Your Wishlist

องค์หญิงหมอเทวะ (บทที่ 17 : พิษ)

Author: panthera

ซูมู่เก๋อ หญิงสาวที่พระเจ้าโปรดปรานในวงการแพทย์ กลายเป็นเด็กสาวน่าเกลียด จากการเดินทางข้ามเวลา พ่อของเธอเกลียดเธอ และแม่ของเธอก็ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะปกป้องเธอ! เซี่ยโฮวโม่ หมาป่าผู้โดดเดี่ยว ผู้หยิ่งผยองและเคยมีชัยชนะในสนามรบถูกจักรพรรดิขอให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ไร้ประโยชน์และอัปลักษณ์! ชีวิตของนางจะเป็นเช่นไร เมื่อตัวนางไม่สวยและไม่มีอำนาจใดทั้งสิ้น แต่นางมีแสงสีทองและมือวิเศษ

จำนวนตอน : 459 ตอนจบ

บทที่ 17 : พิษ

  • 05/04/2564

 

         มันไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าของเขาเท่านั้น  แต่ยังรวมถึงความสูงตระหง่านและอารมณ์อันสูงส่งที่ทำให้ผู้อื่นหลงใหล  ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นดาบที่ยังไม่ดึงออกจากฝัก แม้ว่าเขาจะยืนเฉยๆ เขายังดูน่ากลัว

 

         ชายคนนี้สวมชุดสีขาวลวดลายสีเข้มและมีเข็มขัดหยกคาดเอว  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่เพรียวและเป็นชายทั้งแท่ง  อย่างไรก็ตาม  ซูมู่เก๋อคิดว่าชุดสีขาวของเขาเหมือนเสื้อคลุมรบเพราะบรรยากาศที่น่ายำเกรง

 

         เซี่ยโฮวโม่มองตรงไปข้างหน้าโดยไม่แม้จะหยุดเหลือบมองซูมู่เก๋อเลย

 

         ฮวาเจิ้งยิ้มหวานบนใบหน้าสวยงดงามของนาง  เมื่อนางเห็นเซี่ยโฮ่วโม่และตรัสว่า “ฝ่าบาท เมื่อคืนพระองค์หลับสบายดีไหมเพค่ะ?”

 

         “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่?”  เซี่ยโฮวโม่ไม่สนใจคำถามของฮวาเจิ้งและกล่าวกับผู้คุ้มกันของเขา

 

         “ฝ่าบาท ทุกอย่างเรียบร้อยดีพะย่ะค่ะ”

 

         “ออกเดินทาง”

 

         สิ่งที่เซี่ยโฮวโม่พูด   ทำให้ซูมู่เก๋อกลับมาเป็นตัวของตัวเอง  นางคิดว่าชายผู้นี้ไม่รู้เรื่องความรักเลยสักนิด  และไม่มีความอ่อนโยนต่อสตรีเลย  เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงแอบชอบเขา  แต่เขาก็ไม่ตอบสนองนางด้วยซ้ำ

 

         เซี่ยโฮวโม่ออกจากโรงเตี๊ยมและไม่ได้แม้แต่จะมองฮวาเจิ้ง

 

         มีความมืดมนในดวงตาของฮวาเจิ้ง

 

         “องค์หญิง  เชิญเสด็จเพค่ะ”

 

         สาวใช้จับมือฮวาเจิ้ง  แล้วพวกเขาก็เดินออกจากโรงแรมและเข้าไปในรถม้า  ทหารและม้ากลุ่มใหญ่หายไปในถนนอย่างรวดเร็ว

 

         บนถนนสายหลัก  เซี่ยโฮวโม่นั่งบนหลังม้าสีดำราวติดปีก  ตงหลินขี่ม้าไปข้างหน้าและกระซิบกับเซี่ยโฮวโม่  “ฝ่าบาท  มือสังหารคนนั้นไม่ยอมปริปากแม้แต่คำเดียวพะย่ะค่ะ”

 

         เซี่ยโฮวโม่จับบังเหียนในมือแน่นขึ้นพร้อมกับความเย็นชาในดวงตาของเขา

 

         ตงหลินก้มหัวลงและนิ่งเงียบ  ความหนาวเหน็บของเซี่ยโฮวโม่ทำให้เขาเหงื่อออกที่หน้าผาก

 

         องค์รัชทายาทได้พบกับองค์หญิงแห่งแคว้นบูรพา  ภายใต้รับสั่งจากองค์จักรพรรดิเมื่อเดือนก่อน  ในระหว่างการเดินทาง พวกเขาถูกโจมตีมากกว่าสิบครั้ง

 

         องค์หญิงฮวาเจิ้งถูกส่งตัวจากเมืองบูรพาให้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีผ่านการแต่งงาน  ถ้านางมีบางสิ่งเกิดจากเซี่ย  เขาจะต้องเดือดร้อนแน่!

 

         เซี่ยโฮวโม่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นทั่วร่างกาย  “ไม่ปริปากซักคำ? สับมันออกเป็นชิ้นๆ โยนให้สุนัข!  ตรวจสอบว่ามันรับใช้ใคร!”

 

         “พะย่ะค่ะ”

 

         เซี่ยโฮวโม่เหลือบมองและพูดว่า  “แจ้งให้กุยหม่ามาพบข้า”

 

         “ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง พะย่ะค่ะ”

...............................

 

         ซูมู่เก๋อเดินออกจากโรงเตี๊ยมและได้มาถึงที่ตั้งของหมู่บ้านจ้าว  นางขับรถม้าและไปที่หมู่บ้านนางจ้าว

 

         ถนนไม่เรียบและมือของนางที่ดึงบังเหียนเริ่มอ่อนแรง

 

         ดวงอาทิตย์ร้อนขึ้นและร้อนขึ้นเรื่อยๆ  นางกำลังจะเป็นลม

 

         นางหลังตาและส่ายหน้า  อย่างไรก็ตาม  การเต้นของหัวใจของนางพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล

 

         นางขับรถม้าไปข้างทางและเอนกายลงบนรถม้า  กุมหัวใจของนางและหายใจหอบถี่

 

         “มันแปลกอะไรอย่างนี้  เกิดอะไรขึ้นกับข้า!”

 

         นางอยากจะเช็ดเหงื่อด้วยมือของนางแต่เมื่อมองเห็น  ฝ่ามือของนางกลายเป็นสีดำ!

 

         ซูมู่เก๋อตกใจมาก  มองไปที่ฝ่ามือของนางอย่างว่างเปล่า

 

         นางหายใจเข้าลึกๆ  และรู้สึกถึงชีพจรของนางอย่างเงียบๆ

 

         หลังจากนั้นครู่หนึ่ง  นางก็ขมวดคิ้วอย่างหนัก

 

         ให้ตายเถอะ  นี่ข้าถูกวางยา!

                                           

          มันวางยาพิษข้า?

 

          ทันใดนั้น  นางก็มีอาการเจ็บแปลบอย่างรุนแรงราวกับว่ามีคนมาล้วงเข้าไปที่ท้องของนางและทำให้อวัยวะภายในของนางบิดสั่น  นางเจ็บปวดจนต้องกรีดร้องออกมา!

 

          พิษร้ายกาจนี้คือพิษอันใด!

 

          ซูมู่เก๋อพยายามที่จะลุกขึ้นยืน  แต่นางเจ็บปวดจนแทบจะสิ้นสติ

 

          ในที่สุด  นางก็ขับรถม้าไปที่เชิงเขาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย  นางไม่สามารถประคองตัวได้อีกต่อไปและล้มลงจากรถม้า

 

          “ตึก ตุบ....”

 

          “เดินไปและเดินมา  เป็นคนโง่เขลาและไร้ความสามารถและข้าจะไม่กังวล....”

 

          มีเสียงระฆังที่คมชัดและเสียงฝีเท้าอันรวดเร็วที่เชิงเขาว่างเปล่าและเงียบสงบ  เงาร่างปรากฎขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของเนินเขา

 

          เขาสวมเสื้อคลุมลัทธิเต๋าสีซีดจาง  ถือแส้ปัดป่ายกับผมกระเซิงซึ่งดูตลกมาก

 

          นักบวชลัทธิเต๋ามองเห็นซูมู่เก่๋อที่กำลังตกจากรถม้าแล้วเดินตรงไปหานาง....

 

31/3/2564
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป