Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 75 : Drink water)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 75 : Drink water

  • 16/12/2564

5 ชีวิตกับอีก 1 ลำโดรนย่างกลายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเล คือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาดๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือคลองเตยเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น มันแทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใดๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่การงานของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้

.

“พรึบ!!”

แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วนๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด

.

“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”

แพรวกระซิบบอก

.

เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อนๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟากฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริงๆ อย่างพวกเธอ 3 คนรวมกันซะอีก!

.

“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพี่คอยระวังพวกศัตรูที่จ้องจะตลบเราจากทางด้านหลังดีกว่า”

“แล้วก็ไม่ต้องเสี่ยงบุกเข้าไปตรงๆ ด้วยครับพี่แพรว เพราะผมมีวิธีที่ดีและเซฟกว่ามาก มาสิ! มารวมกลุ่มกันตรงนี้แป๊บนึงผมจะทำให้ดู”

.

โบ๊ทผละมือเรียวของเจนิสออกไป พลางกวักมือเรียกทุกคนมาล้อมวงกัน ทันใดนั้น! กระจกหน้ากากครอบแก้วที่เขาสวมใส่อยู่ก็เปลี่ยนสี! มันสะท้อนภาพแบบเดียวกับที่โดรนอารักขามองเห็นออกมา แล้วโบ๊ทก็ยื่นมือออกมาขยับนิ้วดุ๊กดิ๊กเพื่อเป็นการสั่งการให้โดรนบินเข้าไปสำรวจทางหนีที่ไล่ในอาคารโกดังท่าเรือให้ วิธีนี้ทำให้แคลนทุ่นแรงลงไปเยอะ ไม่มีใครต้องเสี่ยง เห็นหมด , เห็นชัด , ทั้งจุดอับ , จุดซุ่มใดๆ ที่อันตราย มิหนำซ้ำภาพที่ถ่ายทอดออกมายังชัดระดับ 4K ไม่ต่างจากการ Live สดของพวกเน็ตไอดอลเลย

.

“เป็นไงครับพี่ใช้ได้บ้างไหม?”

โบ๊ทถามทั้งที่ยังมีหน้าจอ Live สดเด่นหลาอยู่บนใบหน้าตัวเอง

.

“แจ่มเลยเจ้าหนู! ฉันเห็นแล้วว่าทางลงท่าเรืออยู่ตรงไหน ทุกอย่างปลอดภัยดีไม่เหลือใครอยู่ในโกดังเลยด้วย ทางสะดวกมาก”

แพรวยิ้มแก้มแทบฉีก และเพียงเท่านี้บรรยากาศที่เคยตรึงเครียดก็มลายหายไปหมดสิ้น โบ๊ทกระดิกนิ้วสั่งการผ่านวงแหวนทั้ง 5 อีกที คราวนี้เพื่อเป็นการตัดการเชื่อมต่อ จากระยะไกลราว 40 เมตร ทุกคนมองเห็นโดรนอารักขาพุ่งทะลุหลังคาโกดังที่ผุเป็นรูออกมา มันลอยเท้งเต้งกลางอากาศ stand by รอฟังคำสั่งถัดไปจากเจ้านายอีกที

.

สบโอกาสให้แคลนได้เคลื่อนที่ต่อไปได้ ชักช้าจะไม่ทันการหลังจากขอบอกขอบใจกันเสร็จ หัวหน้าแพรวก็กระชับเป้วิ่งตรงดิ่งไปยังพิกัดที่โดรนแสดงภาพให้เห็นหนทางสู่ท่าเรือทันที พวกเธอวิ่งผ่านตู้คอนเทนเนอร์ร้างที่ตั้งเรียงกันแบบไม่เป็นระเบียบ มีรถลิฟท์ก้ามปูสำหรับยกของจอดอยู่หลายคัน ซึ่งทุกคันดูเหมือนจะเสียหมด! หลักฐานก็คือกล่องลังไม้พาเลทจำนวนมากที่วางกันระเกะระกะมั่วซั่ว

.

ภายในโกดังรกอย่างกับอะไรดี กลิ่นสนิมกลิ่นฝุ่นฟุ้งปะปนกันและถ้าไม่ได้หน้ากากครอบแก้วช่วยไว้ ทุกคนก็คงจะแย่ไปมากกว่านี้ อากาศบริสุทธิ์ภายในหน้ากากถูกเผาผลาญลงอย่างรวดเร็ว โดรนอารักขาไม่ได้บอกถึงสิ่งนี้ มันช่วยให้เห็นภาพให้เห็นทางวิ่งก็จริง แต่มันไม่ได้บอกนี่นาว่าในนี้จะไม่มีเชื้อ! โชคดีมากที่กว่าจะรู้ตัวและเป็นกังวลถึงสิ่งดังกล่าว แพรว , โบ๊ท , เจนิส และเพื่อนๆ ก็โผทะยานออกมาสู่พื้นที่โล่งด้านหลัง ซึ่งมีอากาศโปร่งและลมพัดถ่ายเทแล้ว

.

“อ่าาาาาาา!!!!”

“ทะเลพี่แพรว! เรามาถึงแล้ว!”

เจนิสตะโกนลั่น ตาเล็กหยีของเธอแทบจะขีดเป็นเส้นตรงเวลาที่เธอยิ้ม

.

ยินเสียงคลื่นกระทบตัวท่าเรือดัง

“ครืดดดดด… , ครืดดดดดด…. , ซ่าาาาาาา , ซ่าาาาาาา”

.

และแค่ผายมือออกไปไอละอองเย็นๆ ก็แผ่ซ่านขึ้นมาโดนตัวเลยทีเดียว ตอกย้ำว่าพวกเธออยู่ใกล้กับเส้นทางการเดินทางทางน้ำมากแค่ไหน มันไม่ใช่แค่นิดเดียวหรือใกล้ถึง แต่แค่หาเรือให้ได้สักลำหนึ่งแล้วก็บังคับทิศทางดีๆ แค่นี้พวกเธอทุกคนก็จะสามารถออกจากมหานครเฮงซวย ที่มีแต่เชื้อ COVID-19 ได้ตามแผน

.

แล้วทำไมล่ะ! อุตส่าห์นำลูกทีมมาถึงที่ได้ เหตุไฉนแพรวถึงเอาแต่กอดอกครุ่นคิด

.

หัวหน้าหญิงดูเป็นกังวลมาก ตรงข้ามกับเจนิสกับกลุ่มแก๊งค์ที่เหมือนจะตื่นเต้นดีใจกันโคตรๆ เดือดร้อนไปถึงโบ๊ทกับโดรนของเขาที่ต้องรีบเข้ามาขอคุยกับแพรวสักหน่อย

.

“ถ้าผมเดาไม่ผิด… พี่กังวลเกี่ยวกับการปนเปื้อนของน้ำทะเลอยู่ใช่ไหมครับพี่แพรว”

โบ๊ททำเสียงเข้ม ทว่ายังไงก็แลดูเป็นเด็กกะโปโลอยู่ดี

.

“หืม…รู้ดีจังหนุ่มน้อย ยิ่งนานเข้าฉันยิ่งเซอร์ไพรต์ในทักษะของเธอนะเนี่ยะ! แต่ก็จริงอย่างเธอว่า! เราจะประมาทไม่ได้ เราต้องรอบคอบมากกว่านี้ ดูพวกเจนิสสิโตกว่าเธอตั้งเยอะยังไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย”

แพรวตัดพ้อ แต่โบ๊ทกลับเห็นต่างเขารีบสวนคำขึ้นทันที

.

“พี่เข้าใจผิดแล้วพี่แพรว ทำไมพี่เจนิสจะไม่รู้ล่ะ เธอก็แค่แกล้งทำไปงั้นๆ เพื่อให้พวกเราไม่เครียดต่างหาก เชื่อผมสิ! ถ้าเธอไม่ฉลาดพอ พี่ไม่มีทางรับพวกเธอเข้าแคลนมาด้วยหรอก ผมพูดถูกไหม?”

.

“หืม…?”

สาวเจ้าทำหน้างง มือที่ขัดกันแน่นอยู่บนเนินอกอยู่แล้วยิ่งแน่นเข้าไปอีก

.

“ไม่เชื่อผมจะพิสูจน์ให้ดูก็ได้…คอยดูนะ?”

.

ว่าแล้วโบ๊ทก็กลับหลังหันผละตัวออกไปจากแพรว พลันเดินตรงไปที่เจนิสกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นจังหวะที่คลื่นลูกใหญ่ลูกหนึ่งซัดเข้ามาใส่ท่าเรือเต็มๆ พอดี เกิดเป็นละอองฝอยขนาดมหึมาทอตัวขึ้นเป็นม่านสูงเหนือหัว เศษละอองหักเหกับแสงแดดกลายเป็นสายรุ้งสวยงามขึ้นมาวาบหนึ่ง จนเจนิสต้องรีบเรียกให้เด็กประถมอย่างโบ๊ทดู

.

“ซึมมมมมม!!!!”

.

“ว้า!!! ไม่ทันซะแล้วเมื่อกี้ดูทันไหมโบ๊ท? รุ้งสวยมากเลย ถึงจะแค่แป๊บเดียวก็เถอะ”

เจนิสยิ้มกว้าง

.

ทว่าโบ๊ทกลับถามเป็นอย่างอื่นแทน

.

“เย็นไหมพี่เมื่อกี้ ผมเห็นมีละอองน้ำทะเลโดนตัวพี่ด้วยนี่?”

.

“เย็นดิ…ชื่นใจเชียวล่ะ ว่าแต่ถามทำไมหรอ^^”

.

โบ๊ทเดินตรงเข้ามาหาและสวนทะลุผ่านกลุ่มเพื่อนของเจนิสไป กระทั่งไปยืนอยู่ที่ปลายท่าเรือ ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลเพียงแค่เอื้อมมือ ชะโงกหน้าลงไปก็ถึง

.

จากตรงนี้แพรวเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เธอเองก็จ้องมองแบบไม่วางตาอยู่เหมือนกัน เพื่อดูว่าโบ๊ทคิดจะทำอะไรกับเจนิสและเพื่อน?

.

“พี่กินน้ำให้ผมดูหน่อยสิ!”

.

“เอิ่ม..ม..ม..ม”

ทำเอาสาวมัธยมทั้งแก๊งค์หน้าเสียไปเลย จะมีก็แต่เจนิสที่ถึงกับแสยะยิ้มออกมา หล่อนปรบมือให้น้องไปสองสามแปะ ชื่นชมความเก่งกาจในตัวเขา หลังแอ๊คติงค์ที่อุตส่าห์แสดงถูกอ่านออกจนหมดคราบ

.

เธอเลือกที่จะไม่ตอบเป็นคำพูด แต่เลือกที่จะแสดงให้ดูแทน ผ่านการล้วงมือลงไปในกระเป๋าเป้ที่แบกอยู่ด้านหลัง ก่อนจะได้ออกมาเป็นแคปซูลผลึกน้ำจำนวน 1 กำมือ (ราว 20 เม็ด) มันคือหนึ่งในนวัตกรรมของพวก AP ที่ผลิตออกมาจำหน่ายในช่วงวิกฤตโรคระบาด ซึ่งเจนิสไม่ได้ซื้อหรอกแต่หยิบฉวยมาจากร้านมินิมาร์ทเมื่อหลายวันก่อน

.

เธอหย่อนพวกมันลงคอ พลันเคี้ยวตุ้ยๆๆ จนในปากแตกซ่านพลั่งพรู ความชุ่มชื่นมาเต็มดับกระหายเป็นปลิดทิ้ง และนี่แหละคือการกินน้ำในแบบของเธอ ก่อนจะกลืนลงคอแล้วตอบน้องไปว่า

.

“จะบ้าหรอ?!”

“ใครมันจะไปกล้ากิน ในเมื่อน้ำทะเลมันติดเชื้อ!!!”

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า