Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 19 : สายโลหิต)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 19 : สายโลหิต

  • 07/10/2564

จักรกลสี่ล้อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าพร้อมกันเป็นกลุ่มราว 3 - 4 คัน พวกมันเคยเป็นรถกระบะใหม่เอี่ยมมาก่อน แต่ตอนนี้ได้ถูกแปรสภาพให้ด้านหลังมีลัษณะคล้ายกับตู้กระจก ภายในนั้นมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุด PPE หนึ่งคนนั่งประจำอยู่ งานของเขาคือการสวนโพรงจมูกชาวบ้าน แล้วเอาสารคัดหลั่งมาตรวจสอบหาเชื้อในห้องแลป

.

เปรมนั่งอยู่ในห้องโดยสารของรถคันหน้าสุด เรียกได้ว่าเบื้องบนนั้นได้เซ็นอนุมัติมอบอำนาจให้แก่เขาแล้วหลังจากได้เห็นหลักฐานงานวิจัย เปรมจึงพร้อมซะยิ่งกว่าพร้อม! คาราวานตรวจสอบโรคจะเคลื่อนไปทางไหนจะเลี้ยวซ้ายหรือว่าขวา ล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาทั้งสิ้น ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้! การที่มีสกิลแห่งการรักษาอยู่ในฝ่ามือทำให้ทุกคนยอมเชื่อฟัง เปรมเลยกลายเป็นบุคคลที่โคตรจะ VIP จนบางทีพวกทีมงานเองก็อาจจะลืมไปแล้วว่า หมอนี่มันเคยเป็นใครมาก่อน? ไม่ใช่มันหรอกเหรอที่เอาเชื้อ covid-19 สายพันธุ์ New hell! เข้ามาแพร่ระบาด!?

.

“เอาไงดีครับคุณเปรม? ให้ผมขับไปทางไหนดี?”

พี่คนขับรถถามขึ้น แกอยู่ในชุดหมีคลุมทั้งตัวบนหัวสวมใส่หน้ากากแบบครอบแก้ว อันเป็นโปรดักสุดฮิตที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท AP

.

เปรมสอดหนังสือคำสั่งจากภาครัฐและพับเอกสารคู่มือการใช้ฝ่ามือเข้าไปเก็บในเก๊ะหน้ารถ เสร็จแล้วจึงหันมาโฟกัสกับเจ้าของน้ำเสียง

.

“ไม่ต้องคิดมากพี่…ที่ไหนก็ได้แบบที่เราเคยทำ… เอาที่ๆ มีคนเยอะๆ เลยยิ่งดี ผมพร้อมเสมอแหละ”

.

“งั้นเอาเป็นซอยข้างหน้าเลยนะครับ ตรงนั้นเคยเปิดเป็นลานคนเดิน เมื่อตอนที่เชื้อยังไม่ระบาดผู้คนจากทั้งย่านชอบมาเดินซื้อของกันที่นั่น.. บางทีพวกเขาอาจจะยังคุ้นเคยกับพฤติกรรมเก่าๆ”

.

เปรมพยักหน้าตอบรับ..

.

.

และไม่นานเกินรอประมาณ 10 - 15 นาที ขบวนรถทั้งคาราวานก็วิ่งมาถึง

.

บรรยากาศสุดจะเงียบเหงาวังเวง เศษขี้ฝุ่นปลิวว่อนฉวัดเฉวียน ไหนล่ะตลาดนัดลานกิจกรรมดังคำบอกเล่า มองไปทางไหนก็เห็นแต่ฟ้ากับหมาฝูงหนึ่ง มิหนำซ้ำยังเป็นหมาที่ติดเชื้ออีกต่างหาก! เปรมเปิดประตูก้าวเท้าลงรถมาเป็นคนแรก เขาทำการแสกนรอบบริเวณด้วยดวงตาอันเปล่าเปลือยของตนเอง..

.

ทำให้ทราบว่ารอบสิ่งแวดล้อมลานปูนแห่งนี้ แม่งเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง มีหอพักและคอนโดให้เช่าตั้งเรียงราย ทำให้ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าข้อมูลไม่น่าจะผิด พิกัดตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่ผู้คนเคยแออัดเนืองแน่นมาก่อนจริงๆ

.

“เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะเก็บตัวอยู่ในบ้าน”

เปรมคิด ก่อนจะกวักมือเป็นสัญญาณบอกให้หน่วยลาดตระเวนลงมาจากรถกันทั้งหมด!

.

“โครม!!”

.

บานประตูเปิดพรึบ! กลุ่มชายชุดขาวในเครื่องแบบปลอดเชื้อวิ่งกรูกันออกมาพร้อมอุปกรณ์กักกันโรค คิดแล้วก็น่าขำ! เพราะถ้าย้อนกลับขึ้นไปอ่านตอนก่อนๆ เราจะเห็นว่าตัวเปรมเองก็โดนคนกลุ่มนี้แหละรวบตัวไปจากรัานขายยาแถวมหาลัย แต่ทว่าหนนี้ดันแตกต่างกันออกไป! มันดันกลายเป็นตัวเขาเองที่ย้อมกลับมาใหม่ในบทบาทของหัวหน้าทีม!

.

“กระจายตัวกันออกไปพวกเรา! ค้นให้ครบทุกตึกกวาดทุกซอกทุกมุม! แล้วลากผู้คนลงมาให้หมด! ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง!”

.

“ครับ!”

.

“เราจะทำตามที่สั่งครับ!”

.

เหล่าทีมงานสมัครสมานสามัคคีรับคำสั่ง ด้วยความสัตย์จริงว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเปรม เขาทำแบบนี้เป็นหนที่สามแล้ว ซึ่งเป็นการสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่ารัฐบาลโคตรจะเชื่อใจเขา! นักศึกษาหนุ่มถูกยกย่องให้เป็นความหวังเดียวที่จะกำจัดเชื้อไวรัสร้ายนี้ออกไปจากสังคมได้ เขาคืออาวุธของรัฐบาล เป็นเครื่องจักรขจัดเชื้อที่มีอารมณ์และชีวิต

.

“ตุบ! , ตุบ! , ตุบ! , ตุบ!”

ฝ่าเท้ากระทบกันโรมรัน แต่ละข้างเหยียบย้ำพื้นซีเมนต์ที่โดนโควิดกัดกินจนล่อนออกเป็นกาบๆ

.

ทว่านั่นก็ไม่ได้คณามือเปรมสักเท่าไหร่! เขาสะบัดมือสั่งลูกน้องให้เดินหน้าทำภารกิจต่อไป คนไหนที่ต้องเฝ้าห้องตรวจเชื้อบนท้ายรถก็ทำต่อ ต่างคนต่างมีหน้าที่ไม่ก้าวก่ายกันและกัน ขอแค่ให้งานเสร็จตามเป้าก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว!

.

พล่ามเสร็จเปรมจึงเริ่มก้มหน้ามองฝ่ามือจุกก็อกของตัวเอง..

.

เขาค่อยๆ หมุนฝาออก พลางยื่นมือออกไปข้างหน้าเล็งให้ตรงกับพื้นซีเมนต์ ก่อนจะปล่อยก๊าซสีแดงสดออกมาจากฝ่ามือ! , ฟู่!!!!!! รอสักครู่กระทั่งผ่านไปราว 10 - 20 นาที พื้นซีเมนต์ผุๆ ที่ถูกกัดกินโดยเชื้อไวรัส ก็กลับมาสวยสะพรั่งตามเดิมอีกครั้ง! โอ้แม่เจ้า! เรียกได้ว่าก๊าซที่กลั่นออกมาจากเลือดในตัวนั้นใช้ได้ดีเหลือเชื่อ เปรมมองไม่เห็นความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นเลย ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขาหมด

.

ตอนนี้ก็เลยแค่ต้องรอให้ทีมงานไปลากตัวคนที่อยู่ในละแวกลงมาให้หมด เปรมตั้งใจจะเกณฑ์คนลงมายืนอัดกันตรงลานกว้างให้แน่นๆ เสร็จแล้วเขาก็จะปล่อยก๊าซในปริมาณที่มากที่สุดในชีวิตออกไป รับรองว่าต้องเวิร์ค! มันต้องได้ผล! ไวรัสติดจากคนสู่คนได้ฉันใด เปรมก็รักษาพวกเขากลับคืนได้ไวฉันนั้น

.

“พอรมก๊าซเสร็จเมื่อไหร่ แล้วค่อยให้ทุกคนไปเช็คที่ห้องกระจกบนท้ายรถอีกที"

“เอาตามนี้นะคุณพยาบาล?”

.

พยายาบาลสาวในตู้กระจกยักไหล่ ก่อนจะตอบกลับไปว่า

.

“ได้ค่ะ.. ข้ามขั้นตอนนิดหน่อยคงไม่เป็นไร ปกติเราต้องตรวจคัดแยกพวกเขาก่อนแล้วเอาเฉพาะคนที่มีเชื้อมาให้คุณรักษา แต่ถ้าคุณเปรมสะดวกแบบนี้ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร"

"ว่าแต่! คุณจะขึ้นมายืนบนฝากระโปรงรถแบบนี้ไม่ได้นะคะ นี่มันทรัพย์สินของทางราชการค่ะคุณเปรม!!!”

.

นักศึกษาหนุ่มนิ่งเงียบลงโดยพลัน เขาไม่ได้สะเทือนใจกับคำต่อว่าของนางพยาบาลหรอก อันที่จริงเขาแทบไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดเลยด้วยซ้ำ เพราะถ้าไม่ขึ้นที่สูงก๊าซสีแดงที่ปล่อยออกมาจากฝ่ามือก็จะไม่กระจายตัว ผู้คนที่อุตส่าห์ให้ลูกน้องไปกวาดต้อนมาก็จะไม่ได้รับการรักษาโรค

.

“เห๊อะ! จะด่าอะไรก็เชิญเถอะ! ผมไม่แคร์หรอก”

“แต่คุณลองนับดูสิว่า มีประชาชนลงมาที่ลานซีเมนต์แล้วกี่คนคุณพยาบาล?”

.

แววตาเฉี่ยวทิ่มแทงทะลุแผ่นกระจก ภายใต้หน้ากากอนามัยที่สวมอยู่ หล่อนมองเห็นผู้คนเบื้องหน้าเป็นจำนวนมาก พวกเขาอพยพมาจากงานบิ๊กเมาท์เทนต์ที่เขาใหญ่รึยังไง ถึงได้มากมากมายล้นหลามขนาดหนัก

.

“อ๊ะ!”

“เอิ่ม..ม..ม.. อาจะพันปลายๆ ค่ะ!! บวกลบแล้วไม่น่าจะเกิน 3 พันมั้งคะ”

เธอตอบเสียงสั่น ที่ตอบได้ก็เพราะนั่งอยู่บนท้ายรถซึ่งเป็นมุมมองที่สูงกว่าคนปกติ

.

“ผมไม่กลัวที่จะต้องพ่นก๊าซรมพวกเขาหรอก แต่ผมกังวลร่างกายตัวเอง ผมไม่เคยเผชิญหน้ากับคนมากขนาดนี้มาก่อน เพราะงั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณพยาบาลช่วยดูแลผมด้วยนะ”

.

“ได้ค่ะ..ไม่ต้องเป็นห่วง”

.

เรียงรายเข้ามาราวกับฝูงซอมบี้ ที่ข้างหลังมีการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ทั้งผลักทั้งดันทั้งใช้กระบอง เพียงเพราะต้องการให้คนมาแออัดกันเยอะๆ ก๊าซของเปรมจะได้กระจายทั่ว แต่มันจะง่ายดายขนาดนั้นเชียวเหรอ? คงต้องตั้งตารอดูในตอนต่อไป..

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป