Your Wishlist

ว่าไงคะ ท่านนายพล (บทที่ 19 : หมดโอกาส)

Author: Han Wuji (Akira แปล)

กู้เหนียนจื่อ หญิงสาวอายุ 17 ปีผู้สูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก มีเพียงภาพที่ตนเองติดอยู่ในรถที่กำลังลุกไหม้เท่านั้นที่ยังฉายชัดอยู่ในความฝันของเธอ โชคดีที่เธอได้ฮัวเฉาเหิง ทหารหนุ่มผู้มีตำแหน่งพลตรีช่วยชีวิตเอาไว้ ชายหนุ่มถูกกองทัพของจักรวรรดิร้องขอให้เป็นผู้ปกครองของกู้เหนียนจื่อที่มีอายุเพียง 12 ปี และปกปิดประวัติที่แท้จริงของทั้งคู่เอาไว้ แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่เธอก็อยู่กับเขานับตั้งแต่นั้นมา เธอใช้ชีวิตด้วยความกลัวและไม่มั่นคงมาตลอด เธอจะรู้สึกปลอดภัยเฉพาะเวลาได้อยู่ใกล้ ๆ ผู้ปกครองหนุ่มเท่านั้น ระหว่างนั้นกองทัพของจักรวรรดิได้ทำการสืบค้นประวัติของหญิงสาว แต่ก็ไม่สามารถค้นหาได้ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ตัวตนที่แท้จริงของกู้เหนียนจื่อคือใครกันแน่? เหตุใดเธอจึงถูกลอบทำร้ายจนเกือบเสียชีวิต?

จำนวนตอน : 2263

บทที่ 19 : หมดโอกาส

  • 04/09/2564

การติดตามยามากุจิ โยโกะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น พวกเขายังไม่สามารถหยุดพักได้อย่างสบายใจ

 

คืนนั้นฮัวเฉาเหิงนอนไม่หลับและเขาไม่รู้ว่าทำไม เขาพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงในห้องรับแขกก่อนจะลุกขึ้น ในเวลานี้ยังคงเป็นช่วงกลางดึก แต่สิ่งนี้ไม่ได้หยุดเขาจากการไปที่คลังเก็บเอกสารสำคัญของทหารเพื่อค้นหาเอกสารเก่าบางอย่าง

 

ในปัจจุบันข้อมูลเกือบทุกอย่างสามารถหาได้บนอินเทอร์เน็ต แต่บรรดาผู้ที่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าอินเทอร์เน็ตทำงานยังไงจะรู้ว่าเครือข่ายเต็มไปด้วยช่องโหว่ ตัวอย่างเช่น เจี้ยวเลี่ยงจื่อ หนึ่งในเลขาส่วนตัวของเขารู้จักวิธีการต่าง ๆ หลายร้อยวิธีในการถอดรหัสระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายทุกประเภท มันง่ายพอสำหรับเขาที่จะบุกเข้าไปในคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ตเครื่องใดก็ได้

 

กองทัพจักรวรรดิตระหนักถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่อเครือข่ายและฐานข้อมูลของรัฐบาล ด้วยเหตุผลเหล่านี้มันจึงมีไฟล์ลับสุดยอดจำนวนมากที่ถูกบันทึกบนกระดาษเท่านั้น เอกสารพวกนี้ไม่เคยถูกอัปโหลดไปยังอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้คลังเก็บเอกสารยังมีข้อมูลที่บันทึกไว้ในไม้ไผ่และแผ่นหิน ข้อมูลเหล่านั้นจะคงอยู่ได้นานกว่าการบันทึกลงในกระดาษมาก

 

หลังจากนั้นนายพลหนุ่มก็ทำงานในคลังเก็บเอกสารตลอดทั้งคืน เมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ ในที่สุดเขาก็ฟุบหน้าลงบนโต๊ะเพื่องีบหลับอย่างรวดเร็ว เขาตื่นขึ้นในเวลาต่อมาเพราะเสียงเบา ๆ ของพนักงานเก็บเอกสารที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ประตู

 

คลังเก็บเอกสารถาวรแห่งนี้ถูกปิดกั้นจากสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะโทรหาใครสักคนโดยใช้โทรศัพท์มือถือตอนที่พวกเขาอยู่ข้างในและไม่มีโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ วิธีเดียวในการสื่อสารในคลังเก็บเอกสารก็คือการตะโกนดัง ๆ แบบสมัยก่อนให้ดังพอที่จะได้ยินผ่านประตูและกำแพง

 

"ท่านครับ! ท่าน! เลขาส่วนตัวของคุณกำลังตามหาคุณ เขามีเรื่องเร่งด่วนครับ!"

 

เสียงเคาะประตูดังอย่างต่อเนื่องเพื่อปลุกชายหนุ่มที่เพิ่งจะหลับไปให้ตื่นขึ้น เขาดึงตัวเองขึ้นและเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เสร็จแล้วเขามองดูนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลา 8 โมงเช้าแล้ว

 

ชุดหูฟังบลูทูธของฮัวเฉาเหิงดังขึ้นทันทีที่เขาเดินออกจากคลังเก็บเอกสารถาวร

 

คนที่โทรมาคือหยินชือฉง เลขาส่วนตัวอีกคนของเขา

 

"มีอะไร?"

 

“ท่านครับ การสัมภาษณ์ของคุณกู้คือวันนี้แล้ว! มหาวิทยาลัยของเธอโทรมาไม่หยุดเลย แม้แต่ศาสตราจารย์เองก็โทรมาถาม” น้ำเสียงของผู้เป็นเลขาฟังดูร้อนรน เขาได้ไปแผนกนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย C เป็นการส่วนตัวเมื่อ 3 วันก่อนเพื่อขอลาป่วยให้กู้เหนียนจื่อและขอให้ศาสตราจารย์เฮอจือชูเลื่อนการสัมภาษณ์เป็นเวลา 3 วันนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก

 

ถ้ากู้เหนียนจื่อไปสายอีกครั้ง หยินชือฉงไม่คิดว่าศาสตราจารย์เฮอจะยอมรับเธออีก

 

และเขาเคยเอ่ยไปไกลถึงขั้นชมศาสตราจารย์เฮอโดยการบอกว่ากู้เหนียนจื่อ ‘ชื่นชม’ อีกฝ่ายมาตลอด คำพูดนี้ของเขาทำให้เรื่องนี้ยุ่งยากยิ่งขึ้น

 

คนเป็นเจ้านายขมวดคิ้วและพูดว่า “ฉันจะโทรหาเฉินหลาย”

 

เวลาผ่านไปไม่นานเฉินหลายก็รับสาย ก่อนที่ฮัวเฉาเหิงจะพูดอะไร เขาก็ชิงพูดออกมาก่อนว่า “เจ้านาย เหนียนจื่อยังไม่ตื่น แต่ไข้ของเธอลดลงแล้วนิดหน่อย”

 

“มันเกิดอะไรขึ้น? หวังว่านายจะมีเบาะแสอยู่จริง ๆ” ชายร่างสูงหยุดเดินและมองขึ้นไปบนบ้านของเขาด้วยความโกรธ

 

เขาหยิบบุหรี่ออกมาแล้วเริ่มอัดควันเข้าไปเต็มปอด

 

หมอหนุ่มรู้สึกผิดหวังกับสถานการณ์นี้เหมือนกัน “เจ้านาย ผมรับประกันได้เลยว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับเธออย่างแน่นอน ผมติดตามอัตราการเต้นของหัวใจและชีพจรของเธอตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันและตรวจเลือดของเธอทุก 2 ชั่วโมงด้วย”

 

“นายเก็บตัวอย่างเลือดจากเธอทุก 2 ชั่วโมงเหรอ? นายคิดว่าเธอเป็นอะไร ธนาคารเลือดส่วนตัวของนาย? หั่นเธอเป็นชิ้น ๆ แล้วเอาไปเป็นตัวอย่างการทดลองเลยไหมล่ะ” การเสียดสีเล็กน้อยนี้ไม่เหมือนกับนายพลฮัวคนที่เป็นที่รู้จักในเรื่องความสุขุม

 

เฉินหลายไม่สามารถเถียงเรื่องนี้ได้ เขาปิดหน้าของตัวเองและยอมจำนนต่อคำพูดของอีกคน

 

ฮัวเฉาเหิงวางสายและโทรหาหยินชือฉงผ่านชุดหูฟังของเขา “ศาสตราจารย์เฮอของโรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัย B โทรมาครับ เขายืนกรานที่จะพูดกับคุณเป็นการส่วนตัว”

 

ชายหนุ่มคิดครู่หนึ่งขณะที่เขายืนพิงต้นไม้ มือข้างหนึ่งของเขายังคงคีบบุหรี่เอาไว้ ส่วนมืออีกข้างอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ฉันจะรับสาย”

 

แม้ว่ากู้เหนียนจื่อจะอยู่กับเขามา 6 ปีแล้ว แต่เขาไม่เคยเลี้ยงดูเธอโดยตรง เขาเป็นผู้ปกครองของเธอในนามเท่านั้น

 

ในตอนที่รับหญิงสาวมา เธออายุ 12 ปีแล้ว เธอเกือบจะโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว ซึ่งเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับรายละเอียดในชีวิตของเธอ

 

หยินชือฉง เลขาส่วนตัวของเขาเป็นคนจัดการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของกู้เหนียนจื่อ แต่คราวนี้ปัญหารุนแรงเกินกว่าที่หยินชือฉงจะจัดการได้เพียงลำพัง

 

ชุดหูฟังบลูทูธของเขามีเสียงดังขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่เชื่อมต่อสาย ในขณะนั้นฮัวเฉาเหิงไม่ได้พูดทันที ส่วนบุคคลที่อยู่ปลายสายก็เงียบไป 1 นาทีเต็มก่อนจะถามว่า “ผมกำลังพูดกับคุณฮัว ผู้ปกครองตามกฎหมายของกู้เหนียนจื่อหรือเปล่า”

 

ผู้ปกครองหนุ่มยืนยัน "ใช่ มีอะไร?"

 

“วันนี้เป็นวันสัมภาษณ์ของกู้เหนียนจื่อ วันที่เราตกลงว่าจะเลื่อนการสอบสัมภาษณ์มาให้” เฮอจือชูกล่าวอย่างเรียบ ๆ ในขณะที่น้ำเสียงของเขาเย็นชา “เธอมาสายอีกแล้ว"

 

“เธอจะต้องขอเลื่อนอีกสองสามวัน อาการเธอยังไม่ดีขึ้น” ฮัวเฉาเหิงสะบัดขี้เถ้าออกจากบุหรี่ขณะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส

 

ที่ปลายสาย ศาสตราจารย์หนุ่มรู้สึกหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดกับท่าทีอวดดีของคู่สนทนา “ลาป่วยอีกแล้วเหรอ? อย่าให้มันมากไปหน่อยเลย ผมให้โอกาสเธอแล้ว ถ้าผมต้องประนีประนอมยอมความต่อไป มันจะไม่ยุติธรรมกับผู้สมัครคนอื่น ๆ คุณเป็นปกครองของกู้เหนียนจื่อ ผมกำลังแจ้งให้คุณทราบอย่างเป็นทางการในตอนนี้ว่าเธอไม่มีโอกาสที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัย B ในฤดูร้อนนี้ เธอต้องไปสมัครที่อื่น” หลังจากพูดจบเขาก็วางสายไปในทันที

 

คนเป็นผู้ปกครองขมวดคิ้วแล้วยักไหล่ ก่อนที่เขาจะกลับไปที่สำนักงานของเขาเพื่อทำงาน

 

ไม่กี่วันถัดมา นอกจากจะต้องดูแลกู้เหนียนจื่ออย่างใกล้ชิดแล้ว เขายังต้องจัดการกับตระกูลเฟิงด้วย

 

และสิ่งต่าง ๆ ก็วนเวียนอยู่เหนือการควบคุม

 

ฟอร์จูนพาเลส คลับสุดหรูในเมือง C เป็นของลุงของเฟิงอี้ซี ตระกูลหูได้รับผลกระทบจากการกระทำผิดกฎหมายของเฟิงอี้ซีและหูชวนซินในคลับ หมายความว่าครอบครัวหูต้องเผชิญกับค่าปรับจำนวนมาก พวกเขายังเป็นหนี้อีกมากมาย จนธนาคารยกเลิกเงินกู้และส่งจดหมายขอให้ชำระหนี้โดยมีผลทันที ทำให้คนรู้จักธุรกิจ เพื่อนฝูงและญาติต่างก็หลีกเลี่ยงครอบครัวหูเหมือนกับพวกเขาเป็นโรคระบาด

 

แต่พวกตระกลูเฟิงคงจะสามารถช่วยพวกเขาได้หากพวกเขาเองไม่ได้เดือดร้อนอยู่แล้ว

 

ตอนนี้ครอบครัวหูไม่มีทางเลือกนอกจากต้องประกาศล้มละลาย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่มีเงินพอที่จะหาทนายความราคาแพงและมีชื่อเสียงมาประกันตัวหูชวนซินได้

 

การสืบสวนพบว่าหูชวนซินวางยาและทำร้ายผู้เยาว์หลายครั้ง เขายังได้จัดตั้งซ่องขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้ยาเสพติดอย่างผิดกฎหมาย และมีหลักฐานชัดเจน อย่างน้อยที่สุดเขาจะต้องได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต

 

ด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ตระกูลเฟิงจึงพังพินาศอย่างสมบูรณ์

 

ส่วนบริษัทเฟิงถิง โฮม อิมพรูฟเมนท์ของครอบครัวเฟิงถูกตรวจสอบแล้วพบว่ามีบัญชีปลอมเพื่อค้ำประกันเงินกู้ธนาคารของพวกเขา พวกเขายังมีความผิดฐานหลบเลี่ยงภาษีอีกด้วย บริษัทต้องถอดออกจากตลาดหุ้นในขณะนี้ และนอกจากนี้เฟิงกั๋วตงและหูเฉียวเจินยังถูกตัดสินว่ามีความผิดและกำลังจะติดคุก

 

ส่วนคดีของเฟิงอี้ซีนั้นไม่ร้ายแรงนัก เธอมีความผิดเพียงเสพยาผิดกฎหมายและมียาเสพติดอยู่ในครอบครองมากเกินไป เธอถูกตัดสินจำคุก 3 เดือนและบริการชุมชน 1 ปี

 

เนื่องจากเธอทำผิดกฎหมาย เธอเลยถูกไล่ออกจากคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย C ตามกฎของโรงเรียน ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่เรียนจบ

 

ทรัพย์สินของตระกูลเฟิงรวมไปถึงบัญชีธนาคารถูกยึดคืนและถูกธนาคารระงับตามลำดับ สมาชิกเพียงคนเดียวของตระกูลเฟิงที่ไม่เคยถูกฟ้องร้องหรือถูกจำคุกนั่นก็คือลูกสาวคนโต เฟิงอี้เฉิน ทายาทแห่งโชคลาภหลายล้าน หนึ่งในหญิงสาวที่โชคดีที่สุดที่รอดอยู่ในตอนนี้กลายเป็นขอทานที่ไร้เงินในชั่วข้ามคืน

 

ซึ่งเรื่องพวกนี้เธอแทบจะทนรับมันไม่ไหว

 

เป็นเวลาเช้าตรู่ของวันถัดมา เฟิงอี้เฉินมองดูบ้านพักที่เธออาศัยอยู่มานานกว่า 10 ปี ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอถือกระเป๋าเดินทางหลุยส์วิตตองใบเล็กไว้ในมือแน่น

 

“พี่เฉิน พี่ปินกำลังรอคุณอยู่” ชายร่างผอมเพรียวที่มีผมสีบลอนด์ฟอกขาวพูดพร้อมกับยิ้มขณะที่เขาเปิดประตูรถให้เฟิงอี้เฉิน เธอหันไปมองรถด้วยหัวใจที่เบิกบานทันทีเมื่อเห็นเมอร์ซิเดนส์ 700 สีดำ เธอก้าวเข้าไปข้างในรถด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น

 

“พี่เฉิน พี่ปินบอกผมว่าหัวใจของเขาอยู่กับคุณเสมอ แม้กระทั่งตอนที่เขาแต่งงาน เขาส่งภรรยาขี้โมโหของเขาไปให้คนของเธอแล้วเมื่อวานนี้ พี่เฉิน ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของเจ้านายแล้ว ผมหวังว่าคุณจะพูดดีกับผมได้แล้ว”

ทุกวันเสาร์ เวลา 15:00
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป