จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
จากการเข้าใจผิดคิดว่าอัสมานเป็นคนขับรถของโรงแรมที่เขานั้นเป็นเจ้าของพอเห็นหน้าสวยๆเขาจึงปลอมตัวเป็นคนขับรถซะอย่างนั้นอัสมานได้ลักพาตัวพริซเซียร่าไปปล้นสวาทสั่งสอนแต่กลับเป็นเขาเองที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
อัสมานทอดมองไปยังร่างบางที่กำลังนอนคุ้ดคู้อยู่บนเตียงนอน ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ 'คุณรักผมแล้วพริซเซียร่า...งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา...หมดเวลาสนุกแล้ว...เราต้องกลับไปสู่โลกแห่งความจริง' อัสมานรู้สึกใจหายขึ้นมาเมื่อครบกำหนดที่เขาจะต้องปล่อยตัวพริซเซียร่าให้กลับไปใช้ชีวิตปกติเสียที เนื่องจากเขาเองก็ทอดทิ้งการงานมาเป็นเวลานาน ปกติแล้วเขาไม่เคยที่จะเห็นสิ่งใดดีไปกว่างานเลย มีเพียงพริซเซียร่าเท่านั้นที่เขายอมสละเวลามาอยู่กับเธอ ซึ่งหากเธอรู้ความจริงว่าเขาไม่ใช่อิสลุนสามีของเธอแต่กลับกลายเป็นอัสมานหุ้นส่วนบริษัทแทนเธอจะเป็นเช่นไร อัสมานไม่อยากจะคิดต่อแต่เขาจำต้องรับผลจากการกระทำของเขาเองที่เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ แต่ในเมื่อเขารู้อยู่เต็มอกว่าพริซเซียร่ารักเขาแล้วมันก็คงไม่มีอะไรที่จะยากเกินความสามารถหากเขาจะขอคืนดีกับเธอ
"พริซ...ลุกไหวหรือเปล่า" อัสมานเข้าประคองหญิงสาวที่รู้สึกตัวขึ้นและพยายามจะดันร่างของตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก
"อิสลุน...พอแล้วนะ...วันนี้ฉันไม่ไหวแล้ว..." พริซเซียร่าเริ่มระแวงหลังมากขึ้นทำเอาอัสมานขำออกมาในท่าทีของหญิงสาว
"โอเค ๆ ถึงคุณไหวผมก็คงไม่ไหวหรอก...หลายรอบจัดวันนี้"
"ฉันหิวแล้ว" พริซเซียร่าลูบท้องที่ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงกระเพาะเธอเลย
"งั้นผมจะพาคุณไปหาอะไรกินดีไหม"
"ไปข้างนอกงั้นเหรอ...ฉันไม่ได้ออกไปไหนมาตั้งหลายวันเบื่อจะแย่" พริซเซียร่าบ่นอุบออกมา
"ไม่ต้องห่วงพริซ...ผมจะทำตามสัญญาพรุ่งนี้ผมจะปล่อยคุณไป" อัสมานตัดสินใจบอกเธอให้รู้ตัว
"ปล่อยฉัน...นายจะปล่อยฉันไปงั้นเหรอ" พริซเซียร่าดีใจออกมาแต่ก็ต้องเศร้าลงเธอรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก
"ถ้าเจอกันข้างนอกคุณจำทักผมไหม..." อัสมานแกล้งถามออกมา
"แล้วนายละจะทักฉันไหม" พริซเซียร่าไม่ตอบ แต่กลับย้อนถามเขาแทน "ผมทำมากกว่าทักทายได้ไหม" คำถามย้อนแย้งไปมากลับทำให้ทิ่งแทงหัวใจของพริซเซียร่ายิ่งนัก
"ฉัน...ฉัน...เรื่องของเราขอให้จบแค่คืนนี้เถอะนะอิสลุน" แม้จะยากลำบากที่จะพูดออกมาแต่พริซเซียร่าจำต้องหักห้ามใจเธอมีหน้าที่ที่ต้องดูแลอีกมากจำต้องตัดเรื่องส่วนตัวทิ้งไป
"จบ...คุณขอให้เราจบกันแค่นี้จริง ๆ ใช่ไหมพริซ" อัสมานที่รู้สึกเจ็บจุกอย่างบอกไม่ถูก น้ำตาลูกผู้ชายได้ไหลออกมาอย่างสุดจะหักห้าม "ผมขอถามคุณสักคำ...ที่ผ่านมาคุณรักผมบ้างไหม"
พริซเซียร่าไม่สามารถตอบคำถามของเขาได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงพยักหน้ารับก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบสองแก้มนวลด้วยรู้สึกที่บาดลึกเข้ามาในหัวใจ ความรักที่ไม่สามารถรักได้มันช่างเจ็บปวดเสียเหลือเกิน
"โอเค...ผมอยากรู้แค่นี้...ต่อไปนี้ผู้ชายชื่ออิสลุนจะตายไปจากชีวิตคุณพริซเซียร่า" อัสมานเอ่ยขึ้นเช่นนี้ยิ่งทำให้พริซเซียร่าปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ
"ฮือ....ฮือ....ฮือ....อิสลุนฉันขอโทษนะ...แต่ฉันรักกับนายไม่ได้"
"เพราะผมจนงั้นเหรอ"
พริซเซียร่าส่ายหัวไปมาช้า ๆก่อนจะกระพริบตาเพื่อไล่หยดน้ำตาที่เอื่อท้วมจอม่านตาออก "ฉันมีหน้าที่ต้องดูแลฉันมีชื่อเสียงที่ต้องรักษา พ่อฉันป่วยหนักฉันไม่สามารถให้ท่านกระทบกระเทือนจิตใจได้...หากท่านรู้ว่าฉันคบกับนายท่านคงกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก "
"ท่านอาจจะดีใจก็ได้พริซที่คุณคบกับผม"
"พอเถอะหยุดพูดได้แล้วอิสลุน...แค่นี้ฉันก็เจ็บปวดมากพอแล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นวันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายระหว่างอิสลุนคนขับรถกระจอก ๆ กับพริซเซียร่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์ เวลาจากนี้ไปผมขอให้เป็นเวลาแสนหวานของเราสองคนนะพริซ"
พริซเซียร่ายกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะฝืนยิ้มขึ้นมา "วันนี้เราคือคนรักกันวันสุดท้าย"
"ผมจะไม่วันลืมคุณเลยนะพริซเซียร่า...ที่คุณกรุณารักผม"
"เราไปหาอะไรกินกันเถอะนะอิสลุนฉันหิวมาก หิวจนจะกินคนได้ทั้งคนอยู่แล้ว"
"กินผมได้นะ...ผมอร่อยคุณก็รู้" คำพูดอัสมานทำเอาพริซเซียร่าถึงกับหน้าแดงออกมาด้วยความเขินอายเธอรู้ว่าเขาหมายถึงสิ่งใดซึ่งเธอสังหรณ์ว่าคืนนี้เธออาจจะได้กินอะไรในสิ่งที่เธอไม่อยากจะกินก็เป็นได้
รถหรูจอดยังร้านอาหารแห่งหนึ่งดูภายนอกนั้นไม่ได้หรูหราอะไรแต่ทว่าอาหารของที่นี่มีรสชาติที่อร่อยมาก อัสมานนิยมมากินบ่อย ๆ เขาอยากให้เดทแรกระหว่างเขาและพริซเซียร่าประทับใจมากที่สุด พริซเซียร่ามีใบหน้าที่หมองเศร้าอย่างเห็นได้ชัดผิดกับอัสมานที่ใบหน้าหล่อคมเข้มนั้นยิ้มออกมาอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน
'บ้าจริง ไม่ได้รู้สึกเสียอกเสียใจมั่งเลยหรือไง' เธอคิดอย่างโมโหในใจที่เห็นชายหนุ่มยังคงยิ้มได้หน้าตาระรื่นผิดกับเธอที่คิดหนัก
"อิสลุน...นายดีใจมากใช่ไหมที่ฉันจะได้ไปพ้น ๆ จากนายซักที" เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทำให้ชายหนุ่มหุบยิ้มไปโดยอัตโนมัติ เขาลืมตัวไปนิดเขาไม่ควรแสดงอาการจนออกนอกหน้าเช่นนี้
"นายรู้ไหมว่าฉันเจ็บปวดขนาดไหน...ฮ่ะ....นายเป็นคนทำให้ฉันเกลียดแล้วก็มาทำให้ฉันรัก...นายมันเลวที่สุด" พริซเซียร่าพรั่งพรูคำพูดภายในใจออกมาพร้อมหยดน้ำตาใส ๆ
"พริซ...อย่าร้องสิ....ผมขอโทษ...วันนี้ผมขอให้เป็นวันดี ๆ สำหรับเราเถอะนะ" อันมานตระกองกอดหญิงสาวเข้ามากอดแนบแผ่นอกแร่ง
"ยังไงคุณก็เจอผมอยู่ดีนะพริซ"
"อิสลุน...ทำไมฉันทรมาน....ตอนนี้ฉันไม่หิวอะไรทั้งนั้นกลับเถอะ" พริซเซียร่าดึงทึ้งแขนของอันมานไว้เธอไม่หิวอีกต่อไปแล้ว
"งั้นไปเดินเล่นดูตลาดกันก็ได้แถวนี้มีสินค้าพื่นเมืองด้วยนะคุณเคยเห็นหรือเปล่า"
พริซเซียร่าเดินจับมืออัสมานเอาไว้แนบแน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไปอย่างนั้น
"ตรงนี้คือที่ไหนของดูไบ" พริซเซียร่าเอ่ยถามขึ้น
"ตรงนี้ก็อาบูดาบีนั่นแหละพริซ" อัสมานตอบกลั้วขำออกมา
"อาบูดาบี...งั้นมันก็ใกล้กับโรงแรมมากนะสิ" พริซเซียร่าทั้งตกใจและแปลกใจเธอคิดว่าอิสลุนลักพาตัวเธอไปในที่ไกลแสนใกล้แต่เปล่าเลยมันคือรัฐเดียวกับโรงแรมที่เธอเข้าพักนั่นเอง พริซเซียร่าเริ่มสงสัยเหตุใดจึงมีบ้านพักกลางทะเลทรายในประเทศที่เต็มไปด้วยความเจริญเช่นนี้ นอกจากมันจะถูกสร้างขึ้นมาให้ดูเหมือนทะเลทรายนั่นเอง
"บ้านที่นายพาฉันไปเป็นบ้านของใครอิสลุน" พริซเซียร่าถามขึ้นด้วยความสงสัย
"เอ่อ...บ้านของอัสมาน" พริซเซียร่าถึงบางอ้อ เขาใช้บ้านของเจ้านายเป็นรังรักสำหรับเขาและเธอ
คนขับรถอย่างเขาไม่มีทางมีบ้านพักแบบนั้นได้เป็นแน่หากพริซเซียร่า ไม่คิดถึงหน้าตาทางสังคมเธอคงไม่ต้องทนทุกข์มากมายเช่นนี้
"นายทำแบบนี้ไม่กลัวคุณอัสมานจับได้หรือไง" พริซเซียร่าเอ่ยขึ้น
"ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะ...ก็ผม...."อัสมานกำลังจะตอบไปว่าเขาคืออัสมานแต่พริซเซียร่าพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
"เอาหล่ะช่างเถอะเราไปดูตรงนั้นกันดีกว่า" พริซเซียร่ากอดแขนของเขาเอาไว้แน่นจนอกอิ่มเบียดชิดแนบไปกับลำแขนแข็งแรงทำเอาอัสมานหายใจไม่เป็นจังหว่ะ
"พริซ...คุณทำให้ผมมีอารมณ์อีกแล้วนะ" อัสมานกระซิบข้างหู
"ห๊ะ!!....อะไรกันแต่กอดแขนเนี่ยะนะ..." พริซเซียร่าถึงกับแปลกใจขึ้น
"คุณไม่รู้เหรอว่าผู้ชายมันไวนะ...." อัสมานบอกความเป็นจริงของธรรมชาติมนุษย์ผู้ชายที่มักจะมีความรู้สึกไวกว่าผู้หญิงมาก
"งั้น....ฉันปล่อยก็ได้..." พริซเซียร่าทำท่าจะปล่อยมือออกจากแขนของอัสมานแต่ทว่าเขากลับรีบร้องห้ามเอาไว้
"ไม่ต้อง...พริซกอดไว้แบบนี้แหละผมชอบ...มันนุ่มดี"
"คนบ้า.....นายนี่มันทะลึงตึงตังจริงๆเลย" พริซเซียร่ายกมือขึ้นตีแขนแกร่งของเขาเบาๆด้วยความเขินอายก่อนจะกลับไปกอดวงแขนแข็งแรงนั้นอีกครั่งด้วยความหวงแหนห้วงเวลาอันแสนสุขที่กำลังจะหมดไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว
'อิสลุน....ฉันรักคุณมากนะคะ...แต่ฉันก็รักคุณพ่อมากเหมือนกัน...เราเจอกันผิดที่ผิดเวลาผิดสถานะและผิดโอกาส...โชคชะตาเล่นตลกอะไรกับเรากันนะ' พริซเซียร่าต่อว่าโชคชะตาเบาๆในใจที่แสนเจ็บปวดแต่จำต้องแสร้งแสดงสีหน้าสดใสออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความเศร้า
"ว้าววว....อิสลุนคุณดูนี่สิ...แหวนนี่สวยจังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย" พริซเซียร่าตื่นเต้นเมื่อได้เห็นแหวนรูปร่างประหลาดแต่กลับสวยงามจนสะกดสายตาของเธอเอาไว้ได้
"นี่เป็นแหวนจากหินอเมทิส...ท่านมอบให้นางสิ...แล้วมันจะช่วยให้ความรักของท่านสมหวัง" หญิงชราหยิบแหวนนั้นขึ้นมาส่งให้อัสมานที่ยืนมองอยู่ไม่ห่างมากนัก
"ราคาเท่าไรครับ" อัสมานเตรียมล้วงกระเป๋าสตางค์เพื่อจ่ายเงินให้
"ไม่ต้อง....ข้าไม่เอาเงินเจ้า....นำแหวนนี้สวมให้นางแล้วเรื่อง ทุกอย่างจากร้ายจะกลายเป็นดี" อัสมานรับแหวนนั้นมาอย่างงงๆ เหตุใดหญิงชราจึงไม่ยอมรับเงินจากเขา
"โชคดีจัง...คุณยายใจดีจังเลยค่ะ" พริซเซียร่ายิ้มออกมาด้วยความดีใจ พลางยื่นนิ้วเรียวยาวส่งให้อัสมานเพื่อนสวมแหวนนั้น
"แหวนนี่จะสวมได้เพียงแค่นิ้วนางซ้ายเท่านั้น" หญิงชราเอ่ยขึ้น
"เอ๊ะ!!!....จริงด้วยนิ้วอื่นใส่ไม่ได้เลย" พริซเซียร่าแปลกใจที่ทุกนิ้วไม่สามารถใส่ได้เลยจริงๆ
"จำไว้นะแม่สาวน้อย การอภัยคือสิ่งที่ภรรยาควรมี" หญิงชราเอ่ยขึ้น
"คือหนูไม่ใช่ภรรยาเขานะคะ" พริซเซียร่าปฏิเสธเสียงแข็ง
"สิ่งใดที่คิดว่าเจ้าไม่ใช่ภรรยาเขา...สิ่งที่เจ้าทำอยู่เรียกว่าอะไร.... ช่างเถอะจำไว้ว่าเจ้าไม่สามารถถอดแหวนนี้ได้อีกตลอดชีวิต"
"ฮ่ะ....อะไรนะคะ" พริซเซียร่าตกใจขึ้นก่อนจะลองดึงแหวนนั้นออกปรากฎว่าไม่สามารถถอดออกได้จริง
"ทำยังไงถึงจะถอดออกได้ค่ะ" พริซเซียร่าเอ่ยถามขึ้น
"วันที่เจ้าแต่งงานกับเขาหรือเจ้าได้ผลิตทายาทให้เขาอย่างไรล่ะ"
"ทายาท....กับ...กับ" พริซเซียร่าหันมองไปทางอัสมาน
"ใช่กับเขาผู้นั้นเพียงคนเดียว" ไร้สาระพริซเซียร่าฉุนเฉียวขึ้นมา
"ไม่มีทาง" ก่อนจะเดินสะบัดออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
'พวกต้มตุ๋น....ใช่แน่ๆ คิดจะมาหลอกฉัน...เชอะไม่เชื่อให้ยากหรอก'
"พริซรอผมด้วย" อัสมานหันไปสบตาหญิงชรานิดก่อนจะยกนิ้วโป้งให้เพื่อเป็นการชมเชย
'ขอบคุณนะครับคุณยาย...ช่วยผมได้เยอะเลย' อัสมานรู้สึกโชคดีที่เดินมาเจอคุณยายท่านนี้และบอกเล่าเรื่องราวความเชื่อพื้นเมืองให้แก พริซเซียร่า แต่แล้วเขาต้องแปลกใจเมื่อหันกลับมามองคุณยายท่านนั้นอีกครั้งกลับไม่พบเธออีก
"หายไปไหนไวจัง ช่างเถอะ" อัสมานสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว
"พริซรอผมด้วย" อัสมานกึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อไล่ให้ทันพริซเซียร่าที่เริ่มเดินทิ้งห่างเขามากขึ้นไปทุกที