“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
ชวี่หน่วนกำลังจะเคาะประตูแล้วผลักมัน แต่มือของเธอก็แข็งค้างอยู่ในอากาศเมื่อเธอได้ยินเสียงดังมาจากด้านใน
“พี่ ฉิ่นจู เมื่อไหร่เราจะประกาศความสัมพันธ์ของเราให้โลกรู้ หนึ่งปีแล้วนะคะที่เราได้อยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้เพราะเจียงเยว่ แต่ตอนนี้ ทุกอย่างจัดการเรียบร้อย เราไม่ต้องกังวงกับเธอแล้ว”
เสียงแหลมสูงของผู้หญิงคุ้นเคยกับเธอมาก ห่าวเหม่ย น้องคนสุดท้องและสมาชิกวงคนโปรดของเธอ
“คบกันเป็นปี?” เธอพึมพำด้วยเสียงต่ำเพราะเธอแทบไม่เชื่อเลยว่ามันจริงหรือปลอม
ฉิ่นจูและเธอคบกันมาสี่ปีแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะเก็บเป็นความลับตั้งแต่เธอเป็นไอดอลและเขาเป็นซีอีโอของบริษัท แต่สมาชิกในกลุ่มของเธอรู้ดี
พวกเขาตัดสินใจที่จะเก็บความสัมพันธ์ไว้เป็นความลับเพราะเธอรู้ว่าผู้คนจะทำเหมือนเธอเป็นแค่อีตัวหรือโสเภณีถ้าข่าวนี้ออกไป
ผู้คนมักตัดสินผู้หญิงโดยเฉพาะถ้าเธอมาจากวงการบันเทิง
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ประเด็น พวกเขาเก็บความสัมพันธ์เป็นความลับจนถึงตอนนี้และหลังจากนั้นไม่กี่เดือนพวกเขาก็วางแผนที่จะแต่งงานกันด้วย แม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่สมาชิกในวงของเธอรู้ดี
ห่าวเหม่ยเคยแซวเธอด้วยโดยบอกว่าเธอโชคดีที่มีคนดีและสุภาพบุรุษอย่างฉิ่นจูเป็นแฟน นอกจากจะหน้าตาดีแล้ว ยังนิสัยดีอีกด้วย อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เขาแสดงให้ทุกคนเห็น
แต่ตอนนี้เธอพบว่าพวกเขาคบกันตั้งแต่ปีที่แล้ว?
'เป็นไปได้อย่างไร?' เธอตกตะลึงเมื่อไม่สามารถประมวลผลความคิดตัวเองได้
เธอเม้มริมฝีปากและเอนตัวเข้าไปเพื่อฟังสิ่งที่เกิดขึ้นภายในมากขึ้น
“ห่าวเหม่ย เราประกาศความสัมพันธ์ของเราตอนนี้ยังไม่ได้ แม้ว่าเจียงเยว่จะถูกลยออกจากทางของเราแล้ว แต่สมาชิกคนอื่นๆ ล่ะ คุณคิดว่าพวกเขาจะยังคงนิ่งเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?”
ชวี่หน่วนเม้มปากเมื่อเธอได้ยินคำพูดของฉิ่นจู เธอมาที่นี่เพื่อให้ข่าวแก่เขาว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่แทนที่จะเซอร์ไพรส์เธอกลับต้องช๊อคแทน
ความสัมพันธ์ที่เธอเคยคิดว่าเป็นความสัมพันธ์ที่มีความสุข กลับไม่มีความสุขเลย
'ไอ้สารเลว' ชวี่หน่วนกำหมัดด้วยความโกรธเพียงแค่คิดถึงเวลาที่เขาพูดอย่างไร้ยางอายว่าเขารักเธอ
“นอกจากนี้ มันจะใช้เวลาพอสมควรในกระบวนการตรวจสอบพินับกรรมของเจียงเยว่ หากเราประกาศความสัมพันธ์ตอนนี้ แผนของเราจะถูกทำลาย เราไม่สามารถปล่อยให้ทุกอย่างสูญเปล่าได้”
“พินัยกรรม? แผน?” จิตใจของชวี่หน่วนว่างเปล่าเมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขา
เธอลืมเรื่องพินัยกรรมไปโดยสิ้นเชิง เธอจำได้ว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ฉิ่นจูแนะนำให้เธอเตรียมพินัยกรรม เพื่อที่ว่าแม้ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งนี้จะปกป้องเจตจำนงของเธอที่จะไปอยู่ผิดมือ
ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมากเพราะการทำพินัยกรรมไม่ใช่เรื่องใหญ่
ทุกคนรู้ว่าเธอไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว ห่าวเหม่ยจึงแนะนำให้เธอวางความไว้วางใจกับเดอะยูธซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ QYเอ็นเตอร์เทรนเม้นท์ในฐานะผู้รับผลประโยชน์
ในเวลานั้น เธอคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ด้วยวิธีนี้ เงินของเธอจะไม่ตกไปอยู่ในมือของใครที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอและเธอจะสามารถทำสิ่งที่ดีได้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอตระหนักดีว่าการเลือกแบบนั้นแย่แค่ไหน
“พินัยกรรมยังไม่ได้รับการพิสูจน์เหรอ? เธอตายมากว่าหนึ่งเดือนแล้วนะ พี่ ฉิ่นจู พี่ต้องรีบหน่อย ไม่งั้นจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสมาชิกในครอบครัวของเธอมาอ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินและความมั่งคั่งของเธอ”
“จะไม่มีปัญหาอื่นแน่ ในอีกหนึ่งสัปดาห์พินัยกรรมจะถูกดำเนินการและความมั่งคั่งและทรัพย์สินทั้งหมดของเจียงเยว่จะเป็นของเรา หลังจากนั้นเราสามารถลบสมาชิกคนอื่น ๆ ของเดอะควีนส์ออกจากบริษัทและประกาศความสัมพันธ์ของเราต่อหน้าคนทั้งโลก”
ห่าวเหม่ยกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของเขาและพูดว่า "พี่ ฉิ่นจู พี่เก่งที่สุด ที่เจียงเยว่เคยคิดว่าเธอเป็นราชินีที่แท้จริง แต่ดูสิ เธอตกลงมานิดหน่อยแค่นี้ยังทนไม่ได้" เธอหัวเราะขำเมื่อนึกถึงวันที่เจียงเยว่ตกลงมาจากสายรัดสลิง
ตอนที่พวกเขากำลังถ่ายทำเอ็มวี เธอรู้ว่าเจียงเยว่น่าจะถ่ายฉากแอคชั่นเองและต้องใช้สายรัด
ห่าวเหม่ยแค่อยากจะแกล้งเจียงเยว่และต้องการสอนบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ให้เธอ เธอจึงติดสินบนช่างเทคนิคให้ไปยุ่งเกี่ยวกับสายรัด
แต่โชคไม่ดีเองที่ตอนเจียงเยว่ตกลงมาจากที่สูง ไฟของกล้องก็ตกลงใส่เธอด้วยเพราะมีพนักงานคนหนึ่งบังเอิญไปชนมันเข้า ทุกอย่างวุ่นวายมากจนอุบัติเหตุเล็ก ๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่
แม้แต่เธอก็ไม่ได้คาดหวังให้เจียงเยว่ตายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เธอดีใจที่สิ่งต่างๆ กลายเป็นแบบนี้
ด้วยวิธีนี้ เธอไม่เพียงแต่จะได้อยู่ร่วมกับฉิ่นจูอย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่ความมั่งคั่งของเจียงเยว่จะเป็นของพวกเขาในตอนนี้แล้ว
แม้ว่าเธอเองมีชื่อเสียงและร่ำรวย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเจียงเยว่แล้ว เธอก็ไม่มีอะไรเลย จำนวนตารางงานที่เจียงเยว่เคยมีนั้นมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆ
….
เจียงเยว่กำหมัดแน่นขณะที่ริมฝีปากของเธอสั่น เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่เธอเชื่อใจมากที่สุดแทงข้างหลังเธอแบบนี้
"คุณมาทำอะไรที่นี่?" เธอตกใจเมื่อได้ยินเสียงหนักแน่นจากด้านหลัง
เมื่อเธอหันหลังกลับ เธอเห็นเลขาของฉิ่นจูยืนอยู่ข้างหลัง
ชวี่หน่วนเม้มริมฝีปากและดึงหมวกออกขณะที่เธอตอบว่า "ฉันมาส่งของ ห้องซ้อมเต้นอยู่ที่ไหนค่ะ?" เธอถามขณะยกไก่ในมือให้เธอดู
เลขาเหล่ตาและมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า คิดว่าเป็นสาวส่งของก็ไม่คิดมาก
"มันอยู่ชั้น 6 ที่เธอยืนอยู่นี่คือห้องประธานบริษัท คราวหน้าอย่าเดินเตร่ไปทั่วออฟฟิศอีก"
" โอ้" เมื่อกล่าวเช่นนี้ ชวี่หน่วนก็รีบเข้าลิฟต์และรีบออกจากอาคาร
เธอวางมือบนหน้าอกเพื่อลดความรู้สึกหายใจไม่ออกในหัวใจของเธอ
เธอมองไปที่อาคารขนาดใหญ่และบ่นว่า "ฉิ่นจู ห่าวเหม่ยดูเหมือนว่าคุณจะประเมินฉันต่ำไปทั้งหมดเพียงเพราะฉันเคยใจดีกับคุณ แต่จากนี้ไป เจียงเยว่คนนี้จะแสดงให้คุณเห็นถึงวิธีการทำลายใครบางคนอย่างมีสไตล์"
เธอเงยหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้าและปาดน้ำตาเพื่อไม่ให้รู้สึกผิดหวัง
“อา วันนี้อากาศดูจะร้อนเกินไป แม้แต่ตาของฉันก็เหงื่อออก” เธอสะอื้นไห้ทั้งน้ำตาร้อนผ่าว