Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 92 : ชีนุก! นกเหล็กใบพัดคู่กลางฟากฟ้า)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 92 : ชีนุก! นกเหล็กใบพัดคู่กลางฟากฟ้า

  • 14/01/2565

"พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ"

ฟ้าร้องคำรามกึกก้องกัปนาท เศษธุลีดินปลิวคละคลุ้งต้นไม้ใหญ่เอนไหวแม้แต่ใบไม้ต้นหญ้ายังขาดปลิวสะบั้น

.

แพรวจากไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ไปไม่ไปเปล่ายังอุตส่าห์หนีบเอาโบ๊ทกับหน่วยรบมือดีหลายคนติดสอยห้อยตามไปด้วย การไปของเธอจึงเป็นการทิ้งภาระชิ้นโตไว้ให้เจนิสกับชาววิลเลจที่เหลือ พวกเธอดูแลความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้านได้เพียงแค่ช่วงสั้นๆ ก่อนที่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันเหตุการณ์โกลาหลอลม่านเช่นนี้จะได้อุบัติขึ้น!

.

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ใบพัดคู่ลำเขี่องได้บินโฉบตัวลงมาลอยอยู่กลางน่านฟ้า! เงาดำของตัวเครื่องแผ่รัศมีปกคลุมพื้นดินเบื้องล่างจนละม้ายคล้ายกับหลุมดำขนาดใหญ่ ยานบินปริศนาได้ทำการวิทยุเข้ามาที่หอส่งเพื่อขออนุญาตลงจอด โดยอ้างว่าตนเองบินมาจากเมืองหลวงและมาอย่างสันติไม่ได้มีประสงค์ร้ายหรือใช้ความรุนแรงใดๆ

.

"หึ!?"

“เชื่อก็บ้าแล้วเหอะ!”

เจนิสหันมาพูดกับพลวิทยุ สมแล้วที่เธอได้รับความไว้วางใจจากแพรวให้ดูแลที่นี่ เพราะสิ่งแรกที่เธอทำหลังจากการปรากฎตัวของเฮลิคอปเตอร์ก็คือการปีนบันไดขึ้นมายังหอส่งตรงนี้

.

เธอไม่ได้โง่และรู้ได้ทันทีจากลักษณะว่ามันคือ ฮ. ที่ใช้ในการศึกสงคราม หากข้างในจะเต็มไปด้วยยุทธพรรณอาวุธหนักก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ของอันตรายก็คือของอันตรายไม่น่าไว้ใจและจะให้ลงจอดไม่ได้!

.

“แล้วเราจะเอายังไงดีครับ… ให้ไล่ออกไปไหม? ผมไม่รู้จะตอบกลับไปยังไงดี แล้วยิ่งปล่อยไว้นานทุกคนข้างล่างก็ยิ่งแตกตื่นด้วยนะครับน้องเจนิส?!”

พลวิทยุดูสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่แกแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ ที่หูฟังได้ยินแต่เสียงคลื่นแทรกดังจี่…จี่…จี่…จี่…ดังลอดออกมา แต่ก็ยังไม่ดังเท่ากับเสียงของใบพัดฮ. ที่ยังคงร้องคำรามราวกับฟ้าจะถล่ม

.

"พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ"

.

กะไว้แล้วว่าต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าสักวันแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะปุบปับขนาดนี้ พอแพรวไม่อยู่ทุกอย่างเลยดูยากไปหมด! หนำซ้ำเจนิสเองก็เป็นแค่เด็กมัธยมเธอออกอาการงกๆเงิ่นๆอยู่พอสมควร อาการประหม่ากำลังจะกัดกินสมองเพราะนี่ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตเธอเลย

.

สุพรรณบุรีวิลเลจรับคนนอกเข้ามาไว้ในการดูแลหลายพันรายก็จริง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผู้ขอความช่วยเหลือบินข้ามกำแพงลงมาจากบนฟ้า พวกเขาไม่ได้ผ่านการตรวจสอบที่หน้ากำแพงหนำซ้ำยังมีแต่คำพูดที่ใช้ยืนยันตัวตนไม่ได้ , ไม่มีประวัติ , ไม่มีหัวนอนปลายเท้า , ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร , แถมท่าทีก็ดูหยิ่งยโสไม่ได้โซซัดโซเซเจียนตายเข้ามาหาเหมือนรายอื่นๆ

.

ช่องโหว่จึงเต็มไปหมดแต่ครานั้นเจนิสก็ยังพูดแบบนี้ออกมาอยู่ดี..

.

“บอกเขาให้เอาเครื่องลงได้เลยค่ะพี่ แต่ให้วนไปจอดตรงลานกว้างด้านหลังนะคะตรงที่เราทำไว้เป็นสุสาน!”

.

“เอ้าไหงเป็นงั้นล่ะน้องเจนิส! นี่ไว้ใจพวกเขาได้จริงๆเหรอ?”

.

“ก็ไว้ใจไม่ได้ไงพี่ถึงต้องให้ไปจอดที่นั่น! ประวิงเวลาไว้ก่อนระหว่างนี้หนูจะลงไปบอกพวกหน่วยลาดตระเวนให้เตรียมอาวุธให้พร้อม เราจะไปซุ่มดักพวกเขาจากระยะไกลก่อน ถ้าไม่เข้าท่ายังไงจะได้เปิดฉากโจมตี ขืนปล่อยให้ลงตรงกลางวิลเลจเกิดพวกนั้นไม่ใช่คนดีขึ้นมาพวกเราจะได้ตอบโต้ทัน!”

“หนูคิดได้แค่่นี้ล่ะพี่ถ้าไม่มีพี่แพรวอยู่ด้วย แต่หนูก็สองจิตสองใจอยู่เพราะคนที่วิทยุมาก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันฟังจากน้ำเสียงดูไม่น่าจะเป็นคนร้ายได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ! เราไว้ใจใครไม่ได้อยู่ดี ประกอบกับวิลเลจของเราเองก็ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ยิ่งต่อต้านอากาศยานได้เลย ถ้าพวกเขาจะจอดเราจะมีปัญญาหยุดพวกเขาเหรอ? สู้ประวิงเวลาแล้วทำตามแผนที่หนูบอกดีกว่าไหมพี่?”

.

ร่ายยาวฉอดๆ ถอดแบบพี่มาเป๊ะๆ เวลาแค่เสี้ยวอึดใจแผนการจากสาวมัธยมก็ทำเอาพลวิทยุถึงกับอ้าปากค้างไปเลย แกใช้มือกำหัวไมค์โครโฟนเอาไว้ไม้ให้มีเสียงเล็ดลอดออกไป ก่อนจะกระซิบกระซาบขึ้นเบาๆ

.

“เข้าใจแล้วครับน้องเจนิสพี่ว่าเป็นแผนที่ฟังดูเข้าท่าเชียวล่ะ.. งั้นตกลงเอาตามนี้นะครับพี่่จะได้แจ้งพวกเขา ขอให้พระคุ้มครองขอให้ทุกคนปลอดภัยด้วย..”

.

จัดแจงทำตามแผนประวิงเวลาทุกประการ พลวิทยุรายงานพิกัดให้เครื่องบินชีนุกบินวนอยู่เหนือน่านฟ้านานถึงสามสี่รอบด้วยอุบายแสร้งแจ้งพิกัดผิด กระทั่งถึงหนที่ห้าลานกว้างท้ายวิลเลจที่ใช้เป็นสุสานจึงต้องถูกเฉลย และฮอลำนี้ก็กำลังจะแลนด์ดิ้งลงจอด!

.

"พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ , พรึบๆๆ"

"วี๊ดดดดด...ด...ด....ด...ด , วี๊ดดดดดด...ด...ด...ด..ด"

.

สอดคล้องกันกับเจนิสที่รีบวิ่งตื๋อกระโดดครูดตัวลงมาจากบันไดลิงบนหอวิทยุโดยพลัน ความสูงราว 80 ฟุตไม่ทำให้เธอยี่หระแต่อย่างใด ด้วยเพราะเรื่องคอขาดบาดตายตรงหน้านั้นโคตรจะสำคัญกว่า สาวเจ้ารีบวิ่งโบกไม้โบกมือส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ๆเฝ้าอยู่หน้าคลังอาวุธ ซึ่งติดกันกับโรงเก็บดังกล่าวก็เป็นที่ตั้งของเรือนนอนอันเป็นที่พักของพวกหน่วยลาดตระเวนด้วยเช่นกัน

.

“ฮ. นั่นคืออะไรครับน้องเจนิส! มีอะไรกันรึเปล่า?!! เสียงดังมากเลยทุกคนกลัวกันหมดแล้ว!!!”

เจ้าหน้าที่ถึงกับต้องหลับตาป้องปากตะโกนถาม แล้วก็จริงอย่างที่แกบอก! เพราะนอกจากลมที่ตีจนหลังคาปลิวกระเจิงแล้วเสียงหวีดหวิวของใบพัดก็ดังรุนแรงจนแสบแก้วหู

.

เจนิสหมุนมือติ้วๆส่งสัญญาณอีกที คราวนี้เธอแหกปากตะโกนไปด้วยพร้อมกับดวงหน้าที่จริงจังสูงสุด!

.

“บอกทุกคนเตรียมอาวุธแล้วไปที่ชายป่าหลังสุสานเดี๋ยวนี้เลยพี่!!! เร็วเลยด่วนๆๆ!!! อาจมีการปะทะ!! เด็กกับผู้หญิงให้ซ่อนตัวอยู่ในที่กำบังแล้วก็เก็บตัวให้เงียบที่สุด!!!”

“ไป!!! พี่!!! กระจายคำสั่งหนูออกไปเร็วเข้า!!! นี่ไม่ใช่การซ้อม!!!”

.

"ตุบ , ตุบ , ตุบ ตุบ , ตุบ , ตุบ , ตุบ , ตุบ , ตุบ"

เสียงฝ่าเท้าวิ่งโรมรันแข่งกับเสียงใบพัด

.

ชาววิลเลจแตกฮือเป็นมดแตกรังชนิดที่ไม่มีความแนบเนียนใดๆเลยสักนิด ไร้ซึ่งการเตรียมพร้อม ไร้ซึ่งทางหนีที่ไล่ทุกอย่างคิดกันสดๆ ด้นกันหน้างานใครคว้าอะไรได้ก็คว้า ใบพัดใหญ่ยักษ์กับลมใต้ปีกโหมกรรโชกก็ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ทุกคนกลัว แม้แต่เจนิสที่เป็นหัวหน้ารักษาการเองก็กลัว แต่เธอก็ต้องเก็บทรงเอาไว้

ผู้ชายติดตั้งอาวุธขึ้นมือพรั่งพร้อม ผู้หญิงเด็กและคนชราก็เข้าสู่ที่กำบังแล้วเสร็จ เมื่อเห็นทุกอย่างเข้าที่แล้วก็เป็นเจนิสอีกนั่นแหละที่เป็นคนวิ่งนำหน้าทีมลาดตระเวนเข้าไปยังจุดซุ่มตรงชายป่า เพื่อที่จะรอสังเกตการณ์เและทำทุกอย่างตามแผน

.

“แกร๊บบบ…บ…บ…บ”

หล่อนแหวกหญ้าแช่มช้าพลางฟุบตัวลงก้มต่ำเข้าประจำที่ ก่อนจะกระซิบขึ้น

.

"ชู่ววววววว...."

“ทุกคนพร้อมนะกำลังรบเราได้เปรียบชัยภูมิเราก็ดีกว่า อย่าเพิ่งลงมือทำอะไรทั้งสิ้น พวกเขาอาจจะไม่ใช่คนร้ายเราแค่ต้องคอยดูพวกเขาสักพัก! ย้ำว่าแค่ดูสักพัก!”

.

โดยหารู้ไม่ว่าไม่มีใครได้ยินเธอสักคน! ลำพังแค่จังหวะเครื่องลดระดับลงในแนวดิ่งดงแมกไม้กอหญ้าที่เจนิสคิดว่าเจ๋งก็แตกกระเจิงเป็นทุ่งหมาหลงซะแล้ว! ยังไม่นับเสียงใบพัดที่ทั้งดังแล้วก็หนักหน่วงต่อให้เธอตะโกนจนคอแตกก็สู้เสียงของมันไม่ได้อยู่ดี! และนี่แหละที่เขาเรียกว่าประสบการณ์ จากที่คิดว่าจะได้เปรียบเพียงชั่วพริบตากลับพลิกเป็นเป้าสายตาแถมยังกลายเป็นเป้านิ่งให้เล็งยิงได้อย่างสบายๆ จากมุมสูง

.

“น้องเจนิสสสส!!! นี่มันอะไรครับเนี่ยะ!!!!???”

พี่หน่วยลาดตะเวนคนหนึ่งร้องทักขึ้น ใบหน้าแกเหยเกทั้งยังต้องยกมือขึ้นปิดบังฝุ่นผงที่ถูกลมใต้ปีกพัดโหมกระพือเข้ามาใส่

.

“เหอะๆ…ซวยแล้วไงเรา!”

เจนิสคิดในใจเธอตกอยู่ในอิริยาบถเดียวกันกับทุกคน คือหกคะเมนล้มกลิ้งอยู่ในกอหญ้า

.

และแล้วราว 3 นาทีหลังจากนั้นเฮลิคอปเตอร์ชีนุกสีดำลำเท่าบ้าน ก็แลนด์ดิ้งลงสู่เนินดินกลางสุสานได้เป็นผลสำเร็จ ขาหยั่งทิ่มลงในเนื้อดินเสียงเครื่องยนต์ดับลง ตามติดมาด้วยการเปิดประตูทอดบันไดลงสู่พื้นดินด้านล่าง ต่อหน้าต่อตากลุ่มชาววิลเลจที่ในมือเต็มไปด้วยอาวุธ สภาพพวกเขาดูแย่มากทั้งล้มหงายล้มกลิ้งแต่ก็ยังพยายามจะลุกขึ้นเพื่อรักษาทรง

.

ซึ่งก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครคือคนคนแรกที่ลุก มันต้องเป็นเจนิสโดยไม่ต้องสืบ! แต่เธอไม่ได้ลุกเพราะความอับอายขายขี้หน้าแต่อย่างใด เธอลุกเพราะเพิ่งสังเกตเห็นจากระยะใกล้ว่าที่ส่วนหางของตัวเครื่องดันมีสัญลักษณ์ของบริษัท AP ปรากฏอยู่!!!

.

"คุณพระช่วย! ถ้าพี่แพรวรู้เรื่องนี้ล่ะก็…???! "

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป