Your Wishlist

สัมผัสรักที่ปลายลิ้น (ตอนที่ 8 พุทราเชื่อม)

Author: Jiao Tang Dong Gua (BuaElla แปล)

จุมพิตที่ริมฝีปาก มีบางสิ่งที่หลินเค่อสงไม่เคยเชื่อว่าจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเอาค้อนทุบหัวเธอมากแค่ไหนก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น การไหลย้อนกลับของแม่น้ำแยงซี หรือดาวหางฮัลเลย์พุ่งชนโลก…… แต่สิ่งเหล่านี้เทียบไม่ได้กับ ‘เจียงเฉียนฟ่าน’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอ

จำนวนตอน : 82 Chapters (Complete)

ตอนที่ 8 พุทราเชื่อม

  • 06/10/2567

หัวใจของหลินเค่อสงจมดิ่งลง เธอไม่ได้หายไปนานขนาดนั้นซะหน่อย เขาหายหัวไปไหนกันเนี่ย?

 

"เถ้าแก่! ผู้ชายหน้าตาดีที่ตาบอด เขาเพิ่งยืนอยู่ตรงนี้  รู้ไหมว่าเขาไปไหน"

 

"อ๋อ เห็นเขาเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งน่ะ"

 

"อะไรนะ...เขาข้ามถนนเองเหรอ"

 

"ใช่"

 

"ไม่ห่วงชีวิตตัวเองแล้วหรือไง!" หลินเค่อสงรีบปั่นจักรยานไปอีกฝั่งถนนทันที

 

ฝั่งตรงข้ามมีร้านเครื่องเขียนและร้านอื่น ๆ ตั้งเรียงรายอยู่ หลินเค่อสงค้นหาร้านทุกแห่งแต่ก็ยังไม่เจอเจียงเฉียนฟาน

 

เธอเหงื่อแตกพลั่กด้วยความกังวล

 

นี่มันอะไรกัน! เธอก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้รออยู่ตรงนั้น เขาจะข้ามถนนเองทำไม! คิดจะเดินไปไหนกัน!

 

เขาไม่มีโทรศัพท์ติดตัว แล้วเธอจะติดต่อเขาด้วยวิธีไหน?

 

คำว่า "รอตรงนี้" เขาไม่เข้าใจหรือยังไงกันนะ

 

หลินเค่อสงถามทุกร้านจนหมดด้วยความกระวนกระวายใจและคิดว่าเธอควรจะแจ้งตำรวจหรือเปล่า สุดท้ายเจ้าของร้านเล็ก ๆ คนหนึ่งบอกเธอว่า "คนที่คุณตามหาเหมือนจะไปที่คาเฟ่อะไรสักอย่างที่ชื่อมู่เฟิงนี่แหละ"

 

หลินเค่อสงแทบจะทรุดลงขอบคุณเจ้าของร้าน

 

เธอรีบวิ่งไปที่คาเฟ่ทันที จอดจักรยานไว้ที่ทางเข้า แล้ววิ่งขึ้นบันไดไปในไม่กี่ก้าว

 

เมื่อมองไปรอบ ๆ เธอก็เห็นคุณเจียงที่เย็นชาและนั่งนิ่งราวกับตู้เย็น เขานั่งอยู่ใกล้หน้าต่างอย่างสงบนิ่ง

 

ใบหน้าของเจียงเฉียนฟานยังคงหล่อเหลาและไร้ที่ติ แม้แสงจะตกกระทบปลายจมูกของเขา เพิ่มความรู้สึกอบอุ่น แต่ความเย็นชาที่เขาแสดงออกก็ยังไม่สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกไม่พอใจ กลับทำให้ดูมีเสน่ห์ลึกลับแทน

 

ตรงหน้าของเขามีแก้วน้ำมะนาววางอยู่ เจียงเฉียนฟานยกแก้วขึ้นจิบอย่างสุภาพ ราวกับว่าในจักรวาลของเขา หลินเค่อสงเป็นเพียงแค่อากาศ

 

ความโกรธของหลินเค่อสงพุ่งปรี๊ด ราวกับจรวดที่พร้อมจะพุ่งทะยานขึ้นฟ้า

 

เธอนั่งลงตรงหน้าเจียงเฉียนฟานอย่างแรง พยายามระงับความโกรธแล้วพูดว่า "ฉันบอกให้คุณอยู่ที่เดิมไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?"

 

สีหน้าของเจียงเฉียนฟานแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิด

 

"ฉันไม่ชอบกลิ่นเต้าหู้เหม็น"

 

หลินเค่อสงกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย แล้วคิดในใจ แล้วฉันก็ไม่ชอบนายเหมือนกัน!

 

"แล้วถ้าฉันหาคุณไม่เจอล่ะ?"

 

"เธอจะเจอฉันแน่นอน"

 

"ทำไม?"

 

"เพราะค่าจ้างนำเที่ยว 1,000 ดอลลาร์"

 

หลินเค่อสงรู้สึกเหมือนถูกมีดแทงอีกครั้ง วันนี้เธอลำบากแทบตาย และยังเต็มใจที่จะตามหาเขาอีก เธอแทบไม่ได้นึกถึงค่าจ้าง 1,000 ดอลลาร์เลยด้วยซ้ำ

 

"นี่โทรศัพท์ของคุณ" หลินเค่อสงเลื่อนโทรศัพท์ของเขาไปที่โต๊ะ

 

เจียงเฉียนฟานหยิบทิชชูขึ้นมาช้า ๆ แล้วเช็ดโทรศัพท์ของเขา นิ้วมือของเขาช่างสวยงาม และเมื่อเขาก้มหน้า เชื่อไหมว่ามันทำให้หัวใจของหลินเค่อสงรู้สึกสั่นไหวอย่างน่าประหลาด

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเค่อสงมองเขาในระยะใกล้ขนาดนี้

 

"คุณอยากกินอะไรที่นี่ไหม หรืออยากจะลองขิงทอดดี?" หลินเค่อสงถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าเล็กน้อย

 

"กาแฟที่นี่คุณภาพต่ำ แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่ามันขมและไม่กลมกล่อม ขนมที่เสิร์ฟก็มีกลิ่นแป้งจาง ๆ ซึ่งแสดงว่ามันไม่ได้อบนานพอ ด้วยมาตรฐานแบบนี้ ผมจะไม่กินอะไรจากที่นี่"

 

เจียงเฉียนฟานเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า

 

หลินเค่อสงกดขมับของตัวเอง เธอรู้ว่าที่นี่จะต้องไม่ถูกปากเจียงเฉียนฟานแน่ ๆ เธออยากจะปรี๊ดใส่เขาอย่างกับภูเขาไฟระเบิด แต่เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาของเจียงเฉียนฟาน เธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถโกรธได้

 

เขาเหมือนทะเลสาบที่อยู่ระหว่างหุบเขาในหมู่เมฆ ต่อให้คุณพยายามทำให้มันเคลื่อนไหวแค่ไหน เขาก็จะยังคงสงบนิ่งอยู่เสมอ

 

"เธอกำลังโกรธ" เจียงเฉียนฟานยังคงไม่มีการแสดงออกทางสีหน้า

 

ขอบคุณนะที่รู้ว่าฉันโกรธ

 

"ฉันอุตส่าห์ตามหาโทรศัพท์ของคุณอย่างยากลำบาก แต่คุณกลับไม่รอฉันที่จุดเดิม ถ้าคุณเป็นฉัน คุณจะรู้สึกยังไง?"

 

"ผมจ่ายค่าจ้างไกด์นำเที่ยวให้คุณแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องให้คุณไปตามหาโทรศัพท์ให้ผม"

 

อีกหนึ่งแผล... แทงตรงเข้ากลางใจ

 

แต่ตอนนี้หลินเค่อสงไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว

 

"เข้าใจแล้วค่ะ คราวหน้าฉันจะไม่ตามหาอีก ไปกันเถอะ"

 

หวังว่าครั้งหน้าพอคุณก้าวออกจากประตู โทรศัพท์จะโดนขโมย! แล้วคุณจะต้องมาคุกเข่าขอร้องให้ฉันตามหาโทรศัพท์ให้! และตอนนั้นฉันจะสั่งน้ำมะนาวมาดื่มช้า ๆ!

 

หลินเค่อสงลุกขึ้น จับปลายอีกด้านของไม้เท้าและพาเขาลงบันได

 

เมื่อพวกเขาลงมาถึงข้างล่างบันได เจียงเฉียนฟานหยุดเดินกะทันหัน

 

"มีอะไรหรือเปล่า" หลินเค่อสงถาม

 

"เธอบาดเจ็บ" เจียงเฉียนฟานถามขึ้นอย่างไม่คาดคิด

 

หลินเค่อสงคิดว่า นายมองไม่เห็นไม่ใช่เหรอ? รู้ได้ยังไงว่าฉันถลอกที่ฝ่ามือ?

 

"อ๋อ ฉันล้มตอนปั่นจักรยาน คุณรู้ได้ยังไง"

 

หลินเค่อสงรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นซ่งอี้หราน เขาคงจะชมเธอที่ยังมีขาทั้งสองข้างที่ปั่นได้ดี แต่สำหรับเจียงเฉียนฟานผู้หยิ่งผยองคนนี้... แค่เขาไม่พูดอะไรแทงใจอีกก็ดีแล้ว

 

"ฉันได้กลิ่นเลือด"

 

หลินเค่อสงมองดูฝ่ามือตัวเอง เขายังสามารถดมกลิ่นเลือดนิดหน่อยนี่ได้อีกหรือ?

 

เธอเคยได้ยินมาว่าแม้คนตาบอดจะมองไม่เห็น ประสาทสัมผัสอื่น ๆ ก็อาจจะไวขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะไวขนาดนี้นะ

 

"ไปที่ร้านขายยา ทำแผลหน่อย"

 

นี่ถือว่าเป็นประโยคที่มีมนุษยธรรมมากที่สุดที่หมอนี่พูดมาตลอดทั้งวันที่เธออยู่กับเขา

 

มีร้านขายยาอยู่ใกล้ ๆ หลินเค่อสงซื้อขวดไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มา เมื่อเธอราดมันลงบนฝ่ามือ น้ำตาก็เอ่อขึ้นมา เธอเหลือบไปเห็นเจียงเฉียนฟานยืนอยู่ที่หน้าต่าง

 

สีหน้าของเขาดูเรียบเฉย

 

แสงไฟจากรถข้างนอกส่องผ่านใบหน้าของเขาไปทีละแถว แต่เขาไม่กระพริบตาเลยสักครั้ง

 

เขาเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่กลับมีรัศมีเย็นชาราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งใดในโลกนี้

 

หลินเค่อสงรู้ว่าการใช้คำว่า "งดงาม" เพื่ออธิบายผู้ชายเป็นเรื่องแปลก แต่ในตอนนั้น เจียงเฉียนฟานทำให้เธอรู้สึกถึงความเย็นชาผสมผสานกับความงดงามได้อย่างน่าประหลาด

 

หลินเค่อสงเริ่มจินตนาการว่า ถ้าเจียงเฉียนฟานมองเห็น เขาจะมีสีหน้าแบบไหน? เขาจะดูหยิ่งยโสมากขึ้นไหม? หรือเขาจะมีรอยยิ้มแบบไม่แยแสเหมือนซ่งอี้หราน?

 

หลังจากติดพลาสเตอร์ที่ฝ่ามือเสร็จ หลินเค่อสงก็พาเจียงเฉียนฟานเดินต่อไป

 

เมืองนี้มีผู้คนพลุกพล่าน แม้ในยามค่ำคืนก็ยังคงมีเสียงดังและผู้คนคับคั่ง

 

เมื่อพวกเขามาถึงร้านขิงทอด เจ้าของร้านกำลังเก็บร้านและเตรียมปิด หลินเค่อสงซื้อขิงทอดชุดสุดท้าย

 

เจียงเฉียนฟานก้มหน้า ลมยามค่ำคืนพัดผมของเขาปลิวไหว แสงสลัวทำให้เสี้ยวหน้าของเขาดูเหมือนภาพลวงตา

 

อย่างที่เธอคาดไว้ เจียงเฉียนฟานกินไปเพียงคำเดียว

 

"ความหวานและความเปรี้ยวกำลังพอดี กลิ่นขิงสดชัดเจนดี แต่กลิ่นของไข่ที่ใช้แรงไปหน่อย ควรจะใช้ไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงด้วยหญ้ามากกว่าไข่จากไก่ที่เลี้ยงด้วยอาหารเมล็ดพืช"

 

"แต่ถ้าใช้ไข่ที่เลี้ยงด้วยวิธีนั้น ต้นทุนก็คงจะสูงเกินไปสำหรับร้านเล็ก ๆ แบบนี้"

 

หลินเค่อสงอธิบาย

 

"อืม"

 

ถือว่าเป็นเรื่องหายากที่เจียงเฉียนฟานผู้เย็นชาจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเธอ

 

ขณะนั้นเอง ป้าคนหนึ่งที่ถือพุทราเชื่อมผ่านพวกเขาไป เหลือเพียงไม่กี่ไม้ที่ยังคงขายอยู่

 

หลินเค่อสงรู้สึกได้ถึงรสเปรี้ยวหวานในปาก และน้ำลายก็แทบจะไหล เธอที่เคยหมดอารมณ์ก็กลับมาร่าเริงขึ้นอีกครั้ง

 

"มาถึงที่นี่แล้ว จะไม่กินพุทราเชื่อมได้ยังไง"

 

หลินเค่อสงซื้อมาหนึ่งไม้ เพราะไม่ว่าเธอจะชอบขนมมากแค่ไหน เจียงเฉียนฟานก็มักจะกินแค่คำเดียว

 

หลินเค่อสงวางพุทราเชื่อมไว้ตรงหน้าเจียงเฉียนฟาน "ระวังหน่อยนะ กัดด้านข้าง อย่าให้โดนไม้ไผ่แทงเอาล่ะ"

 

เจียงเฉียนฟานอ้าปาก และหลินเค่อสงเห็นปลายลิ้นของเขาอีกครั้ง

 

ไม่รู้ทำไม ทุกครั้งที่เจียงเฉียนฟานกินอะไรบางอย่าง แค่เธอเห็นลิ้นของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ มันก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมากระตุ้นหัวใจเธอเบา ๆ ทำให้ความคิดของเธอถูกสะกด และทำให้โลกรอบตัวเหมือนเกิดเป็นระลอกคลื่น

 

เขากัดพุทราเชื่อม ไม่ได้กินทั้งลูก

 

น้ำตาลสีแดงแตกกระจายที่ริมฝีปากของเขา เสียงแตกแหลมคม

 

เขาไม่ได้อมมันไว้นานก็ยกคิ้วขึ้น หลินเค่อสงเห็นสีหน้าเขาและแอบหัวเราะในใจ

 

"เป็นไงบ้าง" เธอถาม

 

"ควรจะปอกเปลือกพุทราก่อน เพราะมันเปรี้ยวเกินไป เนื้อพุทราก็เปรี้ยวเกินไป เคลือบน้ำตาลก็บางไป ความหวานและความเปรี้ยวไม่สมดุลกัน น้ำตาลที่ใช้ก็คุณภาพไม่ดี มีสิ่งเจือปนมากเกินไป"

 

"งั้นก็คือไม่อร่อย?"

 

"มันเป็นขนมที่แย่ที่สุดในบรรดาอาหารที่คุณพาผมไปลองทั้งหมด"

 

หลินเค่อสงยิ้ม เธอวางจักรยานไว้ข้างถนน นั่งลงบนขอบฟุตบาท แล้วกัดพุทราเชื่อมด้วยเสียง ‘ยั่มๆ’ อย่างตั้งใจ

 

"คุณเคยแอบชอบใครสักคนไหม?" เธอถามขึ้นแบบสุ่ม ๆ

 

ยังไงซะ ต่อให้เขาถูกยกย่องเหมือนเป็นเทพเจ้า เขาก็ไม่แสดงอารมณ์อะไรอยู่ดี ทำไมไม่ลองถามเล่น ๆ ดูบ้างล่ะ

 

"ไม่เคย"

 

คำตอบนั้นชัดเจนและตรงประเด็น

 

ร่างของเขาดูโดดเดี่ยวภายใต้แสงไฟข้างถนน หลินเค่อสงหัวเราะเบา ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้เปรียบต่อหน้าเจียงเฉียนฟาน

 

อย่างน้อยก็มีประสบการณ์บางอย่างที่เธอเคยสัมผัส แต่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน

 

"การแอบชอบก็เหมือนกับพุทราเชื่อม การได้กอดคนที่คุณชอบก็เหมือนเคลือบน้ำตาลหวาน แต่พอคุณกัดลงไป คุณจะได้รสเปรี้ยวและฝาด โดยเฉพาะเวลาที่คุณเห็นคนที่คุณชอบมีคนอยู่ข้าง ๆ เสมอ และคนนั้นก็มักจะเป็นผู้หญิงที่ดูใสซื่อแต่จริง ๆ ทะเยอทะยาน หรือที่เรียกว่าพวก 'กรีนทีบิช' ความฝาดเปรี้ยวนั้นเหมือนจะออกมาจากลำคอ แต่เวลาที่คุณใส่ยีนส์ แล้วเดินไปตามถนนกับคนที่คุณแอบชอบ จากนั้นก็ซื้อพุทราเชื่อม คุณรู้ดีว่าน้ำตาลเคลือบนั้นบางเกินไป ไม่พอที่จะกลบรสฝาดได้ แต่คุณก็ยังรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่กัด เพราะคนที่คุณชอบอยู่ข้างคุณ"

 

เจียงเฉียนฟานยืนเงียบ ไม่พูดอะไร

 

หลินเค่อสงเดาว่าเขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่า 'กรีนทีบิช' คืออะไร และคงไม่เข้าใจความรู้สึกของการแอบชอบ

 

แต่เขาก็รอหลินเค่อสงกินพุทราเชื่อมที่เหลือจนหมดอย่างอดทน

 

เมื่อเหลือเม็ดสุดท้าย หลินเค่อสงลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเจียงเฉียนฟาน เธอเอียงหัวแล้วใช้ข้อศอกดันเขาเบา ๆ "เฮ้! เหลืออีกลูกเดียวแล้ว! อยากลองอีกคำไหม?"

 

"ไม่จำเป็น" คำตอบเย็นชาแบบคาดไม่ถึง

 

"จริง ๆ แล้วสองลูกสุดท้ายไม่เปรี้ยวเท่าลูกก่อน ๆ นะ ลองดูเถอะ บางทีคุณอาจจะชอบก็ได้"

 

หลินเค่อสงยกพุทราเชื่อมไปที่ริมฝีปากของเจียงเฉียนฟาน แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธทันที เพียงแค่เบี่ยงหน้าหลบ

 

เมื่อหลินเค่อสงเห็นเสี้ยวหน้าของเจียงเฉียนฟานในระยะใกล้ มันเหมือนกับการที่สายตาของเธอถูกยืดยาวออกไป

 

เจียงเฉียนฟานในตอนนี้ดูมีความนุ่มนวลน่าหลงใหล

 

หลินเค่อสงเริ่มรู้สึกอยากแหย่เขาเล่น เพื่อดูปฏิกิริยาของเจียงเฉียนฟานเมื่อเขาพยายามหลบเลี่ยง

 

ใบหน้าที่เขาเบี่ยงหลบไปด้านข้าง แม้แต่ลำคอยาวและขาวของเขา ราวกับดาวหางที่พุ่งผ่านท้องฟ้า เธอทำได้แค่เพียงมอง แต่ไม่มีทางจับมันได้

 

หลินเค่อสงยืนเขย่งเท้าแล้วจงใจเอาพุทราเชื่อมไปจ่อที่ริมฝีปากของเขา เมื่อเขายกมือขึ้นปฏิเสธ เธอก็พูดแกล้งเขาว่า "ระวังไม้ไผ่ทิ่มนะ!"

 

ตามที่คาดไว้ เจียงเฉียนฟานไม่ได้ผลักเธอออก แต่เลือกที่จะถอยหลังแทน

 

"เอาน่า เหลือแค่ลูกสุดท้ายแล้ว บางทีหนึ่งพันลูกก่อนหน้านี้อาจจะเปรี้ยว แต่ลูกนี้อาจจะแตกต่างก็ได้  ไม่ใช่พุทราทุกลูกที่มาจากต้นเดียวกันนะ"

 

"ฉันไม่ใช่คนที่เธอจะเอามาล้อเล่นได้ คุณหลิน"

 

น้ำเสียงของเจียงเฉียนฟานแฝงด้วยคำเตือน ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ หนักอึ้งขึ้น

 

"ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ทำไมคุณไม่ลองคาดหวังกับรสชาติของพุทราลูกถัดไปบ้างล่ะ? คุณไม่มีทางรู้หรอก บางทีมันอาจจะหวานและเปรี้ยวลงตัวพอดีก็ได้"

 

เจียงเฉียนฟานยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน

 

หลินเค่อสงมองเขาสักพัก ก่อนจะดึงพุทราเชื่อมกลับมา

 

"ถ้าไม่อยากกินก็ช่างเถอะ"

 

เธอกัดมันเสียงดัง และเคี้ยวอย่างไม่รีบร้อน

 

โอ้ย! ลูกสุดท้ายเปรี้ยวที่สุด!

 

หลินเค่อสงโยนไม้ลงในถังขยะ แล้วตบมือเบา ๆ

 

เจียงเฉียนฟานยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ หลินเค่อสงยิ้มมุมปาก แสดงท่าทางภาคภูมิใจต่อหน้าเขา "เมื่อกี้คุณอยากกัดมันใช่ไหมล่ะ"

 

อีกฝ่ายไม่ได้ตอบ อาจเพราะความเฉยเมยที่ปรากฏบนคิ้วของเขาทำให้ดูไม่สนใจ

 

"อยากรู้ไหมว่ารสชาติของเม็ดสุดท้ายเป็นยังไง?"

 

"ไม่จำเป็น" ดวงตาของเจียงเฉียนฟานเย็นชา แม้เขาจะมองไม่เห็น แต่เพราะแสงสะท้อนจากไฟถนน มันดูเหมือนกับไม้ขีดที่ลุกไหม้ในความมืด

 

"ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะบอกคุณอยู่แล้ว" หลินเค่อสงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า แล้วเดินไปที่จักรยาน

 

โทรศัพท์ในกระเป๋าของเจียงเฉียนฟานเริ่มดังขึ้น เป็นสายจากหลี่เหยียน ผู้ช่วยของเขา

 

หลินเค่อสงตบเบาะแล้วพูดว่า "ไปกันเถอะ ฉันจะไปส่งคุณกลับที่พัก ถึงแม้ว่าทัวร์วันนี้จะยังไม่จบ แต่พรุ่งนี้ฉันก็ทำต่อให้ได้นะ"

 

ยังไงก็ตาม เธอไม่มีอะไรทำอยู่บ้านอยู่แล้ว ทุกวันนี้อยู่เฉย ๆ จนแทบจะขึ้นราอยู่แล้ว

 

"ฉันมีไฟลท์บินตอนเช้า" เจียงเฉียนฟานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

 

"อ๋อ... แต่ตอนนี้มันดึกแล้วนะ คนอื่นคงเป็นห่วงคุณ"

 

หลินเค่อสงขึ้นไปนั่งบนจักรยาน เจียงเฉียนฟานก็ตามไปนั่งลงเช่นกัน เธอไม่ค่อยสนใจค่าจ้าง 1,000 ดอลลาร์เท่าไหร่แล้ว เพราะเธอเหนื่อยเกินกว่าจะคิดอะไรต่อ

 

อากาศยามค่ำคืนเย็นเล็กน้อย พัดผ่านใบหน้าของหลินเค่อสง

 

กลิ่นหวานของน้ำตาลและพุทราลอยอยู่ในอากาศ

 

หลังจากพวกเขาข้ามแยกไฟแดงไป เพราะไฟถนนค่อนข้างมืด หลินเค่อสงจึงมองไม่ชัด ล้อหน้าของจักรยานพลิก และล้อหลังก็สั่นคลอนตาม

 

หลินเค่อสงพยายามอย่างมากที่จะรักษาสมดุล แต่ในตอนนั้นเอง เธอรู้สึกถึงบางอย่างที่จับที่เอวของเธอ

 

ความรู้สึกอบอุ่นนั้นชัดเจนราวกับมันกำลังโอบหัวใจของเธออยู่ แต่เจียงเฉียนฟานก็รีบปล่อยมือออกอย่างรวดเร็ว

 

หลินเค่อสงก้มหน้าและเม้มปาก ไม่มีใครพูดอะไรระหว่างทาง

 

หลินเค่อสงส่งเจียงเฉียนฟานที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง เมื่อมาถึงหน้าโรงแรม หลี่เหยียนและชายชาวต่างชาติอีกคนที่หลินเค่อสงไม่เคยเห็นมาก่อน ดูเหมือนว่าพวกเขารออยู่นานแล้ว

 

"ทำไมเพิ่งกลับมา! คุณหลิน พาคุณเจียงไปไหนมา!"

 

ทันใดนั้นหลินเค่อสงก็ไม่รู้จะพูดอะไร

 

แต่ชายชาวต่างชาติข้าง ๆ หลี่เหยียนก็กดบ่าของหลี่เหยียนไว้ แล้วใช้ภาษาอังกฤษถามว่า "คุณเจียง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

 

"ผมไม่เป็นอะไร"

 

เสียงพูดภาษาอังกฤษของเจียงเฉียนฟานเย็นชา คล้ายสำเนียงอังกฤษ ทำให้ดูเป็นทางการและเคร่งขรึม

 

หลินเค่อสงถอนหายใจเบา ๆ แล้วผลักจักรยานไปทางหลี่เหยียน "คุณหลี่ นี่คือจักรยานที่คุณซื้อมา ฉันขอคืนให้เจ้าของเลยแล้วกัน"

 

หมายเหตุผู้เขียน: ทุกคนสังเกตเห็นไหมว่าหลินเค่อสงใช้พุทราเชื่อมแหย่เจียงเฉียนฟาน?

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า