Your Wishlist

ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ (ตอนที่ 5 .. “ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะรัก ”)

Author: วีณา

เมื่อความรักที่ได้มันไม่ได้มาจากหัวใจ นับประสาอะไรกับความมั่นคงที่จะตามมา ถ้าความรักและความปรารถนามันมาจากเงินตรา สิ่งที่ตามมามันก็คงคือเกมส์ เกมส์ของชีวิต รักแท้อยู่ที่ใด คำตอบอยู่ที่ไหน หามันให้เจอ

จำนวนตอน :

ตอนที่ 5 .. “ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะรัก ”

  • 03/08/2564

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ

    เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. วีณา

มากกว่าเพื่อน (แต่ไม่ใช่แฟน) - ทราย อาร์สยาม

https://youtu.be/HzkzLDhypEw / https://www.facebook.com/watch/?v=794451574348745

ขอขอบคุณ คุณ ทราย อาร์สยาม จาก ค่าย อาร์ สยาม ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 5 .. “ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะรัก ”

     วันทนีย์ลองติดต่อเบอร์พิเศษที่กุ้งเคยให้ไว้ แต่ก็ไม่ติด ยังไงก็ติดต่อเจ้านายไม่ได้ จึงตัดสินใจโทรเข้าหาทิพย์ ลูกน้องเก่าของเธอสมัยที่เคยเป็นผู้ช่วยเลขาสมัยตอนที่เธออยู่ที่แสงตะวัน ตอนนี้กุ้งดึงขึ้นมาเป็นเลขาเต็มตัวแทนเธอแล้ว

“ทิพย์ นี่พี่นีนะ” ทิพย์ดีใจมากที่ลูกพี่เก่าโทรหา นานแล้วที่ไม่ได้ยินเสียงนี้ นอกจากจะเจอกันในงานประจำปี

“พี่นี หูหนูไม่ฝาดนะเนี่ยเกือบ 2 ปีแล้วนะที่ไม่ได้ยินเสียงหวานๆของพี่ โทรมามีอะไรให้น้องรับใช้เจ้าคะ พี่สาว”

“อย่ามาทำพูดดี ปีใหม่ต้นปีก็ยังเจอ” ทิพย์รู้เลยว่าว่านีอารมณ์เสีย “อันนั้นหนะรู้ หนูหมายถึงตลอดทั้งปี เจ้าค่ะ”

“อย่าเรื่องมาก นายอยู่ไหม” ทิพย์งง ทำไมถามถึงนาย “มีอะไรกับนายหรือพี่”

“แกไม่ต้องถามฉันได้ไหม ความเป็นความตายจ่อคอรอฉันอยู่ บอกมา นายอยู่ไหม ถ้าอยู่รีบโอนสายให้ฉันคุยหน่อยเร็ว ยังไม่ต้องถามอะไรตอนนี้ได้ไหม” นีใจคอไม่ดีเลย ทิพย์ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ไม่อยู่พี่ออกไปข้างนอกกับแฟนแล้วเมื่อตอนเที่ยง”

“แฟน นายมีแฟนแล้วเหรอใคร ชื่อ อรทัยหรือเปล่า”

“เรื่องชื่อนี่หนูไม่รู้นะพี่ วันนี้นายบอกเอาไว้ว่าไม่เข้ามาอีกแล้ว คงจะพรุ่งนี้แหละ สายๆจึงจะเข้ามา มีอะไรด่วนมากขนาดนั้นเลยเหรอพี่ หนูฟังเสียงดูแล้ว คิดว่าพี่กำลังเดือดร้อนแน่ๆเลย”

“เออ ก็แหละ ฉันเดือดร้อนแน่ ถ้าฉันติดต่อนายไม่ได้วันนี้ แกช่วยฉันทีได้ไหมทิพย์ ถือซะว่า ทดแทนบุญคุณฉันที่แกเคยติดฉันไว้ครั้งนึง ได้ไหม ถ้าแกช่วยฉันวันนี้ได้ ให้นายโทรกลับหาฉัน ถือว่าสิ่งที่แกติดค้างฉันไว้ เป็นอันหมดกัน นะ ฉันขอร้องหละแก”

“ได้ๆพี่ หนูจะพยายามช่วยนะพี่ ใจเย็นๆ แค่นี้นะ เปิดมือถือไว้ตลอดแล้วกัน หนูไปหละ หนูพอรู้ว่านายจะไปที่ไหน แค่นี้นะพี่”

     พูดจบทิพย์ก็รีบวางสายและรีบบอกเพื่อนที่อยู่ในที่ทำงาน “พวกเราฉันมีธุระด่วน พี่ทิพย์ขอความช่วยเหลือมา ใครติดต่อนายได้ ช่วยติดต่อให้ฉันที ไม่ต้องถาม เพื่อพี่ทิพย์ เพื่อบริษัท โทรเลย ฉันจะออกไปตามหานาย อย่าลืมนะ ใครติดต่อหานายได้เมื่อไหร่ โทรบอกฉันด้วยด่วนทันที ฉันไปหละ” พูดจบทิพย์รีบวิ่งออกไปขึ้นรถของตัวเองและบึ่งไปยังจุดหมายที่เธอคิดว่านายจะไปทุกแห่ง

***** \\\\\ *****

     โกร๋นนอกจากจะขายเสื้อผ้าแล้ว ยังต้องหอบเอาขนมหม้อแกงที่ทางบ้านทำขายทางโน้น มาแบ่งขายทางนี้ เพื่อหารายได้จุนเจือตัวเองและน้องชายอีก 1 คน เพื่อให้มาเรียนต่อระดับ ม.4 อีกด้วย ไม่งั้นพ่อแม่ไม่ให้อยู่ เขาพาน้องมาอยู่วัด เพื่อดูแลหลวงตาด้วยอีก 1 องค์ที่ไม่ค่อยสบาย โกร๋นต้องดูแลยายที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล สลับกับน้อง ถึงแม้ว่าพวกเพื่อนๆจะช่วยย้ายยายให้มาอยู่ในห้องพิเศษแล้วก็ตาม ตลอดเวลาโกร๋นเกรงใจกุ้ง ที่ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด โกร๋นจึงรักและเกรงใจกุ้งมากที่สุดในบรรดาเพื่อนๆทั้งหมด

     กุ้งเคยชวนโกร๋นมาทำงานด้วยที่แสงตะวันในฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่โกร๋นไม่ชอบทำงานแบบนั้น ถึงจะเรียนจบถาปัด แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ความรู้ความสามารถสักเท่าใด เพราะหาเวลาที่ว่างจริงๆไม่ได้ ไหนจะยายและไหนจะหลวงตาที่ต้องคอยดูแล

     วันนี้ก็เช่นกันที่โกร๋นมานั่งเฝ้ายายเพราะเป็นเวร ที่โกร๋นยังไม่มีครอบครัว นี่ก็คงเป็นส่วนหนึ่ง เขารู้ตัวเองดีว่าจน จะรักจะชอบใคร ก็คงลำบาก คงไม่มีใครที่อยากจะมาทนลำบากกับเขา ถึงโกร๋นจะรักและชอบน้องเพียงใด มันก็คงได้แค่ความรู้สึกดีๆเท่านั้น

     โกร๋นแอบถ่ายรูปน้องเอาไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ คงทำได้เพียงเท่านี้จริงๆ มันเป็นทางเดียวที่สามารถเก็บเอาเธอมาฝันได้ เวลาที่เขาเหงาและไม่มีใคร วันนี้น้องเดินผ่านมาทางเดิมกับเพื่อนเช่นเคย เธอสังเกตุว่าร้านของโกร๋นปิดไปหลายวันแล้ว จึงเริ่มแปลกใจว่าทำไมโกร๋นหายไปไหน เพราะทุกครั้งที่ผ่านมา โกร๋นจะออกมาแหย่และทำให้เธอยิ้มได้เสมอ จนทำให้เธอเริ่มชินกับการทักทายแบบนี้ของโกร๋นไปซะแล้ว เมื่อโกร๋นหายไปวันนี้เหมือนเธอใจหาย และรู้สึกแปลกๆ จึงเอ่ยปากถามร้านข้างๆว่าโกร๋นหายไปไหน

“พี่คะ ขอโทษที ขอถามอะไรหน่อย” หญิงสาวกลางคนคนหนึ่งหันมาขณะที่กำลังจัดร้านขายเสื้อ

“มีอะไรเหรอ” น้องชี้ไปที่ร้านของโกร๋นที่ปิดอยู่

“ร้านนั้นเขาไม่มาขายแล้วเหรอคะ หนูเดินผ่านมาหลายวันเห็นปิดตลอดเลยรู้สึกว่าจะ 3 วันแล้ว เขาเลิกขายแล้วเหรอคะพี่”

“อ๋อ ร้านไอ้โกร๋นเหรอ” น้องไม่รู้จักชื่อหรอก แต่รู้ว่าเป็นร้านนั้น จึงพยักหน้า

“มีอะไรกับมันรึเปล่า ถ้าเสื้อผ้ามีปัญหามาฝากไว้ที่ร้านพี่ได้นะ สนิทกัน”

“ไม่มีหรอกค่ะ ทุกวันเคยเห็นเปิดอยู่ พอดีเห็นเสื้อผ้าแกสวยดี วันนี้ว่างก็เลยว่าจะแวะเข้ามาดูสักหน่อย แล้วจู่เห็นปิดแบบนี้ก็เลยอยากรู้หนะค่ะไม่มีอะไรมาก ตกลงเค้าจะปิดอีกนานไหม” พี่สาวจัดไปพูดไป

“ไม่รู้เหมือนกัน ได้ข่าวว่าช่วงนี้ยายมันไม่สบายนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลโน่น หลวงตาก็มาป่วยอีก สงสารมัน วิ่งรอกอยู่คนเดียว ขายของทุกวันนี้ได้กำไรวันละไม่กี่บาท ไหนจะค่าเช่า ไหนจะค่ากิน มันลำบากนะน้อง เอางี้มีอะไรจะฝากบอกมันไหมหละ ถ้ามันมาพี่จะบอกมันให้ แต่ถ้าอยากจะรู้ว่า มันจะมาเมื่อไหร่ พี่ตอบไม่ได้จริงๆ”

     พี่สาวข้างร้านบอกได้เท่านี้ “ไม่เป็นไรค่ะพี่ ขอบคุณมากๆเลยที่กรุณาบอกหนู ลาหละค่ะ” แล้วน้องก็เดินจากไป ก่อนไปยังหันกลับไปมองอีกครั้ง และก็ถอนหายใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อีตอนที่เขาอยู่ก็เล่นตัวเสียเหลือเกิน พอเขาไม่อยู่ ก็มาคิดถึงเขา คนอะไร

+++++ ****** +++++

    4 โมงเย็นเข้าไปแล้ว ทิพย์ยังไม่เจอตัวเจ้านายเลย ไม่รู้ว่าพานิดไปเที่ยวที่ไหน และที่เลวร้ายไปกว่านั้น กุ้งไม่ได้เอาโฟวิลของตัวเองไป แต่เอามินิคูเปอร์ของนิดใช้ เลยทำให้ทิพย์ไม่สามารถมองหารถของนิดได้ เพราะไม่ได้จำเสียด้วยว่ารถนิดคันไหนรู้แค่สี

“เอาไงดีวะเนี่ย ที่น้ำตกก็ไม่มี ที่เขาก็ไม่มี เหลือที่เดียว ฟาร์ม วันนี้นายจะกลับไปนอนฟาร์มหรือเปล่าวะ เพี้ยงขอให้เจอทีเถอะเจ้าประคุณลุนช่อง” หลังจากยกมือพนม ทิพย์ก็รีบบึ่งรถย้อนกลับไปที่ฟาร์มซึ่งเป็นบ้านของกุ้งนั่นเอง ความหวังสุดท้ายของนาง

     และด้วยบุญบารมีของนีที่ได้เคยทำมา หัวจึงไม่ขาด ชะตายังคงดีอยู่โบนัสจึงไม่หลุดลอยหนีหายไปไหน รถของนิดจอดอยู่ที่เรือนรับรองของฟาร์ม “รถมินิคูปเปอร์สีชมพู ใช่แล้ว ฉันจำได้แล้ว สาธุ ขอให้อยู่ทีเถอะเจ้านาย หนี้สินต่างๆของลูกช้างจะได้หมด จบสิ้นกันสักทีวันนี้” ทิพย์จอดรถแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้าน มองหาและตะโกนเรียกกุ้ง

“นาย นาย นายอยู่ไหนหนะนาย” เงียบไม่มีเสียงตอบ ทิพย์วิ่งลงมาเจอเข้ากับเด่นพอดี

“อ้าวทิพย์ มาทำอะไรที่..” ทิพย์ไม่มีเวลาอธิบาย จึงรีบถามเด่นทันที

“คุณเด่นเห็นนายไหม อย่าพึ่งถามหนูอะไรตอนนี้ บอกมาก่อนว่าเห็นนายไหม”

“เห็น” ทิพย์เหนื่อยเพราะวิ่งไปมา นั่งหอบที่ขั้นบันได “อยู่ไหน” ไม่มีเสียงแล้ว

“โน่นหลังเขา ตรงสวนดอกไม้ แปลงลิลลี่โน่นแหนะ มีอะไรเหรอ อ้าว..”

     ทิพย์รีบวิ่งไปเอาจักรยานที่จอดอยู่แล้วรีบปั่นไปเลยทันที จนทำให้เด่นต้องยืนเกาหัวอยู่คนเดียว

..... +++++ .....

     โรสกลับมาทำขนมอีกครั้งเพื่อลดความฟุ้งซ่านเกี่ยวกับเรื่องของกุ้ง ขณะที่ทำอยู่ไปรษณีย์ก็มาส่งจดหมายด่วน จึงให้พิณออกไปดูไม่นานก็ถือจดหมายฉบับหนึ่งเข้ามาและส่งให้กับโรส “ของคุณหนูค่ะ เป็นภาษาปะกิดพี่อ่านไม่ออก”

“อ้าวแล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าเป็นของหนู พี่นี่มั่วรึเปล่า”                                   

“ก็คุณไปรษณีย์เขาถามว่า ชื่อโชติรสหรือเปล่า ช่วยเซ็นต์รับด้วยนี่คะ พี่ถึงรู้ว่าเป็นของคุณหนู ตกลงของใครคะ แฟนคุณหนูที่เมืองนอกหรา อะไรนะที่ชื่อ ยอดๆ จอดๆ อะไรนั่นหนะ ใช่ไหมคะ นั่นแน่ หน้าแดงเลย พอพูดถึงเค้า”

“บ้า เขาชื่อจอร์ส เราเลิกกันไปตั้งนานหลายปีแล้ว ปาดนี้เขาแต่งงานมีลูกเป็นขโยงแล้วมั้งพี่เนี่ย งั้นขอล้างมือก่อน รอแป๊บ”

“10 นาที นะช่วยกันจำ ปะ เราออกไปที่ห้องรับแขกกันดีกว่า” โรสพลิกไปมาของใคร แล้วก็ฉีกอ่าน

“ของพ่อหนะนม พี่พิณ” ทั้งสองคนมานั่งข้างๆ นมนั่งบนโซฟา ส่วนพิณนั่งกับพื้นเอาแขนเกาะขอบโซฟา

“ท่านว่ายังไงบ้างคะ” นมใจร้อน “ใจเย็นๆซินมขอให้หนูอ่านก่อน..ท่านบอกว่าสบายดี การเจรจาไม่มีปัญหาเซ็นต์สัญญาเรียบร้อยแล้ว อาทิตย์หน้าถึงจะกลับ แม่จ๋า พี่จ๋า พ่อจะกลับมาแล้วดีใจจัง หนูไม่เหงาแล้ว เย้ๆๆๆ” ทุกคนดีใจจนลืมคุกกี้ในห้องครัว

     พิณได้กลิ่นเหม็นๆลอยมาจากในครัว “เป็นอะไรอีกแกเจ้าพิณ ดูทำหน้าเข้า” แม่นมก็ลืมเช่นกัน

“กลิ่นหนะป้า กลิ่นเหม็นๆ” โรสก็ได้กลิ่น จึงตะโกนพร้อมกัน “คุกกี้” แล้วทุกคนก็รีบวิ่งเข้าไปในครัว โรสรีบเปิดฝาเตาอบ

“หมดกันคุกกี้ฉัน” โรสดึงถาดออกมา ไหมเกรียมทานไม่ได้เลยสักอัน “อดเลย นมหนะ พี่หนะ ไม่เตือนหนูเลย”

     โรสเทขนมที่เสียลงถังขยะ “เอาน่า โอกาสหน้าทำใหม่ ฝึกไว้ ทำให้คุณพ่อทาน เพราะคุณพ่อจะกลับมาแล้ว” โรสยกนิ้ว Ok

%%%%%% ----- %%%%%%

    ทิพย์ปั่นจักรยานมาเกือบ 3 กิโล ลัดเลาะตรงนั้นตรงนี้ กุ้งก็กำลังเพลินอยู่กับการพาแฟนสาวเดินชมอาณาจักรของเขาในทุ่งสวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่เขาลองปลูกดู “นาย นาย” ทิพย์ตะโกนมาแต่ไกล เมื่อเห็นตัวกุ้ง ยกมือโบกไม้โบกมือมาแต่ไกล นิดได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ จึงหันไปดู และสะกิดกุ้งให้หันไปดู กุ้งหันไปและหยุดยืนอยู่ตรงนั้นจนทิพย์ปั่นจักรยานมาถึง “นาย นาย”

“ใจเย็นๆทิพย์ ใจเย็นๆ พักให้หายเหนื่อยก่อนดีไหม” ทิพย์พยายามชี้ไปที่ทิศทางของ กทม. “พะๆพี่ๆๆ นี..” กุ้งพยายามตั้งใจฟัง

“หะ ให้ โทร โทรกลับ หะ หา ด่วน จะจะ เจ้าคะนาย โอ๊ย เหนื่อยฉิบ”

“นีให้โทรกลับ ก็เท่านั้น ดูทำท่าเข้า ทำยังกะจะเป็นจะตาย” กุ้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็ต้องตกใจ Miss Call เพียบ เกือบ 20 สาย ทั้งของนีและเอียดน้องสาวตัวเอง จึงรีบโทรกลับไปหาเลขาคนสนิทก่อนเลยทันที

“นาย โอ๊ยสวรรค์ทรงโปรด ยัยทิพย์ทำได้จริงๆโบนัสฉันไม่หายแล้ว” แล้วก็เปิดฝารับทันที

 “มีอะไรด่วนห๊ะนี ฉันบอกแล้วไง ถ้าไม่สำคัญไม่ต้องโทรมากวนใจฉัน”

“ก็เพราะมันสำคัญมากนะซิคะนาย” 5 โมงเย็นกว่าแล้ว นีหันไปดูเวลาที่ข้างฝา

“เอาว่าไปมีเรื่องอะไร ถ้าไม่สำคัญจริงๆโบนัสเธอหาย”

“โบนัสอีกแล้ว ทำไมพี่น้องคู่นี้ชอบเอาโบนัสมาขู่กันจัง กลัวไปหมดจนตัวสั่นแล้วเนี่ย” ที่นีกล้าเล่น ก็เพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

“คุณเอียดให้รีบโทรกลับอย่างด่วนเลยเจ้าค่ะเจ้านาย คุณชายโปรดกรุณาติดต่อน้องสาวด้วยนะเพคะ เพราะเรื่องมันใหญ่มาก แค่นี้นะคะ เดี๋ยวนีจะแจ้งให้คุณเอียดทราบด้วยอีกที เย็นมากแล้วปาดนี้คุณเอียดจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”

     พอวางหูก็ส่งข้อความเข้าไลน์เจ้านายทันที “เจอตัวคุณชายกุ้งแล้วเพคะองค์หญิง กรุณารอรับสายด้วย และอย่าลืมโบนัสบ่าวนะเพคะ ขอขอบคุณล่วงหน้า” พอเอียดอ่านข้อความจบก็นั่งยิ้มและส่ายหัวอยู่คนเดียว จนนุ่นสงสัยขณะที่มานั่งพักผ่อนที่ห้างแห่งหนึ่ง

“นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว เป็นอะไรของแกวะเอียด ประสาทหรือเปล่าวะ” เอียดวางโทรศัพท์แล้วก็บอกเพื่อน

“ไม่มีอะไร ก็ยัยนีเลขาหญิงเหล็กของแกหนะ ส่งข่าวมาบอกว่าเจอตัวพี่กุ้งแล้ว และมีการทิ้งท้ายเรื่องโบนัสปลายปีที่จะออกในอีกไม่กี่วันอีกนี้ กลัวจัง กลัวไม่ได้ ฉันก็ขู่ไปเล่นๆอย่างนั้นแหละ ขู่นางเล่นสนุกดี เพราะนางน่ารัก” กุ้งโทรศัพท์เข้ามาหาน้องสาวพอดี

“มีอะไรยัยตัวแสบ แหม ทำทุกวิถีทาง ขู่จนยัยนีเนี่ยลนลานไปหมดเลยนะ เอ้ามีอะไรก็ว่ามา”

“มีงานใหญ่ให้ทำ” เอียดวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแล้วเปิด Speak Phone ให้นุ่นได้ยินเสียงด้วย

“งานอะไร” นุ่นพอได้ยินเสียงก็ตกหลุมรักพี่ชายเพื่อนทันทีโดยไม่รู้ตัว เพราะเสียงที่ได้ฟัง มันนุ่มและเพราะยังไงไม่รู้

“งานถนัดพี่เลยแหละ” เอียดยังไม่ยอมบอก ดึงเกมส์

“ก็บอกมาซิวะยัยตัวแสบ ไม่บอกพี่วางนะเอ้า” กุ้งเริ่มเวียนหัวกับน้องสาว

“บอกแล้วบอกแล้ว” เอียดมองหน้าเพื่อน แล้วบอกกับพี่ชาย “เพื่อนหนูเขาจะสร้างบ้าน เขาอยากให้พี่ออกแบบจะสร้างให้หน่อย ทำให้เพื่อนหนูหน่อยนะพี่นะ” เอียดอ้อนก่อนเลย กลัวกุ้งจะไม่รับ

“ไม่หละ ตอนนี้งานพี่เต็มเลย ยาวไปยันกลางปี แกก็รู้นี่ ไหนจะงานของคุณอาอีก ไม่หละต้องขอโทษด้วย บอกเพื่อนแกด้วยว่าไปหาคนอื่นนะ พี่ไม่ว่างจริงๆ” นุ่นรีบบอกเพื่อน ยังไงก็ต้องกุ้ง ไม่ทำกับคนอื่น อ้าปากบอกเพื่อนเบาๆ

“ไม่รีบ ราคาเท่าไหร่ก็สู้ นะนะ” เอียดไม่รู้จะทำยังไงดี จะงัดไม้ตาย ถ้าพี่ชายยังปฏิเสธอีก” 

“น่านะพี่กุ้ง ทำให้เพื่อนหนูหน่อย หลังปีใหม่ค่อยทำก็ได้ เพื่อนหนูไม่รีบ แถมสู้ราคา ไม่อั้นด้วยนะ ให้ราคามาเลยค่าแบบ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ กว่าพี่จะเขียนแบบเสร็จก็เกือบ 2 เดือน กว่าจะปลูก เริ่มสร้าง ปลายปีพอดี นะพี่นะ”

“ไม่ เอ เจ้าเอียดนี่ ยังไงกันนะ พี่บอกว่าไม่ ขนาดงานปีใหม่ พี่ยังไม่ได้พักเลย แค่นี้นะ”

“พี่กุ้ง อย่าวางนะ ถ้าวางหนูโกรธจริงๆด้วย” กุ้งไม่กล้าวางเพราะรู้นิสัยของน้องดีว่าเป็นยังไง ภูเขาไฟเริ่มครุแล้ว กำลังจะระเบิด

     นุ่นใจไม่ดีแล้ว คล้ายจะร้องไห้ เอียดเลยงัดไม่ตายออกมาใช้จริงๆเลยคราวนี้

“ถ้าพี่ไม่ช่วย หนูจะฟ้องพ่อว่าพี่รังแกหนู พี่รักคนอื่น ไม่รักน้อง เห็นคนอื่นดีกว่าหนู รักผู้หญิงมากกว่ารักน้อง หนูจะเอาเรื่องที่พี่มีแฟนไปบอกพ่อ คอยดู” แล้วก็แกล้งวางหู เอียดยิ้มใส่โทรศัพท์จนนุ่นงง แล้วนับ 1-2-3 เสียงดังกลับมา

“เออๆๆๆ ฉันรับทำให้ พอใจรึยัง ชอบเอาเรื่องนี้มาขู่” เอียดยิ้มให้กับนุ่นและตีมือกัน

“อีก 2 วัน แกไปหาฉันที่บ้านที่พระราม 5 ช่วงเช้าก็แล้วกัน เพราะช่วงบ่ายฉันมีประชุมที่บริษัท แค่นี้นะ”

     แล้วกุ้งก็วางสาย หันไปมองภูเขา นิดเดินเข้ามาถาม “เป็นอะไรคะที่รัก อารมณ์เสียอะไร แล้วใครคะคนที่ชื่อเอียดเนี่ย” นิดเดินเข้าไปปลอบใจกุ้ง กุ้งเอาโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋าหลัง นิดยื่นหน้าไปหอมแก้มให้กำลังใจ

“ไม่มีอะไร เอียดหนะน้องสาวผม กลับเถอะมืดแล้ว คุณจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้คุณจะได้กลับแต่เช้า แล้วเดี๋ยวอีก 2 วันค่อยเจอกันที่ กรุงเทพนะ” นิดสังเกตุหน้าแฟน ชักเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว จึงไม่อยากที่จะขัดใจอะไรมาก ตอนนี้พอจะรู้ๆนิสัยกุ้งบางอย่างบ้างแล้ว

     พอถึงเรือนรับรองก็พาไปที่ห้องนอน “คืนนี้คุณนอนที่นี่นะ มีห้องน้ำในตัว ถ้าหิวก็หาอะไรทานเอาเองนะ ครัวอยู่ทางโน้น ผมขอตัวก่อน มีงานที่ต้องทำอีก พักผ่อนให้สบายนะ” นิดรีบดึงแขนกุ้ง

“คุณจะให้นิดนอนที่นี่คนเดียวเหรอ นิดกลัว กุ้งนอนที่นี่เป็นเพื่อนนิดนะนะ”

     นิดอ้อนกุ้ง เพราะคิดว่า ยังไงคืนนี้มาแล้วก็ไม่อยากจะให้เสียเที่ยว อยากจะรวบหัวรวบหางเป็นคุณนายแสงตะวันเร็วๆแล้ว ไม่อยากรอ เพราะดูๆแล้ว กุ้งไม่ค่อยจะสนใจเธอเท่าใดนัก ถ้าเธอเป็นของกุ้งคืนนี้อย่างน้อยก็จะได้สิทธิ์ความเป็นเมียเข้าออกที่นี่ได้ง่ายหน่อย แต่จะเป็นไปได้แค่ไหนก็ไม่รู้ เพราะดูแล้วกุ้งเฉยมาก

“คงไม่ได้หละครับ ผมมีงานจริงๆ ไม่ต้องกลัวที่นี่ปลอดภัย อีกอย่างผมไม่ได้ให้คุณนอนคนเดียวแน่นอน”

     กุ้งหันไปกวักมือเรียกนวลซึ่งนั่งพับเพียบรออยู่ที่บันไดด้านล่างอยู่แล้ว นวลรีบเดินขึ้นมา “ค่ะนาย” นิดผิดหวังนิดหน่อย

“อยู่ดูแลรับใช้คุณนิดเพื่อนฉันที่นี่นะคืนนี้ มีอะไรก็บอกนวลแล้วกัน ผมขอตัว” กุ้งรีบเดินลงจากเรือนรับรองทันที

“กุ้งค่ะ” ไม่ทันแล้ว กุ้งเดินหายไปในความมืด นวลยืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้า นิดเริ่มไม่พอใจกุ้ง สะบัดหน้าหนีเดินเข้าห้องไปเลยทันที

     นวลเดินตามเข้าไป จัดที่นอนให้นิดเป็นอย่างดี ขณะที่นิดเข้าไปอาบน้ำ

“คอยดูนะกุ้ง นิดจะทำให้คุณรักนิดให้ได้ ที่นี่ต้องเป็นของฉัน นิดรู้ว่าคุณไม่เคยมีใจให้เลย ความเย็นชาแค่นี้ใครก็ดูออก ปากเรียกที่รัก แต่ใจมันไม่ใช่ นิดต้องเป็นนายหญิงที่นี่ นิดต้องครอบครองอาณาจักแสงตะวันให้ได้ กุ้ง คุณต้องเป็นของนิดคนเดียวเท่านั้น”

     หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ นิดก็เดินออกมาพร้อมชุดคลุมมานั่งหวีผมแต่งตัวที่โต๊ะเครื่องแป้ง เห็นนวลถือแก้วนมสดมาวางไว้ให้ จึงเอ่ยปากถามข้อมูลบางอย่าง เพราะถ้าคิดจะเป็นนายหญิงที่นี่ ต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่ให้มากกว่านี้       

“ชื่ออะไรเราหนะ อายุเท่าไหร่เนี่ย ดูยังเด็กจัง” นิดยิ้มให้ นวลคิดว่าคงไม่มีอะไร จึงนั่งลงพับเพียบ และตอบกลับไปแบบซื่อๆ

“ชื่อนวลค่ะ อายุ 18” นิดขยับมาดูนวลใกล้ๆ เอาแปรงมาเชยคางไปมา “ทำหน้าที่อะไรที่นี่หละ ดูใกล้ๆเธอก็สวยน่ารักเหมือนกันนะ”

“พนักงานทั่วไป แม่บ้าน และเลี้ยงคุณหนูให้กับนายค่ะ” นิดมาสะดุดที่คำว่าคุณหนู

“คุณหนู ใครหนะ ที่นี่ยังมีใครเป็นเจ้านายอีกเหรอ นอกจากกุ้ง” นิดแปลกใจมาก

“คุณหนูลูกแก้วค่ะ ลูกสาวนาย อายุ 7 ขวบ คุณเป็นแฟนนาย คุณไม่ทราบอีกเหรอคะ” นิดส่ายหน้า จึงสนใจ พร้อมกับยกแก้วนมดื่ม

“แล้วทำไมวันนี้ฉันไม่เห็นคุณหนูของเธอหละนวล”

“คุณหนูนอนเรือนโน้นกับหนูเพราะนายงานเยอะไม่ค่อยมีเวลาว่างมาดูแล พอดีวันนี้คุณมา นายเลยให้หนูมาอยู่ดูแลคุณส่วนนายก็ไปนอนกับคุณหนูแทนค่ะ” นิดเริ่มจะรู้อะไรมากขึ้น เริ่มที่อยากจะรู้เรื่องราวของกุ้งเพิ่มขึ้นอีก

“แล้วเธออยู่ที่นี่มากี่ปีแล้วหละ” นิดดื่มนมจนหมดแก้วแล้วส่งคืนให้กับนวล

“2 ปี” นิดมองไปรอบๆแล้วลุกเดิน “ถ้าฉันมาเป็นนายหญิงที่นี่ เธอจะว่ายังไงนวล เธอจะมาอยู่ดูแลฉันแบบนี้ไหม”

“หนูยังไงก็ได้ค่ะคุณ นายสั่งให้ทำอะไร หนูก็ต้องทำถ้ามันเป็นงาน หนูไม่มีปัญหา หนูคงไม่มีสิทธิห้ามนายได้ ถ้าใครจะมาเป็นนายหญิงที่นี่ แต่หนูขอบอกไว้ก่อนนะคะว่า นายรักคุณหนูลูกแก้วมาก ถ้าคุณอยากจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่ คุณต้องชนะใจคุณหนูลูกแก้ให้ได้ก่อน ถ้าคุณทำไม่ได้ ต่อให้นายรักคุณแค่ไหน คุณก็หมดสิทธิ์ อย่าได้หวังมาอยู่ที่นี่เลย เพราะคุณหนูคงอาละวาดจนคุณอยู่ไม่ได้เลยทีเดียว มีคนลองของมาหลายคนแล้ว ต้องเปิดกลับไปจนแทบไม่ทัน หนูเตือนคุณได้เท่านี้หละค่ะ ขอตัวนะคะ ถ้าต้องการอะไร เรียกใช้หนูได้ตลอดเวลา หนูนอนอยู่ห้องเล็กข้างๆตรงนี้ แค่นี้นะคะ” นวลชี้ออกไปที่ห้องเล็กซึ่งอยู่ข้างระเบียงติดกับห้องใหญ่

     นวลถือแก้วนมออกไปล้างเก็บ และย้อนกลับเข้ามานอนที่ห้องของตัวเองที่อยู่ข้างๆห้องใหญ่ นิดยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ยามค่ำคืนและมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดวงดาวบนฟ้า “ลูกแก้ว ด่านสำคัญอย่างนั้นเหรอ แล้วเราจะได้เห็นดีกันนะหนูน้อยที่น่ารัก” 

%%%%%% ----- %%%%%%

     รุ่งเช้าตี 5 กุ้งลุกออกมาทำงานตามปกติ มาดูพนักงานทำงานและตรวจตราความเรียบร้อย ใครที่รีดนมวัวก็รีดไป ใครทำอะไรก็ทำไป บางส่วนที่มีปัญหากุ้งก็จะเข้าไปแก้และจัดการให้ ล่วงเลยไปจนถึง 7 โมงนิดๆกุ้งอุ้มลูกแก้วออกมาเพื่อจะไปส่งที่รถโรงเรียน

“ทำไงก่อนคนเก่ง” กุ้งเอียงแก้มซ้ายให้กับลูกสาว ลูกแก้วยื่นหน้ามาหอมแก้ม 1 ข้าง แต่กุ้งหอมกลับไปเลยทั้งสองข้าง แล้วก็โบกมือให้ นิดลงมาไม่ทันเลยเห็นหน้าลูกแก้วไม่ถนัด เพราะมองอยู่ไกลๆจากเรือนรับรอง เห็นแค่กุ้งกำลังปิดประตูรถให้เท่านั้น

     ไม่นานนิดก็เดินลงมาถึงรถตัวเอง กุ้งยืนรออยู่แล้ว “เดินทางกลับดีๆนะครับ ถึงแล้วอย่าลืมโทรบอกผมด้วย เป็นห่วงนะครับ” นิดไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าใด เพราะเมื่อคืนผิดแผน เลยไม่อยากจะตอบอะไร กุ้งเปิดประตูรถให้ นิดก้มลงมาหอมแก้มซ้ายกุ้ง

“นิดกลับแล้วนะคะ คุณเองก็พักผ่อนบ้าง อย่าหักโหมหนักจนเกินไป นิดเป็นห่วง ดูแลตัวเองด้วยนะคะ แล้วอีก 2 วันเจอกัน”

“ครับ อีก 2 วันเจอกัน บาย” แล้วนิดก็ขับรถกลับออกไปจากฟาร์ม มุ่งตรงสู่ กทม.ทันทีด้วยความผิดหวัง ตลอดทางนิดได้แต่ทุบไปที่พวงมาลัยและร้องไห้ รักเขาอยู่ข้างเดียว แค่นี้ก็รู้แล้วว่ากุ้งไม่เคยมีใจอะไรให้กับเธอเลย จะเดินหน้าหรือหยุดดี สิ่งนี้ทรมานใจนิดมาก

