Your Wishlist

ไอ้หน้าหวานนั่นผัวผม! (ตอนพิเศษ อดีต)

Author: 雨桐 Yǔ tóng

เพราะวันนั้นเมาไม่ได้สติตื่นมาอีกทีก็นอนกกกับไอ้หน้าสวยนี่แล้ว! แล้วไอ้หน้าสวยนี่ก็บอกว่าจะรับผิดชอบผมอีก ไม่ต้องรับอะไรกูทั้งนั้น กูไม่เอา!

จำนวนตอน :

ตอนพิเศษ อดีต

  • 15/04/2564

                                 ตอนพิเศษ

                                     อดีต

 

พาร์ท นัท 

 

ผมมาอยู่ที่เกาะนี้ได้ 2 เดือนแล้วตลอดระยะเวลาสองเดือนนี้ญาติผู้ใหญ่ก็มาหาเราทุกเดือน รวมถึงพ่อและแม่ผมด้วย ผมดีใจมากหลังจากที่ไม่ได้เจอท่านมาตั้งแต่เปิดเทอมก็อืมม หลายเดือนอยู่นะ

 

ปกติผมเป็นคนติดแม่มากเพราะฉะนั้นทุกปิดเทอมหรือมหา'ลัยปิดยาวผมก็จะกลับบ้านไปนอนกับพวกท่าน นั่นคือช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดไม่ว่าผมจะเจอเรื่องร้ายๆหรือดีมามากแค่ไหนผมก็จะเอาไปบอกพวกท่าน ตอนเด็กๆครอบครัวผมๆม่มีบ้านเป็นของตัวเองหรอกอาศัยป้าอยู่หน่ะ

 

ป้ามักจะให้ผมและพี่ทำงานบ้านทุกวันยิ่งเวลาป้ากลับบ้านมานะนั่นเหมือนช่วงเวลาที่ตกนรกของผมและพี่เลยก็ว่า ป้าจะให้พวกผมยกนู้นนี่แล้วก็ทำความสะอาดที่ลูกเขาทำเละเอาไว้ มันเหนื่อยนะแต่ก็ต้องทน ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากทำตามที่ป้าบอกไม่งั้นท่านก็จะพูดขู่ว่า

 

"อยู่ก็ไร้ประโยชน์เดี๋ยวไล่ออกจากบ้านเลย!"ป้า

 

"อย่ามาใส่อารมณ์กับกูนะ! เดี๋ยวก็ไล่แห่ซะเลย!"ป้า

 

"ใช้เงินให้มันน้อยๆหน่อยไม่สงสารแม่มึงบ้างหรอจนจะตายห่าอยู่แล้ว!"ป้า

 

"โตแล้วหัดใช้อะไรให้มันได้เรื่องบ้าง! โง่! ให้หยิบอะไรก็ไม่ได้เรื่อง!"ป้า

 

หึ ตอนนั้นผมไม่ได้ใส่อารมณ์นะแต่ใครมันจะไปทนได้บ่อยๆละ ผมมักจะก้มหน้าให้เขาว่าตลอด ไม่เคยคิดจะเถียง ไม่เคยคิดจะคุยอะไรกับเขาเกินจำเป็นด้วยซ้ำ ถ้าเขาไม่ถามผมก็ไม่พูด นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมกล่ยเป็นเด็กเก็บกดแล้วไม่พูด ไม่เข้าหาใครไม่กล้าเปิดใจให้ใครทั้งนั้น 

 

ชีวิตผม ผมไม่เคยคิดอะไรเองเลย ไม่ว่าจะเสื้อผ้า เรื่องเรียน หรือแม้กระทั่งจะไปไหนถ้าไม่มีคนคอยบอกผมก็ไปไหนเองไม่ได้ ผมเติบโตมาด้วยสภาพแวดล้อมนั้นแหละ จนผมขึ้นปวช.ปี1ผมต้องเดินทางไปเรียนไกลบ้านถึงจะแค่นั่งรถเมย์ไปไม่กี่ป้ายแต่นั่นคือการเดินทางที่ไกลที่สุดของผมเลย 

 

ผู้ใหญ่บอกให้ผมทำอะไรเองทั้งๆที่พวกท่านไม่เคยปล่อยให้ผมคิดเองทำเองเลยสัดครั้ง! แล้วจะรอดหรอตอนนั้นผมจำได้ดีเลย ผมเกือบนั่งเลยป้าย! ผมต้องคอยมองข้างทางอยู่ตลอดแล้วก็ลงจากรถเมย์ตามคนอื่น ถ้าไม่มีคนลงผมก็มักจะนั่งเลยตลอด มันเป็นช่วงที่ผมใช้ชีวิตยากมากเลย แต่ดีหน่อยตรงที่ถึงผมจำความจำไม่ดีขั้นสุดยอดแต่ก็จำเส้นทางได้แม่นมาก นั่นเป็นเพียงข้อดีอย่างเดียวของผมเลยมั้ง

 

พอผมขึ้นปวส.ผมสามารถทำงานเก็บเงินจนผ่อนบ้านได้ ผมตัดสินใจที่จำทำงานเลี้ยงพ่อและแม่แล้วย้ายออกมาจากบ้านของป้า มาอยู่ด้วยกันสี่คน พ่อ แม่ พี่ชาย(สาวประเภทสอง) และผม

 

มันคือความสุขที่สุดในชีวิตเลยละ ถึงจะเหนื่อยเพราะต้องทำงานอยู่คนเดียวเพื่อหาเงินผ่อนบ้านแล้วก็เลี้ยงทุกคนก็เถอะ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าโชคดีที่สุดคือการมีเพื่อนที่ดี เพื่อนของผมทุกคนแยกย้ายไปแล้วตอนที่เราขึ้นมหา'ลัย พวกมันช่วยผมทุกอย่าง เรื่องเรียน เรื่องครอบครัว พวกมันดึงผมขึ้นมาจากหลุมทุกครั้งที่ผมตกลงไป 

 

ผมเคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วย แต่ก็ทำไม่ลงเพราะพ่อและแม่ พวกท่านรอเห็นความสำเร็จของผมอยู่ ผมไม่สามารถทิ้งพวกท่านได้ พวกท่านคือสิ่งเดียวที่ทำให้ผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อ พอคิดถึงอดีตแล้วน้ำตาผมมักไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ทุกครั้งแต่ผมไม่เช็ดมันหรอกนะ ผมชอบปล่อยให้มันหยุดไหลไปเองความรู้สึกลึกๆในใจแค่รู้สึกว่าต้องการระบายมันออกมาแค่นั้น ผมไม่เคยโกรธป้าหรือใครเลยนะ ผมเป็นพวกโกรธง่ายหายเร็ว ผมไม่เคยโทษใครเลยบางทีก็งงตัวเองนิดหน่อยที่ไม่เคยนึกโกรธพวกเขา

 

ทั้งๆที่ทุกคนร้ายกับผมมามาก ไม่ว่าจะนึกย้อนกลับไปเท่าไหร่ความรู้สึกผมก็ไม่เคยมีความโกรธพวกเขาเลยสักครั้ง ถึงจะโมโหและขัดใจไปบ้างก็เถอะ แต่พอร้องไห้หรือปล่อยให้ตัวเองอยู่เงียบๆสักพักก็ทำให้ผมลืมทุกอย่างได้เลย มันคงเป็นข้อดีอีกอย่างของผมละมั้ง

 

"นัทครับ"

 

"...."เหม่อแล้วปล่อยให้น้ำตาไหล

 

"นัทร้องไห้ทำไม"

 

"เห้ออ"เหม่อแล้วทำหน้าเรียบเฉยแววตาเจ็บปวด

 

"นัท...เมียจ๋า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ"

 

"อ๊ะ หวานมาตั้งแต่เมื่อไหร่"ผมสดุ้งเมื่ออยู่ๆก็ถูกกอดจนจมอกพอได้กลิ่นที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีก็จำได้ทำทีว่าเป็นใคร ผมกอดตอบเลยกลายเป็นว่าเราสองคนกอดกันกลมอยู่ที่ม้านั่งหน้าบ้าน

 

"ร้องไห้ทำไมครับหืม หรือว่าเบื่อผมแล้ว"หวานทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกคนเมื่อคิดว่านัทเบื่อตนเองแล้วอยากออกไปจากเกาะนี้แล้ว

 

"ป่าวไม่ได้เบื่อซักหน่อย แค่คิดอะไรนิดหน่อยอย่าคิดมากสิ"ผมรีบอธิบายเมื่อเห็นหน้าหวานๆนั่นเริ่มเบะปากจะร้องไห้ตามผม แค่เบะปากผมก็ปวดใจแล้วอย่าร้องนะ!

 

"คิดอะไรผมรู้ได้ไหม"

 

"เรื่องครอบครัวหน่ะ อย่าคิดมากเลยกูไม่ได้เบื่อมึงซักหน่อยอีกอย่างนะกูชอบชีวิตแบบนี้จะตาย"ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ใช่ผมชอบชีวิตแบบนี้มากก็นะเพราะชีวิตในวัยเด็กมันทำให้ผมกลายเป็นโรคซึมเศร้า ช่วงนึงอาการผมมันแย่มากจนต้องไปหาหมอแล้วบำบัดเลยทีเดียว การที่ชีวิตผมอยู่อย่างสงบๆและไม่ต้องทำอะไรแบบนี้มันคือชีวิตที่ผมใฝ่ฝันแล้วชอบที่สุดเลย

 

"ครอบครัวอีกแล้ว อย่าไปจำเลยครับเนอะ"หวานลูบหัวผมแล้วพูดไปด้วย ใช่ไม่ต้องจำแต่มันคือส่วนนึงในชีวิตผมนี่นาจะให้ลืมได้ยังไงกัน 

 

"เออๆรู้แล้ว เย็นแล้วเข้าบ้านเถอะเดี๋ยวจะไม่สบายนะ"ผมลุกขึ้นแล้วเดินจับมือกับหวานเข้าบ้านมา พวกเรากินข้าวที่หวานทำอืม ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ได้กินฝีมือหวานตลอดเลย ฝีมือหวานมันอร่อยมากกินมาหลายเดือนยังไม่เบื่อเลยอ่ะ

 

"อิ่มแล้วก็ไปอาบน้ำครับ เดี๋ยวผมล้างจานแล้วตามขึ้นไปนะ"หวานเก็บจานแล้วเดินหายเข้าครัวไป ส่วนผมก็เดินขึ้นห้องแล้วถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้าก่อนจะหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ผมใช้เวลาอาบน้ำแค่สิบนาที ผมเป็นพวกที่ไม่ชอบอาบน้ำนานอีกอย่างอยากนอนจะแย่แล้ว

 

พอแต่งตัวเสร็จหวานที่ล้างจานแล้วปิดบ้านเสร็จแล้วเปิดประตูเข้ามา ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูแล้วเดอนเข้าห้องน้ำไป สักพักก็ได้ยินเสียงน้ำไหลผมเช็ดผมตัวเองเสร็จแล้วเดินมานอนรอหวานที่เตียง หวานเป็นคนอาบน้ำนานแล้วผมก็เริ่มไม่ไหวแล้ว ด้วยความที่ผมพึ่งร้องไห้เลยทำให้ผมหลับไปกว่าปกติ

 

แกร๊ก

 

หวานเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วมองไปที่เตียงพอเห็นว่านัทหลับแล้วเลยเดินไปใส่เสื้อผ้าก่อนจะมาล้มตัวนอนข้างๆนัท หวานดึงหน้าขึ้นห่มให้ตัวเองและนัท ก่อนจะดึงนัทเข้ามากอด 

 

"ฝันดีครับ รักนัทนะ"เพียงไม่นานหวานก็หลับตามนัทไป

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า