Your Wishlist

ทางใครทางมัน! เราหย่ากันแล้ว! [สามบุพเพสกุลซือ] (48:การมาเยือนที่ไม่คาดฝัน)

Author: หานยวี่

#จบแล้วจ้า ข้าจะไม่คิดแค้น...ข้าจะไม่โกรธเคือง..สิ่งที่ท่านทำ ข้าจะไม่เก็บมาเป็นเพลิงสุมใจ ขอให้ระหว่างเรา 'ท่าน' กับ 'ข้า' เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันนับจากนี้...และตลอดไป...

จำนวนตอน : N/A

48:การมาเยือนที่ไม่คาดฝัน

  • 28/04/2564

48

การมาเยือนที่ไม่คาดฝัน

 

สองวันต่อมา ประตูจวนสกุลซือก็ได้เปิดต้อนรับเซียวหลี่เจี๋ยและกังเหมยกุ้ย ซึ่งการมาเยือนของคนทั้งคู่สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนในจวนไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม... ซือห้าวโจวก็ได้ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี โดยจัดให้คนทั้งคู่พักอยู่ที่เรือนจีกวานฮวา[1] อันเป็นเรือนรับรองแขก

และคนที่ประหลาดใจที่สุด เห็นทีจะไม่พ้นซือหยวนซาที่ก่อนหน้านี้หลังจากสร่างเมา ได้ใช้วิชาตัวเบาพาตัวเองไปที่จวนสกุลเซียวอีกครั้ง หมายจะสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องของเซียวหลินหลิง แต่เซียวหลี่เจี๋ยก็ไม่ให้เข้าพบ ด้วยเหตุผลที่ว่าตอนนี้กำลังป่วยหนักต้องการพักผ่อน

ส่วนกังเหมยกุ้ยกับเซียวฟางชุนก็หาได้มีใครยอมมาพูดคุยกับเขาไม่!

กระนั้นซือหยวนซาก็คิดว่าจะต้องหาโอกาสแวะไปอีกให้ได้ เพื่อจะได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ ตามที่โบราณได้กล่าวไว้ว่า...

ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก!

ขนาดในตำราประวัติศาสตร์ที่เคยอ่าน สมัยราชวงศ์ฮั่นเมื่อนานมาแล้ว ยังมีเหตุการณ์ที่วีรบุรุษนามหลิวเป้ยลงทุนบุกป่าขึ้นเขาฝ่าหิมะไปพบจูกัดเหลียงถึงสามครั้งสามคราเพื่อให้ได้ตัวมาใช้สอยในกองทัพเลย

นับประสาอะไรกับระยะทางระหว่างเมืองลี้รัวและเป่ยพูที่เขาใช้วิชาตัวเบาเทียวไปเทียวมาได้สบายๆ

แม้หลายวันก่อน จะพยายามบอกตัวเองว่าเรื่องบางเรื่องไม่ควรรู้แท้ๆ แต่สุดท้ายก็แพ้ความอยากของตนเองจนได้! 

ทว่ามิคิดว่าทางนั้นจะเป็นฝ่ายเดินทางมาหาเขาเอง...

“ที่มาวันนี้เพราะข้าใคร่อยากพูดคุยเรื่องของเซียวหลินหลิง... มิทราบว่าทุกคนสะดวกหรือไม่ขอรับ!?” หลังจากเอ่ยทักทายเจ้าบ้านพอหอมปากหอมคอแล้ว เซียวหลี่เจี๋ยที่ตอนนี้สีหน้ามีเลือดฝาดผิดกับวันก่อนๆ ก็แจ้งความประสงค์ของตนเองทันที

“พวกข้าก็ใคร่อยากคุยกับท่านเรื่องของนางพอดี... แสดงว่าพวกเราใจตรงกันยิ่ง!” ซือห้าวโจวกล่าว...

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 

ขณะเดียวกัน ตัวเมืองเฉียว

“ข้าลงสูงเจ้าค่ะ!!” เซียวหลินหลิงเอ่ยด้วยท่าทางมั่นใจ ทันทีที่คนอื่นๆ เห็นก็พากันลงตาม เพราะนี่ก็เป็นรอบที่ห้าแล้วที่นางเดิมพันถูกตลอด

“สูงอีกแล้วหรือเจ้าคะ? แต่นี่ก็สูงมาติดกันสี่รอบแล้วนะเจ้าคะ” เจินเจินที่นั่งอยู่ข้างๆ กระซิบ แต่เซียวหลินหลิงก็ยังยืนกรานว่าจะลงสูง มีเพียงรอบแรกที่นางลงต่ำ หลังจากนั้นก็ลงสูงมาตลอด และแน่นอนนางได้เงินคืนทุกรอบ

“เฮ้ย! งั้นข้าลงสูงด้วย”

“ข้าเอาด้วยๆ”

“สูงๆๆๆๆ”

“สรุปลงสูงกันหมดสินะ...” เจ้ามือพูด เมื่อเห็นทุกคนพยักหน้าแล้วเอาเงินออกมาวางไว้ ก็เขย่าลูกเต๋าเพื่อเสี่ยงทายผล ปรากฏว่าผลออกมาเป็นสูง!

“เยี่ยมๆๆๆ”

“เฮ!” ชาวบ้านทุกคนส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ พร้อมกับโกยเงินที่ได้รับเข้าถุงเงินของตน หนึ่งในนั้นหันมาพูดกับเซียวหลินหลิงว่า

“แม่นางนี่เป็นสตรีนำโชคแท้ๆ เลย”

“ฮึ่ย! พูดมากกันอยู่นั่นแหละ จะลงอะไรก็ลงมา!” เจ้ามือเอ่ยด้วยความเจ็บใจพลางมองไปที่ร่างบางซึ่งมีผ้าโพกหัวปิดบังใบหน้าท่อนล่างไว้ นางมีตาทิพย์หรืออย่างไร!? ถึงรู้ว่าผลจะออกสูงหรือต่ำ

“ต่ำเจ้าค่ะ!” เซียวหลินหลิงเอ่ย

“ต่ำด้วยๆ”

“ต่ำๆๆๆๆ”

“ทุกคนต่ำข้าก็ต่ำ!”

และแล้วผลที่ออกมาก็คือ… ต่ำ!!!

“เฮ!!!” ทุกคนยกเว้นเจ้ามือส่งเสียงดีใจกันอีกครั้ง

“ตาต่อไปข้าขอเดิมพันสามเท่าเจ้าค่ะ!” เซียวหลินหลิงพูดพลางหันไปถามเจินเจิน

“เจ้าล่ะ!?”

“เท่าเดียวก็พอแล้วเจ้าค่ะ” ร่างบางพยักหน้ารับ ก่อนจะกล่าวกับเจ้ามือว่า

“ข้าลงสูง!”

“แม่นางคนนี้ลงสามเท่า ข้าลงห้าเท่าเลย เอ้า! ลงสูง” เมื่อเห็นเซียวหลินหลิงลงสูงแถมเพิ่มเดิมพันคนอื่นๆ ก็ทำตาม

“ข้าลงสูงแปดเท่า!”

“ข้าลงสูง! ขอเดิมพันหมดหน้าตัก!”

“สูงๆๆๆๆ” ทุกคนเอ่ยด้วยแววตาเป็นประกาย ขณะที่ลูกเต๋ากำลังจะหยุดหมุน

ทว่าคราวนี้ผลที่ออกมากลับ…

“ต่ำ!!!” แล้วชาวบ้านทุกคนก็หันไปมองหน้าเซียวหลินหลิง

“ไหงคราวนี้มันไม่ออกสูงล่ะแม่นาง!?”

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันเจ้าค่ะ...” ร่างบางเอ่ยด้วยท่าทางเลิ่กลั่กพลางยกมือขึ้นมาเกาหัวแก้เก้อ

“เซ็งชะมัด... ข้าก็ดันลงไปห้าเท่า... ที่ได้มาในตอนแรกเสียคืนหมดเลย”

“เจ้ายังดีไม่ได้ไม่เสีย ข้านี่สิ! ขาดทุนยับ...”

“ฮือ... กลับบ้านไป เมียต้องฆ่าข้าแน่เลย!”

“สามีข้าต้องบ่นจนหูชาแน่ๆ”

หลังจากทุกคนโอดครวญกันจนหนำใจในความขาดทุนของตน เจ้ามือก็ถามว่า

“เอาล่ะ มีใครจะเล่นต่อไหม!?”

“ข้า”

“ข้า”

เกือบทุกคนยกมือ เว้นแต่เซียวหลินหลิงและเจินเจิน

“วันนี้ข้าพอแค่นี้ดีกว่า ขอตัวก่อนล่ะ...” ร่างบางพูดพลางลุกขึ้นเดินออกไปกับเจินเจิน โดยมีชาวบ้านบางคนเอ่ยไล่หลัง

“อ้าวไปแล้วหรือ โชคดีนะแม่นาง”

“โธ่! ไม่เอาน่า แพ้ครั้งเดียวถึงกับเลิกเล่นเลยหรือ!?” เมื่อออกมาจากโรงพนันแล้ว เจินเจินก็ทำท่าจะเอ่ยถาม แต่ผู้เป็นนายก็ชิงตอบเสียก่อน

“ข้ารู้... รอบสุดท้ายข้าจึงเดิมพันสามเท่าอย่างไรเล่า และเมื่อครู่ถ้าชนะได้มาสามเท่า ตาต่อไปข้าก็จะเดิมพันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะแพ้”

“อ... เอ๋...”

“ถ้าเราเล่นทีไรก็มีแต่ได้ตลอด ต่อไปผู้ใดจะอยากให้เราเล่นกัน...”

“จริงด้วยเจ้าค่ะ! แต่ว่า... ถ้าปอ[2]ไม่ต้อนรับ พวกเราไปตีไก่กันแทนก็  ได้...” เจินเจินเอ่ยด้วยสีหน้าระรื่น ไหนๆ คุณหนูก็หลุดออกมาจากจวนสกุลเซียวแล้ว พาไปเปิดหูเปิดตากับอะไรที่คุณหนูไม่ค่อยได้เห็นดีกว่า

“ข้าว่าข้าพอแล้วดีกว่า เล่นบ่อยๆ เดี๋ยวจะติด...” เซียวหลินหลิงตอบ สองสามวันมานี้ที่มาเล่นปอก็แค่อยากลองเปิดหูเปิดตากับอะไรใหม่ๆ เฉยๆ เพราะนางรู้ว่าการพนันไม่เคยทำให้ผู้ใดร่ำรวยได้อย่างแท้จริง ดูอย่างพวกชาวบ้านที่พากันลงเป็นห้าเท่าสิบเท่าสิ...

ทั้งที่เสียไปขนาดนั้นแล้ว ก็ยังจะเล่นต่อกันอีก…

ฟิ้ว~~ พลันก็มีสายลมแรงพัดวูบมา ทำให้ผ้าที่เซียวหลินหลิงโพกอยู่บนหัวและใช้ปิดใบหน้าท่อนล่างไว้ปลิวหลุดไป

“ผ้าข้า!” ร่างบางเอ่ยเสียงดังก่อนรีบใช้สองมือปิดหน้า แล้วก้มหัวลงต่ำ ด้วยไม่อยากให้ใครเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของนาง

“ไม่เป็นไรนะเจ้าคะคุณหนู... พวกเรากลับบ้านกันเถอะเจ้าค่ะ... ค่อยๆ เดินนะเจ้าคะคุณหนู...” เจินเจินกระซิบข้างหูผู้เป็นนาย ก่อนจะประคองคุณหนูของตนให้เดินไปด้วยกัน

โธ่! หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ชวนคนอื่นมาด้วยก็ดี จะได้มีคนไปเก็บผ้าให้...

ทว่า... พอทั้งสองคนเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีน้ำเสียงทุ้มนุ่มของบุรุษผู้หนึ่งดังมาจากข้างหลัง

“ช้าก่อน! แม่นางสองคนนั้น...”

“มีอะไรหรือเจ้าคะ!?” เมื่อเจินเจินหันกลับไปดูก็พบกับบุรุษผิวขาว  เจ้าของร่างสูงโปร่งในอาภรณ์สีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าคมรับกับดวงตาเฉี่ยวสีดำสนิท ในมือถือผ้าแพรสีม่วงอ่อนที่เพิ่งปลิวจากหัวเซียวหลินหลิงไปเมื่อครู่ไว้ และกำลังยืนมองมาที่พวกนางพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า...

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“ที่แท้เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้...” เซียวหลี่เจี๋ยเอ่ยหลังจากฟังเรื่องราวทุกอย่างจากฝั่งของสกุลซือ

“ข้าขออภัยที่เข้าใจคุณชายสามผิดมาตลอดเจ้าค่ะ” เหมยกุ้ยเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด

“ข้าก็ต้องขออภัยท่านน้าทั้งสองด้วยขอรับ... ที่ตลอดสามปีที่ผ่านมา ข้ามิอาจทำหน้าที่เป็นสามีที่ดีได้”

“ข้าก็ต้องขอโทษเช่นกัน... ที่ผ่านมาข้ามองหลินหลิงผิดไปจริงๆ ทำให้เสียลูกสะใภ้ดีๆ คนหนึ่งไป แต่อย่างน้อยได้รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่ ข้าก็ดีใจแล้ว” ซือเหลียนฮวาพูดพร้อมกับแววตาที่ฉายประกายความยินดีออกมา

“มิเป็นไร... ข้าเข้าใจว่าสิ่งที่บุตรีข้าทำเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมหันต์... แค่พวกท่านรับนางเข้าสกุลก็มิรู้จะขอบคุณอย่างไรแล้ว...” เซียวหลี่เจี๋ยกล่าวด้วยความตื้นตันใจ แล้วทรุดตัวลงคุกเข่าบนพื้นพลางเอ่ยกับทุกคนว่า

“ข้ามีเรื่องจะสารภาพกับพวกท่าน...” ก่อนจะเล่าเรื่องที่ตัวเองเป็นคนลงมือสังหารเซียวหลินหลิงเพราะความหลงผิด และท้ายที่สุดกังเหมยกุ้ยก็ได้ให้คนมาพานางหนีไปให้ทุกคนฟัง

“และเพราะตอนนั้นคิดว่าคุณชายสามมาเพื่อดูว่าพวกมือสังหารทำงานสำเร็จหรือไม่ ข้าจึงเลี่ยงที่จะเอ่ยเรื่องมือสังหารกับคุณชายสาม...” เซียวหลี่เจี๋ยกล่าวท่ามกลางความตกใจของทุกคน จากนั้นก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา... ตั้งแต่ที่ข้าทำมันลงไป... ข้าไม่เคยได้อยู่สุขสบาย ข้าตรอมใจจนต้องนอนติดเตียงตลอดเวลา... กระทั่งข้าทำข้อตกลงกับเพียนฝาง นางถึงยอมเปิดปากเล่า... แต่ก็ไม่ยอมบอกอยู่ดีว่าพวกบ่าวพาบุตรีของข้าหนีไปที่ใด”

“มิผิดเจ้าค่ะ... เพราะข้าเป็นคนขอร้องให้พวกเขาทำเช่นนั้น ทั้งยังกำชับนักหนาว่าอย่าไปบอกใคร หากข้าเล่าก็เท่ากับว่ากลืนน้ำลายตัวเองหักหลังทุกคน... แต่ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทั้งห้าคนนั้นทำสำเร็จหรือไม่... เมื่อได้คำยืนยันจากท่านจึงแน่ใจว่าอย่างน้อยนางก็ยังไม่ตาย...” เหมยกุ้ยกล่าวเสริม

“ที่มาที่นี่คราแรกข้าตั้งใจว่าจะมาเอาเรื่องคุณชายสาม ก่อนที่ข้าจะ   ไปจัดการกับอินเฟยหย่าและมอบตัวกับทางการ แต่ตอนนี้... อย่างแรกก็ไม่ต้องแล้ว... ขอบคุณพวกท่านมากที่ทำให้ข้าได้รู้ความจริง...”

“ขอบคุณท่านเช่นกันที่กล้าสารภาพออกมา...” ซือห้าวโจวกล่าว

“พวกท่าน... จะไม่ติเตียนหรือรังเกียจข้าเลยหรือ? ที่รู้ว่าข้า... เป็นคนลงมือ...” เซียวหลี่เจี๋ยถามด้วยความแปลกใจ ที่ทุกคนยังคงมีท่าทีปกติกับตน

“ข้าจะไปว่ากระไรท่านได้... ในเมื่อตอนที่นางยังอยู่ การกระทำทุกอย่างที่ข้าทำกับนางก็ไม่ต่างอะไรกับนางตายไปแล้ว...” ซือเหลียนฮวาพูดพลางแววตาหมองลง

“ข้าก็เหมือนท่านแม่ขอรับ... และท่านน้าก็สำนึกผิด ทั้งได้รับผลจากสิ่งที่ทำไปแล้ว จึงไม่มีเหตุให้ข้าต้องซ้ำเติมท่านน้าอีก” ซือหยวนซาเอ่ย

“แน่นอนข้านึกตำหนิ แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลข้าก็เข้าใจ... ธรรมดาของความรักที่มักทำให้คนตาบอด...” ซือห้าวโจวกล่าว

“เช่นนั้น ขอทุกคนโปรดรับการคำนับจากข้าด้วย” เซียวหลี่เจี๋ยพูดพร้อมกับก้มลงคำนับครอบครัวสกุลซือ แล้วเอ่ยต่อ

“ข้าก็ไม่มีอะไรค้างคาแล้วล่ะ... ขอพักที่นี่สักวันแล้วพรุ่งนี้ข้าจะเดินทางกลับจวนสกุลเซียว เพื่อไปจัดการเรื่องทุกอย่างให้เสร็จสิ้น”

“เช่นนั้นก็เชิญพวกท่านพักผ่อนตามสบายเถิด พวกเราขอตัวก่อน เดี๋ยวมื้อเย็นข้าจะให้คนจัดสำรับมาให้ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้” ซือห้าวโจวเอ่ย

“ขอบคุณท่านมาก” เซียวหลี่เจี๋ยพูด

“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ” กังเหมยกุ้ยกล่าว

ก่อนที่ประมุขสกุลซือจะเดินออกไปจากเรือนจีกวานฮวา ในขณะที่ซือ เหลียนฮวากับผู้เป็นบุตรชายคนสุดท้องก็กำลังค้อมหัวให้ผู้มาเยือนทั้งสอง

พลันซือหยวนซาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเอ่ยกับกังเหมยกุ้ยว่า...

 

 

[1] จีกวานฮวา = ดอกหงอนไก่

[2] ปอ = การพนันประเภทลูกเต๋าของจีนโบราณ ส่วนวิธีเล่นนักเขียนอาศัยการจินตนาการเอานะคะ

 

Writer:ทั้งสองบ้านก็เข้าใจกันแล้วนะคะ

เบื้องลึกของน้องหลินหลิง ยุทธภพไร้ใจ แต่ตัวข้าไม่ไร้รัก (ตอนนี้ก็กำลังเพิ่มเติมและแก้ไขเนื้อหาสำนวนภาษาอยู่)

และถ้าใครยังคิดว่าเรื่องนี้ยังฮาร์ดคอร์ไม่สุด ต้องพบกับ หัวเราะทีหลังดังกว่า!! เลยค่า ^_^ ความดราม่าอาจไม่เท่า แต่เนื้อเรื่องไม่เป็นรองใครแน่นอน!

ร่วมพูดคุยกันได้ที่ Han Yu หานยวี่ น้า

ปล.สำหรับคนชอบอ่านเรื่องสั้นๆ ปมไม่ซับซ้อนนะคะ

[สามพี่น้องตระกูลหาน] แต่งกับเจ้าแล้วไง! ข้าก็ไม่ได้รักเจ้าเสียหน่อย!

คู่นี้สปาร์คกันไวมาก 6 ตอนแต่งเลย จริงๆ คือโดนจับแต่ง555555 เฮฮา จิปาถะ puppy love xD

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า