Your Wishlist

ว่าไงคะ ท่านนายพล (บทที่ 10 : คุณคือยาของฉัน (7))

Author: Han Wuji (Akira แปล)

กู้เหนียนจื่อ หญิงสาวอายุ 17 ปีผู้สูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก มีเพียงภาพที่ตนเองติดอยู่ในรถที่กำลังลุกไหม้เท่านั้นที่ยังฉายชัดอยู่ในความฝันของเธอ โชคดีที่เธอได้ฮัวเฉาเหิง ทหารหนุ่มผู้มีตำแหน่งพลตรีช่วยชีวิตเอาไว้ ชายหนุ่มถูกกองทัพของจักรวรรดิร้องขอให้เป็นผู้ปกครองของกู้เหนียนจื่อที่มีอายุเพียง 12 ปี และปกปิดประวัติที่แท้จริงของทั้งคู่เอาไว้ แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่เธอก็อยู่กับเขานับตั้งแต่นั้นมา เธอใช้ชีวิตด้วยความกลัวและไม่มั่นคงมาตลอด เธอจะรู้สึกปลอดภัยเฉพาะเวลาได้อยู่ใกล้ ๆ ผู้ปกครองหนุ่มเท่านั้น ระหว่างนั้นกองทัพของจักรวรรดิได้ทำการสืบค้นประวัติของหญิงสาว แต่ก็ไม่สามารถค้นหาได้ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ตัวตนที่แท้จริงของกู้เหนียนจื่อคือใครกันแน่? เหตุใดเธอจึงถูกลอบทำร้ายจนเกือบเสียชีวิต?

จำนวนตอน : 2263

บทที่ 10 : คุณคือยาของฉัน (7)

  • 19/07/2564

เมื่อสัมผัสได้ว่าคนที่อยู่บนเตียงเริ่มหมดความอดทน ฮัวเฉาเหิงก็ชะงักไปชั่วครู่ น้ำเสียงที่เขาพูดออกมานั้นแสดงถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเขา แต่เขาไม่รู้ตัว “ที่รัก อดทนไว้นะ ฉันจะช่วยเธอเดี๋ยวนี้แหละ ช่วยอดใจรออีกหน่อย”

 

คราวนี้เขาไม่ใช้มือหรือแค่จูบแล้ว

 

 

ในตอนเย็นของปลายเดือนมีนาคม เมือง C ยังคงหนาวมาก

 

แต่ภายในบ้านของฮัวเฉาเหิงถูกตั้งอุณหภูมิให้อบอุ่นตลอดทั้งปีและมีเครื่องปรับอากาศส่วนกลาง จึงทำให้คนที่อยู่ในบ้านไม่รู้สึกหนาวหรือร้อนเกินไป

 

แต่เขาเพิ่งมีประสบการณ์ ‘การออกกำลังกาย’ ที่เข้มข้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสับสนปนเปและต้องการฟื้นฟูตัวเองด้วยน้ำเย็น ๆ

 

เมื่อน้ำเย็นไหลผ่านศีรษะของเขา ๆ ก็รู้สึกว่าอารมณ์สับสนของเขาบรรเทาลงเล็กน้อย

 

ฉันจะแสร้งทำเป็นว่านี่เป็นเพียงภารกิจเหมือนเมื่อที่เคยทำมาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง

 

แม้ว่าภารกิจนี้จะเร้าอารมณ์มากกว่าและมีความยากน้อยกว่า แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่ภารกิจเท่านั้น

 

ไม่มีความหมายอื่นใดอีก

 

แต่ก่อนที่เขาจะลบความทรงจำทั้งหมดออกไป เขาอยากจะลิ้มรสมันอีกสักครั้ง

 

ตอนนี้ทหารหนุ่มยืนอยู่ใต้ฝักบัวโดยใช้แขนข้างหนึ่งพิงกำแพง เขาหลับตาลงเพื่อเพลิดเพลินกับน้ำเย็นที่ชะล้างตัวเขาและสีหน้าที่ขุ่นมัวของเขาก็ผ่อนคลายลงในที่สุด

 

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็พาดผ้าเช็ดตัวรอบคอแล้วเดินออกจากห้องน้ำด้วยขาเรียวยาวแต่แข็งแรงของเขา

 

มุมปากของชายหนุ่มกระตุกเมื่อเขาได้กลิ่นบางอย่างคละคลุ้งอยู่ในห้อง เขาเดินไปหยิบรีโมทและเปิดเครื่องฟอกอากาศอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนอากาศในห้อง

 

หลังจากนั้นเขานั่งลงบนโซฟาไม้เนื้อแข็งสีขาวแล้ว ‘สูบบุหรี่หลังจากเสร็จกิจ’ [1]

 

เขามองดูกู้เหนียนจื่อที่กำลังหอบหายใจถี่ แต่อัตราการเต้นของหัวใจคงที่และใบหน้าของเธอซีดมาก เขาเม้มริมฝีปากเพื่อข่มอารมณ์สับสนปะปนต่าง ๆ ที่วนเวียนอยู่ในหัวเขาซึ่งเป็นความคิดที่เขาไม่อยากรับรู้

 

ตอนนี้หญิงสาวหลับเป็นตายไปแล้ว

 

มันไม่เหมือนครั้งก่อนที่เธอแค่หลับไปแปบเดียว ตอนนี้เธอหมดสติไปเลย

 

ฮัวเฉาเหิงอุ้มเธอขึ้นและวางเธอลงบนเตียงที่ถูกเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่แล้ว จากนั้นก็ห่มผ้าห่มบาง ๆ ให้เธอ

 

เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เพราะจนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ถอดผ้าพันคอที่ปิดตาเธอออก

 

เมื่อคนตรงหน้าหลับสนิท เขาก็รีบกลับไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายตัวเองอีกครั้งและเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดคอกลมสีดำและกางเกงลายพรางทหาร 

 

หลังจากเปิดหน้าต่างฝรั่งเศสในห้องนอนออกไป เขาก็ออกไปที่ระเบียงและจุดบุหรี่เพื่อ ‘สูบบุหรี่หลังจากเสร็จกิจ’ 

 

ตอนนี้ชายหนุ่มร่างสูงกำลังกอดอกและยืนอยู่บนระเบียง ดวงตาของเขามืดมัวเมื่อมองดูภูเขาที่อยู่ไกลออกไป เขาดูเหมือนกับว่ากำลังมีปัญหาใหญ่ให้ขบคิดหรือไม่สามารถคิดอะไรออกเลย

 

ภาพตรงหน้าของเขาคือหมอกสีขาวที่สอดแทรกอยู่ระหว่างภูเขา ดวงอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นมาแล้วทอแสงเล็ดลอดออกมาจากด้านหลังภูเขาเป็นประกายแสงเล็ก ๆ 

 

ในขณะนั้นเองก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น เสียงนั้นปลุกสรวงสวรรค์อันเงียบสงบก่อนหน้านี้ให้ตื่นขึ้น

 

ฮัวเฉาเหิงเฝ้าดูภาพที่คุ้นเคยตรงหน้าและพ่นควันออกมา เขายกมือขึ้นแล้วโยนก้นบุหรี่ทิ้งด้วยท่าที่อย่างสวยงามซึ่งมันตกลงไปในถังขยะตรงมุมระเบียงอย่างแม่นยำ

 

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าแล้วหันหลังกลับเข้าห้อง

 

เขาปิดหน้าต่างฝรั่งเศสและดึงม่านกำมะหยี่สีทองปิดทึบและม่านกันเสียง ก่อนจะเหลือบมองกู้เหนียนจื่อที่นอนอยู่บนเตียง

 

เธอยังคงหลับสนิทไม่ไหวติง ‘เธอจะต้องเหนื่อยมากแน่ ๆ’ ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกต

 

มุมริมฝีปากของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเดินออกจากห้องไปด้วยจิตใจที่แจ่มใสขึ้น

 

ทันทีที่เขาเปิดประตูห้องนอน เขาก็ได้ยินเสียงดังตุ้บ

 

ร่างอ้วนท้วมกำลังนั่งเซ่ออยู่ตรงนั้นเพราะหัวกลม ๆ ของเขากระแทกพื้นค่อนข้างแรง

 

เจ้าของบ้านขมวดคิ้วและพูดเสียงต่ำ “เฉินหลาย!”

 

แน่นอนว่าคนที่รออยู่ข้างนอกทั้งคืนและหัวกระแทกกับพื้นคือแพทย์ที่มีทักษะสูงที่สุดในประเทศนามว่าเฉินหลาย

 

เขากำลังลูบหลังหัวของตัวเองและจับกรอบประตูเพื่อพยุงตัวยืนขึ้น เขามองไปที่ฮัวเฉาเหิงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “คุณ...คุณ...คุณทำเสร็จแล้วเหรอ!”

 

"อะไร?" การแสดงออกของนายพลหนุ่มนั้นเย็นชาพอ ๆ กับน้ำแข็งอาร์กติก “ใครอนุญาตให้นายมานั่งหน้าประตูของฉัน”

 

“ผมเป็นห่วงคุณ!” เฉินหลายพูดและแอบมองอีกฝ่ายราวกับเป็นขโมย “คุณทำไปกี่ครั้งแล้ว”

 

คนถูกถามไม่ตอบและโบกมืออย่างเฉยชา “ไปดูเธอเองสิ”

 

"อะไรนะ? จริงเหรอ?" หมอหนุ่มรีบเข้าไปในห้องนั่งเล่นพร้อมกับกล่องยาของเขาที่มีขนาดสองเท่าของกล่องยาปกติ เขาตื่นเต้นมากจนพูดตะกุกตะกัก “มัน...มัน...เสร็จแล้วงั้นเหรอ?”

 

ฮัวเฉาเหิงเพิกเฉยต่อคำถามของเขาและก้มหน้าลงเพื่อหยิบบุหรี่หนึ่งซองออกจากกางเกงลายพรางของเขา เขาจุดบุหรี่หนึ่งมวนและสูดเข้าไปลึก ๆ

 

เขามองดูอีกฝ่ายเปิดกล่องยาเพื่อเอาเข็มออกมาแล้วเจาะเลือดจากแขนของกู้เหนียนจื่อ

 

หญิงสาวยังคงหลับสนิท แขนเหมือนหยกขาววางอยู่บนหมอน ในขณะที่ใบหน้าของเธอซีดจนไร้ชีวิตชีวา

 

ตอนนี้ผ้าพันคอสีม่วงที่ปิดตาของเธอยังคงอยู่

 

คนเป็นผู้ปกครองเหลือบมองหญิงสาวบนเตียงแล้วรู้สึกร้อนขึ้นมาเล็กน้อย เขาหลับตาลงและสูดควันบุหรี่เข้าไปแรง ๆ สองครั้ง ในขณะที่เฉินหลายกำลังวิเคราะห์เลือดเสร็จ เขาก็เดินไปสะกิดไหล่ของอีกฝ่าย “ออกมาคุยกันหน่อย”

 

คนที่ถูกเรียกไม่ได้ออกจากห้องนอนกับฮัวเฉาเหิงจนกว่าเขาจะเตรียมอุปกรณ์เพื่อรอผลเสร็จ

 

ชายร่างสูงมองเข้าไปในห้องเพื่อให้แน่ใจว่ากู้เหนียนจื่อยังคงหลับสนิทและปิดประตูเบา ๆ เขาแบฝ่ามือไปที่เฉินหลายแล้วพูดว่า "เอามา"

 

“อะไร? หืม คุณต้องการอะไร ผมเป็นหนี้อะไรคุณ” หมอหนุ่มเหล่ตามองชายตรงหน้าราวกับจิ้งจอก “ฉันสายตาสั้นมาก ผมเลยมองเห็นไม่ชัด คุณจะหลอกอะไรผมหรือเปล่าเนี่ย”

 

ฮัวเฉาเหิงเหลือบมองเขาและเม้มปาก “ยา นายบอกว่านายมียาที่จะทำให้คนลืมเรื่องราวต่าง ๆ ได้”

 

"ห้ะ?" เฉินหลายชะงักไปชั่วครู่ “ลืมอะไร”

 

“อย่ามาแกล้งโง่” น้ำเสียงของทหารหนุ่มนั้นทุ่มต่ำและเยือกเย็น สายตาคมของเขากำลังทิ่มแทงไปที่อีกฝ่ายซึ่งมันตรึงเขาไว้ราวกับมีด “นายบอกว่านายจะหาคนมาช่วยและรับประกันว่าพวกเขาจะจำอะไรหลังจากนั้นไม่ได้ใช่ไหม? นายจะรับประกันได้ยังไงว่าพวกเขาจะจำไม่ได้”

 

"ห้ะ? อ๋อ!” ในที่สุดคนเป็นหมอก็จำบางอย่างได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ลูบท้ายทอยและพูดด้วยความตกใจ “ยาตัวนั้น คุณอยากกินด้วยเหรอ? คุณไม่ใช่คนนอกนะ”

 

ชายหนุ่มเหลือบมองอีกคนและยังคงหงายฝ่ามือของเขาต่อไป “หุบปากไป ยาอยู่ที่ไหน?”

 

เฉินหลายไม่เคยคิดว่าฮัวเฉาเหิงจะต้องใช้ยาเพื่อช่วยให้เขาลืม

 

ปากกลม ๆ ของเขาอ้าปากค้าง หลังจากชะงักอยู่นาน เขาก็พูดอย่างประชดประชันว่า “เอาล่ะ นายพลฮัว ยานั้นรับประกันว่าจะลืมได้ก็ต่อเมื่อคุณกินมันก่อนที่จะลงมือทำ แต่เหนียนจื่อ.. ดูเธอสิ ผมรับประกันว่าเธอจะจำอะไรไม่ได้เมื่อเธอตื่นขึ้นมา”

 

กล่าวคือมันจะทำให้บุคคลเข้าสู่สภาวะพร่าเลือนและทำทุกอย่างด้วยสัญชาตญาณทางกายเท่านั้น สิ่งนี้พุ่งเข้ามาในความคิดของฮัวเฉาเหิง

 

หัวใจของผู้ปกครองหนุ่มเต้นแรงขึ้นและเขาก็สาปแช่งตัวเองในใจ 

 

เฉินหลายคู้ตัวลงราวกับอยากจะแทรกแผ่นดินหนีอย่างสิ้นหวังในขณะที่เขาพูดติดอ่าง “มัน...มัน...จะไม่มีผลอะไรเลยถ้าคุณกินมันหลังจากที่เรื่องนั้นเกิดขึ้น นายพลฮัว มันสายเกินไปแล้วที่คุณจะมาขอยาที่ช่วยให้คุณสามารถที่จะลืมความทรงจำบางส่วนในตอนนี้”

 

[1] ประโยค cigarette after sex มีนัยยะสำคัญที่บ่งบอกได้ว่าคน ๆ นั้นกำลังมองถึงความสัมพันธ์ระยะสั้นหรือระยะยาว จากการหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบหรือไม่ เพราะถ้าหากผู้ชายที่มีอะไรกับผู้หญิง คนที่ไม่ได้คิดจริงจังและไม่ต้องการสานสัมพันธ์ระยะยาวด้วยแล้ว ผู้ชายที่สูบบุหรี่มักจะหยิบมาสูบทันทีหลังจากมีอะไรกันเสร็จ ซึ่งต้นฉบับภาษาอังกฤษได้เน้นประโยคนี้ เราเลยคิดว่าน่าจะมีความหมายนี้แฝงอยู่ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.unlockmen.com/2021-all-new-honda-ct125

ทุกวันเสาร์ เวลา 15:00
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป