Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 6 : พ่อง!)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 6 : พ่อง!

  • 24/09/2564

สาวเจ้านัยต์ตาสวยเดินย้อนกลับมาหาเพื่อน มิวท์เก็บสมาร์ทโฟนใส่ไว้ในกระเป๋าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ประเด็นที่สนทนากันเมื่อครู่คือการคบชู้ยั่วผัวเพื่อนเห็นๆ ในหัวเธอกำลังรบราฆ่าฟันระหว่างถูกผิด!เปรมบอกเลิกแพรวไปแล้วนั่นคือความจริง แต่ความจริงอีกข้อที่ว่าแพรวเป็นเพื่อนสนิทของเธอก็คงจะปฏิเสธไม่ได้!ดูท่าการปล่อยตัวปล่อยใจคงไม่ทำให้เธอหลุดพ้นจากการเป็นผู้มีมลทินมัวหมองเป็นแน่!

.

"ทำยังไงดี....เราจะทำยังไงดี... จะผ่านสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ยังไง?!ขึ้นห้องก็ไม่ได้เพราะมีพี่เปรมดักรออยู่ โถ่เอ๊ย!!"

กัดเล็บเครียดจนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร รู้ตัวอีกทีหน้าขาส่วนบนก็ชนเข้ากับขอบโต๊ะของเจ้าหน้าที่ซะแล้ว

.

"โครมมมม!!"

.

"เฮ๊ย!...น้อง!!!"

ร่างหนาในชุดยูนิฟอร์มลุกขึ้นพรวดเท้าสะเอว!

.

"ขอโทษค่ะ...หนูเดินใจลอยไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยนะคะ!"

แพรวรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

.

ทว่าเจ้าหน้าที่หุ่นหมีคนนั้นกลับเบี่ยงประเด็นไปทางอื่น

.

"พี่ไม่ได้หมายถึงน้อง!พี่หมายถึงเพื่อนน้องสองคนนี้ต่างหาก!บอกขอใช้โทรศัพท์โทรหาที่บ้าน จนครึ่งชั่วโมงผ่านไปยังไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย!พี่ว่าน้อง 3 คนน่ะเซ็นต์ใบรับคำสารภาพข้อหาแหกด่านเคอร์ฟิวซะเถอะเรื่องมันจะได้จบๆ จะลีลาไปเพื่อ?!หลักฐานก็เห็นอยู่ทนโท่กล้องวงจรปิดก็มี! "

ตวาดเสียงดังจนน่ากลัว จากมือที่ท้าวสะเอวอยู่ย้ายขึ้นมากอดอกหุนหัน

.

ทำให้มิวท์ต้องนั่งลงร่วมโต๊ะกับพีแล้วก็แพรว นิสิต 3 คนนั่งตัวสั่นหวาดผวาไม่ต่างจากเด็กอนุบาลที่โดนครูเอาถุงดำครอบ ต่างจากคนอื่นหน่อยก็เห็นจะเป็นแพรว ผู้มีแอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือดมากกว่าคนอื่น เธอยังคงไม่รู้ความจริงที่ว่ามิวท์แอบไปโทรศัพท์กับใคร?แล้วมิวท์เองก็เหมือนจะคิดได้ในใจว่าสิ่งที่ทำมันผิด เธออาจจะสำนึกผิดแล้วก็ได้ ก็เลยเอื้อมมือขึ้นไปโอบไหล่แพรวเอาไว้พลางดึงเข้ามากอด

.

"ไม่ต้องกลัวนะแพรว...เดี๋ยวมิวท์จัดการเอง ถ้าไม่รอดยังไงคนของคุณพ่อก็จะเคลียร์ให้เราได้"

.

ดวงตาของทั้งสองจ้องมองกัน ดวงหน้าใกล้กันไม่ถึงเสี้ยวเซนติเมตร จวนจะจูบปากกันอยู่รอมร่อแต่ทว่าจู่ๆพีที่นั่งอยู่ข้างๆก็สะดีดสะดิ้งขึ้นมา!เขากระโดดโลดเต้นโบกไม้โบกมือส่งสัญญาณว่าพระบิดาได้เสด็จมาถึงแล้ว

.

"มาแล้วค่ะ! , มาแล้ว! , พ่อหนูมาแล้ว!เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยคุณตำรวจพ่อหนูรู้จักกับผู้กำกับ พวกคุณหนาวแน่!!"

พีตะโกนด้วยความมั่นใจ จนกลายเป็นมิวท์อีกครั้งที่ดึงเขาให้นั่งลง

.

"ชู่ววววว...อย่ากระโตกกระตากสิพี...เงียบ!!"

.

"ใช่!อีพีบ้า!รู้จักแล้วไงอดีตผู้ต้องหาเมาแล้วครับเนี่ยะนะ?มันน่าเบ่งตรงไหน?ถ้าเป็นอดีตผู้การหรือสส.นักการเมืองฉันจะไม่ว่าสักคำ"

แพรวสำทับ ก่อนจะโอบมือไปด้านล่างดึงเอวคอดของมิวท์เข้ามาโอบ ไออุ่นจากกายเพื่อนทำให้เธออุ่นใจฟินและอบอุ่น

.

.

กระบะบุโร่ทั่งตีโค้งขึ้นมาจอดเทียบที่หน้าด่าน สีของมันดำคล้ำมีสนิมขึ้นบ้างตามขอบล้อ ถัดขึ้นมาถึงบานประตูมีสติกเกอร์โลโก้บริษัท AP เวอร์ชั่นเก่าแปะหลาอยู่ แต่ก็งอมมากแล้วไม่ได้ดูน่าเกรงขามหรือมีบารมีใดๆ มันอาจจะเป็นรถที่ขโมยมา หรือไม่ก็อาจจะเป็นพ่อของพีเองที่น่าจะเคยมีอดีตกับบริษัท AP มาก่อน ซึ่งนั่นก็มิใช่สาระสำคัญอะไรแล้ว

.

มิวท์ไม่รู้จักแก , แพรวก็ไม่รู้จักเช่นกันแถมเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก , เว้นก็แต่พี!เขาสลัดตูดออกจากเก้าอี้พลางเดินโทงๆ บิดเอวออกจากเต็นท์ไปรับพ่อให้เข้ามาเคลียร์คดีให้!

.

"พ่อคร๊าบบบ...บ...บ พ่อคร๊าบบบ..บ...บ ช่วยน้องพีด้วยคร๊าบบบบ"

.

"พลั๊วววว!!!"

เสียงฝ่ามือกระทบกระโหลกดังราวกับเสียงปืน ร่างสูงโปร่งกราวร่วงลงกับพื้นพับเพียบในท่าที่อุบาทว์ลูกตาของผู้พบเห็น ตอกย้ำให้คนเป็นพ่อโมโหโกธามากยิ่งขึ้น

.

"มึงเลิกทำตัวเป็นอีตุ๊ดอีแต๋วแบบนี้ซะที... กูอายเค้าจะแย่ที่มีลูกสร้างแต่เรื่องอย่างมึง!"

.

"พ่อบูลี่หนูอ่ะ...."

พีกระแอมเสียงเศร้า เขาวาดฝ่ามือจับพวงแก้มตัวเองน้ำตาไหลนอง

.

"มู่ลี่สิมึงอ่ะ!บูลี่ห่าอะไร!ลุกขึ้นมาแล้วพากูเข้าไปหาตำรวจ... แม่งเสียเวลากูชิบเป๋ง!"

.

"อะ...อืม...ครับ..บ..บ..."

.

ลุกขึ้นผายมือทั้งน้ำตาบุคลิกพีเปลี่ยนไปในบัดดล จากกระเทยควายพูดมากกลายสภาพเป็นลูกหมาตัวน้อยๆ เดินนำหน้าพ่อต้อยๆ มาที่โต๊ะตรงกลางเต็นท์ ที่ตรงนั้นมีมิวท์กับแพรวนั่งรออยู่ ด้านหลังเป็นเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบทั้งโขยง ทุกคนต่างมองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยสายตาเดียวกัน พ่อพีแม่งโคตรกร่าง!แกเหมือนทหารผ่านศึกที่ได้กับตำรวจตระเวนชายแดงผ่านทางประตูหลัง ทำเอาเจ้าหน้าที่หลายท่านถึงกับกระชับพานท้ายปืนเตรียมจะล้วงออกมาป้องกันตัว

.

"นี่ครับพ่อ... ข้างหน้านี่เอง... เชิญเจรจาได้เลยครับพ่อ"

พีผายมือแพรวกับมิวท์ยกมือไหว้ พวกเธอปลีกตัวหลบย้ายตำแหน่งมายืนอยู่ด้านข้างพีอีกที เปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่หน้าเหี้ยมนั่งลงแทนที่

.

สถานการณ์มาคุมากความตรึงเขียดแผ่รัศมีไปทั่วบริเวณ จนแพรวต้องกอดเอวของมิวท์เอาไว้แน่น เธอมูล์ฟตัวเองมาอยู่ด้านหลังเพื่อน พาดคางเข้าที่ไหล่ซุกใบหน้าลงที่ซอกคอ กดสายตาลงต่ำจ้องมองเหตุการณ์ผ่านทางซอกหูขาวๆ ที่หอมน้ำหอมกลิ่นกุหลาบสดชื่น

.

"อย่ากลัวไปเลยแพรว... ประเดี๋ยวก็ดีขึ้นมิวท์คิดว่าคุณพ่อพีน่าจะเอาอยู่ ดูแกเข้มแข็งมากเลยนะ"

มิวท์กระซิบ

.

"ฉันไม่เชื่อแบบนั้นน่ะสิ... เธอไม่รู้หรอกว่าอีพีมันบอกอะไรฉัน ลุงคนนั้นไม่ใช่คนที่เราจะไว้ใจอะไรได้เลย ฉันว่าเส้นสายบริษัทพ่อแม่เธอยังน่าเชื่อถือมากกว่า"

.

เพื่อนสาวยิ้มออกมาแห้งๆ ไม่มีใครเข้าใจว่าเธอคิดอะไรในหัว รอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้นดูไม่ออกเลยว่ามิวท์จะเป็นคนร้ายไปได้ยังไง เธอจับมือสองข้างของแพรวโอบเข้าที่เอวตัวเอง สัดส่วนโค้งเว้ารับกับท้องแขนเรียวที่ทั้งเล็กแล้วก็บางภู่ระหงษ์ ก่อนจะประกบฝ่ามือตัวเองลงมาแนบสนิทแน่นจนรับรู้ได้ถึงการสั่นไหวของกันและกัน พลันกระซิบกระซาบออกมาเบาๆ

.

"ฉันรักแกนะแพรว...."

เบามาก..ก..ก...เบาจนคนที่กอดอยู่แทบจะไม่ได้ยินอะไรเลย..

.

.

ตัดภาพไปที่พีกระเทยควายรายนี้หาได้มีใครคอยซับพอร์ตไม่!เขายืนตัวเกร็งอยู่ห่างจากคู่เพื่อนหญิงประมาณ 1 ช่วงแขน แล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้มีเวลาไปสังเกตสังกาหรอกว่าคู่เพื่อนซี้จะแอบกิ๊กกั๊กกันยังไง สายตาเขาจ้องโฟกัสไปที่ตัวพ่อ คอยดูอย่างตั้งใจว่าแกจะเจรจาให้ลูกๆหลุดพ้นไปจากห่วงโซ่ชะตากรรมนี้ได้รึเปล่า

.

"เพล้งงงง!!!!"

แก้วน้ำแตกกระจาย ถีบเก้าอี้ที่นั่งอยู่ล้มคว้ำกระเด็นกระดอน!

.

"เฮ๊ย!ใครใหญ่สุดในนี้ออกมาคุยกับฉันหน่อยสิวะ!!!"

คุณพ่อแผดเสียงยืนจังก้าชี้หน้าด่า!เพียงเท่านี้ก็เรียกตีนเจ้าหน้าที่ให้มายืนออกันตรงนี้เพียบ

.

"คุณจะทำอะไร?!ทำไมต้องโวยวายก็ในเมื่อลูกคุณทำผิดกฎหมายจริง!"

เจ้าหน้าที่คนเดิมตวาดตอบ

.

"ไอ้หน้าจืดมึงเป็นใครไอ้สัด?!กูอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดพื้นที่ตรงนี้กูรู้จักหมด มึงไม่ใช่หัวหน้าไปเรียกคนที่มีอำนาจสูงสุดของที่นี่มาเดี๋ยวนี้!!! , ไป!!!"

.

ยื่นหมัดขวาข้ามโต๊ะเข้าไปขย้ำคอเสื้อ!พ่ออีพีออกแรงกระชากจนเสื้อกั๊กตัวหนาขยุ้มลอยข้ามโต๊ะขึ้นมาติดมือ ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่คนอื่นๆต้องเข้ามาห้ามปราม

.

"ผมเป็นเจ้าหน้าที่อสม. เป็นอาสาสมัครชุดควบคุมโรค!! , ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้นะ!"

.

"ถุย!!!"

"กูไม่เชื่อ!มึงมีหนังสืออนุญาตแต่งตั้งจากทางราชการรึเปล่า?หนึงสือราชการมึงอยู่ไหน!!!เอามาโชว์ดิ๊ไอ้ไก่อ่อนเอ๊ยยย!!"

.

"โครมมมม!!!!"

.

ชูร่างขึ้นสุดไหล่แข้งขาแกว่งไกวลอยไม่ติดพื้น ก่อนจะทุ่มคนทั้งคนลงสู่พื้นปูนด้านล่างมันทั้งๆอย่างงั้น!ส่งผลให้บรรดาเจ้าหน้าที่อสม. คนอื่นๆ เตรียมบุกเข้ามาล็อคตัว ทำเอาแพรวนี่ถึงกับกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ!

.

"เฮ้!หยุด!อย่าเข้ามาเชียว!เพราะขนาดตัวกูยังมีหนังสือราชการเยอะกว่าพวกมึงอีก!!ไปเรียกตำรวจที่ใหญ่ที่สุดในด่านนี้มา!กูจะคุยกับเขาเท่านั้นนี่ไม่ใช่เรื่องของพวกลูกกะจ๊อก! , ไป!!!"

.

"โครมมมมม!!!"

ถีบโต๊ะล้มคว้ำไปอีกตัว ข้าวของกระจายเกลื่อนเถื่อนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

.

อาสาสมัครรายหนึ่งก็เลยวิ่งอ้อมออกไปด้านหลังเพื่อทำตามข้อเรียกร้อง เช่นกันกับอาสาคนอื่นที่ปล่อยให้คุณพ่อกร่างต่อไปตามสิทธิขั้นพื้นฐานแห่งรัฐธรรมนูญ แกควักเอาแฟ้มเอกสารซองหนึ่งออกมาจากเสื้อโควท พลางเททุกสิ่งทุกอย่างออกมาโชว์ให้ทุกคนเห็น ปรากฏว่าที่เตรียมมาแม่งเป็นเอกสารของทางราชการจริง!!.. แต่หนักไปทางใบสั่งขับรถเร็ว! , เมาเหล้ายามวิกาล! , แล้วก็หมายศาลคดีเมาแล้วขับล้วนๆ!!!

.

"เย็ดเข้!!! , อย่างงี้ก็ได้เหรอวะ?!"

คือสิ่งที่บรรดาเจ้าหน้าที่ตะโกนถามกัน พวกเขาเป็นอาสาแต่ก็มีสิทธิ์ควบคุมตัวผู้ก่อความวุ่นวายเป็นการชั่วคราวได้ ซึ่งก็เหมือนกระบวนการจะเริ่มขึ้นแล้ว!คุณพ่อถูกล้อม!แพรว , พี , มิวท์ โดนปิดทางหนีเอาไว้หมด!กลุ่มอาสาสมัครเสื้อกั๊กคงต้องมีการลงไม้ลงมือกันบ้าง

.

เดชะบุญที่นายตำรวจยศใหญ่เดินทางมาถึงพอดี!กลุ่มอาสาจึงจำเป็นต้องแตกตัวออก!แล้วทันทีที่ได้สบตากับคุณพ่อเท่านั้นแหละ บรรดาตำรวจทั้งหลายก็ถึงกับชะงัก!

.

"นี่มึงอีกแล้วหรอ?!"

ท่านผู้กำกับตะเบ็งเสียงใส่

.

"โดนคดีเมาแล้วขับอีกแล้วเหรอ?บันทึกประจำวันเพิ่งเขียนไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเองนะ"

สิบเวรที่มาด้วยกันกล่าว

.

"ขวดเหล้าลุง.. ยังเป็นของกลางอยู่ที่โรงพักอยู่เลย"

ร้อยเวรพูดเสริม

.

สารพัดสิ่งล้วนบ่งบอกว่าพ่อของพีสนิทสนมกับตำรวจทั้งโรงพักอย่างที่ว่าจริงๆ แกติดคุกบ่อยจนตำรวจเกรงใจ ความหน่ายเหนื่อยบวกกับเบื่อทำให้ทุกคนไม่อยากยุ่งกับแก โดยเฉพาะท่านผู้กำกับที่ทำหน้าเซ็งเหมือนจะเสียเวลาเปล่า แกไม่น่าลดตัวออกมาถึงที่นี่เลย อาสาสมัครอสม.ก็ไม่น่าจะวิ่งมารายงานแบบนั้น น่าจะบอกรายละเอียดอัตลักษณ์บุคคลให้ละเอียดกว่านี้หน่อย

.

"แล้วครั้งนี้โดนคดีอะไรอีกล่ะ?"

ผู้กำกับถามย้ำ

.

"ไม่ได้โดนครับ...แต่ลูกโดน!ทั้ง 3 คนเลย!ผมขอได้ไหมครับ... ผมไหว้ล่ะ...เห็นแก่ลูกแก่หลาน.., มาสิ!พวกเรามายืนรวมกันตรงนี้แล้วทำตามพ่อ..."

กวักมือเรียกหยอยๆ นิสิต 3 คนเดินเข้ามาใกล้แบบไม่ค่อยเข้าใจนัก

.

ทันใดนั้นเองพ่อของพีก็ทรุดตัวลงคุกเข่า!แกพนมมือก้มลงกราบแทบเท้าท่านผกก. ต่อหน้าเจ้าหน้าที่อสม.ทุกคน พลันเรียกร้องให้ลูกๆทั้ง 3 คนทำตามด้วย ซึ่งเป็นอะไรทีขัดลุคนักเลงที่บึ่งกระบะตีโค้งเข้ามาจอดมาก ภาพการกระชากเจ้าหน้าที่ขึ้นมาทุ่มลงพื้นกลายเป็นอดีตอันแสนสั้น หมดกันกับการชี้หน้าด่าฉีกซองเอกสารอันน่าเกรงขาม!

.

ความจริงก็คือความจริง แกไม่ใช่คนมีเส้นสายบารมีอะไร แล้วก็ไม่ใช่คนที่มีหัวโขนพอที่จะเทิดทูนศักด์ศรีอะไรขนาดนั้น แกเป็นแค่พ่อที่รักลูกแล้วก็ไม่อยากให้เด็กๆเสียอนาคต

.

"ได้โปรดเถอะครับท่านอย่าเอาเรื่องพวกเขาเลย ให้พวกเขาไปในทางที่ดีเถอะ คนเรามันก็พลาดกันได้ ผมขอโอกาสให้พวกเขาด้วยเถอะครับ...ผมกราบล่ะ"

มือยังคงกราบหน้าผากจูบกับดิน เด็กๆเองก็ทำตามไม่มีใครคิดถึงความอับอายอะไรแล้ว ผู้ใหญ่พาทำอะไรก็ทำไปก่อน ภาพที่ออกมาจึงเป็นอะไรที่น่าสมเภชเวทนามาก ถ้ามีใครมาเห็นเข้าแล้วถ่ายคลิปไว้มีหวังกลายเป็นไวรัลใหญ่โต คงได้ออกรายการ "โหนกระแส" คงได้เห็นพี่หนุ่มกรรชัยหน้าตึงโบท็อกถามจี้ มีอย่างที่ไหนลูกสาวบริษัทใหญ่โตก้มหัวกราบตำรวจ?

.

คิดได้ดังนั้นผู้กำกับก็เลยปล่อย..

.

"เออๆ เอางั้นก็ได้ปล่อยๆแม่งไปเหอะ!จับมันไปก็เสียดายข้าวคุก เปลืองงบประมาณแผ่นดินเปล่าๆ ไอ้ขี้เมานี่คงต้องปล่อยให้มันขับรถชนคอสะพานตายเองนั่นแหละ กฏหมายคงทำอะไรคนหน้ามึนแบบมันไม่ได้หรอก"

"เดี๋ยวให้อสม. วัดอุณหภูมิ ทำบันทึกไว้แล้วก็ปล่อยตัวไปเลยนะ... น่ารำคาญชะมัด ฉันขอตัวก่อนล่ะ"

พูดเสร็จทั้งคณะก็เดินกลับไปทิ้งไว้เพียงประชาชน 4 คน ที่หมดซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

.

.

พวกเขาไม่ได้โดนล่วงละเมิดทางรูทวาร แต่ท่วงท่าการก้มกราบกรานต่อผู้มีอำนาจนั้น ก็คงไม่ต่างจากขอทานธรรมดาๆ คนหนึ่

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป