Your Wishlist

หอยทากน้อยหมายปองอาณาจักร (ตอนที่ 3)

Author: Puk Pik

จอมพลงูหลาม VS วิญญาณหอยทากหน้ามึน

จำนวนตอน : 115

ตอนที่ 3

  • 01/09/2564

ตอนที่ 3

 

“น้องชายคนนี้แข็งแกร่งกว่าฉันซะอีก ดังนั้นลืมเรื่องช่วยไปซะจะดีกว่า” จินคิดขณะเหลือบตามองไปที่ร่างงูหลามเปื้อนโคลน

 

ถ้าวันหนึ่งน้องชายคนนี้คิดไม่ซื่อขึ้นมาเขาอาจจะได้กลายเป็นอาหารของงูหลามไปก็ได้

 

จินยืนขึ้นและมองไปที่งูหลามบนพื้นอีกครั้งอย่างหดหู่

 

แต่ในทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นเมื่อเขาคิดอะไรได้บางอย่าง

 

แม้ว่างูหลามตัวนี้จะแข็งแกร่งแต่ไอคิวของมันต่ำมาก ดังนั้นถ้าหากเขาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตมันเอาไว้ อีกฝ่ายจะต้องรู้สึกขอบคุณแล้วกลายมาเป็นผู้ติดตามตัวน้อยของเขาแน่นอน

 

หากในอนาคตเขากลับไปสู่โลกแห่งการฝึกของอสูร เขาก็จะมีงูหลามอันทรงพลังคอยสนับสนุน!

 

เพียงเขาคิดได้แค่นี้เขาก็รู้สึกเท่ไม่ไหวแล้ว!!

 

ในที่สุดจินก็ตัดสินใจได้ เพราะเมื่อเขาจินตนาการถึงภาพในอนาคตอันสุดเท่มันก็ได้มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา จากนั้นเขาก็กลับมารักษางูหลามอย่างขยันขันแข็ง

 

ในกระบวนการนี้นอกเหนือจากที่เขาจะทำการเชื่อมต่อเส้นเลือดและเส้นเอ็นทั้งหมดให้กับงูหลามน้อยแล้ว เขายังได้ฉีดพลังวิญญาณทั้งหมดของเขาเข้าไปภายในร่างกายของงูหลามเพื่อช่วยขยายกล้ามเนื้อและกระดูกของมันเพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีกด้วย

 

วิธีการนี้จะช่วยให้งูหลามน้อยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นเพราะในอนาคตจินตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ในสังคมมนุษย์ตลอดเวลา ดังนั้นมันคงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดหากงูหลามน้อยจะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ให้ได้โดยเร็ว ซึ่งมันก็จะสามารถติดตามเขาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย

 

หากอาการบาดเจ็บภายในของมันได้ถูกรักษาจนหายขาดแล้ว อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ บริเวณภายนอกก็จะสามารถรักษาได้ง่ายกว่ามากเพียงแค่เขาได้ใช้เมือกหอยทากในการรักษาเท่านั้น

 

แต่งูหลามยักษ์ตัวนี้มีสภาพสกปรกเกินกว่าที่เขาจะรับได้และเมื่อเขาได้เห็นสภาพแผลบนตัวของมันพร้อมกับร่างที่เต็มไปด้วยรูพรุน มันก็ทำให้เขารู้สึกอนาถใจเป็นอย่างมาก

 

จินคงจะต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดร่างของงูหลามน้อยทั้งคืนหากเขาต้องการที่จะกำจัดโคลนทั้งหมดบนร่างของมันออกไป และเมื่อเขาได้เหลือบสายตามองไปเห็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลเขาก็เริ่มวางแผนที่จะนำเอาร่างของงูหลามน้อยไปล้างตัวในแม่น้ำสายเล็กสายนั้น

 

ในปัจจุบันร่างกาย 1 ใน 3 ของงูหลามน้อยอยู่บนฝั่ง ส่วนที่เหลืออีก 2 ใน 3 ยังคงแช่อยู่ในโคลน

 

ประกอบกับในตอนนี้พลังวิญญาณของจินเกือบจะหมดลงแล้ว เขาจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายของตัวเองในการลากร่างของงูหลามขนาดยักษ์ออกไป

 

งูหลามสีดำตัวนี้มีความยาวมากกว่า 20 เมตรและมีน้ำหนักมากกว่า 1,000 กิโลกรัม ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลาลากมันเป็นเวลานานก่อนที่ร่างของงูหลามจะเคลื่อนที่ไปได้เพียงแค่ครึ่งเมตร

 

เหตุการณ์นี้ได้ทำให้จินปาดเหงื่อและคิดว่าเขาควรจะต้องใช้วิธีการอื่นในการเคลื่อนย้ายร่างของงูน้อยตัวนี้

 

ขณะเดียวกันบริเวณริมบึงโคลนก็มีต้นไม้ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากและพวกมันก็เป็นต้นไม้ที่แผ่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไปในทิศทางต่าง ๆ มากมาย และมันก็มีต้นไม้ต้นหนึ่งที่เหมาะจะใช้สำหรับการเป็นคานงัดเป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งที่เขาจำเป็นจะต้องใช้ในตอนนี้นั่นก็คือไม้ยาว ๆ และเถาวัลย์เหนียว ๆ

 

ภายในป่าแห่งนี้มีต้นไม้ที่ตายแล้วเป็นจำนวนมากและจินก็ได้พบกับท่อนไม้ที่สามารถนำมาใช้การได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับเขายังได้พบกับเถาวัลย์ที่ดูทนทานอีก 2-3 เส้นด้วย

 

หลังจากนั้นเขาก็เอาเถาวัลย์มาผูกร่างของงูหลามน้อยและผูกปลายอีกด้านของเถาวัลย์ไว้กับต้นไม้ แต่เขาก็ยังรู้สึกกังวลว่าร่างของงูหลามน้อยจะตกลงก่อนที่จะไปถึงแม่น้ำ

 

จากนั้นเขาก็ได้นำขอนไม้ไปพาดกับกิ่งไม้ต้นหนึ่งเอาไว้ก่อนที่จะยกร่างของงูหลามน้อยขึ้นมาพาดเอาไว้กับขอนไม้ขอนนั้น ต่อมาเขาก็ได้ปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้ก่อนที่จะกระโดดลงมายังขอนไม้อีกด้านเพื่อทำการงัดร่างของงูหลามน้อยขึ้นไปเหมือนกับเด็กที่เล่นไม้กระดก

 

ด้วยเหตุนี้เองร่างของงูหลามน้อยจึงได้บินข้ามหัวของจินไปตกลงในแม่น้ำที่อยู่อีกฟาก

 

หลังจากนั้นจินก็มาเช็คเถาวัลย์ที่ผูกติดกับร่างของงูหลามสีดำเอาไว้เพื่อทำการทดสอบว่าเถาวัลย์นี้ยังคงแข็งแรงดีอยู่หรือไม่ เพราะถ้าหากมันไม่แข็งแรงพอร่างของงูหลามน้อยอาจจะถูกพัดไปตามแรงของแม่น้ำ

 

 

เมื่อจินได้พบว่าเถาวัลย์นี้แข็งแรงดีพอแล้วเขาก็เดินไปเก็บผลไม้จากต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ 2-3 ผลก่อนที่จะมานั่งอยู่ใต้เงาของร่มไม้พร้อมกับรับประทานผลไม้ภายในมืออย่างเงียบ ๆ ขณะที่เฝ้าดูร่างของงูหลามน้อยที่นอนแช่อยู่ในน้ำ

 

แต่ในทันใดนั้นเองมันก็ได้มีเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังมาจากบนท้องฟ้า จินจึงเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อเห็นสิ่งประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนแมงมุมยักษ์บินอยู่บนท้องฟ้าจินก็กระโดดยืนขึ้นเกือบจะในทันที พร้อมกับส่งเสียงตะโกนและโบกมือขึ้นไปในอากาศเพื่อหวังว่าสิ่งประหลาดนั้นจะสังเกตเห็นร่างของเขา

 

ถึงแม้ว่าสิ่งที่บินอยู่บนท้องฟ้านี้จะดูแปลกประหลาดไปสักหน่อยแต่จินก็มั่นใจว่ามันจะต้องมีใครสักคนอยู่บนนั้นอย่างแน่นอน

 

ในช่วงไม่กี่ 10 ปีที่ผ่านมานี้เขาและอาจารย์ได้อาศัยอยู่ในสังคมมนุษย์ ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่ามันมีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถสร้างเทคโนโลยีขั้นสูงประเภทนี้ขึ้นมาได้ ซึ่งถ้าหากมนุษย์ที่อยู่ภายในเครื่องบินได้เห็นร่างของเขา เขาก็คงจะสามารถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว

 

“เฮ้เจ้าแมงมุมยักษ์!!” จินพยายามส่งเสียงเรียกแต่ถึงแม้ว่ามันจะได้ลอยมาอยู่เหนือหัวของเขาแล้ว แต่ท้ายที่สุดมันก็ได้ลอยหนีไป

 

“เฮ้อแย่จัง…” จินเอามือลงด้วยความผิดหวัง จากนั้นเขาก็คิดว่าเขาควรรักษาน้องชายของเขาให้เร็วที่สุดและอีกฝ่ายก็จะสามารถนำพาเขาออกไปจากที่แห่งนี้ได้อย่างปลอดภัย

 

ความเร็วในการรวบรวมพลังของงูหลามน้อยถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถสัมผัสได้ว่าต้าไห่ไม่ใช่งูหลามธรรมดา

 

นอกจากต้าไห่จะมีสติปัญญาแล้วมันยังมีพลังปีศาจที่แข็งแกร่งอีกด้วย ดังนั้นมันย่อมสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ารถยนต์ของพวกมนุษย์เสียอีก

 

แน่นอนว่า ‘ต้าไห่’ เป็นชื่อที่จินเพิ่งจะตั้งให้กับงูหลามน้อยนั่นเอง

 

-----

 

“กัปตันคอรีย์เครื่องตรวจจับกำลังตอบสนองครับ!” ทหารในชุดสีดำที่อยู่ตรงห้องควบคุมกลางของยานอวกาศกระโดดลุกขึ้นจากที่นั่งและอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น

 

เมื่อได้ยินลูกน้องรายงานพันเอกคอรีย์ก็เดินไปดูเครื่องตรวจจับที่อยู่ด้านหน้าของทหารคนนั้น โดยมีทหารหนุ่มที่กำลังชี้ไปที่จุดสีเขียวเล็ก ๆ บนหน้าจอ 

 

“เราตรวจพบพลังงานของท่านจอมพล ท่านจอมพลยังคงมีชีวิตอยู่!!”

 

“เยี่ยม!"”

 

คอรีย์จ้องมองไปที่จุดสีเขียวเล็ก ๆ อย่างใกล้ชิดในขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความหวัง

 

เมื่อเจ็ดวันก่อนท่านจอมพลพาพวกเขาไปไล่ตามราชินีเซิร์ก แต่ราชินีเซิร์กนั้นรวดเร็วมากจนพวกเขาตามไม่ทัน

 

เมื่อพวกเขาไล่ตามจนทันพวกเขาก็ถูกระเบิดพลังงานอันทรงพลังปะทะเข้าใส่จนทำให้พวกกระเด็นกระจัดกระจายกันออกไป

 

แน่นอนว่าระเบิดพลังงานนั้นคือพลังงานของจอมพลเรย์มอนด์และหลังจากเหตุระเบิดพลังงานของจอมพลเรย์มอนด์ก็หายไป!

 

ในเวลาเดียวกันราชินีแห่งเซิร์กก็ถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

 

สำหรับคนในอาณาจักรออร์คแล้วเมื่อพลังงานหมดไปพวกเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย 

 

เมื่อแกนพลังงานแตกออกพวกเขาจะระเบิดพลังงานอันมหาศาลออกมา ซึ่งมันมีพลังมากกว่าพลังงานที่พวกเขามีปกติถึง 30 เท่า ซึ่งออร์คที่เสียแกนพลังงานไปจะทำให้เส้นเอ็นของพวกเขาขาดสะบั้นและชีวิตที่เหลือของพวกเขาจะกลายเป็นเหมือนคนเป็นอัมพาตที่นอนอยู่บนเตียง

 

แม้ว่าเส้นเอ็นที่ขาดไปแล้วจะสามารถเชื่อมต่อกลับมาได้ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน แต่แกนพลังงานในร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ทำให้พลังงานไม่สามารถหมุนเวียนในร่างกายได้อีกต่อไป และถึงแม้ว่าพลังงานจะกลับมาหมุนเวียนได้อีกครั้งแต่มันจะไหลไปโดนเอ็นที่เคยขาดและทำให้เส้นเอ็นเส้นนั้นขาดอีกครั้ง

 

แม้ว่าจอมพลเรย์มอนด์จะเป็น 1 ใน 8 ผู้บัญชาการออร์คที่แข็งแก่งที่สุด แต่เขาก็ไม่สามารถหลีกหนีอันตรายจากแกนพลังงานที่แตกสลายได้อยู่ดี

 

แต่ถึงแม้ว่าจอมพลเรย์มอนด์จะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นวีรบุรุษของอาณาจักร!

 

การค้นพบครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้รู้ว่าท่านจอมพลกำลังซ่อนตัวอยู่ในป่าบริสุทธิ์ของดาวลึกลับ

 

ที่ป่าแห่งนี้มีสัตว์ร้ายอาศัยอยู่มากมายและในเวลานี้ท่านจอมพลก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสพร้อมกับสูญเสียพลังไป ดังนั้นโอกาสรอดชีวิตของท่านจอมพลจึงมีน้อยมากแต่พวกเขาก็มีความหวังอยู่ในใจแม้ว่ามันจะริบหรี่ก็ตาม

 

ถ้ามีชีวิตก็ต้องเห็นตัว แต่ถ้าตายก็ต้องเห็นศพ!!

 

พวกเขาจะต้องนำจอมพลเรย์มอนด์กลับมาที่บ้านเกิดของพวกเขาให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

 

ความศรัทธานี้อยู่กับพวกเขามาเป็นเวลา 7 วันแล้วและในตอนที่พวกเขากำลังจะสิ้นหวังพวกเขาก็ได้ตรวจพบพลังงานของท่านจอมพล

 

การที่เครื่องตรวจพบพลังงานของท่านจอมพลได้ มันก็แสดงว่าท่านจอมพลต้องยังมีชีวิตอยู่

 

เมื่อมองไปที่จุดสีเขียวเล็ก ๆ ที่กระพริบบนหน้าจอ พันเอกคอรีย์ก็ตะโกนสั่งการออกไปว่า 

 

 

“กลับไปเส้นทางเดิมเดี๋ยวนี้!”

 

-----

 

ในเวลาเดียวกันจินก็กำลังจ้องมองไปที่ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าและรู้สึกว่าตอนนี้ตัวของงูหลามน้อยน่าจะสะอาดแล้ว

 

จากนั้นเขาก็หยิบใบไม้ขนาดใหญ่มาวางไว้บนหัวเพื่อบังแดดก่อนจะดึงเถาวัลย์เพื่อลากงูหลามขึ้นฝั่งมาทีละน้อย

 

หลังจากล้างโคลนจนหมดแล้วเขาก็พบว่าบาดแผลบนตัวของงูหลามนั้นไม่ธรรมดาและถ้าเขาจะบอกว่าแผลเหล่านี้มีแต่รูพรุน ๆ ก็คงจะไม่เกินจริงเท่าไรนัก

 

เวลาต่อมาจินก็ได้หยิบเอาเมือกของเขาออกมา 1 กำมือแล้วเอาไปทาบนบาดแผลของงูหลามน้อย ก่อนจะหยิบเมือกหอยทากขึ้นมาอีก 1 กำมือและทาไปบนแผลเดิมทำให้บาดแผลนั้นฟื้นฟูขึ้นมาในอัตราความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

ช่วงเวลานี้พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแต่แดดก็ยังแรงมาก ๆ อยู่ดี และถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีใบไม้ขนาดใหญ่อยู่บนหัวของจินแต่มันก็ยังคงร้อนมากอยู่ดี

 

แม้ว่าพลังวิญญาณของเขาจะฟื้นขึ้นมาบ้างแล้วแต่เขาก็ยังไม่มีปัญญาลากงูหลามน้อยเข้าไปใต้ร่มไม้

 

ในขณะที่จินกำลังยืนดูบาดแผลทั่วทั้งตัวของงูหลามน้อยเขาก็คิดกับตัวเองในใจว่า 

 

“เมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ย?”

 

“ฉันแทบจะทนไม่ไหวแล้วนะ!!”

 

จินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกัดฟันจับงูหลามน้อยเข้าไปในเปลือกที่อยู่ตรงหน้าท้องของเขา

 

หลังจากที่เขาแปลงร่างเป็นมนุษย์แล้ว เปลือกของเขาก็เหมือนกับกระเป๋ามิติที่พกพาไปไหนมาไหนด้วยได้ และถึงแม้ว่าเขาจะเข้าไปนอนพักผ่อนในนั้นไม่ได้แต่เขาก็ยังสามารถเก็บของจากโลกภายนอกไว้ในนั้นได้อยู่ดี

 

ขณะเดียวกันแม้ว่าเปลือกของหอยทากสีทองจะซ่อนอยู่ในท้องของเขาแต่พื้นที่ภายในนั้นก็มีขนาดใหญ่มาก และมันยังเต็มไปด้วยเมือกหอยทากจำนวนมหาศาล ดังนั้นถ้าเขาได้ใส่งูหลามน้อยเข้าไปในนั้นมันก็จะสามารถรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็วซึ่งมันก็จะช่วยประหยัดแรงและเวลาของจินไปได้เป็นอย่างมาก

 

แต่เขาก็ไม่เคยให้ใครเข้าไปภายในเปลือกของเขานอกจากตัวเองมาก่อน จินจึงรู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ

 

ทันทีที่เขายัดต้าไห่เข้าไปในเปลือกของเขา จินก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวแปลก ๆ มาจากบริเวณด้านหลังและเมื่อเขามองย้อนกลับไปเขาก็ได้เห็นว่ามันกำลังมีฝูงหมูป่ามุ่งหน้ามาทางนี้

 

เมื่อมองไปที่หูแหลม ๆ และเขี้ยวยาว ๆ สองซี่ที่งอกออกมานอกปากแล้วฝูงหมูป่าเหล่านี้ก็ดูน่าเกลียดและน่ากลัวมาก ไหนจะขนที่เปื้อนโคลนจนกลายเป็นเหมือนกับเกราะหนา ๆ นั่นอีก

 

ในขณะนี้หมูป่าจำนวนมากกำลังจ้องมาที่จินด้วยแววตาอันเรียวเล็ก

 

จิน: "..."

 

“ที่นี่มีแหล่งน้ำและหมูป่าฝูงนี้น่าจะมาดื่มน้ำ”

 

พลังทำลายล้างของหมูป่าตัวผู้ตัวโตเต็มวัยนั้นรุนแรงมากและถึงแม้ว่าบางครั้งเสือป่าอาจจะกล้าไปท้าชนกับช้างแต่พวกมันก็ไม่เคยไปยั่วยุหมูป่าเลย

 

โดยเฉพาะการเจอกับฝูงหมูป่าที่ถ้าหากใครเข้าไปภายในอาณาเขตของมันโดยไม่ได้ตั้งใจพวกมันก็จะไล่ล่าผู้บุกรุกจนตาย

 

แต่จินไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวหมูป่าพวกนี้เลย

 

แม้ว่าในตอนนี้เขาจะไม่มีพลังวิญญาณมากนัก แต่พลังป้องกันของเขาก็ยังสูงมากจนสามารถรับการโจมตีของเจ้าอสูรเข้าไปได้ด้วยซ้ำ

 

เมื่อเห็นฝูงหมูป่ากำลังเดินใกล้เข้ามาจินก็ตั้งใจที่จะเดินทางออกจากที่นี่ไปก่อน เพราะหมูป่าพวกนี้มีกลิ่นที่เหม็นมากและเขาก็ไม่อยากจะไปยุ่งกับพวกมัน

 

แต่เมื่อเขาเดินไปได้เพียงแค่ 2 ก้าวหมูป่าตัวใหญ่ที่อยู่ใกล้กับเขามากที่สุดก็พุ่งตัวเข้ามาหาเขาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า

 

“ถอยออกไปซะ! ฉันไม่เคยรุกรานใครก่อนอย่ามาทำให้ฉันโกรธจะดีกว่า!!” จินพยายามใช้พลังวิญญาณของเขาสื่อสารกลับไป แต่มันเห็นได้ชัดเลยว่าหมูป่าฝูงนี้ไม่เข้าใจสิ่งที่เขากำลังพยายามจะสื่อเลย

 

หมูป่าตัวใหญ่ตัวนี้น่าจะเป็นหัวหน้าฝูง ดังนั้นทันทีที่มันเคลื่อนไหวหมูป่าตัวอื่น ๆ จึงวิ่งตามมันเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน

 

ทันใดนั้นหมูป่าตัวใหญ่ตัวแรกก็ได้กระแทกเข้ากับจินด้วยแรงปะทะอันมหาศาล แต่สำหรับตัวของหมูป่าแล้วมันก็รู้สึกราวกับว่ามันกำลังพุ่งเข้าชนกับภูเขาขนาดใหญ่

 

ในเวลาเดียวกันจินก็ได้ยกนิ้วกลางของเขาขึ้นมาเนื่องมาจากหมูป่าพวกนี้ได้เริ่มโจมตีเขาก่อน ดังนั้นเขาจึงตั้งใจที่จะสั่งสอนบทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับพวกมันเสียหน่อย

 

ทันใดนั้นอดีตหอยทากน้อยก็ได้รวบรวมกระแสไฟฟ้าขนาดเท่ากับไข่นกกระทาไว้ตรงบริเวณปลายนิ้วกลางของเขา แต่ในตอนนี้เขาก็ได้เหลือพลังวิญญาณอยู่น้อยจนเกินไป ดังนั้นกระแสไฟฟ้าจึงมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมและผลของมันก็ยังน้อยลงกว่าเดิมเป็นอย่างมากอีกด้วย

 

แต่ไม่เป็นไรถึงแม้ว่าไข่ไฟฟ้าของเขาจะมีขนาดเล็ก แต่ถ้าหากเขาได้ใช้มันออกไปหลาย ๆ ครั้งมันก็พอที่จะทดแทนกันได้ใช่ไหม?

+++++++++++++++++++++

จะรอดไหมเนี่ย?! ให้กำลังใจหอยทากจินกันด้วยนะคะ ヽ( ̄д ̄;)ノ

ปุ๊กปิ๊กอัพนิยายทุกวันพุธและวันอาทิตย์เวลา 17.00 น.นะคะ ฝากติดตามกันด้วยน๊า ~★

 

 

 

21/8/64
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป