#จบแล้วจ้า ข้าจะไม่คิดแค้น...ข้าจะไม่โกรธเคือง...สิ่งที่ท่านทำ ข้าจะไม่เก็บมาเป็นเพลิงสุมใจ ขอให้ระหว่างเรา 'ท่าน' กับ 'ข้า' เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันนับจากนี้...และตลอดไป...
#จบแล้วจ้า ข้าจะไม่คิดแค้น...ข้าจะไม่โกรธเคือง...สิ่งที่ท่านทำ ข้าจะไม่เก็บมาเป็นเพลิงสุมใจ ขอให้ระหว่างเรา 'ท่าน' กับ 'ข้า' เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันนับจากนี้...และตลอดไป...
10
จะไม่มีทางตายไปจากความทรงจำ
กระทั่งยามโฉ่ว [1] ร่างบางถึงรู้สึกตัวขึ้นมา... ก็พบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ ในเรือนของตัวเอง ที่อีกไม่นานก็จะกลายเป็นเพียงอดีตแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นกัน... นี่ข้ากลับเรือนมาได้อย่างไร!?” เซียวหลินหลิงพึมพำก่อนจะหยิกแขนของตนเองเพื่อพิสูจน์ว่านางไม่ได้ฝันไป
“ข้าคงละเมอเดินกลับมากระมัง...”
กระนั้น... ภาพในความฝันทุกอย่างก็ยังคงฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวของ นาง...
โดยเฉพาะใบหน้าของสตรีผู้นั้น ที่มาปรากฏตัวในความฝันตอนแรกสุดและแววตาของนาง...
นางคือผู้ใดกัน!?
พลันร่างบางก็ส่ายหัวไล่ความสงสัยออกไปพลางคิดในใจ
เจ้าจะเอาอะไรกับสิ่งที่เรียกว่าความฝันล่ะ!?
ขนาดเมื่อครู่เจ้ายังฝันว่าคนผู้นั้นจะฆ่าเจ้าซ้อนกับเขาดึงเจ้าเข้าไปกอดเลย...
ทั้งที่ในชีวิตจริงมันไม่มีทางเกิดขึ้น...
ความฝันตอนแรกก็เช่นกัน...
ไม่ว่าจะกลับมาได้อย่างไร... หรือฝันอะไรก็หาใช่เรื่องสำคัญไม่
อย่างน้อยตอนนี้นางยังมีลมหายใจอยู่... และนางก็มีเรื่องสำคัญกว่าให้คิด
จากนั้นเซียวหลินหลิงก็ลุกจากเตียงเดินเข้าไปในห้องครัว ก่อนจะเปิดเตาอบดินที่นางใช้ทำของหวานสำหรับอาหารมื้อค่ำของวันนี้เพื่อเตรียมทำขนมชิ้นใหม่
แต่แล้วก็ต้องผงะเมื่อเจอขนมที่หน้าตาเหมือนกับที่นางให้ซือหยวนซากินมิมีผิด!
ชิ้นที่ร่างสูงกินแล้วคลั่งจนหาว่านางวางยาปลุกกำหนัดเขานั่นแหละ!!
ถ้าสังเกตดีๆ นางรู้สึกว่าที่อยู่ในเตานั้นดูประณีตและมีความสูงมากกว่าชิ้นที่เขากินเข้าไปด้วย
เซียวหลินหลิงเอายามเมื่อหิมะโปรยปรายชิ้นนั้นออกมาจากเตาอบดิน แล้วคว้ามีดมาผ่าลงไปตรงกึ่งกลาง ก็พบว่าพอมีดผ่าลงไปได้ครึ่งหนึ่งก็ติดอะไรบางอย่าง
เมื่อใช้ปลายมีดเขี่ยออกดู พบว่าเป็นก้อนหินสีเทาเข้มสิบสองก้อนที่มีตัวอักษรสลักอยู่บนนั้น ซึ่งเป็นของที่นางตั้งใจทำและต้องการให้เขาได้เห็นมัน
นี่เป็นสาเหตุที่นางต้องทำให้ขนมยามเมื่อหิมะโปรยปรายมีความสูงมากกว่าปกติ เพราะเซียวหลินหลิงวางแผนเอาไว้ว่าจะให้ซือหยวนซาค่อยๆ ดื่มด่ำความอร่อยไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดอยู่ที่ก้อนหินเหล่านั้น...
เขาจะได้อ่านสิ่งที่สลักอยู่บนนั้นแล้วระลึกเรื่องราวเก่าๆ ระหว่างเขากับนางขึ้นมาได้ แต่ทุกอย่างก็พังทลาย ซ้ำสถานการณ์ยังเลวร้ายลงไปอีก...
เพื่อความแน่ใจ ร่างบางจึงลองชิมดูก็พบว่านี่คือชิ้นที่นางตั้งใจจะให้ ซือหยวนซาจริงๆ
แต่... ถ้ายามเมื่อหิมะโปรยปรายของนางยังอยู่ที่นี่ แล้วชิ้นที่เขากินเข้าไปก่อนหน้านี้เล่า...
มาได้อย่างไรกัน!?
ก่อนที่เซียวหลินหลิงจะมานั่งคิดหาสาเหตุ นางก็จัดการเอาหินทั้งสิบสองก้อนออกมา แล้วใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วยามในการทำขนมขึ้นมาใหม่
ในที่สุดก็ออกมาเป็นขนมทรงกลมแบนๆ สีขาวที่เป็นประกายวิบวับยามต้องแสงสิบสองชิ้น ที่แม้จะดูเรียบง่ายไม่อลังการเท่ายามเมื่อหิมะโปรยปรายแต่นางเชื่อว่าสามารถสื่อความได้ไม่ต่างกัน
ซ้ำขนมชนิดนี้ยังเก็บไว้ได้นานกว่าอีกด้วย! เพราะเนื้อขนมมีลักษณะแห้งไม่ชุ่มฉ่ำเท่ายามเมื่อหิมะโปรยปราย
แล้วเซียวหลินหลิงก็เอาพวกมันทั้งหมดใส่โหลแก้ว พร้อมกับนั่งเขียนจดหมายขึ้นมาสองฉบับ จากนั้นร่างบางก็ถือตะเกียงกับโหลแก้วที่มีขนมรูปร่างแบนๆ อยู่ข้างในนั้นและซองจดหมายเดินออกไปท่ามกลางความมืดมิด….
ข้ามั่นใจว่าหลังจากท่านกินขนมนี่เข้าไปแล้ว
แม้ตัวข้าจะจากไป... แต่ท่านจะไม่มีวันลืมข้าลง...
ไม่ว่าท่านจะพบรักครั้งใหม่กับสตรีนางใด... ท่านก็จะยังระลึกถึงข้าเสมอ...
เซียวหลินหลิงผู้นี้...
จะไม่มีทางตายไปจากความทรงจำของซือหยวนซา…
------------------------------------------------------------------------------
ขณะเดียวกัน
บนเตียงไม้ในเรือนว่านโซ่วจวี๋ ร่างสูงโปร่งของซือหยวนซากำลังนอนลืมตามองเพดานอยู่ เขานอนไม่หลับมาเกือบสองชั่วยาม [2] ได้แล้วกระมัง!
มิว่าจะพยายามข่มตาลงขนาดไหนก็มิเป็นผล ทั้งที่พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นไปส่งมอบงานให้ลูกค้าที่เมืองลั่วหยางแท้ๆ ด้วยตอนนี้ในใจรู้สึกสับสนว้าวุ่นไปหมด
ตัวต้นเหตุน่ะหรือ!? จะเป็นใครไปได้อีก...
นอกจากสตรีที่กำลังจะกลับจวนสกุลเก่าไปในวันพรุ่งนี้!
เซียวหลินหลิง... เจ้าเป็นคนเช่นไรกันแน่!?
คิดพลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ตอนอุ้มเซียวหลินหลิงที่กำลังนอนหลับสนิทไปส่งที่เรือนไป๋หลานฮวา...
หลังจากวางร่างของนางลงบนเตียง พร้อมกับห่มผ้าให้ ทันทีที่เขาหันหลังกลับไป...
หมับ! อยู่ๆ นางก็เอื้อมมือมาคว้าข้อมือของเขาไว้แน่น ปากก็พร่ำเอ่ยว่า
“ข้าไม่ได้ทำจริงๆ เจ้าค่ะ ท่านเชื่อข้าเถิด! ข้าไม่ได้ทำ!”
พร้อมกับร่ำไห้ออกมาไม่หยุดทั้งที่ยังอยู่ในห้วงนิทราราวกับกำลังฝันร้าย คราบน้ำตาเก่าที่ยังไม่ทันจะแห้งดีก็ถูกซ้ำเติมด้วยคราบน้ำตาใหม่ที่กำลังไหลออกมา
นางมารเช่นเจ้าก็มีมุมเช่นนี้เหมือนกันหรือ!?
ท่าทางกระสับกระส่ายของนางทำให้เขารู้สึกสงสารยิ่ง...
ครั้นจะชักมือหนีก็ทำไม่ลง...
ในที่สุดซือหยวนซาก็อดมิได้ที่จะคว้าร่างของคนที่บอกว่าเกลียดที่สุดในชีวิตขึ้นมากอดแล้วลูบหัวปลอบขวัญจนนางสงบลง จึงค่อยๆ วางร่างของเซียวหลินหลิงลงบนเตียง พร้อมกับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกประหลาดที่กำลังแล่นพล่านไปทั่วร่างกายของเขา
ซึ่ง... ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร ก่อนที่ร่างสูงจะพยายามสงบสติอารมณ์ของตน จากนั้นก็เดินกลับเรือนว่านโซ่วจวี๋ของตนเองไปกับจุ้นเผิง...
และมาถึงตอนนี้...
เขาเพิ่งรู้ว่าไอ้ความรู้สึกนั่นก็ยังอยู่เหมือนเดิม...
ไม่ว่าจะขับไล่ออกไปอย่างไร ข่มใจแค่ไหน มันก็ไม่หายไปเลยแม้แต่น้อย...
มารดามันเถิด! เขาไม่น่าทำเช่นนั้นเลย!
แค่อุ้มไปส่งที่เรือนก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไยต้องใจอ่อนกอดนางด้วย!
นางจะนอนฝันร้าย กระวนกระวาย กระสับกระส่ายจนกลิ้งตกเตียงก็เรื่องของนางสิ!!
ตั้งสติหน่อยหยวนซา!! อย่าได้ตกหลุมพรางนางอีก!!
ที่รู้สึกเมื่อครู่มันก็แค่อารมณ์สงสารชั่ววูบของเจ้า!!
อย่าลืมสิ! ที่ผ่านมานางเป็นคนเช่นไร นางทำอะไรกับเจ้าไว้บ้าง!!
สิ่งที่นางได้รับก็สมควรแล้ว!!
เลิกคิดมากแล้วนอนเสีย!
------------------------------------------------------------------------------
หลังจากร่างบางจัดการโหลแก้วที่อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว นางก็ถือตะเกียงตรงไปที่เรือนต้าลี่ฮวา [3] ของซือหยินซู แล้วเอ่ยเรียกชื่อของบ่าวชายที่กำลังนอนหลับสบายอยู่หน้าเรือน
“จิ้งเกา!”
“หือ...” จิ้งเกาค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินคนเรียกชื่อของตน เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบร่างเล็กๆ ของเซียวหลินหลิงยืนอยู่
ที่จิ้งเกามานอนหน้าเรือนใช่ว่าไร้ที่อยู่ แต่เป็นความประสงค์ของเขาเองที่อยากเฝ้าเรือนให้ผู้เป็นนายประดุจสุนัขที่แสนดีและเผื่อคุณหนูเซียวผู้นี้อยากติดต่อกับคุณชายรอง จะได้ไม่ต้องตามหาตัวเขายาก
“ดึกดื่นป่านนี้... คุณหนูเซียวมีอะไรหรือขอรับ!?”
“ข้ารบกวนเจ้าส่งจดหมายนี้ไปให้พี่รองได้หรือไม่!?” ร่างบางพูดพลางยื่นจดหมายสองฉบับให้
“ขอรับ” อีกฝ่ายรับไปอย่างรู้หน้าที่ เพราะที่ผ่านมาเซียวหลินหลิงกับ ซือหยินซูก็แอบส่งจดหมายหากันประจำ บางทีก็ฝากคุณชายรองส่งจดหมายต่อให้คุณชายใหญ่ หรือบางคราก็มีการฝากของไปให้ด้วย
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คุณชายรองจะรู้ถึงความสัมพันธ์ของน้องชายแท้ๆ กับน้องสะใภ้มาตลอด ว่ามันง่อนแง่นคลอนแคลนขนาดไหน
จนกระทั่ง... สุดท้ายลงเอยกันด้วยการหย่า...
แต่ตัวของจิ้งเกาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทั้งคุณชายรองกับคุณชายใหญ่ถึงได้ให้ความสำคัญกับนางนัก...
มากกว่าผู้ที่เป็นสามีของนางเสียอีก!
รายนั้น... หากคุณหนูเซียวไม่เป็นฝ่ายไปหา ก็ไม่เคยเฉียดกายมาใกล้เรือนไป๋หลานฮวาเลย ถ้าจะพูดให้ถูก... แค่หางตายังไม่มองมาที่หน้าของนางเลยด้วยซ้ำ!
เอาเป็นว่าสาเหตุจะมาจากอะไร ข้าขอไม่รับรู้ละกัน จิ้งเกาผู้นี้มีหน้าที่เพียงแค่ส่งจดหมายเท่านั้น... นอกนั้นข้าพเจ้าจะไม่ยุ่ง...
“ที่ผ่านมา... ขอบใจมากนะ” ร่างบางเอ่ยขอบคุณ พลางยื่นไป๋ถางกาวที่นางทำเตรียมไว้ให้อีกฝ่าย ทันทีที่เห็นขนม เขาก็พูดต่อในใจทันที...
อ้อ! ขอเสริมอีกข้อนึง...
คุณหนูเซียวทำขนมอร่อยมาก... ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้อื่นไม่ชอบ
แต่ช่างเถอะ... แค่ของข้ากับคุณชายรองอร่อยก็พอแล้ว!!
“ขอรับ ขอบพระคุณคุณหนู”
หลังจากจิ้งเการับขนมไปแล้ว เซียวหลินหลิงก็หมุนตัวกลับไปที่เรือนของตน
ส่วนจิ้งเกาที่รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้คุณชายรองของตนอยู่ที่ใด ก็ได้ออกเดินทางไปส่งจดหมายทันทีด้วยวิชาตัวเบาที่ไร้ผู้ล่วงรู้ว่าบ่าวต่ำศักดิ์เช่นเขาจะมีมัน...
และที่ที่เขากำลังมุ่งหน้าไปคือ...
หอหนานเมิ่งฮวา...
หอบุรุษเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเป่ยฟาง...
หอบุรุษที่มีระบบเหมือนหอนางคณิกาทุกประการ เพียงแต่ผู้ให้บริการคือชายงาม และผู้มาหาความสำราญส่วนมากเป็นอิสตรี!
[1] ยามโฉ่ว = ช่วงเวลา 01.00 – 02.59 น. โดยประมาณ
[2] ชั่วยาม = เวลา 1 ชั่วยามเทียบเท่าเวลาสากล 2 ชั่วโมง
[3] ต้าลี่ฮวา = ดอกรักเร่
Writer: ยินดีด้วยหลิงเอ๋อร์ หนูไม่ได้ฝัน เขากอดหนูจริงๆ
ปล.นี่พยายามย่นในส่วนที่ไม่ค่อยสำคัญแล้วน้า เรื่องมันก็เลยจะดูเเบบตัดไปตัดมา กลัวคนอ่านเบื่อ TwT
แต่ถ้าไม่ย่นดูจากผังเนื้อเรื่องที่ตัวเองเขียนแล้ว.. กว่าจะจบก็ปาไป 50 กว่าตอน
[สามพี่น้องตระกูลหาน] แต่งกับเจ้าแล้วไง! ข้าก็ไม่ได้รักเจ้าเสียหน่อย!
คู่นี้สปาร์คกันไวมาก 6 ตอนแต่งเลย ตอนนี้เปิดให้อ่านตอนไฮไลท์ฟรีด้วยน้า ถึงวันที่ 15//ขายตรง55555555
ร่วมพูดคุยกันได้ที่ Han Yu หานยวี่ น้า ระหว่างนี้ขอฝากนิยายแนวกำลังภายในไว้ให้ไปอ่านเล่นกันพลางๆ เน้อ ยุทธภพไร้ใจ แต่ตัวข้าไม่ไร้รัก (ตอนนี้ก็กำลังเพิ่มเติมเนื้อหาอยู่)