จู่ๆ ก็เกิดความเงียบขึ้นกลางอากาศ.....
ทุกคนเงียบหลังจากดูวิดิโอกล้องวงจรปิด แม้แต่หลิวชุนเซี่ยที่เรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาวก็หุบปากสนิท ภาพนั้นชัดเจน ใครที่มีตาย่อมเห็นว่าเจียนอ้ายไม่ได้แตะหลี่หยุนเหม่ยเลยแม้แต่ปลายก้อย”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ครูใหญ่ชุนก็ทำลายความเงียบ พูดขึ้นว่า “คุณหลิว กล้องวงจรปิดไม่โกหก ดูเหมือนว่าเจียนอ้ายไม่ได้โกหก อาการบาดเจ็บของลูกสาวคุณไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย”
แม้ว่าหลิวชุนเซี่ยจะอารมณ์ร้าย กระนั้นก็ยังมีศักดิ์ศรี ไม่ว่าเธอจะเย่อหยิ่งแค่ไหนในตอนนี้ เธอก็อยู่ในจุดที่ลำบากแล้ว แม้แต่ใบหน้าที่ฉาบด้วยแป้งรองพื้นก็ไม่สามารถปกปิดความแดงไว้ได้ ความกร่างก่อนหน้านี้ดับมอดลงทันที
“ถูกต้องครับ ตามวิดีโอ จากมุมมองทางกฎหมาย ผู้กระทำความผิดคือผู้บาดเจ็บเอง มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวอย่างใจเย็น
หลี่หยุนเหม่ยและแม่รู้สึกอับอายเกินกว่าเชิดหน้าไว้ได้ พวกเธอก้มหน้าลงยอมรับความพ่ายแพ้ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกที่ถูกทุกคนล้อเลียน พวกเธออยากจะเผ่นออกจากนี่ให้เร็วที่สุด
กวนเตาเลิกคิ้วให้เจียนอ้าย โชคดีที่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ที่ประทางเข้าโรงเรียน ถ้าไม่อย่างนั้น ตามนิสัยของแม่หลี่หยุนเหม่ย เจียนอ้ายคงถูกทางโรงเรียนลงโทษแล้ว
นี่สินะที่ว่าใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
“ในเมื่อเรื่องกระจ่างแล้ว งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองไม่อยากอยู่อีกต่อไป เพราะคำตอบก็มีแล้ว
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
ทันใดนั้นเจียนอ้ายก็พูดขึ้น
ทุกคนตะลึง ทำไมเจียนอ้ายถึงห้ามตำรวจไม่ให้ไป?
หลี่หลุนเหม่ยรู้สึกหงุดหงิด ถึงไม่มีกล้องวงจรปิด ใครที่มีตาก็บอกได้ว่าเธอคือคนเล่นงานเจียนอ้าย ทว่าตอนนี้เจียนอ้ายขอให้ตำรวจอยู่ต่อ เป็นไปได้ไหมว่าเธอต้องการความรับผิดชอบ?
เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดเดินและหันกลับมามองเจียนอ้าย “สาวน้อย เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร หากผิดใจกันกับเพื่อน ก็บอกเพื่อนให้ขอโทษเธอซะนะ”
“ใช่ เจียนอ้าย” ครูหลี่เดินเข้ามาหาและพูดขึ้น “ปล่อยให้เรื่องจบตรงนี้เถอะนะ ดูสิ หลี่หยุนเหม่ยได้รับบาดเจ็บไปแล้ว ให้เธอขอโทษก็พอ โอเคไหม?”
เจียนอ้ายยิ้มและมองทุกคน “เรื่องนี้หนูย่อยมันไปพร้อมอาหารค่ำเมื่อวานนี้แล้ว มันไม่คุ้มค่าต่อจิตใจ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องขอโทษ”
หลังจากฟังเธอพูดจบ อยู่ๆ การแสดงออกของเจียนอ้ายก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จากนั้นเธอเหลือบมองหลี่หยุนเหม่ยที่นั่งบนรถเข็นและพูดว่า “แต่ มีอีกเรื่องหนึ่งที่หนูต้องการคำอธิบายจากอีกฝ่าย”
ทุกคนขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง พวกเขาเดาว่าอาจมีความขัดแย้งระหว่างนักเรียนทั้งสองอีก
โดยไม่รอให้ใครถาม เจียนอ้ายเดินไปหาหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยและพูดว่า “ครูคะ มีกล้องตัวที่สองที่ถ่ายตรงสระน้ำของโรงเรียนใช่ไหมคะ?”
หลี่หยุนเหม่ยซึ่งนั่งบนรถเข็นเหงื่อแตก เธอเดาได้ว่าเจียนอ้ายกำลังจะทำอะไร
“ถูกต้อง”
ด้านหลังโรงเรียนมีสระน้ำและมีที่จอดจักรยานอยู่ใกล้ๆ เพื่อใช้เป็นที่เก็บจักรยานของครู เนื่องจากเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนบุคคล จึงมีการติดกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นไว้
ทุกวัน