Your Wishlist

แฟนเด็กพี่ภาคิน (วันพักผ่อนแสนสบาย)

Author: Oncloud69_

เรื่องราวความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นเพราะผมเมาแล้วไปนั่งตักพี่เขา จากคนที่แอบชอบเงียบ ๆ จวนจะยอมแพ้และเลิกชอบพี่เขาแล้ว แต่พอได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ผมกลับรู้สึกดีมากขึ้น เอาละ ผมชอบพี่ต่อไปก็ได้ครับพี่เบียร์

จำนวนตอน : 30

วันพักผ่อนแสนสบาย

  • 18/10/2564

EPISODE : 20 วันพักผ่อนแสนสบาย


"มึงนี่ร้ายนะ อย่านึกว่ากูไม่รู้ว่ามึงไปทำอะไรมาเมื่อคืน" ผมมองเพื่อนตัวเองแล้วแสยะยิ้มกับคำพูดของมัน ไอ้วอร์มมันนึกว่าผมไม่รู้หรือไงว่าเมื่อคืนผมก็เห็นมันกับหลานรหัสนอนบนดาดฟ้านั่น

"แล้วคุณมึงไปทำอะไรกับหลานรหัสบนดาดฟ้าล่ะครับ" ผมถามมันกลับบ้าง คนหาเรื่องก่อนทำตาโตตกใจ บอกแล้วว่าเมื่อคืนผมก็เห็นมันเหมือนกัน

"อะไร กูทำอะไร ไอ้เหนือมันแค่อยากขึ้นไปสูดอากาศข้างบนกูเลยไปเป็นเพื่อนมัน"

"เหรอ" ตอนแรกน้องไม้เหนือมันก็ไม่ได้มาด้วยหรอก แต่เพราะน้องมันให้เพื่อนขับรถตามรถบัสมาเพื่อขอไปด้วย มีเหรอที่เฮียจะไม่ยอมให้ไป เล่นลงทุนขับไล่มาอย่างนั้น เห็นไอ้ริทเดินมาหาพร้อมกับจานอาหารเช้าที่ตักมาเรียบร้อย เราสองคนเลยเงียบกัน ไม่พูดอะไรจะดีกว่าอย่างน้อยจะได้ไม่ถูกต่อว่าเรื่องที่แอบหนีไปเมื่อคืน

"ว่าแต่มึงสองตัวหายไปไหนทั้งคืนทิ้งกูนอนอยู่ห้องคนเดียวเนี่ย" ผมกับไอ้วอร์มสบตากัน มันหมายความว่าอะไรที่ไอ้ริทบอกว่ามันนอนห้องคนเดียว ในเมื่อญาติของผมไอ้สองเดือนกับไอ้ธีร์มันก็นอนห้องรวมด้วย แต่คนหลังตัดออกไปได้เลยไอ้กันต์ต้องลากไปนอนห้องเดี่ยวของมันนั่นแหละ

"สองเดือนก็หายไปด้วย กูนอนคนเดียวห้องใหญ่มันวังเวงนะเว้ย" แล้วผมต้องปลอบใจเพื่อนมันยังไงดี ก็ผมอยากมีเวลาสวีทกับน้องหนูบ้างเลยปลีกตัวกันไปดูดาวสองคน

"มาเดี่ยวไม่มีคู่กับเขาก็ต้องทำใจนะครับริท" นี่เพื่อนเฮียมันนั่งอยู่ข้างไอ้วอร์มแต่ชื่ออะไรแล้วก็ไม่รู้ผมก็ลืมถามไปเลย ไอ้ริทเบะปากด้วยท่าทีเง้างอน

"เออ ถ้ารู้ว่าพวกมึง ๆ จะไปนอนกับน้องเขากูจะได้ล็อคห้องไปเลย ไม่มัวพะวงตื่นหรอก ไอ้เราก็เป็นห่วงแต่เพื่อนไม่มีใครเป็นห่วงกูสักคน" มันตัดพ้อชุดใหญ่ใส่ผมและไอ้วอร์ม แต่เรื่องนี้มันก็ไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าจะไม่มีใครนอนห้องแต่ที่ผมอยากรู้ก็คือไอ้แฝดมันแอบไปนอนที่ไหน

"พูดมากว่ะมึง เสียงดังถึงโน้นเลย" ไอ้กันต์มันเดินมาพร้อมกับเพื่อนสนิทมันนั่นแหละ สองคนก็ตัวติดยิ่งกว่าตังเม พวกมันไม่รู้หรือไงว่าแทบจะเป็นคนคนเดียวกันอยู่แล้ว ไอ้ธีร์เดินมากอดคอไอ้ริทเพื่อปลอบโยน

"เดี๋ยวคืนนี้ไปนอนด้วยก็ได้"

" ได้ไงวะ แล้วกูล่ะ" นั่นไง ถึงไอ้ธีร์มันจะใจดีจะนอนเป็นเพื่อนไอ้ริทแต่ไอ้กันต์มันไม่ยอมให้ใครได้เอาเพื่อนรักของมันไปหรอก ไอ้วอร์มตักข้าวกินไม่สนใจพวกเรากำลังคุยกัน ผมหันมองมันแล้วแตะขามัน ได้ทีก็ชิ่งหนีเลยนะมึง 

"ก็นอนคนเดียวไปไง อยากเลือกห้องเดี่ยวเอง" ไอ้ธีร์มันเถียงเสียงน่ารัก เวลาพวกมันคุยกันจะใช้เสียงสองเสียงสามคุยกันเหมือนโลกนี้มีแค่พวกมันสองคนนั่นแหละ ไอ้ริทกอดไอ้ธีร์แน่นอวดโชว์ไอ้กันต์ให้มันกระอักตาย เราต่างก็รู้ว่าไอ้กันต์มันหวงไอ้ธีร์มากแต่ก็ไม่มีใครชอบแตะเนื้อต้องตัวไอ้ธีร์บ่อยเหมือนไอ้ริท

"เออ คืนนี้ต้องมีคนนอนกับกู เข้าใจ๊นะพวกมึง" นิ้วชี้เล็ก ๆ นั่นสั่งพวกเราทุกคน จะขาดก็แต่ไอ้เพื่อน เดาว่าเมื่อคืนมันหายไปนอนห้องเดี่ยวกับลูกพีชเพื่อนตัวเล็กของมันนั่นแหละ รายนั่นเดินมาพร้อมกับลูกพีชพอดี ผมมองจานในมือทั้งสองข้างแล้วอยากจะอ้วก เพื่อนผมมันไม่เคยอ่อนโยนกับใครนอกจากเพื่อนตัวเล็กของมัน 

"อะไรเนี่ย มึงงอแงอะไรแต่เช้าไอ้ริท" เฮียเดินมาหาที่นั่งโดยเลือกนั่งใกล้เพื่อนเฮียที่นั่งข้างไอ้วอร์มนั่นแหละ ผมเห็นไอ้เพื่อนกับลูกพีชเลือกนั่งอีกฝั่ง นั่นก็แทบจะสวีทกันอยู่แล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องลูกแพร์ถึงได้หวงพี่ชาย สายตาของไอ้เพื่อนมันอันตรายจริง ๆ กินลูกพีชได้คงกลืนกินลงท้องไปแล้ว

"ก็แค่หาเพื่อนนอนด้วย เพราะเมื่อคืนไม่มีใครนอนกับผมสักคน" ผมหันหน้าหนีไปชมวิวแล้วกัดขนมปังกินคำนึง แต่ผลที่ได้มาคือความเงียบ ทุกคนคือเงียบกันหมด ไม่มีใครยอมพูดอะไรอีก งานนี้คงไม่ใช่ผมกับไอ้วอร์มที่แอบไปนอนทีอื่นจริง ๆ เห็นกลุ่มมน้องปีหนึ่งของน้องหนูเดินมาพร้อมกับจานข้าวในมือแต่ละคนพวกเราเลยสลายกลุ่มกัน

"น้องหนูมานั่งนี่ครับ" ผมเรียกให้น้องมานั่งข้างกายโดยจองที่นั่งให้ ส่วนเพื่อนของผมพวกมันจะไปนั่งที่ไหนก็ไป เราก็โต ๆ กันแล้ว ดูแลตัวเองกันได้ น้องเดินมาหาพร้อมรอยยิ้มสดใส หากคืนนี้มีโอกาสผมอยากจะพาน้องไปนอนบนดาดฟ้าจะได้ดูดาวโดยไม่ต้องผ่านหลังคากระจกเหมือนเมื่อคืน

"ขอบคุณครับพี่เบียร์ แพร์มานั่งตรงนั้นกันได้เห็นลำธารด้วย" เสียงน้องชวนเพื่อนให้มานั่งด้วยเพราะมีที่นั่งว่าง ก็ผมเองนั่นเองที่จองที่ไว้ให้เอง ผมมองอาหารเช้าในจานของน้องแล้วแปลกใจ

"ทำไมตักมาน้อยล่ะครับ" มันน้อยมาก เป็นผมคงกินไม่อิ่ม ปกติเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนผมแต่ละคนกินเก่งกันมาก พอเห็นอาหารน้อย ๆ ผมเลยแปลกใจ กินน้อยแค่นี้จะอิ่มเหรอ 

"รักยังไม่หิวเท่าไหร่ครับ ก่อนออกมาพวกเรากินขนมมาก่อนแล้ว" น้องบอกเหตุผลผมเลยเข้าใจในทันที ก็ถึงว่าคนอะไรจะทานข้าวน้อยราวกับแมวดม น้องนั่งลงบนที่นั่งไม้แล้วถามผมกลับเมื่อมองจานข้าวของผม "แต่พี่เบียร์ตักมาเยอะ"

"เช้านี้พี่หิวครับ" ไอ้วอร์มมันขำ ผมเลยหันไปมองมัน พอเห็นจานว่างเปล่าของมันก็แอบทึ่งอยู่เหมือนกัน ทานจนหมดเกลี้ยงมันนั่นแหละหิวมากกว่าผมอีก น้องนั่งยิ้มแล้วมองธรรมชาติข้างหน้า บรรยากาศยามเช้าสดชื่นมาก ยิ่งข้างล่างเป็นธารน้ำใสมีผู้ปกครองกับเด็กลงไปเล่นน้ำกัน มันยิ่งดูผ่อนคลาย น้องหันไปคุยกับเพื่อนบ้าง แล้วก็ชวนผมคุยเล็กน้อย

"ถ้าทานไม่หมดละน่าดู" น้องขู่เหมือนคุณครูอนุบาลที่อยากฝึกให้เด็ก ๆ ทานอาหารให้หมดจาน ผมระบายยิ้ม หน้าก็หวานแต่ชอบทำหน้าดุซึ่งไม่ได้ดูน่ากลัวสักนิดเดียว ไอ้วอร์มมันลุกไปตักอาหารว่างมาเพิ่ม มันกินเก่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

"วันนี้พี่เบียร์จะทำอะไรบ้างครับ" ผมดื่มกาแฟเสร็จแล้วนั่งมองวิว อยากหันมองหน้าน้องแต่กลัวเจ้าตัวจะเขิน ดังนั้นผมเลยเลือกจะมองนาน ๆ ครั้ง ค่อย ๆ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติแต่ความจริงแล้วผมกลับรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเวลาเห็นน้องยิ้ม

"ถ้าตามโปรแกรมที่วางไว้พวกพี่จะไปถ่ายรูปที่น้ำตกครับ น้องหนูกับเพื่อนจะไปด้วยไหมครับมีรถเอทีวีให้ขับด้วย" ผมเอ่ยชวน อยากพาน้องไปนั่งเอทีวีแล้วพาไปน้ำตก ที่นั่นวิวสวยกว่าที่นี่สิบเท่าเชื่อว่าน้องต้องชอบมากแน่ ๆ 

"ไปครับ แต่รักขอถามเพื่อนก่อนว่ามีใครจะไปอีกไหม" อย่างนึงที่ผมชอบคือน้องไม่เคยปฏิเสธ ทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเจ้าตัว ผมมองว่ามันน่ารักน่ามอง พอเห็นน้องอยากรู้นั่นนี่ในหัวก็คิดถึงสถานที่สวย ๆ หลายที่ที่อยากพาไปให้เจ้าตัวได้เห็น น้องเหมือนเด็กน้อยที่ตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่ผู้ปกครองบอกจะพาไปเที่ยว

"ตกลงครับ ปีหนึ่งห้าคนจะไปน้ำตกด้วยครับ" ปรึกษากับเพื่อนเสร็จน้องก็หันมาบอกผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น สายตาฉายแววเปล่งประกาย

"ครับ" แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลอกล่อเด็กน้อยก็ไม่รู้ เห็นเฮียลุกขึ้นยืนเพราะกำลังจะไปเก็บจานน้องก็หันหน้าไปถามเหมือนอยากรู้ ผมไม่ได้สนใจเฮียหรอกเพราะสายตาเอาแต่จับจ้องมองน้อง

"เฮียขับเอทีวีเป็นป่ะ" คำถามแสนธรรมดาแต่น่ารักนั่นทำให้ผมยกยิ้ม น้องกับเฮียเหมือนคู่กัดกันแต่บางครั้งก็รักกันมาก เป็นพี่เทคกับน้องเทคที่สนิทกันในระดับนึงเลยละ ตอนผมอยู่ปีหนึ่งไม่มีพี่ที่คอยใส่ใจและสนิทกันอย่างนี้เลย ไม่รู้ว่าน้องไปโปรยเสน่ห์ยังไงจึงทำให้เฮียหลงถึงขั้นเอ่ยขอเป็นน้องเทคแคร์ 

"เป็นดิ ไม่เป็นได้ไงล่ะ" ได้ยินเฮียตอบน้องก็ทำหน้าหมั่นไส้ ผมรู้สึกอยากหยิกแก้มนั่นมาก

"ชิ อวดจังเลย"

"อ้าว ก็มึงถามเองไหม"

"พี่ก็ขับเป็นนะ" เสียงไอ้เหล้ามันดังขึ้นแทรก ผมหันไปมองมันทันที ผมจะไว้ใจไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวแสบไม่ได้ ไอ้เหล้ามันแสดงชัดมากว่าชอบที่ได้ใกล้ชิดกับน้องและเหมือนว่าน้องก็จะสนิทกับมันในระดับหนึ่งด้วย

"พี่เหล้าด้วยเหรอ" น้องเหมือนครุ่นคิดบางอย่าง คิ้วเริ่มผูกกัน ไอ้เหล้าก็ขานตอบทั้งที่มันอยู่ไกลถัดจากเฮียด้วยซ้ำ "ทำไมขับกันเป็นกันทุกคนล่ะ แล้วพี่เบียร์ล่ะครับขับเก่งไหมครับ" น้องหันมาถามผมด้วยความอยากรู้

"แน่นอนครับ เป็นกีฬาที่พี่ชื่นชอบที่สุดด้วย" ผมตอบอย่างมั่นใจ 

"เก่งจังเลยครับ เอาไว้รักจะฝึกขับด้วยนะครับ จะได้ขับไปเที่ยวกับพี่เบียร์ได้ในอนาคตนะครับ เอ้ย รักแค่คิดเผื่อ ๆ เอาไว้" น้องพูดแล้วกัดปากตัวเอง คงลืมตัวเผลอคิดสิ่งที่อยู่ในใจ ผมเอ็นดูเจ้าตัวทุกครั้ง มีเรื่องที่ทำให้ยิ้มเสมอ

"ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีครับ"

"ครับ" หลังทานมื้อเช้ากันเสร็จ หลายคนก็เดินไปถ่ายรูป ชมวิวยามเช้า บางคนก็นอนเอาแรงก่อนและมีเตรียมตัวเพื่อออกเดินทางไปเที่ยวน้ำตกกัน

"พี่เบียร์กำลังทำอะไรอยู่ครับ" น้องเดินมาพร้อมกับมือถือในมือคิดว่าคงกำลังไลฟ์อยู่ เพราะก่อนหน้านี้เห็นบ่นกับเพื่อนว่าอยากไลฟ์ในอินสตาแกรม ผมเงยหน้ามายิ้มให้น้อง

"ผูกเชือกรองเท้าครับ ต้องผูกให้แน่นเดี๋ยวสะดุดล้มครับ" ปากบอก ตามองน้อง ส่วนมือก็ผูกเชือกรองเท้าไป ไอ้ริทกับไอ้วอร์มมันเดินไปหามุมถ่ายรูปไม่รอผมแล้ว

"แค่ผูกเชือกรองเท้าต้องเก็กหล่อด้วยเหรอครับ" น้องขยับมือถือเพื่อซูมหน้าผมใกล้ ๆ ผมไม่ได้ขยับหนีและปล่อยให้น้องได้ถ่ายตามใจชอบ

"เก๊กหล่อเหรอครับ ไม่นะพี่ว่าพี่ก็ทำตัวปกติแล้ว เชือกรองเท้าน้องหนูหลุดด้วย พี่ผูกใหม่ให้ครับ" เห็นเชือกรองเท้าน้องใกล้จะหลุดผมเลยอาสาผูกให้ใหม่ น้องยืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ผมเงยหน้ามาถามเจ้าตัวเมื่อผูกเสร็จ

"แบบนี้แน่นไปไหมครับ" น้องส่ายหน้าแล้วตอบเสียงเบา เหมือนจะหน้าแดงขึ้นเพราะโดนแดดตอนเช้าผิวแก้มน้องเลยแดงขึ้นหรือเปล่า

"ไม่แน่นครับ ขอบคุณครับ"

"ยินดีครับ" ผมขยิบตาให้น้องข้างนึง แต่เห็นหน้าแดงนั่นก็ยิ่งอยากแกล้ง น้องกำลังเขินผมอยู่หรือเปล่า

"หมดชั่วโมงหล่อของพี่เบียร์แล้ว ตามรักไปสัมภาษณ์คนอื่นต่อดีกว่าครับ" เห็นน้องจะวิ่งหนี ผมเลยลุกขึ้นรวบตัวน้องไว้เพราะเจ้าตัวไม่เห็นเจ้ากบน้อยที่นั่งนิ่งตรงนั้นอยู่นาน

"น้องหนูจะเหยียบเจ้ากบแล้วครับ" ผมกระซิบบอก น้องก็ก้มมองเจ้ากบน้อยที่กำลังกระโดดหนี

"จริงด้วย ขอโทษนะเจ้ากบ" บอกเสร็จก็หันมามองผมด้วยแววตาชื่นชม "ขอบคุณครับพี่เบียร์"

"..." ผมเหมือนจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ คนเราจะน่ารักตลอดเวลาโดยไม่เว้นช่วงพักเลยหรือไงนะ

"ครับน้องหนู"

 

 

 

06/09/64
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป