักหน้าและจ้องด้านหลังของหลิงจื่อด้วยสายตาอาฆาต
หลิงจื่อเดินไปที่ลิฟต์และกดปุ่มตัวเลข เธอไม่คิดรอคนข้างหลัง
ห้อง 1308 เธออดยิ้มไม่ได้
คืนนี้ เธอถูกลิขิตให้อยู่ชั้น 13
ก่อนหน้านั้นเธอวิ่งหนีจากชั้น 13 ทว่าบัดนี้กลับมาที่ชั้น 13 อีกครั้ง ‘ติ้ง’ เสียงลิฟต์เปิดออก
หลังจากออกมาจากลิฟต์ เธอก็หาห้องเจอ
‘ตู๊ด’
หลังจากรูดการ์ดห้องพัก เธอก็เข้าไปในห้องและล็อกประตูจากด้านในตามปกติ เธอมองไปรอบๆห้อง มู่เสวี่ยหลิงดูเหมือนจะทำดีในรอบนี้ เธอคงกลัวว่าทางโรงแรมจะเผยแพร่ข่าวว่าเธอรังแกเด็ก