Your Wishlist

ทำไงดีครับ!สามีผมเป็นพี่น้องกัน(3p) (5)

Author: โดราบงบง

ความผิดพลาดแค่คืนเดียวเพราะความเมา ทำให้ชีวิตของกายนั้นต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเพราะมีมารเข้ามาในชีวิตถึง2คน! เขาจะเอาชีวิตรอดจากกรงเล็บของเสือทั้งสองตัวได้หรือไม่หรือจะต้องตกเป็นจำเลยของทั้งสองตลอดชีวิต

จำนวนตอน : 53

5

  • 25/12/2564

กายเริ่มรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างรัดที่ขาและแขนของเขาไว้ทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย กายคิ้วขมวดเล็กน้อยและพยายามที่จะขยับตัวแต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ เขารู้สึกไม่กล้าที่จะลืมตามองดูว่าอะไรที่รัดตัวของเขาไว้ กายได้แต่ภาวนาว่าสิ่งที่ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้จะไม่ใช่สิ่งที่เขามองไม่เห็น เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ จนในที่สุดกายก็มองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาได้สำเร็จว่ามันคืออะไรและสิ่งที่กายได้เห็นนั้นก็คือ..มนุษย์ร่างหนาสองคนที่เอาแขนและขามาก่ายไว้ที่เขา จนกายนั้นมีเพียงแค่หัวที่พอจะขยับได้เท่านั้น กายถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่สิ่งที่รัดเขามันคือคน ไม่ใช่อย่างอื่นที่เขาแอบคิด ซึ่งเขาเองก็แอบตกใจกับตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้โล่งใจแทนที่จะตกใจ

 

กายใช้หางตามองไปทางซ้ายทีขวาทีและพยายามที่จะดันหน้าคนที่นอนเอาหน้าซุกไหล่เขาอยู่ทั้งสองคนให้ออกไป แต่ดันเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าทั้งสองคนจะออกห่างเลยด้วยซ้ำ กายจึงตัดสินใจค่อยๆดิ้นทีละนิด

 

“ นี่แรงคนหรือแรงควายวะเนี้ย “ กายบ่นพึมพำอยู่คนเดียวเพราะเขาไม่สามารถที่จะเอาตัวเองให้ออกมาจากท่อนแขนของทั้งสองคนได้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

กายพยายามออกแรงอีกครั้งแต่ก็เหมือนว่าจะสูญเปล่าเพราะนอกจากทั้งสองคนจะไม่ขยับแล้ว ยังคงกอดเขาแน่นมากขึ้นกว่าเดิมด้วย จนกายเริ่มทนไม่ไหวจึงตะโกนขึ้นมา

 

“ ปล่อยเว้ยย!! “ กายหันไปมองซ้ายทีขวาทีแต่ทั้งสองคนที่กอดเขาอยู่ก็ยังไม่ยอมปล่อยจนกายเริ่มมั่นใจแล้วว่าทั้งสองคนนั้นไม่ได้หลับอย่างที่กายเห็น

 

“ ถ้าพวกมึงไม่ปล่อย กูจะถีบแล้วนะ! “ กายบอกออกมาอย่างสุดทน ทำให้ทั้งธีร์และธารที่แกล้งหลับอยู่นั้นลืมตาขึ้นมามองคนตัวเล็กที่ดิ้นอยู่ในอ้อมแขน

 

“ จะแหกปากทำไมแต่เช้าวะ “ ธีร์พูดแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ

 

“ ก็กอดกูไว้ขนาดนี้พวกมึงไม่คิดจะให้กูไปฉี่ไปขี้เลยรึไง ห๊ะ! “ กายพูดออกมาด้วยความโมโห ถึงแม้ว่าคำพูดของเขามันอาจจะฟังดูหยาบคายมากเลยก็ตาม แต่ด้วยความรู้สึกที่เขาอึดอัดและไม่ค่อยชอบให้ใครมากอดรัดที่ตัวเขาแบบนี้ มันเลยทำให้กายหลุดคำพูดที่ไม่น่ารักออกมา

 

“ น้องกายคะ พี่ว่าคำพูดแบบนี้หนูไม่ควรพูดนะ “ ธารพูดเสียงดุ ถึงแม้ว่าเขาจะปล่อยผ่านคำที่ไม่น่ารักของคนตัวเล็กไปหลายครั้งแต่ครั้งนี้เขาว่ามันดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่นักโดยเฉพาะพวกเขาที่อายุมากกว่าคนตัวเล็กแบบนี้

 

“ มึงสั่งสอนมันเองก็แล้วกัน “ ธีร์พูดแค่นั้นก็เดินออกไปทันทีด้วยความโมโห ทำให้กายได้แต่กระพริบตาปริบๆมองคนที่อารมณ์แปรปรวนเดินออกไป

 

“ รู้มั้ยว่าที่พูดมามันไม่เพราะแล้วมันก็ไม่น่าฟังเลยสักนิด “ ธารพูดดุอีกครั้ง ซึ่งน้ำเสียงของธารพูดจริงจังมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา มันเลยทำให้กายนิ่งเงียบไปด้วยความรู้สึกผิด

 

“ พวกพี่ทั้งสองคนโตกว่าหนูนะ หนูจะมาพูดแบบนี้มันไม่ได้ “

 

“ ถ้าหนูคุยกับเพื่อนพวกพี่จะไม่ว่าจะไม่ดุอะไรเลยแต่นี่หนูคุยกับพวกพี่ หนูลองคิดเอานะว่ามันเหมาะสมมั้ยกับสิ่งที่หนูพูดออกมาใส่พวกพี่แบบนี้ “ ธารยังคงพูดอย่างต่อเนื่องด้วยน้ำเสียงที่ดุเช่นเดิม

 

“ ขอโทษ “ กายพูดเสียงแผ่วเพราะครั้งนี้เขาเองเป็นฝ่ายผิดจริงๆ

 

“ ถ้าหนูรู้สึกผิดจริงๆพี่ก็ไม่โกธรค่ะ แต่พี่ขอให้หนูเลิกใช้คำหยาบกับพวกพี่ หนูทำได้มั้ยคะ “ ธารพูดขอ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการหักดิบก็ตามแต่เขาไม่สามารถปล่อยคำพูดที่ไม่น่ารักแบบนี้ของคนตัวเล็กได้อีกต่อไปแล้ว

 

“ ...ก็ได้ “ กายก้มหน้าพูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิด และก็เพราะเขาคิดดูแล้วว่าเขาเองก็อายุน้อยกว่าจริงๆถ้าเขามาพูดแบบนี้กับคนที่อายุมากกว่ามันก็คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก เขาอาจจะต้องลองปรับเปลี่ยนตัวเองดูบ้าง

 

“ หนูจะทำได้แน่นะ “ ธารเชยคางมนให้มองหน้าตัวเอง

 

“ อืม “ กายมองสบตาคมของร่างสูงตรงหน้าแล้วพยักหน้าน้อยๆ ทำให้ธารยิ้มออกมาอย่างพอใจ

 

“ งั้นเดี๋ยวพี่ไปเรียกไอธีร์มันเข้ามา หนูก็ต้องขอโทษมันด้วยนะ เข้าใจพี่มั้ยคะ “ ธารเลิกคิ้วถามคนตัวเล็กที่รู้สึกผิดอยู่

 

“ อืม “ กายพยักหน้าอีกครั้ง

 

ธารปล่อยคางมนและเดินออกไปนอกห้องเพื่อเรียกน้องชายเข้ามาด้านใน

 

“ไอธีร์ มึงเข้าไปคุยกับตัวเล็กในห้องได้แล้ว “ ธารเรียกน้องชายตัวเองเสียงนิ่ง ธีร์ที่นั่งกินกาแฟอยู่ที่โซฟาหันมามองหน้าคนที่เรียกตัวเองนิดๆ

 

“ มึงคุยกับมันแล้วรึไง “ ธีร์ถาม และมันทำให้ธารที่ได้ยินคำถามของน้องชายถึงกับขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจในทันที

 

“ เออ แล้วมึงก็เลิกเรียกตัวเล็กว่ามันได้แล้ว เข้าไปตกลงกันข้างใน ไป “ ธารสั่งเสียงนิ่งแล้วเดินเข้าไปข้างใน ธีร์เองก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วเดินตามเข้าไปข้างใน

 

“ มีอะไรจะคุยกับกู “ ธีร์ถามเสียงแข็ง เหตุผลที่เขาบึ้งตึงแบบนี้ก็เพราะยังคงโกธรที่โดนร่างบางตะคอกด่าเมื่อสักครู่อยู่

 

“ ไอธีร์ “ ธารปรามเสียงนิ่ง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กก้มหน้าก้มตารู้สึกผิดอยู่ ธีร์ถอนหายใจออกมาเพื่อปรับอารมณ์ไม่ให้โมโหใส่ร่างบางไปมากกว่านี้

 

“ ตกลงมีอะไร “ ธีร์หันไปถามธารแทน

 

“ กูว่าเราควรเลิกพูดกูมึงกับตัวเล็กได้แล้ว และกูเองก็คุยกับตัวเล็กแล้วว่าจะไม่พูดคำหยาบอีก “ ธารพูดขึ้น

 

“ หึ “ ธีร์ร้องหึในลำคอออกมาเพราะไม่อยากเชื่อเท่าไหร่

 

“ ไม่ต้องหึเลยมึง ทีมึงยังทำแทบไม่ได้เลยไอธีร์ “ ธารว่าออกมา ธีร์หันมามองทางกายนิดๆ

 

“ ขอโทษ “ กายเงยหน้าขึ้นมามองทางธีร์แล้วยกมือไหว้ขอโทษ

 

“ ...... “ ธีร์นิ่งไปนิดเมื่อเห็นอีกคนยกมือไหว้ขอโทษเขาแบบนี้ ธารเองก็มองทั้งสองคนนิ่งๆเพราะต้องการจะรอดูว่าธีร์จะทำยังไง

 

“ กู...พี่เองก็ขอโทษ “ ธีร์ที่จะพูดกูในตอนแรกชะงักไปนิดแต่ก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนตัวเองใหม่ เพราะเขาเองก็เห็นแล้วว่าร่างบางคงรู้สึกผิดจริงๆถึงได้ขอโทษออกมาแบบนี้  กายนิ่งอึ้งไปไม่น้อยกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปกระทันหันของธีร์แต่เขาเองก็แอบรู้สึกดีลึกๆที่อีกคนไม่ได้แข็งข้ออะไรมากอย่างที่คิด

 

“ ในเมื่อเข้าใจกันแล้ว หวังว่าคราวหน้าคงจะไม่ได้ยินใครพูดกูมึงหรือคำหยาบออกมาอีกนะ “ ธารหันมองทั้งสองคนไปมา

 

“ มันก็ต้องอยู่ที่ว่าน้องมันจะพูดกับกูยังไง “ ธีร์หันมาพูดกับธารพร้อมกับปลายตราไปมองกายที่นั่งจ้องเขาทั้งสองตาแป๋วอยู่ ธารเองก็ถอนหายใจออกมานิดๆเมื่อเห็นว่าเรื่องทุกอย่างนั้นถูกเคลียร์หมดแล้ว

 

“ หนูหิวหรือยังคะ “ ธารหันไปถามกาย กายเองก็เม้มปากนิดๆเพราะต้องพูดในสิ่งที่ตัวเองไม่ชิน

 

“ ยะ..ยัง  ครับ “ กายพูดเสียงอ้อมแอ้มซึ่งมันทำให้ธีร์และธารรู้สึกพอใจไม่น้อย

 

“ คือวันนี้พวกเพื่อนพี่มันจะเข้ามากินเลี้ยงกันที่นี่หนูรอไหวมั้ยคะ หรืออยากกินอะไรลองท้องก่อนมั้ย “ ธารถามพร้อมกับไปนั่งข้างๆกาย กายเองก็รู้สึกแปลกๆที่อีกคนเข้ามาใกล้ขนาดนี้แต่พยายามฝืนเอาไว้เพราะเขาเองก็คิดว่าต้องปรับตัวบ้างเหมือนกัน

 

“ รอได้ “ กายพูดสั้นๆและมองหน้าธารอยู่แบบนั้นโดยที่ไม่กล้ามองธีร์ที่มองเขาอยู่  จนธีร์ทนไม่ไหวจึงมานั่งอีกด้านนึงของกาย

 

“ ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืน “  กายตกใจไม่น้อยที่ธีร์พูดเหมือนรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

 

“ พี่เข้าใจ “ ธีร์พูดออกมาจากความรู้สึกจริงๆเพราะเขาเองก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่นักแต่เพราะเห็นว่าอีกคนเริ่มอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเขาจึงต้องเริ่มก่อนด้วยความที่อายุมากกว่า ถึงแม้ว่าเขาจะพูดกับคนอื่นแทบนับคำได้ แต่สำหรับคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆเขาตอนนี้ ถ้าเขาไม่พูดไม่อธิบายอะไรเลย อาจจะทำไม่เข้าใจกันเลยก็ได้

 

“ หนูไม่โอเคหรอคะ “ ธารที่เห็นธีร์พูดแบบนั้นจึงหันไปถามกายทันทีพร้อมกับจับมือร่างบางมากุมเอาไว้

 

“ คือ..มันยังไม่ชินอะ ทำตัวไม่ถูก “ กายพูดเสียงอ้อมแอ้ม ทำให้ทั้งธีร์และธารต่างยิ้มขำออกมาให้กับความน่ารักของคนตัวเล็ก

 

“ เรียกตามที่ถนัดก่อนก็ได้ ถ้าอยากเรียกเมื่อไหร่หนูค่อยเรียก แบบนี้ดีมั้ยคะ “ ธารพูดพร้อมกับลูบหัวเล็กด้วยความเอ็นดู

 

“ ..... “ กายเงียบไม่ได้ตอบอะไรแต่ในหัวก็คิดไว้ว่าอยากจะพูดดีดีกับทั้งคู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะโดนบังคับให้มาอยู่ที่นี่แล้วยังโดนข่มขื่นอีกต่างหาก

 

“ ไปอาบน้ำได้แล้ว “ ธีร์หันไปบอกกายสั้นๆ กายเองก็เม้มปากนิดๆแต่ก็ยอมลุกไปอาบน้ำแต่โดยดี

 

ภายในห้องน้ำ

 

กายเองก็รู้สึกแปลกใจกับตัวเองไม่น้อยว่าทำไมถึงยอมอะไรง่ายดายขนาดนี้ทั้งๆที่เขายังไม่ทันได้คบกับใครสักคนเลยด้วยซ้ำ แต่แปลกที่กายรู้สึกไม่อึดอัดเลยสักนิดกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาดทั้งๆที่เขาเองก็ยังรู้จักทั้งสองคนไม่ดีพอเลยด้วยซ้ำ

 

“ สงสัยต้องลองเรียนรู้นิสัยของสองคนนั้นแล้วมั้ง “ กายพึมพำกับตัวเองเบาๆเพราะกลัวว่าคนข้างนอกจะได้ยิน

 

 

 

หลังจากที่กายอาบน้ำแต่งตัวในห้องน้ำเสร็จกายก็ออกมาข้างนอกแล้วก็พบกับธีร์และธารที่นั่งอยู่บนเตียงของเขาอยู่เช่นเดิม

 

“ ทำไมแต่งตัวแบบนี้ “ ธีร์ขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น เมื่อเห็นกายใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นออกมาจากห้องน้ำ

 

“ ทำไมอะ “ กายก้มมองดูเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ด้วยความสงสัย

 

“ มันโป๊มากไปหรือเปล่า “ ธีร์พูดเสียงเข้ม และนั่นมันก็ยิ่งทำให้กายสงสัยมากกว่าเดิมอีกเพราะเขาเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยใส่อะไรแบบนี้แต่ที่ไม่เข้าใจมากกว่าก็คือ ทำไมร่างสูงทั้งสองคนถึงได้ทำเรื่องนี้ให้มันดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่นักเพราะดูจากสีหน้าที่ไม่พอใจของทั้งสองที่มองมาทางเขานั้นมันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าต้องทะเลาะกันอีกครั้งแน่ๆ

 

“ โป๊? นี่มันโป๊ตรงไหนก็ใส่อยู่ในห้องป่ะแล้วกายก็เคยใส่แบบนี้มาแล้วไม่ใช่ไม่เคย อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ได้มั้ย “ กายเถียงออกมาด้วยความไม่เข้าใจ

 

“ มึงคุยกับมันแล้วกัน! “ ธีร์หันมาพูดกับธารอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินออกนอกห้องไปทันทีทิ้งให้กายได้แต่มองตามออกไปด้วยความงงปนตกใจเพราะจู่ๆร่างสุงก็ลุกพรวดพราดออกไปเลย

 

“ นี่มันอะไรกันพี่ธาร พี่เขาเป็นอะไรอีก “ กายขมวดคิ้วหันมาถามธาร ซึ่งธารเองก็ถอนหายใจมองธีร์ที่เดินออกไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกันแต่เพราะเขาเองเป็นคนที่ใจเย็นมากกว่าก้เลยต้องอยู่อธิบายแทน

 

“ ไม่มีไรมากหรอกค่ะ พวกพี่แค่หวงน่ะ “ ธารหันมาพูดกับกายสียงอ่อน

 

“ ห๊ะ! หวง? “ กายถามย้ำอย่างอึ้งๆปนตกใจเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้

 

“ ค่ะ พี่ว่า..หนูไปง้อมันหน่อยดีกว่ามั้ย ไอธีร์มันเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยแสดงออกอะไรมากมายเท่าไหร่แต่ถ้าเวลามันโมโหหรือไม่ชอบใจอะไร มันค่อนข้างจะดูน่ากลัวอยู่เหมือนกันและพี่ ก็ไม่อยากให้มันมาทำนิสัยแบบนี้ให้หนูเห็น “ ธารพูดอธิบายถึงนิสัยส่วนนึงของน้องชายตัวเอง ซึ่งตัวของเขาเองก็นิสัยคล้ายๆกันเพียงแต่ว่าเขาจะดูขี้เล่นมากกว่าคนน้องเท่านั้นเองมันเลยอาจจะทำให้ใครหลายๆคนคิดว่าเขาและน้องชายนิสัยต่างกัน ซึ่งจะมีเพียงแค่ครอบครัวและเพื่อนสนิทจริงๆเท่านั้นถึงจะรู้ว่าเขาและน้องชายนิสัยราวกับว่าเป็นคนๆเดียวกัน

 

“ คือ..กาย กายง้อใครไม่เป็นอะ “ กายพูดเสียงเครียด ธารเองก็ส่งยิ้มบางๆไปให้และดึงข้อมือเล็กของร่างบางให้เข้ามาอยู่ใกล้ๆ

 

“ ธีร์มันเป็นคนไม่อะไรมากหรอกเราไม่ต้องกลัว แค่ไปง้อมันนิดหน่อยมันก็หายโกธรแล้วค่ะ “ ธารพูดยิ้มๆแล้วลูบหัวกายอย่างปลอบประโลม  กายขมวดคิ้วด้วยความกังวนเพราะเขาไม่เคยต้องมานั่งง้อใครแบบนี้

 

“ เดี๋ยวพี่พาหนูเดินออกไป “ ธารพูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วจับมือพาคนตัวเล็กเดินออกไปนอกห้อง

 

เมื่อกายและธารเดินออกมาก็พบกับร่างสูงที่ยืนทำกับข้าวอยู่โซนครัว

 

“ ทำไรวะ “ ธารถามอย่างสงสัย

 

“ ต้มจืด ผัดผัก “ ธีร์บอกเมนูเสียงนิ่ง กายชะโงกหน้าเพื่อดูนิดๆแต่ไหล่ของธีร์นั้นบังเอาไว้

 

“ กูไม่ได้ชอบกินผัดผักกับต้มจืดนะ “ ธารแกล้งถามเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าธีร์ทำไว้ให้ใคร ซึ่งมันทำให้กายยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิมเพราะเมนูสองอย่างนี้มันคือของโปรดของเขานั่นเองและเขาก็ไม่รู้ว่าร่างสูงที่ยืนทำอาหารอยู่นั้นไปรู้มาได้ยังไง

 

“ กูทำให้หมาสงสัยไง “ คำพูดร้ายกาจถูกออกมาจากปากร่างสูง และมันทำให้กายสะดุ้งไปไม่น้อยเพราะดันสงสัยขึ้นมาจริงๆ

 

“ สัด “ ธารด่าธีร์พร้อมกับเหล่ตามองคนตัวเล็กข้างกายที่มองแผ่นหลังของน้องชายอยู่ ธารดันไหล่เล็กของร่างบางให้ออกมาข้างหน้า กายหันไปมองทางธารด้วยความไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก ธารเองก็ได้แต่ส่งยิ้มให้กำลังใจและพยักหน้าเพื่อให้กายเดินเข้าไปคุยกับธีร์ กายสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเองแล้วค่อยๆเดินเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆโดยมีธารยืนให้กำลังใจอยู่ทางด้านหลัง

 

“ พี่ธีร์ ทะ..ทำอะไรอะ “ กายที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยกับร่างสูงยังไงจึงเริ่มต้นด้วยคำถามแทน

 

“ ไม่ได้ยินที่พูดไปหรอ “ ธีร์พูดกวนเสียงนิ่ง กายเมื่อได้ยินก็เม้มปากด้วยความโมโหแต่เขาก็พยายามที่จะเก็บอารมณ์ให้ได้มากที่สุดเพราะมีความผิดติดตัวอยู่ กายยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าแผ่นหลังกว้างสักพักและพยายามคิดว่าคนแบบธีร์จะต้องง้อด้วยวิธีไหนถึงจะหายโกธร และจู่ๆมันก็มีความคิดนึงแว๊บเข้ามาในหัวซึ่งกายชั่งใจอยู่สักพักว่าจะทำตามความคิดนั้นดีมั้ยแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทำเพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาโกธรเขาแบบนี้

 

 

 

หมับ!

 

 

 

แรงกอดรัดทางด้านหลังทำให้ธีร์ที่กำลังปิดแก๊สเพื่อเตรียมนำต้มจืดไปใส่ในชามที่เตรียมไว้ชะงักไปนิด

 

“ ขอโทษ “ กายพูดเสียงแผ่ว

 

“ เรื่องอะไร “ ธีร์ตอบกลับเสียงนิ่ง ซึ่งมันทำให้กายรู้สึกใจเสียไปนิดเพราะน้ำเสียงของร่างสูงมันดูเย็นชามากกว่าเดิม

 

“ ขอโทษที่ไม่ฟังแล้วก็ดื้อ อ่อ ขอโทษที่เถียงพี่ด้วย “ กายพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิด ธีร์เองก็แอบยิ้มมุมปากนิดๆอย่างขำๆ อันที่จริงเขาเองก็หายโกธรตั้งแต่ที่ร่างเล็กเข้ามาถามเขาแล้วแต่ที่เขายังคงนิ่งอยู่ก็เพราะอยากจะรู้ว่าร่างเล็กจะทำยังไงต่อไป ธีร์ทำสีหน้าให้นิ่งดังเดิมและหันไปเผชิญหน้ากับคนตัวเล็กที่ทำสีหน้าเครียดอยู่

 

“ วันหลังจะเป็นแบบนี้อีกมั้ย “ ธีร์ถามร่างเล็กแต่น้ำเสียงก็ยังคงใช้โทนเดิมอยู่

 

“ ไม่แล้ว “ กายก้มหน้านิดๆเพราะยังรู้สึกผิดอยู่

 

“ ถ้าไม่แล้วก็ดี งั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว “ ธีร์พูดเสียงปกติเพราะไม่อยากแกล้งร่างบางแล้ว

 

“ แต่..มันร้อนอะ ไม่เปลี่ยนได้มั้ย “ กายพูดเสียงอ้อมแอ้มเพราะกลัวว่าจะโดนอีกคนต่อว่าอีก

 

“ เอาน่ามึง ยังไงพวกมันก็ไม่ได้อะไรกับคนของเราอยู่แล้วปะว่ะ ตัวเล็กบอกร้อนก็ให้ใส่อะไรที่มันสบายๆไปนั่นแหละ กูไม่อยากให้ตัวเล็กร้อนเดี๋ยวจะไม่สบาย “ ธารเดินเข้ามาใกล้ทั้งทั้งคู่แล้วพูดขึ้นพร้อมกับโอบเอวเล็กเอาไว้ กายเองก็ตัวแข็งทื่อนิดๆด้วยความเกร็งเพราะเขายังไม่ชินเท่าไหร่นักกับการที่ถูกใครแตะเนื้อต้องตัวแบบนี้

 

“ ..... “ ธีร์นิ่งเงียบอย่างใช้ความคิดพลางมองใบหน้าหวานของกายเพื่อตัดสินใจ ธารและกายก็มองหน้าธีร์เพื่อต้องการคำตอบเช่นกัน

 

“ กูให้ไอเตี้ยมันแค่วันนี้วันเดียวนะ “ ธีร์หันไปพูดกับธารพร้อมกับเรียกกายด้วยยาใหม่ที่เขาพึ่งตั้งขึ้น

 

“ เตี้ย? นี่ชื่อกายก็มีนะ ทำไมเรียกตัวเล็กเรียกเตี้ยกันอยู่ได้ กายก็ผู้ชายนะ “ กายพูดอย่างโมโห แต่มันไม่ได้ทำให้ธีร์และธารรู้สึกกลัวเลยสักนิดแต่มันกลับยิ่งทำให้ทั้งคู่รู้สึกว่าอีกคนช่างน่ารักมากเสียจริง

 

“ พี่ว่ามันน่ารักดีออก พี่ขอเรียกนะคะ “ ธารพูดเสียงหวานและจับมือของร่างบางมาจูบที่หลังมือเบาๆอย่างอ้อนๆ กายตาโตขึ้นด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะอ้อนแบบนี้

 

“ กะ..ก็ได้ๆๆ จะเรียกไรกันก็เรียก “ กายพูดตัดบทพร้อมกับดึงมือที่อีกคนจับขึ้นไปจูบออกมา

 

“ หึหึหึ “ ธีร์และธารมองหน้ากันพร้อมกับยิ้มขำนิดๆเมื่ออีกคนหน้าแดงซ่านด้วยความเขิน

 

 

 

 

 

++++++++++

 

#หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมทั้งสามคนดูรักกันเร็วจัง หึหึหึ ความสุขของเรามันจะเริ่มต้นแค่ตอนแรกเท่านั้นแหละค่าาาา

 

รอติดตามกันตอนต่อไปดีกว่าเนอะว่าเขาจะยังรักกันอีกสักกี่ตอน หุหุหุ(หัวเราะแบบชั่วร้ายย)

25/12/2564
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า