Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 104 : ออกไปดู)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 104 : ออกไปดู

  • 09/02/2565

"บ้าน่ะเรื่องพรรค์นี้เนี่ยะนะ กับคุณมิวท์ที่สูงส่งขนาดนั้น ลุงเข้าใจผิดรึเปล่า? หรือลุงแกล้งอำหนูเล่น?!"

เจนิสเถียงคอเป็นเอ็น ด้วยเพราะภาพลักษณ์ที่เห็นผ่านสื่อนั้นมิวท์คือผู้หญิงที่สวยราวกับเจ้าหญิง แถมยังเป็นถึงประธานบริษัท AP ที่มียาต้านเชื้ออยู่ในมือ เรื่องแบบนี้จึงไม่น่าจะเป็นไปได้

.

"แต่มันก็เป็นไปแล้วครับ.. ก็คุณเป็นคนบอกผมเองไม่ใช่เหรอว่าห้ามให้ผมโกหกผมจะหลอกคุณไปทำไม ในเมื่อผมเองก็ไม่มีที่ไหนให้ไปอีกแล้วนอกจากที่นี่.."

ลุงพ่อบ้านผายมือออกสุดไหล่ แกยังคงทำท่าเดิมค้างเอาไว้เพื่อตอกย้ำเจตนาอันบริสุทธิ์

.

ทำเอาเจนิสถึงกับตัวชาไปเลย.. จากที่จะหน้ามืดเป็นลมมวนท้องอาการกำเริบ มาบัดนี้ก็ถึงกับทรุดตัวลงนั่งก้มจ่ำเบ้า! เธอทิ้งบั้นท้ายนุ่มๆ อัดใส่กอหญ้าแบบไม่ห่วงสวย! นัยต์ตาระส่ำรัวเจิงนองคลองน้ำ เสียอกเสียใจที่อุตส่าห์ได้เจอตัวจริงของคุณมิวท์แล้วแท้ๆ แต่ที่ไหนได้ดันกำลังจะกลายเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้พบกัน!

.

"ฉันคงจะได้กับคุณแค่ในฝันใช่ไหมคะคุณมิวท์..?"

หญิงสาวรำพึงรำพันกับตัวเองในใจ

.

แล้วพอลุงพ่อบ้านเตรียมจะช่วยฉุดให้ลุกขึ้นเจนิสก็ปฏิเสธ! เธอทำได้เพียงทอดสายตาอันว่างเปล่าออกไปเบื้องหน้า มองสอดส่ายเข้าไปยังสนามหญ้าที่มีพวกเด็กๆ วิ่งหัวเราะหัวใคร่กันสนุกสนาน โดยมีเพื่อนสนิทของตัวเองสวมบทเป็นซอมบี้ คอยแยกเขี้ยววิ่งไล่จับทุกคนอยู่

.

ช่างเป็นเสียงรื่นเริงที่ทำร้ายรูหูอย่างรุนแรง เธอกำลังเศร้าและประติดประต่อเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกัน จนเห็นพ้องต้องกันกับที่ลุงบอก เจนิสพยายามนึกถึงภาพสุดท้ายที่เจอกับมิวท์ในครั้งล่าสุด พวกเธอยืนคุยกันอยู่หน้าเฮลิคอปเตอร์โดยที่พวกทหารและเด็กๆ ต่างก็ใส่หน้ากากครอบแก้วเอาไว้ครบครัน นั่นคือหลักฐานที่บ่งชี้ว่าทุกคนรู้ว่ามิวท์เป็นอะไร! เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะใส่อุปกรณ์ป้องกันมาตลอดทางที่อยู่บนเครื่องบิน!

.

"โถ...คุณมิวท์ผู้น่าสงสาร"

เจนิสเผลอหลุดคำอุทานออกมาอีกครั้ง และคราวนี้พ่อบ้านก็น่าจะได้ยิน แกก็เลยเลือกที่จะนั่งลงข้างๆ พลางหันหน้ามองออกไปยังกลุ่มเด็กๆ บ้างเช่นกัน

.

"ฟุบ!!!!!"

.

"ใช่ครับ...เธอน่าสงสารมากๆ สูญเสียครอบครัว , สูญเสียคนรัก , เพื่อนและทุกสิ่งทุกอย่าง , ทั้งเหงา , ทั้งโดดเดี่ยว , บางทีการพาเราทุกคนมาถึงที่นี่ ก็อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้เธอมีความสุข..."

.

"เอ๋!?"

รีบปาดน้ำตาโดยพลัน เจนิสรีบผินหน้ามองลุงพ่อบ้านเป็นการด่วน!

.

"ผมแค่เดาเอาน่ะครับ... AP ก็เหมือนโลกใบนี้นั่นแหละ.. พวกเรากำลังจะล่มสลาย ไม่มีใครสู้กับเชื้อโรคบ้าๆนี้ได้จริงๆ การรวบรวมคนในบริษัทที่พอหาได้ไปพร้อมกับการออกตามหาเพื่อนรัก ที่มีเบาะแสเป็นเพียงแค่ข่าวลือ จวบจนกระทั่งมาถึงที่นี่ได้ผมว่าก็น่าจะเป็นความภูมิใจสูงสุดของคุณมิวท์แกแล้วล่ะครับ...บ..บ. "

"น่าเสียดายมากที่คุณแพรวไม่อยู่... ผมล่ะอยากให้พวกเธอทั้งคู่ได้เปิดอกคุยกันสักครั้ง... ฉากสุดท้ายในชีิวิตจะได้จบลงด้วยความสวยงามมากกว่านี้.. "

"หึ...หึ....ฮือ...ฮือ...อ..อ...อ...ฮือ...อ...อ"

.

ลมเช้าพัดปลิวโบกโบยทิวหญ้า รุ่งอรุณเบิกฟ้ามาพร้อมกับความสดใสของกลุ่มเด็กๆใสแจ๋ว โดยหารู้ไม่ว่าที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างกัน ยังมีสองลุงหลานที่กอดคอกันร้องไห้ราวกับจะเข้าอกเข้าใจ เจนิสกับลุงพ่อบ้านไม่ได้อายใครหน้าไหนหรอก แต่พวกเขาแค่ไม่อยากจะให้มีคนต้องมารับรู้เรื่องนี้อีก เจ็บแค่นี้และจบกันแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว..

.

"ลุงเป็นอะไรกับคุณมิวท์เหรอคะ? ทำไมถึงดูผูกพันธ์กันจัง.."

เจนิสกระซิกถามเสียงสั่นครือ

.

"เป็นขี้ข้าครับ..บ..บ.."

ลุงตอบด้วยสำเนียงที่สั่นกว่า ก่อนจะถามกลับคืนไปเช่นกัน ว่าเจนิสสัมพันธ์กับมิวท์ทางช่องทางไหน?

.

"ช่องคลอดค่ะ.. หนูร่วมรักกับพี่เขาออกจะบ่อย แต่ก็เป็นแค่เรือนร่างในจินตนาการเท่านั้น... "

"หึ...ฮือ..ฮือ...ฮือ.. หนูฆ่าผู้ติดเชื้อมาไม่มากนักเมื่อเทียบกับคนอื่นๆในแคลน แต่พอนึกถึงความจริงที่ว่าผู้ติดเชื้อย่อมต้องตายทุกคน! พอนึกภาพคุณมิวท์ตอนที่ต้องกลายร่างแล้ว... หนูทำใจไม่ได้จริงๆค่ะ! ..ฮือ...ฮือ...ฮือ..ฮือๆๆ "

.

เธอไม่ได้พูดส่ิงเหล่านี้ออกมา หากแต่บ่มทุกคำเอาไว้ในใจ มีแต่ทำนบน้ำตามากมายเท่านั้นที่ไหลหลากออกมาตามความรู้สึก มันมากซะจนประเมินค่าไม่ได้ว่าระหว่างสาวมัธยมกับลุงพ่อบ้าน ใครกันแน่คือแชมป์แห่งความเสียใจ

.

นั่งอิงพิงไหล่กันอยู่ราว 10 นาที มีข้อมูลของแต่ละฝ่ายถ่ายโอนให้กันอีกหลายเรื่อง ซึ่งมากพอที่จะทำให้เจนิสเชื่อใจกลุ่มคนชาว AP ที่มากับเฮลิคอปเตอร์เหล่านี้ พวกเขาไม่ได้มาร้ายแค่มาแบบอลังการไปหน่อย แล้วเธอก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะฐานันดรพวกเขาก็ไม่ต่างจากผู้อพยพรายอื่นๆ ที่ต่างก็หนีร้อนมาพึ่งเย็น

.

"ช่วยได้ก็ช่วย ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด" คือคำพูดติดปากที่แพรวชอบพูด ดังนั้นสิ่งที่เจนิสทำจึงเป็นดั่งการสานต่อเจตนารมณ์เดิม ไม่ได้ฉีกกฎ! , ไม่ได้ขวางกรอบ! , ไม่ได้ฝ่าฝืน! แต่แค่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าหัวหน้าแคลนตัวจริงอย่างแพรวกลับมา เรื่องราวมันจะลงเอยแบบนี้ไหม!?

.

"ลุงพ่อบ้านคะ..แล้วตอนนี้คุณมิวท์อยู่ที่ไหน? ก่อนมาที่ศูนย์เรียนรู้ต้องผ่านสุสานด้านหลัง หนูมองเข้าไปไม่ยักเห็นฮ.จอดอยู่เลยสักลำ มีแต่พวกพี่ๆ ทหารที่เอาศพเพื่อนมาฝัง?"

.

ชายวัยกลางคนจึงลุกขึ้นยืน แกเตรียมจะเดินเข้าไปสลับหน้าที่ดูแลเด็กๆ เลยได้แต่ส่ายหน้าทำเหมือนไม่อยากพูด..

.

"อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะครับ.. อย่าไปรบกวนเธอเลย.. คุณหนูมิวท์คงตัดสินใจดีแล้วล่ะ.."

.

"แต่ว่า..?"

.

"ไม่มีต่งมีแต่หรอกครับ.. เพราะผมเองก็ไม่รู้! อาจจะเป็นรอบกำแพงข้างนอกสักแห่ง คงจะเป็นที่ๆไกลจากพื้นที่ปลอดภัยตรงนี้พอสมควร ทว่าต่อให้คุณอยากเจอแค่ไหนคุณหนูมิวท์ก็คงจะปฏิเสธอยู่ดี เธอคงไม่อยากให้ใครติดเชื้อเพิ่ม.. เธอเป็นคนดีมากกว่าที่คนอื่นคิดนะครับ"

.

ก้าวขายาวๆคร่อมข้ามทิวรั้ว ลุงพ่อบ้านปีนข้ามเข้าไปในสนามหญ้าพลางวิ่งเหยาะๆ เข้าไปสมทบกับพวกเด็กๆ เกิดเป็นการเล่นเพื่อการเรียนรู้ตามคอนเซ็ป และยิ่งนานเข้าเสียงสะอึกสะอื้นของแกก็ค่อยๆ จางหายไป...หายไป...หายไป...จนกลายเป็นเสียงหัวเราะร่าเริงขึ้นมาแทน ราวกับชายสูงวัยรายนี้ได้ก้าวผ่านศัพท์ของคนรุ่นใหม่อย่างคำว่า "Move on" ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

.

จะเหลือก็แต่เจนิสนี่แหละที่ยังคงจมดิ่ง! เธอเอียงแผ่นหลังมาพิงกับโคนต้นไม้ ก่อนจะย้ายมือเรียวมาวางลงบนซอกเหลือบตรงกลางหว่างขา ณ จุดที่เสียวที่สุดและซิงที่สุดบนเรือนร่างตนเอง

.

"ไม่หรอกลุง... ลุงยังไม่รู้อะไร? มันยังมีวิธีอยู่! วิธีที่จะต้านเชื้อไม่ให้ลุกลามบานปลาย!"

"ซูดดดด....อ่าาาาาาา"

.

สูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด จนอกอูมชูตั้งแหวกกระดุมเสื้อให้เผยอปริแย้ม

.

"มันคือวิธีที่พี่แพรวเคยสอนเอาไว้.. เป็นทริคที่จะถูกใช้ในกรณีที่ไม่มีก๊าซจากกระป๋องมารักษาตัว"

"แล้วหนูก็เคยเห็นกับตาตัวเองมาแล้วด้วย เมื่อครั้งอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าร้าง! ชายสองคนสังวาชกันทางประตูหลัง ไอ้จ้อนของพวกเขาเสียดสีกัน แม้แต่เสียงครางหนูก็ยังจำไม่ลืม"

.

"ฮู่วววววว!!!"

.

"ถึงสุดท้ายพวกเขาจะตายอยู่ดี แต่ก็ยื้อชีวิตมาได้สักระยะ ซึ่งก็ดีกว่าปล่อยให้ตายตอนนี้และเดี๋ยวนี้ไม่ใช่เหรอ!?"

.

เจนิสปล่อยลมหายใจออก อกฟีบลงตามเดิมแต่โหนกจิ๋มนี่สิที่ชักจะจั๊กจี้ขึ้นมายังไงก็ไม่รู้! ไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ในหัว สาวม.ปลายจะกระสันเงี่ยนจนยอมเอาตัวเข้าแลกเชียวเหรอ? รู้แต่ว่าดูจากลักษณะแล้วเหมือนไฟในตัวจะลุกโชนขึ้นมาเลย! เธอถึงได้สปริงตัวลุกขึ้นยืน พลันโบกไม้โบกมือลาเพื่อนผู้รับผิดชอบและเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านรวมไปถึงพวกเด็กๆ

.

ตามติดมาด้วยการรีบเร่งฝีเท้าเดินเช็คความเรียบร้อยทุกสิ่งอย่างในวิลเลจ จนมั่นใจแล้วว่าที่นี่น่าจะเอาอยู่ คงไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว แค่ปล่อยให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองไปวิลเลจก็น่าจะอยู่รอดได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีเธอ

.

กระทั่งใช้เวลาผ่านไปค่อนวัน ร่างเล็กของเจนิสก็มาหยุดชะงักงันลงที่หน้าคลังอาวุธ หน้าปัดนาฬิการอ่านค่าว่าใกล้เที่ยง และพวกชาววิลเลจที่เป็นพลลาดตระเวนเอง ก็กำลังต่อแถวทำเรื่องเพื่อจะเบิกจ่ายอาวุธกันอยู่!

.

พอเห็นเจนิสมาพี่คนที่คุมจอคอมอยู่จึงทักขึ้น!

.

"เอ้า! น้องเจนิสมีอะไรรึเปล่า? จะมาตรวจงานอีกเหรอ? พวกเรากำลังจะออกไปลาดตระเวนข้างนอกน่ะ คงไม่มีใครอยู่ให้ตรวจหรอกหึๆ"

.

"เปล่าพี่... ไม่ได้มาตรวจอะไรเลย! พี่จะออกกี่โมงอ่ะ? แล้วไปกันกี่คน?"

เจนิสถาม

.

"อืม..ถ้าตามระเบียบการที่บันทึกไว้ก็อีกราว 30 นาที เมื่อคืนมีทหารจาก AP ตายไปมาก วันนี้ก็เลยเหลือแต่พวกเราชาววิลเลจราว 7 - 10 คนนี่แหละ พวกเขาตั้งแถวรออยู่ข้างนอกไงไม่เห็นหรอ.. ติดตั้งอาวุธเสร็จก็ว่าจะออกเลย!"

.

สาวเจ้าพยักหน้า พลางยกมือขึ้นปรามไว้ก่อน..

.

"อย่าเพิ่งไปนะพี่! รอหนูแป๊บนึงขอหนูไปเก็บกระเป๋าก่อน วันนี้หนูว่างหนูขอไปด้วย!!"

.

"ห๊าาาา!!"

"เฮ๊ย! เอาจริงดิ! เธอออกลาดตระเวนร่วมกับหน่วยครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน? นังหนู?!"

พี่หน่วยธุรการตะเบ็งคอถามด้วยความตกใจ

.

ส่วนเจนิสนั้นแสนจะมั่นใจ เธอรีบยกวีรกรรมสุดบ้าระห่ำเมื่อคืนออกมาอ้างแทบจะทันที

.

"หนูก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน... แต่ถ้าเมื่อคืนไม่ใช่ฝีมือการยิงธนูของหนูล่ะก็ พวกเราอาจจะไม่ได้อยู่กันสบายๆแบบนี้นะ หนูไม่ไปเป็นตัวถ่วงหรอกน่าเชื่อเถอะ! ขอหนูไปด้วยเถอะนะ... รอหนูแป๊บเดียวเอง!..นะๆ!"

.

"อ่าาาาๆๆ...เข้าใจแล้ว! ให้ตายเถอะ! เธอนี่เหมือนแพรวไม่มีผิด! ใครจะไปห้ามพวกเธอได้ต่อให้ไม่ให้ไปก็จะหนีไปเองอยู่ดีใช่ไหมล่ะ! ให้ 5 นาทีนะ! จะเตรียมอาวุธไว้ให้! ในหน้าจอคอมมันขึ้นของที่เธอเคยใช้เมื่อคราวก่อนเอาไว้อยู่.. "

"วู้ววว! ให้ตายเถอะ! ระบบซอร์ฟแวร์เก็บสถิติที่พวก AP ติดตั้งให้นี่มันเทพจริงๆ ฉันน่ะทำงานสบายขึ้นเยอะเลยตั้งแต่มีเจ้านี่ฮั่วฮ่าๆๆ^^"

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป