จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
เปลือกตาที่บวมจนแทบเปิดไม่ได้มีสาเหตุมาจากคนที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองสามารถจะลืมเขาไปได้...พริซเซียร่าไม่คิดว่าตัวเองจะลุ่มหลงเขาได้มากขนาดนี้ตลอดทั้งคืนภาพระหว่างเธอและเขาแว๊บเข้ามาอยู่ในหัวตลอดทั้งคืน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ ที่ปะปนกันไป รสสัมผัสที่เขามอบให้รวมถึงรอยรักที่ยังคงไม่จางออกจากร่างกายเสมือนย้ำเตือนว่าเธอยังเป็นของเขา
"อิสลุน...ฮือออ ฮืออออ ฮือออ" พริซเซียร่ากดใบหน้าลงบนหมอน ที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำตา หัวใจดวงน้อยๆของเธอแหลกสลาย อาการหนักอึ้งในอก ข้าวปลาไม่อยากกิน ปั่นป่วนในช่องท้อง อาการแบบนี้เธอเพิ่งเข้าใจว่าเขาเรียกว่าอาการของ 'คนอกหัก'
มันทรมานมากขนาดนี้เชียวหรือ เธอไม่แปลกใจเลยที่มีผู้คนที่ไม่สมหวังในรักมากมายยอมผลิชีพตัวเองลงเนื่องด้วยไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดแสนสาหัสทางใจได้อีกต่อไป แม้มีชีวิตอยู่ก็จะไม่สามารถเดินต่อไปได้เนื่องจากแขนขาอ่อนแรงเต็มที
กริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! เสียงโทรศัพท์บริเวณหัวเตียงของพริซเซียร่าดังขึ้นทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ความเศร้าไปได้ชั่วขณะหญิงสาวมีแววระแวงระคนแปลกใจที่จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เธอยกมือปาดน้ำตาออกก่อนจะพยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติแต่มันก็ยังคงอู้อี้อยู่ดี
"ฮัลโหล" พริซเซียร่ากรอกเสียงที่ค่อยจ้างแหบพร่าและขึ้นจมูกมีผลมาจากอาการร้องไห้อย่างหนักนั่นเอง
"พริซ...ใช่พริซหรือเปล่า" ปลายสายทำน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
"เอ่อ...ใครคะ"
"พริซ...มาร์คเอง.." มาตินรีบเอ่ยแนะนำตัวทันทีเมื่อได้ยินเสียงพริซเซียร่า
"มาร์ค...คุณจริงๆ...คุณมาที่นี้เมื่อไรค่ะ"
"ผมมาได้หลายวันแล้วแต่คุณไม่อยู่ผมเลยรอคุณที่นี่"
"มาร์คตอนนี้คุณอยู่ไหนคะ...พริซอยากเจอคุณเหลือเกิน"
"ผมอยู่ห้องข้างกับคุณ...ผมพยายามโทรข้ามห้องมาหาคุณทุกวันเผื่อคุณกลับมาวันไหน...ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ"
"สุ่มโทรแบบนี้ทุกวันเหรอคะ...โธ่มาร์คน่ารักจัง"
"พริซผมคิดถึงคุณเหลือเกินนะ...ถ้าเจอจะขอจูบให้หายคิดถึง"
"ฉันก็คิดถึงคุณนะมาร์ค...คุณนี่เป็นเพื่อนที่ดีจริง"
"จริงๆแล้วเป็นมากกว่าเพื่อนก็ได้นะพริซสำหรับคุณ" มาตินมักจะพูดแบบนี้อยู่เป็นประจำ
"ถ้าเมื่อก่อนฉันก็จะตอบว่าได้....แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปหมดแล้วมาร์ค เราเป็นเพื่อนกันดีที่สุด"
"คิดเหมือนกันเลยพริซ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า" มาตินหัวเราะร่วนออกมาเขาและพริซเซียร่ารู้จักกันดีมากเกินไปจนไม่สามารถรู้สึกพิเศษไปมากกว่าคำว่าเพื่อนได้
"ตอนเย็นเราไปทานอาหารกัน...พริซเลี้ยงเอง"
"ไม่ได้ๆ...ผมเป็นผู้ชาย...ผมเลี้ยงเอง"
"ก็ได้ค่ะ...งั้นเราเจอกันสักหกโมงเย็นเป็นไงค่ะ"
"ตามนั้นครับพริซ...แล้วเจอกัน...บาย..."
"บายค่ะ"
พริซเซียร่ายกหูโทรศัพท์กลับมาวางไว้ที่ตั้งดังเดิม แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง กริ้ง! กริ้ง! ร่างบางลอบยิ้มขึ้นมา "มีอะไรอีกค่ะมาร์ค" พริซเซียร่ารอดเสียงหวานไปตามสาย แต่ปลายสายกลับเงียบ "..........."
"มาร์ค...นั่นคุณหรือเปล่า...ฮัลโหล"
".....มาร์คคือใคร" เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเอ่ยถามด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
"อิสลุน....นั้นคุณเหรอ"
"ห่างผมคืนเดียว...ลืมแล้วเหรอ"
"คุณไม่ควรโทรมาหาฉันอีก"
"ผมทนคิดถึงคุณไม่ไหว"
"คุณหยุดทำแบบนี้สักทีเถอะขอร้อง...ฉันกำลังทำใจ...คุณก็มาทำแบบนี้ให้ฉันอ่อนแออีก"
"คุณลืมผมได้จริงเหรอ...ลืมรสรักของผมได้จริงเหรอพริซ"
"พอสักทีเลิกพูด...ฉันไม่อยากพูดกับคุณอีกแล้ว"
"มาร์คเขาคือแฟนคุณงั้นสินะ...คงรีบมาหากันทันทีที่คุณกลับไป..."
"ใช่...เขามาหาฉัน...ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา...ลาก่อนอิสลุน อย่าได้ติดต่อฉันมาอีก...แค่นี้นะ" พริซเซียร่ากระแทกโทรศัพท์เสียงดังใส่อัสมานจนเขาต้องยกออกห่างจากหู
"ไม่ได้การละ...หมากำลังจะมาแย่งเนื้อชิ้นโต...ผมไม่มีวันปล่อยคุณไปเป็นของคนอื่นเด็ดขาด...คุณเป็นเมียผม...ยังไงก็ต้องมีผมเพียงคนเดียว" ความหึงหวงของอัสมานเริ่มพลุ่งพล่านในใจ
เมื่อวางจากจากชายที่รัก หยดน้ำใสๆก็ไหลออกมาจากม่านตา
"อิสลุน...อิสลุน...ฮือออ...ฮืออออ...ฮืออออ" พริซเซียร้องไห้ออกมาอีกครั้งความเจ็บปวดเช่นเดิมเข้ามาแทนที่อีกแล้ว เธอไม่สามารถอยู่คนเดียวได้
"ฉันคิดถึงคุณ"
มาตินเดินมาเคาะประตูห้องเมื่อถึงเวลานัดหมาย ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "พริซเสร็จหรือยัง"
"มาร์ครอแป๊บนึง...ฉันเสร็จแล้ว"
พริซเซียร่าเปิดประตูห้องก็พบว่ามาร์คแต่งตัวด้วยชุดไปรเวทแบบสบายๆ
"ใจตรงกันเลยนะมาร์ค...พริซก็แต่งชุดธรรมดา"
มาตินกลับรู้สึกแปลกใจที่เห็นพริซเซียร่าใส่เสื้อคอเต่าแขนยาวมิดชิด
"พริซ...ทำไมคุณใส่เสื้อผ้ามิดชิดจัง...ดูแปลกตามากเลย" มาตินถามด้วยความแปลกใจ
"อ๋อ...พอดีพริซหนาวๆนะ" พริซเซียร่าอ้อมแอ้มตอบออกไป แท้จริงแล้วเพื่อปกปิดร่องรอยรักระหว่างเธอและอิสลุนที่ชายหนุ่มฝากเอาไว้ทั่ว ไม่ว่าจะเป็นรอบๆคอ เนินอกทั้งสองข้าง แม้แต่ขาหนีบและของสงวนของเธอก็มีรอยทั้งสิ้น
"ไปเราไปกันเถอะพริซ" มาตินยื่นมาจับมือของพริซเซียร่าก่อนจะเดินนำหญิงสาวออกมานิดทำให้ร่างบางจำต้องก้าวตามเสียไม่ได้
ร่างสูงใหญ่นั่งมองกล้องวงจรปิดอยู่ภายในห้องทำงานท่ามกลางบรรยากาศที่มืดสนิทมือหนาบีบเข้ามากันจนแน่นเมื่อเห็นภาพหญิงสาวที่ตนหมายปองเดินควงไปกับชายอื่น
"เธอไม่ใช่ของแกอีกต่อไปแล้ว...พริซเซียร่าเป็นฉันคนเดียว" อัสมานขบกรามแน่นด้วยระงับความโกรธ เขาคงต้องรีบเคลียใจกับพริซเซียร่าก่อนที่จะมีใครเข้ามาแย่งเธอไปเสียก่อน
มือหนากดเบอร์ภายในเพื่อนัดประชุมคณะผู้บริหารเพื่อนจัดการปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาดเสียใหม่รวมถึงผู้บริหารใหม่อย่างพริซเซียร่าด้วย
"คุณกุส่าหลี...ผมขอนัดประชุมทุกส่วนพรุ่งนี้..รวมทั้งผู้บริหารพริซเซียร่าด้วยครับ" อัสมานเอ่ยเสียงเรียบออกไป
'เป็นไงเป็นกัน...ผมรอนานไม่ได้แล้ว...ไอหมอนั้นมันกำลังจะมาแย่งดวงใจของผม' อัสมานลอบถอนหายใจออกมาแม้รู้อยู่แล้วว่าหากพริซเซียร่า รู้ความจริงเธอคงต้องโกรธเขาอย่างมากจนไม่อยากจะมองหน้าเขาด้วยซ้ำแต่ก็ต้องเสี่ยงว่าเขาจะสามารถหาวิธีง้อพริซเซียร่าได้หรือเปล่าเพราะหากเขายังไม่ยอมทำอะไรคงต้องเสียเธอไปตลอดกาล
"พริซ...ผมขอให้คุณรักผมมากพอที่จะยอมให้อภัยผมเถอะนะ...ผมรักคุณจริงๆ...ผมอยากแต่งงานกับคุณ" น้ำตาลูกผู้ชายใจหินเช่นเขาค่อยๆไหลออกมา มันช่างบีบหัวใจชายหนุ่มเสียจริง คงไม่ใช่เพียงพริซเซียร่า ที่ต้องทนคิดถึงหากแต่เขาเองก็คิดถึงเธอเช่นกัน