Your Wishlist

หอยทากน้อยหมายปองอาณาจักร (ตอนที่ 2)

Author: Puk Pik

จอมพลงูหลาม VS วิญญาณหอยทากหน้ามึน

จำนวนตอน : 115

ตอนที่ 2

  • 29/08/2564

ตอนที่ 2
 

เมื่อเรย์มอนด์เลื้อยไปยังแม่น้ำที่อยู่ใกล้ ๆ เขาก็พบว่าเจ้าสัตว์สายพันธุ์อ่อนแอที่หายไปจากขอนไม้ในก่อนหน้านี้กำลังแช่ตัวอยู่ในแม่น้ำด้านหน้าของเขาด้วยท่าทางสบาย ๆ

 

แม้ว่าเจ้าสายพันธุ์ที่อ่อนแอนี้จะเป็นตัวผู้เหมือนกับเขา แต่มันก็ไม่ได้มีรูปร่างสัตว์ทำให้พวกมันก็ไม่มีแกนพลังงานอยู่ภายในร่างกาย

 

ด้วยเหตุนี้สัตว์สายพันธุ์ที่อ่อนแอจึงมักจะอ่อนแอและบอบบางเป็นอย่างมาก ซึ่งสัตว์สายพันธุ์ที่อ่อนแอบางสายพันธุ์ก็มีความแข็งแรงไม่เท่ากับตัวเมียด้วยซ้ำ

 

แต่โดยปกติสายพันธุ์อ่อนแอก็มักที่จะมีสติปัญญาที่สูงมาก  ดังนั้นออร์คในเซ็นทรัลสตาร์จำนวนมากจึงมักจะเลือกเป็นพันธมิตรกับสายพันธุ์ที่อ่อนแอเหล่านี้

 

“ทุเรศชะมัด” เรย์มอนด์อุทานออกมาพร้อมกับเบี่ยงหน้าหลบไปเล็กน้อย

 

สัตว์สายพันธุ์ที่อ่อนแอตัวนี้อยู่ในป่าตามลำพังแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้รู้สึกลำบากเท่าไรเลยแม้ว่าอีกมันจะไม่มีเสื้อผ้าใส่แม้แต่ชิ้นเดียวก็ตาม

 

จากนั้นเรย์มอนด์ก็สลัดความคิดภายในหัวของเขาออกไปเพราะไม่ว่าเจ้านี่จะมีลักษณะเฉพาะยังไงและทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่ แต่อีกฝ่ายคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าเขาอย่างแน่นอนเนื่องจากเขาไม่สามารถสัมผัสถึงอันตรายใด ๆ จากเจ้าสายพันธุ์ที่อ่อนแอตัวนี้เลย

 

ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ต้องการฆ่าเขาก็ไม่น่าที่จะส่งสายพันธุ์ที่อ่อนแอเช่นนี้มาเพื่อจัดการกับเขา

 

จากนั้นเรย์มอนด์ก็ค่อย ๆ เลื้อยร่างกายของมันไปอีกฝั่งโดยตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงอีกฝ่าย แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นขอนไม้ที่ปรากฏขึ้นบริเวณด้านหลังเจ้าสายพันธุ์ที่อ่อนแอ

 

“เดี๋ยวนะ! นั่นมันจระเข้!” เมื่อเห็นเช่นนั้นเรย์มอนด์ก็ยืดตัวขึ้นทันที 

 

ในตอนนี้จระเข้กำลังว่ายน้ำเข้ามาทางด้านหลังจินอย่างเงียบ ๆ เมื่อมันเข้ามาใกล้ในระยะที่ต้องการแล้วมันก็อ้าปากขนาดใหญ่ของมันออกมา

 

ในขณะเดียวกันจินก็กำลังกวักน้ำขึ้นมาในอุ้มมือเพื่อล้างหน้า แต่ก่อนที่เขาจะเช็ดน้ำออกจากใบหน้าเขาก็เห็นงูหลามสีดำที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำอีกฝั่งหนึ่ง

 

“นั่นมันงูหลามยักษ์ที่ต่อสู้กับเสือขาวก่อนนี้ไม่ใช่หรอ แล้วมันมาที่นี่ได้ยังไง?”

 

เมื่องูหลามกินเหยื่อขนาดใหญ่มันจะไม่ได้ฉีกเหยื่อกินทีละชิ้นอย่างแน่นอน เพราะมันจะกลืนเหยื่อของมันไปทั้งตัวแล้วค่อย ๆ ย่อยเหยื่อภายในกระเพาะของมัน

 

ในระหว่างนี้เป็นช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดสำหรับงูหลามและโดยทั่วไปแล้วพวกมันจะไม่ลากร่างที่หนักอึ้งของพวกมันไปไหนมาไหนแบบนี้ด้วยซ้ำ

 

จากนั้นจินก็เหลือบมองไปยังท้องที่แบนราบของงูหลามยักษ์

 

ในขณะนั้นจินเห็นงูหลามยักษ์ข้างหน้ากำลังยกร่าง 1 ใน 3 ของมันขึ้นมาเหนือน้ำ ในขณะที่รูม่านตาที่ตั้งตรงและดูเยือกเย็นของมันก็กำลังจ้องตรงมาที่เขาด้วยท่าทางที่เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี 

 

จิน : “...”

 

“งูตัวนี้คงไม่ได้กำลังตกหลุมรักฉันใช่ไหม?”

 

หลังจากที่เขากลายเป็นมนุษย์ร่างกายของเขาก็ทั้งขาวและบริสุทธิ์ เขาจึงคิดว่าร่างกายนี้น่าจะย่อยได้ดีกว่าเสือขาวตัวใหญ่ที่มีผิวหนังหนา ๆ และถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็แสดงว่างูหลามตัวนี้น่าจะต้องเป็นงูที่เลือกกินเป็นอย่างมากแน่ ๆ

 

ในป่าอันบริสุทธิ์แห่งนี้สัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นนก, แมลงที่มีพิษหรือหอยทากสีทองต่างก็ล้วนแล้วแต่ต้องเฝ้าระวังภัยอยู่ตลอดเวลา

 

"อย่ามาทำร้ายฉันนะ ฉันยังไม่เคยรุกรานใครมาก่อนเลย" 

 

ในตอนนี้จินกำลังทำตามสัญชาตญาณของตนเองและถ้ามีสิ่งชีวิตอื่นเริ่มโจมตีเขาแล้วล่ะก็...

 

ทันใดนั้นจินก็เริ่มเสริมการป้องกันของตัวเองพร้อมกับยกนิ้วกลางขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ

 

ถึงแม้ว่าสัตว์ตระกูลหอยทากจะไม่มีคาถาที่เอาไว้ใช้ในการจู่โจมอย่างรุนแรงแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสู้ใครไม่ได้เลย

 

พวกเขาสามารถรวบรวมพลังงานของธาตุทั้งห้าในธรรมชาติเพื่อนำมาใช้งานได้ แต่ขอบเขตของพลังงานที่พวกเขาสามารถรวบรวมมาได้นั้นก็มีอยู่อย่างจำกัดและการโจมตีของพวกเขาก็มีพลังอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น

 

ในเวลานี้จินกำลังเหลือบมองไปที่สนามแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดประมาณไข่ไก่ที่รวบรวมไว้ตรงบริเวณนิ้วกลางของเขา 

 

แม้ว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้านี้จะมีขนาดเล็กแต่มันคงเพียงพอที่จะทำให้ร่างของงูหลามยักษ์เป็นอัมพาตไปได้ชั่วคราว

  

ในขณะเดียวกันงูหลามยักษ์ก็พุ่งตัวมาทางอดีตหอยทากสีทองด้วยความเร็วสูง

 

ทันใดนั้นสายตาของจินก็เห็นเพียงหลุมดำสีเลือดที่อยู่ในปากของงูหลามยักษ์พร้อมกับได้กลิ่นเลือดอันรุนแรงจากปากของมัน
 

ด้วยเหตุนี้จินจึงได้ยื่นนิ้วกลางของเขาออกไปเพื่อป้องกันตัว

 

แต่หัวของงูยักษ์ก็ได้เคลื่อนที่ผ่านใบหูของเขาไป ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงน้ำกระเซ็นตามหลังมาทำให้เขารีบหันกลับไปมองแล้วพบว่างูหลามยักษ์ตัวนี้กำลังกัดขอนไม้ที่อยู่บริเวณด้านหลังของเขา

 

“ไม่สิ...มันดูเหมือนจะไม่ใช่ขอนไม้ นั่นมันหัวไอ้เข้!”

 

ในขณะนั้นจระเข้ตัวใหญ่กำลังส่ายหัวไปมาเพื่อพยายามสะบัดหัวให้หลุดพ้นจากการถูกงูหลามกัด

 

จินจึงรีบมองไปยังงูหลามทันทีซึ่งแม้ว่าร่างกายของมันจะกระตุกเพราะถูกไฟฟ้าช็อตแต่อีกฝ่ายก็ยังคงกัดหัวของจระเข้ไม่ยอมปล่อย

 

“...” เขาเข้าใจพี่ชายงูหลามตัวนี้ผิดไป

 

จากนั้นจินก็เหยียดตัวออกอีกครั้งเพื่อตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะโจมตีจระเข้ตัวใหญ่

 

แต่งูหลามยักษ์ก็ได้ขดหางที่ไหม้เกรียมของมันพันร่างของจระเข้เอาไว้ก่อนที่จะลากมันออกไปอีกทาง

 

“ดูเหมือนว่างูหลามตัวนี้จะฟื้นตัวได้เร็วมาก” จินเคยใช้คลื่นไฟฟ้านี้จัดการกับสัตว์ร้ายตัวอื่น ๆ มาก่อนและสัตว์พวกนั้นก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-5 นาทีเพื่อฟื้นตัวขึ้นมา

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขางุงงงก็คือพลังงานสายฟ้าที่เขาเพิ่งรวบรวมมานั้นสามารถที่จะทำให้งูหลามช็อตกระตุกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมันจะสามารถโฟกัสไปที่ร่างกายของคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วขนาดนั้นได้ยังไง?

 

“หรือเพราะว่าบริเวณนี้มีน้ำหรือเปล่า?”

 

น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าซึ่งเมื่อพลังสายฟ้าของเขาอยู่ในน้ำมันก็จะมีพลังที่สูงขึ้น ดังนั้นจระเข้ตัวใหญ่จึงน่าจะถูกไฟดูดไปด้วย

 

ในเวลานี้มีปลาจำนวนหนึ่งลอยหงายท้องอยู่รอบ ๆ ซึ่งพวกมันอาจจะตกใจช็อคตายหรือถูกไฟฟ้าดูดก็เป็นได้ โดยเหตุการณ์นี้สามารถยืนยันแนวคิดของอดีตหอยทากสีทองได้เป็นอย่างดี

 

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยใช้วิธีนี้ในน้ำมาก่อน ซึ่งเขาเพิ่งเรียนรู้ว่ามันได้ผลดีเกินคาดและเรื่องนี้ก็ทำให้จินค้นพบวิธีการปรับปรุงความสามารถในการโจมตีของเขาให้ดียิ่งขึ้นโดยไม่คาดคิด

 

ในขณะนี้งูหลามยักษ์และจระเข้ตัวใหญ่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงมะรุมมะตุ้มกันจนไปถึงบนฝั่งแล้ว

 

ดูเหมือนว่างูหลามจงใจพาจระเข้ตัวใหญ่ออกไปจากบริเวณที่จินอยู่โดยการพันรอบร่างจระเข้เอาไว้แล้วบังคับให้อีกฝ่ายกลิ้งไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดทั้งคู่ก็ตกลงสู่บ่อโคลนที่อยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำ

 

ขณะนี้คลื่นโคลนได้สาดกระเซ็นไปทั่วและสัตว์ร้ายทั้งสองก็จมลงไปในบ่อโคลนที่เฉอะแฉะ ในขณะที่พวกมันก็กำลังต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนทำให้สภาพของผิวน้ำพุ่งขึ้น ๆ ลง ๆ ราวกับน้ำเดือดโดยมีของเหลวสีแดงพุ่งขึ้นมาเป็นครั้งคราว

 

ปัจจุบันจินยืนอยู่บนริมบ่อโคลนและกำลังมองดูผิวน้ำที่ค่อย ๆ กลับมาสงบนิ่ง โดยเขากำลังคิดว่างูหลามตัวนั้นน่าจะฉลาดกว่าสัตว์ป่าทั่ว ๆ ไป

 

มันพุ่งลงมาในแม่น้ำเพื่อช่วยเขาแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายก็ตามเป็นผลให้มันถูกสายฟ้าโจมตี

 

หากมันไม่ถูกการโจมตีจากจินเขาก็คาดว่าจระเข้ตัวใหญ่คงจะไม่ใช่ศัตรูของงูหลามดำตัวนี้ด้วยซ้ำ แม้ว่าตอนนี้จระเข้จะถูกไฟช็อตไปด้วยแต่มันก็ได้รับผลกระทบน้อยกว่างูหลามมาก

 

ทันใดนั้นจินก็หันหลังเดินเข้าไปในป่าโดยเขาตั้งใจจะไปหาท่อนไม้หนา ๆ มาเพราะเขาต้องลงไปที่บ่อโคลนเพื่อดูงูหลามสักหน่อย

 

ถ้างูหลามตายเขาจะเอามันไปฝัง แต่ถ้ามันยังมีลมหายใจเขาจะพยายามช่วยมันอย่างสุดความสามารถ

 

เมื่อจินเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็ได้ยินเสียงขยับดังมาจากด้านหลังของเขา

 

จากนั้นงูหลามที่หัวและใบหน้าเต็มไปด้วยโคลนก็โผล่ออกมา โดยงูหลามตัวนี้ได้พยายามเลื้อยช้า ๆ ไปที่ขอบของบ่อโคลนซึ่งในตอนนี้เหมือนกับว่าผลกระทบของกระแสไฟฟ้าจะหมดลงไปแล้ว แต่จู่ ๆ ก็มันก้มหัวลงไปในบ่อโคลนอีกครั้ง

 

เมื่อเห็นแบบนี้จินจึงรีบเดินให้เร็วกว่าปกตินับ 10 เท่าแล้วทำการส่งพลังวิญญาณของเขาเข้าไปในร่างของงูหลามยักษ์ตัวนี้เพื่อทำการสำรวจอาการบาดเจ็บของมันทันที

 

“ยังมีชีวิตอยู่”

 

“งูหลามตัวนี้หนังเหนียวเหมือนกันแหะ”

 

ในระหว่างที่เขาเติมพลังวิญญาณให้งูหลามยักษ์ อดีตหอยทากสีทองก็สำรวจร่างกายของมันไปด้วยและพบว่าอาการบาดเจ็บของงูหลามนั้นค่อนข้างรุนแรงเป็นอย่างมาก

 

นอกจากบาดแผลขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้วอาการบาดเจ็บภายในของมันยังค่อนข้างรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้นกระดูกซี่โครงของมันยังหักหลายซี่รวมถึงกล้ามเนื้อและเส้นเลือดอีกหลายเส้นที่ขาดสะบั้นอีกด้วย 

 

เมื่อพลังงานในร่างกายของสิ่งมีชีวิตหายไป พวกมันก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ทุกเวลา

 

“ดูเหมือนว่าจะต้องซ่อมแซมอวัยวะภายในและซ่อมแกนพลังงานของมันให้กลับคืนมาสินะ”

 

อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้เขายังอยู่ในช่วงการฝึกฝน มันจึงทำให้การวินิจฉัยของเขาอาจจะมีบางอย่างผิดพลาดหรือเขาอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปก็ได้

 

จากนั้นอดีตหอยทากสีทองก็ค่อย ๆ ป้อนพลังวิญญาณและเชื่อมต่อกระดูกสันหลังและกระดูกซี่โครงที่หักให้งูหลามยักษ์อย่างระมัดระวัง แต่ถึงแม้ว่ากระดูกของมันจะเชื่อมต่อกันเสร็จแล้วแต่เส้นเอ็นและเส้นเลือดก็ยังไม่เชื่อมต่อกันอยู่ดี

 

“ดูเหมือนว่าในเส้นเลือดของมันจะมีพลังงาน 2 ชนิดที่ต่อต้านกันและกันอยู่และเมื่อพวกมันมาปะทะกันเส้นเลือดก็จะแตกออกทันทีที่เชื่อมต่อกัน”

 

เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของงูหลามแล้วจินก็พบว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตธาตุไฟและร่างกายของงูหลามก็มีพลังงานธาตุน้ำอยู่ แต่ธาตุน้ำไม่ถูกกับธาตุไฟดังนั้นงูหลามตัวนี้จึงไม่ควรดูดซับพลังงานธาตุน้ำเพื่อการรักษาตัว ไม่อย่างนั้นพลังงานทั้งสองในร่างกายจะขัดขวางซึ่งกันและกันและมันจะนำไปสู่ความเสียหายอีกมากมาย

 

สัตว์ในธรรมชาติมีโอกาสที่จะมีสติปัญญาและพวกมันจะทำการดูดซับพลังระหว่างสวรรค์และโลกเข้าไปโดยอัตโนมัติและนั่นก็คือพลังงานของธาตุทั้งห้า

 

โดยทั่วไปแล้วหากสิ่งมีชีวิตมีธาตุแบบไหนมันก็จะดูดซับพลังงานของธาตุเดียวกันหรือมีคุณสมบัติเหมือนกันในระหว่างการเติบโตโดยอัตโนมัติ

 

แต่ในกรณีของงูหลามยักษ์ มันเห็นได้ชัดเลยว่างูตัวนี้ได้ดูดซับอะไรบางอย่างที่มีพลังงานธาตุน้ำสูง อย่างเช่น หินจิตวิญญาณธาตุน้ำเข้าไป

 

ในขณะนี้จินกำลังมองดูงูหลามตัวนี้ด้วยความสงสาร แม้ว่างูหลามยักษ์ตัวนี้จะมีความฉลาดแต่ไอคิวของมันนั้นต่ำมาก เพราะมันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพลังงานของธาตุทั้งห้ามีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

 

หลังจากนั้นอดีตหอยทากสีทองก็ฉีดพลังวิญญาณเข้าไปในตัวงูหลามอีกครั้ง แล้วค่อย ๆ แยกพลังงานธาตุน้ำและไฟในตัวของงูหลามออกจากกันพร้อมกับบังคับให้พลังงานธาตุน้ำแยกออกมาจากตัวของงูหลาม

 

กระบวนการนี้ต้องใช้เวลานานมากเพราะมันทำได้ค่อนข้างยาก ซึ่งในขณะนั้นดวงอาทิตย์ก็กำลังเอียงไปทางทิศตะวันตกจนทำให้แสงบนท้องฟ้าค่อย ๆ หรี่ลงโดยที่จินไม่ทันได้รู้ตัว 
 

หลังจากดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงแล้วสัตว์ในป่าก็เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง

 

ในที่สุดอดีตหอยทากสีทองก็ได้ชำระล้างพลังงานธาตุน้ำในตัวของงูหลามยักษ์ออกไปจนหมดและทำการซ่อมแซมอวัยวะภายในของงูหลามยักษ์อีกครั้ง

 

แต่งานของเขายังไม่จบเพราะแกนพลังงานของงูหลามก็ต้องได้รับการซ่อมแซมเช่นกัน

 

หากภายในร่างกายปราศจากแกนพลังงานแล้วงูหลามยักษ์ตัวนี้ก็จะไม่สามารถปลดปล่อยพลังธาตุของมันออกมาได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าอวัยวะภายในทั้งหมดจะได้รับการซ่อมแซมแต่มันก็จะกลายเป็นเพียงแค่งูหลามธรรมดาหลังจากที่ฟื้นคืนสติกลับคืนมา
 

โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตที่ทำการฝึกฝนตนจะมีแกนพลังงานอยู่ในตัวและพวกมันจะทำการดูดซับพลังวิญญาณเข้าไปในระหว่างการบำเพ็ญ โดยการขับเคลื่อนพลังวิญญาณไปตามกล้ามเนื้อและกระดูกก่อนที่จะเอาพลังวิญญาณไปเก็บสะสมเอาไว้ภายในแกนพลังงานของพวกมัน

 

ด้วยเหตุนี้ยิ่งแกนพลังงานได้มีพลังเก็บสะสมเอาไว้เป็นจำนวนมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้สัตว์ตัวนั้นมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น

 

แกนพลังงานของจินเคยแตกสลายไปครั้งหนึ่งในตอนที่มีอายุประมาณ 500 ปี โดยในตอนนั้นเขาต้องเผชิญหน้ากับปีศาจชั้นสูงและถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดออกมาได้สำเร็จแต่เขาก็ได้สูญเสียแกนพลังงานของเขาไปเช่นกัน

 

แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีเพราะสัตว์ตระกูลหอยทากเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการซ่อมแซมโดยอัตโนมัติ ดังนั้นหลังจากที่เขาจำศีลไปกว่า 20 ปีแกนพลังงานของเขาก็ฟื้นกลับคืนมา

 

แต่งูหลามยักษ์ตรงหน้าตัวนี้ไม่มีความสามารถในการซ่อมแซมโดยอัตโนมัติแบบนั้นและถึงแม้ว่าเขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายจำศีลเป็นเวลากว่า 200 ปี แต่มันก็ไม่มีทางที่จะซ่อมแกนพลังงานของตัวเองขึ้นมาได้อยู่ดี ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะทำการซ่อมแซมแกนพลังงานของมันขึ้นมาอย่างสุดความสามารถ
 

ด้วยพลังที่เขาได้มีอยู่ในปัจจุบันรวมกันกับเมือกหอยทากที่เขามีอยู่ภายในตัว การพยายามซ่อมแซมแกนพลังงานขึ้นมาก็คงจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย

 

เมื่อคิดได้อย่างนั้นอดีตหอยทากสีทองก็ได้นำเมือกหอยทากออกจากเปลือกแล้วนำมาใส่ใบไม้ที่ม้วนเป็นกรวย ก่อนที่จะเทเมือกลงในปากของงูหลามยักษ์ทันที

 

หลังจากเทเมือกหอยทากไปประมาณ 1 ลิตรแล้ว จินก็นั่งลงและเริ่มใช้พลังวิญญาณเพื่อซ่อมแซมแกนพลังงานในตัวงูหลามต่อไป

 

เมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ สว่างขึ้นและดวงอาทิตย์สีแดงก็ได้โผล่ออกมาจากเส้นขอบฟ้าทำให้น้ำค้างบนใบหญ้าส่องประกายในแสงแดดระยิบระยับ

 

เมื่อถึงเวลานั้นจินก็ดึงมือของเขาออกและค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ
 

ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามซ่อมแซมแกนพลังงานของงูหลามตัวนี้มาทั้งคืน แต่เขาก็สามารถที่จะซ่อมแซมแกนพลังงานขึ้นมาได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
 

ใครสามารถบอกเขาได้บ้างว่าทำไมแกนพลังงานของงูหลามตัวนี้ถึงมีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้?
 

ตอนแรกเขาคิดว่างูหลามตัวนี้เป็นเพียงปีศาจตัวน้อยที่พึ่งรู้จักการบำเพ็ญเพียงแค่ไม่นาน เขาจึงวางแผนที่จะจัดการรับงูหลามตัวนี้เป็นน้องชายหลังจากที่เขาช่วยรักษามันขึ้นมาจนสำเร็จ  
 

แต่ผลลัพธ์ที่เขาได้พบในปัจจุบันกลับกลายเป็นว่า...


++++++++++++++++++++++++++++++

หอยทากจินจะทำยังไงต่อไปไว้เจอกันตอนหน้านะคะ… 

เจอคำผิดหรือมีคำแนะนำตรงไหนสามารถแจ้งปุ๊กปิ๊กได้นะคะ ฝากติดตามผลงานกันด้วยน๊า (ɔ◔‿◔)ɔ ♥

 

 

21/8/64
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป