จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
กึก ! เสียงลูกบิดประตูห้องน้ำดังขึ้นหนึ่งที ก่อนที่มันจะค่อยๆเปิดออก นั่นทำให้พริซเซียร่าถึงกับตกใจ เขาเปิดมันได้ยังไง!!
"ยะ...อย่าเข้ามานะอิสลุน" พริซเซียร่ากรูถอยตัวออกห่างจากร่างสูงที่ทำท่าย่างสามขุมเข้ามาใกล้เธอทีละนิดอย่างใจเย็น
"คุณทำท่าเหมือนผมเป็นคนอื่นพริซเซียร่า" อัสมานขมวดคิ้วเข้าหากันสายตามองหญิงสาวนิ่งมีแววตาหลากหลายส่งผ่านไปยังดวงตาหวาน ที่มองเขาด้วยความตื่นกลัว
"อย่าเข้ามานะ...ฉันสู้ตาย" พริซเซียร่าคว้าหลอดยาสีฟันขนาดกลางยกขึ้นสูงเพื่อข่มขู่ชายตรงหน้า
"พอแล้วพริซ...ผมไม่ทำอะไรคุณแล้ว...มาวันนี้ผมรู้แล้ว...คุณลืมความรักของเราได้ไวจริงๆ..." อัสมานมองหญิงสาวที่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวก่อนน้ำตาลูกผู้ชายจะไหลออกมา
"ใช่...ฉันลืมหมดแล้วฉันพยายามจะลืมทุกอย่างให้หมด" พริซเซียร่า จำต้องพูดจารุนแรงออกไปเพื่อให้เขาเลิกยุ่งกับเธอเสียที หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเธอคงไม่สามารถอยู่ได้หากขาดเขา ถ้าวันนี้เธอยอมรับความสัมพันธ์รักจากเขาอีกครั้งเธอคงต้องตายตกไปเพราะตรอมใจเป็นแน่
"......." อัสมานนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่เขาพยายามกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายเอาไว้ ก่อนจะลูบมันออกอย่างลวกๆแล้วหุนหันพรวดพราดออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
เหมือนถูกกระชากวิญญาณ หัวใจของเธอกระตุกวูบจนแทบไม่มีแรงจะยืน อาการหายใจหอบถี่เนื่องจากหัวใจเต้นเร็วผิดจังหว่ะ จนเธอต้องเอามือขึ้นทาบอกเอาไว้ เขาไปแล้ว...เขาจากเธอไปตลอดกาล....เธอต้องเสียเขาไปจริงๆ เหมือนรู้ตัวพริซเซียร่ารีบคว้าเสื้อคลุมมาคลุมร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากห้อง แต่ไม่ทันเสียแล้วเธอไม่พบแม้เงาของเขา
"อิสลุน....อิสลุน" พริซเซียร่าตะโกนเรียกชื่อเขาแต่ก็ไร้ประโยชน์ในเมื่อเขาไม่อยู่แล้ว
"ฮืออออ.....ฮือออออ...กลับมา.....กลับมาก่อน...ฉันรักคุณ...ฮืออ...ฮืออ...อย่าไป...ได้โปรดอย่าไปนะที่รัก...ฮือออ...ฮือออ..." ร่างกายเหมือนอ่อนแรงพริซเซียร่าถึงกับหมอบตัวลงกับพื้น เสียงร่ำไห้ของเธอดังกึกก้องไปทั้งชั้น
มาตินได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้คล้ายเสียงของพริซเซียร่า จึงทำให้เขารีบเปิดประตูห้องออกมา ก็พบว่าพริซเซียร่านั่งหมอบร้องไห้อยู่ตรงทางเดินทำให้เขารีบวิ่งเข้ามาประคองเธอทันที
"พริซ...พริซ...คุณเป็นอะไรไป" มาตินถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นพริซเซียร่าร้องไห้โฮออกมาแบบนี้
"เขาไปแล้ว...มาร์ค...เขาไปแล้วจริงๆ.....ฮืออ...ฮืออ...ฮือออออ" พริซเซียร่ายกสองมือขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้พร้อมปล่อยโฮออกมาอีกครั้งนั่นยิ่งทำให้มาตินยิ่งตกใจ
"ใจเย็น ๆ พริซ...คุณเป็นอะไร...คุณเป็นอะไร" มาตินพยายามเขย่าตัวพริซเซียร่าเพื่อเรียกสติของเธอให้กลับมา แต่เธอเอาแต่ร้องไห้โดยไม่พูดอธิบายอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น
"พริซ...ใจเย็นๆ...เข้าห้องก่อน...ใจเย็นๆ พริซ" มาตินประคองร่าง พริซเซียร่าที่แทบไม่มีแรงเดินให้กลับเข้าห้องพัก ทันทีที่ถึง เขาปล่อยให้ พริซเซียร่าร้องไห้ไปกับหมอนหนานุ่มพักใหญ่ เมื่อร่างบางร้องไห้ออกมาจนพอใจแล้วเขาจึงบอกให้เธอพักผ่อนเสีย
"ผมจะไม่ถามคุณตอนนี้นะพริซว่าคุณร้องไห้ทำไม...ถ้าสบายใจ ที่จะเล่าเมื่อไรผมพร้อมรับฟังเสมอนะพริซ" มาตินเดินไปกอดให้กำลังใจ พริซเซียร่าก่อนที่ตัวเขาจะออกจากห้องไป
"ขอโทษนะมาร์ค...ฉันบอกอะไรคุณไม่ได้ตอนนี้...ฉันเจ็บเหลือเกิน"
"ฉันกำลังจะทำใจให้ลืม...แต่นายกลับมาทำแบบนี้...มาหึงมาหวงฉันแบบนี้...นายต้องการอะไร...อยากให้ฉันตายหรือไงห๊ะ" ความเจ็บคูณสองจากคนรักทำให้พริซเซียร่ารู้สึกเหมือนโดนอะไรเข้ามาพุ่งชนหัวใจเธออย่างจัง มันจุกแน่นในอกเหมือนโดนทับด้วยภูเขา อาการเจ็บแปล๊บที่หัวใจ เธอไม่เคยคิดว่า คนอกหักฆ่าตัวตายได้จะมีอยู่จริงถ้าหากไม่เกิดกับตัวเอง เพียงไม่กี่วันเขาทำให้เธอรักได้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ ความต้องการอยากเคียงคู่ไปจนแก่เฒ่านั้นมีอยู่เต็มหัวใจอยู่แล้วแต่ทว่ามันไม่สามารถเป็นไปได้ ความเจ็บนี้เธอจะทำอย่างไรดีเมื่ออยู่ใกล้ก็เจ็บปวด เมื่อห่างไกลก็โหยหา
"อิสลุน...ฉันรักนาย...ฉันรักนาย"
พริซเซียร่าบอกย้ำซ้ำ ๆ กับตัวเองว่าอย่าเผลอไผลไปกับรอยจูบ รสรักของเขา เธอยอมรับว่าแม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ที่ได้อยู่กับเขาแต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอมีความสุขเหลือเกิน เธออิ่มเอมใจทุกครั้งที่ได้นอนมองชายหนุ่มในยามหลับใหล ได้ฟังน้ำเสียงนุ่ม ๆ ของเขา ใบหน้าหล่อเหลาอย่างชายอาหรับทำให้พริซเซียร่าคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์เหลือเกิน ดวงตาคมโต จมูกโด่งเป็นสันได้รูป ริมฝีปากหยักสวย หลายครั้งที่เธอเหมือนต้องมนต์สะกด เมื่อสุขที่สุดก็ทุกข์ที่สุด เขาเพียงคนเดียวที่ทำให้เธอขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ได้ทั้งนั้น
ณ ห้องประชุมของฮัสเบรนพริซเหล่าบรรดาผู้บริหารระดับสูง และระดับกลาง ต่างพากันมานั่งรอหุ้นส่วนคนใหม่และผู้บริหารคนใหม่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง นับได้ว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัทเลยก็ว่าได้ อีกคนคือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งดูไบ ส่วนอีกคนก็เป็นลูกสาวของกรรมการผู้จัดการคนเก่า ซึ่งเดิมบริสจอนท์โต่เน่ได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แต่เมื่อเขาขายหุ้นทั้งหมดให้กับอัสมานแล้วบริษัทแห่งนี้ก็เท่ากับว่ามีอัสมานเป็นเจ้าของร่วมกันกับพริซเซียร่านั่นเอง
ร่างบางสวมชุดสูทสีเทาเนื้อดี เดินเข้ามายังห้องประชุม ทุกสายตาจับจ้องมายังเธอเป็นทางเดียวเนื่องจากเธอสวมแว่นตาสีดำแบรนด์ดังเข้ามาพร้อมกับริมฝีปากแดงอวบอิ่ม ภายนอกทำให้เธอดูเหมือนคนมั่นใจ ปนเซ็กซี่เล็ก ๆ แต่แท้จริงไม่เป็นเช่นนั้นเลย เมื่อคืนเธอร้องไห้หนักทั้งคืนจนตาบวมแทบจะปิดจึงต้องใส่แว่นดำเพื่ออำพราง ส่วนริมผีปากที่ต้องทางสีสันจัดจ้านเช่นนี้เพราะเธอต้องการปกปิดรอยแดงรอบริมฝีปากที่ถูก อัสมานจูบหนักหน่วงจนมันบวมเห่อขึ้นมา การใส่เสื้อสูทและเสื้อคอเต่าไว้ด้านในก็เพื่อปกปิดรอยรักที่ยังคงปรากฎรอบลำคอให้เห็นชัดเจน
"คุณพริซเซียร่าใช่ไหมครับ...เชิญนั่งตรงนี้ครับ" หนึ่งในพนักงานต้อนรับรีบเดินออกมาต้อนรับและพาเธอไปประจำที่นั่ง
"ฉันนั่งนี่เหรอคะ...." พริซเซียร่าเอ่ยถามขึ้นเพื่อความแน่ใจ
"ครับคุณจะนั่งข้างคุณอัสมานครับ" พนักงานต้อนรับพยักหน้ารับพร้อมบอกว่าเธอจะมีใครอีกคนมานั่งข้าง ๆ
"อ๋อค่ะ.."
พริซเซียร่ามองไปรอบ ๆ ห้องประชุม ทุกคนต่างลอบมองเธออยู่ไม่ขาดสายตา เมื่อเธอหันไปทางไหนก็พบว่ามีสายตาประสานตาอยู่เสมอ
'มองอะไรกัน...ทำไม...ฉันแต่งตัวแปลกงั้นเหรอ...ปกติฉันไม่แต่งตัวแบบนี้หรอกนะ...วันนี้มันจำเป็นนี่' พริซเซียร่าคิดในใจ ทันใดนั้นทุกคนในห้องประชุมต่างพากันลุกขึ้นยืน พริซเซียร่ามองด้วยความแปลกใจแต่ก็ลุกขึ้นยืนตาม
"สวัสดีครับ....คุณอัสมาน"
ทันทีที่ร่างสูงก้าวเข้ามาภายในห้อง ก็ทำเอาหัวใจของพริซเซียร่ากระตุกวาบ ก่อนจะอุทานออกมาเบา ๆ "อิสลุน"
"สวัสดีครับทุกท่าน....เชิญนั่งเถอะครับ" อัสมานยิ้มให้กับคณะผู้บริหารทุกคนก่อนจะหันมายิ้มให้พริซเซียร่าที่ยังยืนอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่
"สวัสดีครับคุณพริซเซียร่า" อัสมานเอ่ยทักทายหล่อนก่อนจะที่จะนั่งลงข้าง ๆ
"วันนี้เรามาเริ่มประชุมกันเลยนะครับ" อัสมานกล่าวเปิดการประชุม แต่ก็ต้องหันไปมองหญิงสาวที่ยังคงยืนอยู่ไม่ยอมนั่ง
"เชิญนั่งได้แล้วครับคุณพริซเซียร่า" อัสมานหันไปบอกเธออีกครั้ง เมื่อได้สติพริซเซียร่าจึงนั่งลงอย่างว่าง่ายแต่ในหัวของเธอยังงุนงงไม่หาย เหตุใดอิสลุนจึงเป็นอัสมาน แล้วอัสมานทำไมเป็นอิสลุนไปได้
"กลไกตลาดในยุคนี้เราจะทำแบบเดิมอีกไม่ได้แล้วครับ...ต้องเร่งการส่งออกให้มากที่สุด ผมฝากฝ่ายการตลาดจัดการเรื่องนี้แล้วส่งรายงานผลให้ผมภายในวันพรุ่งนี้นะครับ" อัสมานดำเนินการประชุมนานกว่าสองชั่วโมง เขาจัดสรรปันส่วนงานทั้งหมดเสียใหม่มอบหมายหน้าที่ให้แต่ละฝ่ายดูแลงานในหน้าที่ของตัวเองให้ดี แล้วกำหนดให้มีการเพิ่มโบนัสให้กับฝ่ายที่ทำงานได้ดี
"ส่วนของผมหมดแล้ว...คุณพริซเซียร่ามีส่วนไหนติดขัดไหมครับเรื่องนโยบายใหม่..." อัสมานเห็นพริซเซียร่านั่งเหม่อลอยอยู่จึงแกล้งโยนคำถามใส่
"เอ่อ....มะ....ไม่มี...ค่ะ" เธอไม่ทันได้ฟังเสียด้วยซ้ำว่าเขาพูดอะไรบ้างเพราะเธอมัวแต่ช๊อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"โอเคงั้นวันนี้ผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้ แต่ผมขอคุยกับคุณพริซเซียร่าเรื่องนโยบายส่วนอื่นเพิ่มเติมนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามารับฟังครับ" เมื่อจบการประชุมทุกคนต่างพากันแยกย้ายไปทำงานเหลือเพียงพริซเซียร่าและอัสมานอยู่ด้วยกันภายในห้องประชุมใหญ่
"คุณมีอะไรเสนอเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ" อัสมานเอ่ยถามขึ้น
"อิสลุน...นายเล่นตลกอะไร" พริซเซียร่าถามเสียงนิ่ง
"คุณพูดอะไร...ใครเล่นตลก...ผมน่ะเหรอ" อัสมานแสร้งตีหน้าซื่อ
"ไม่ต้องมาทำไขสือ...นายหลอกฉัน..."
"ผม....ผมหลอกอะไรคุณล่ะพริซเซียร่า"
"คุณไม่ใช่คนขับรถ"
"นั่นมันคุณที่เข้าใจไปเอง...ผมไม่ได้บอกสักคำว่าผมเป็นคนขับรถ"
"แล้วนายก็ไม่ได้ชื่ออิสลุน"
"นั่นก็ชื่อผม คุณสามารถเรียกผมได้ทั้งอัสมานและอิสลุน"
"คนหลอกลวง...ฉันมันโง่เองที่หลงเชื่อคนเลว ๆ อย่างนาย"
"ผมว่าเราเลิกเถียงเรื่องไร้สาระดีกว่า..."
"....ไร้สาระงั้นเหรอ" พริซเซียร่าตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ เธอเหมือนโดนหักหลัง เขารู้ทุกอย่างมาโดยตลอดแล้วตั้งใจหลอกลวงให้เจ็บปวดทรมาน
"จิตใจนายทำด้วยอะไรอัสมาน...นายเห็นฉันเป็นอะไรห๊ะ...นายมีความสุขที่เห็นฉันทุกข์ใจใช่ไหม...ไอคนบ้า...ฮือออ...ฮืออออ....ฉันไปทำอะไรให้ถึงทำกับฉันขนาดนี้...ย่ำยี่ฉันทั้งร่างกายทั้งจิตใจ...ฮืออออ....ฮืออออ" น้ำตาใสๆ เริ่มไหลรินออกมา
"ผมรักคุณนะพริซ...อย่าโกรธผมเลยนะ" อัสมานคว้าร่างบางเข้ามากอดแต่ทว่าเธอขัดขืนเองไว้
"ปล่อยอัสมาน...ฉันไม่มีทางให้อภัยนาย" พริซเซียร่าผลักอกแกร่งของเขาเต็มแรงทำให้หลุดออกมาจากอ้อมแขนแข็งแรงของเขาได้
"ผมรู้ว่าผมทำผิด คงยากที่จะให้อภัย แต่ผมจะทำให้คุณกลับมารักและไว้ใจผมอีกครั้ง"
"มันไม่มีวันนั้น ฉันไม่มีทางเชื่อใจคนอย่างนายอีก" อัสมานทำท่าจะเข้ามากอดหญิงสาวอีกครั้งแต่ต้องสะดุดเมื่อพริซเซียร่าตวาดออกมาเสียงดัง
"หยุดตรงนั้นนะ....ถ้านายขืนมารังแกฉันอีกฉันจะฆ่าตัวตาย"
"พริซคุณพูดบ้า ๆ..."
"ฉันพูดจริงถ้านายกล้ามาแตะต้องตัวฉันอีกครั้ง นายจะได้เห็นฉันเป็นศพแน่อัสมาน" พริซเซียร่าพูดด้วยน้ำเสียงเอาจริง
"โอเค ๆ ผมไม่ทำแบบนั้นกับคุณแล้ว...คุณใจเย็น ๆ ก่อนเถอะนะ" อัสมานยกมือยอมแพ้
"ฉันจะกลับ"
"พริซ..."อัสมานเผลอคว้าแขนเรียวเอาไว้ด้วยกลัวว่าเธอจะไม่ยอมให้อภัยเขาจริง ๆ
"ปล่อยแขนฉัน...ฉันบอกให้ปล่อย...ต่อไปนี้สถานะของเราเป็นแค่หุ้นส่วนบริษัทเท่านั้น"
"แล้วหุ้นส่วนหัวใจละ" อัสมานเอ่ยถามออกมาหน้าตาเฉย
"อัสมานนายมันคนหน้าด้าน...นายยังกล้าพูดคำ ๆ นี้ออกมาอีกเหรอ"
"เอาหล่ะผมรู้ว่าผมทำคุณเจ็บ ผมเองก็เจ็บ แต่ผมอยากรู้ว่าคุณจะรักผมได้จริง ๆ ไหมถ้าผมเป็นแค่คนธรรมดา แล้วผมก็ได้รู้ว่าคุณรักผม"
"รักงั้นเหรอ...ใช่ฉันรักนาย...แต่นายเองนั่นแหละที่ไม่เคยรักฉันเลย...ฮือออ...ฮือออ" พริซเซียร่าเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
"ทำไมผมจะไม่รักคุณพริซ...ผมรักคุณมากคุณก็รู้..."
"โกหก...ถ้านายรักฉันนายจะทำฉันเจ็บขนาดนี้เหรออัสมาน ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับมากี่วันแล้วนายรู้บ้างไหม...ฮืออออ...ฮือออออ" พริซเซียร่าแนบใบหน้าลงบนอกกว้างของเขาแล้วปล่อยโฮออกมา เธอนี้แสนจะโกรธแสนจะเกลียดแสนจะแค้นอัสมานที่หลอกลวงเธอแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอก็แสนจะรักเขาเช่นกัน อัสมานกอดปลอบหญิงสาว
"พริซ...ผมขอโทษ...ให้อภัยผมได้ไหม"
"ไม่....ฉันไม่ให้อภัย...ไม่มีวันที่ฉันจะใจอ่อนแน่นอน" พริซเซียร่าปาดน้ำตาลวก ๆ ก่อนจะยันกายออกจากอ้อมกอดอุ่น
"ผมจะง้อจนกว่าคุณจะยอมใจอ่อนกลับมารักกับผมอีกครั้ง" อัสมานพูดน้ำเสียงออดอ้อนวิงวอน
"ต่อให้นายมาดิ้นตายตรงนี้ต่อหน้าฉันก็ไม่มีวันให้อภัยกับคนที่เห็นความรักของฉันเป็นของเล่น"
"......." อัสมานนิ่งฟัง "ผมเตรียมใจไว้แล้วว่ามันต้องเป็นอย่างนี้... ไม่เป็นไรผมไม่รีบผมจะรอจนกว่าคุณจะใจอ่อนยอมให้อภัยผม...แต่ผมอยากขอให้แยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกัน เพราะยังไงเราก็ต้องร่วมกันบริหารบริษัทนี้ต่อไป"
"ได้...ฉันแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันเสมอ" พริซเซียร่าตอบน้ำเสียงมั่นใจออกไป "หลีกฉันจะกลับ"
"ผมจะไม่บังคับฝืนใจคุณอีก...แต่ผมขอเรื่องหนึ่ง...คุณอย่ามีคนอื่นนอกจากผมได้ไหมพริซ"
"......" พริซเซียร่านิ่งไม่ยอมตอบ
"ผมก็จะไม่มีใคร....ผมจะรักคุณคนเดียว" คำตอบของอัสมานทำให้พริซเซียร่ารู้สึกอุ่นใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอไม่มีทางยอมให้อภัยคนใจร้ายอย่างเขาง่าย ๆ แน่นอน
"นั่นมันเรื่องของนาย...ฉันไม่รับปากอะไรทั้งนั้น" พริซเซียร่ากล่าว ทิ้งท้ายก่อนจะก้าวฉับออกจากห้องประชุมไป
"โธ่โว้ยยยย!!" อัสมานสบถออกมา ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดเอาไว้เสียแล้วพริซเซียร่าใจแข็งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก สิ่งที่เขาคิดเอาไว้คือเมื่อเขาเปิดตัวมาในฐานะผู้บริหารคนใหม่แล้วขอเธอคืนดี เธอก็จะยอมให้อภัยแล้วก็แฮปปี้แอนดิ้งทั้งสองฝ่าย
"ทำไมไม่เหมือนที่คิดไว้ว่ะ" อัสมานหัวเสียเอามาก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมายของเขา
"หงุดหงิดโว้ยยยย" อัสมานทิ้งน้ำหนักลงบนเก้าอี้ เขาแทบหมดเรี่ยวแรง เหตุการณ์เมื่อวานทำเอาอัสมานถึงกับต้องล่าถอยออกมาก่อน เพราะพริซเซียร่าโกรธเขามาก จึงไม่อยากจะทำให้มันเป็นเรื่องไปกว่านี้ เรียนผูกก็ต้องมาเรียนแก้ ในเมื่อหลอกลวงเธอให้รักด้วยวิธีสกปรกเขาก็ต้องรับกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้