+++++ ****** +++++

     2 วันถัดมาโกร๋นกลับมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าดังเดิม หลังจากปิดไปหลายวัน พี่สาวร้านข้างๆจึงบอกโกร๋นไปเรื่องที่มีเด็กสาวมาถามหาเมื่อ 2 วันก่อน “ไอ้โกร๋น” โกร๋นหันไป “ครับพี่” พี่สาวข้างร้านค่อยๆเดินออกมาจากร้านตัวเอง

“2 วันก่อน มีคนมาถามถึงเอ็งแหนะ” โกร๋นจัดร้านไป ถามไป “เหรอพี่ ใครวะ แล้วเค้ามาทำอะไรหละพี่”

“ไม่รู้ซิ ถามแล้ว นางก็ไม่พูดอะไร” แล้วก็จัดร้านต่อ “ขอบใจนะพี่มุก ขนมพี่” โกร๋นส่งขนมให้เพื่อน แบ่งๆกันทาน

“ขอบใจมากโว๊ย ขอตัวจัดร้านต่อก่อน คนกำลังมาเลย” โกร๋นยกมือขอบใจมุก พี่สาวข้างร้านที่คอยช่วยเหลือกัน

     ไม่นานประมาณ 9 โมงน้องก็เดินมากับเพื่อนตามปกติตามเวลาของเธอ เธอมองตรงมาแต่ไกลว่าวันนี้โกร๋นมาไหม เธอมีรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ดีใจที่เห็นว่าโกร๋นมาขาย จึงแกล้งเดินผ่านแล้วเชิดเหมือนเดิม ตามฟอร์ม โกร๋นก็แอบโผล่มาแหย่เหมือนเดิม

“แบร่..สวัดดีครับน้องสาวคนสวย นี่สำหรับน้องจร้า” น้องยิ้มให้อย่างเดียว แต่ไม่พูดอะไร รับดอกกุหลาบที่โกร๋นยื่นให้แล้วก็เดินผ่านไปเรียนเลยทันที โกร๋นดีใจมากที่น้องรับดอกไม้เขาโดยไม่รังเกียจ “มีลุ้นโว๊ย มีลุ้นไอ้โกร๋น” โกร๋นมีกำลังใจขายของขึ้นเพียบ

..... +++++ .....

     ประมาณ 9 โมงกว่าๆเอียดขับรถมาถึงบ้านพี่ชายที่ กทม. ซึ่งอยู่แถวๆพระราม 5 ด้านฝั่งธนฯ เป็นที่ที่ซื้อเองติดริมน้ำอยู่ในซอยที่ไม่ลึกมาก เป็นที่แบ่งขายไม่ใช่หมู่บ้าน เนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา กุ้งเจอที่ตรงนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ชอบจึงติดต่อขอซื้อทันที จากนั้นก็ออกแบบและปลูกเสร็จพร้อมอยู่ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 เดือน เพราะเกรงใจวิวัฒน์ เนื่องจากไม่ค่อยสะดวกในเรื่องเวลาการทำงาน

     เอียดมาจอดรถที่หน้าบ้านแล้วบีบแตร แกล้งกุ้งเล่น “เดี๋ยวๆมาแล้ว มาแล้ว ยัยตัวแสบ เปิดแล้วจร้า” กุ้งแต่งตัวเสื้อยืดแขนกุดขาสั้นธรรมดาๆ เพราะนึกว่าเอียดจะมาคนเดียว แค่เอาแบบแปลนและรายละเอียดมาให้ ไม่นึกว่าจะพาเพื่อนมาด้วย

“บ้านเขาโรแมนติคดีนะพี่ชายตัวหนะ” แค่เห็นบ้านภายนอกนุ่นก็หลงเสน่ห์เสียแล้ว

“จร้า แม่คุณ แค่เห็นบ้านก็หลงซะแล้วเหรอ” เอียดแซวเพื่อนจนนุ่นหน้าแดงขึ้นมาทันที

“บ้า แกเนี่ย ไม่เอาต่อไปฉันไม่พูดอะไรอีกแล้ว ไป แกลงไปก่อน เดี๋ยวฉันขอหยิบแบบบ้านแป๊บนึง”

“หวัดดีพี่กุ้ง” กุ้งเดินเข้ามาพร้อมกับสภาพโทรมๆ พึ่งตื่นก่อนที่เอียดมาเพียงไม่กี่นาที แล้วก็แนะนำเพื่อนให้รู้จัก

“นี่นุ่นเพื่อนหนู” นุ่นยกมือสวัสดี “สวัสดีค่ะพี่” กุ้งรับไหว้แล้วก็พาสาวๆเข้าไปนั่งพักผ่อนในบ้าน

“ตามสบายนะ พี่ขอตัวอาบน้ำก่อนแป๊บนึง เมื่อคืน Clear งานดึกไปหน่อย เดี๋ยวบ่ายมีประชุมอีก ตามสบาย เอียดดูแลเพื่อนด้วย”

     กุ้งวิ่งขึ้นชั้นบนไปทำธุระส่วนตัวทันที นุ่นมองดูภายใน ก็ตกแต่งน่ารักสวยดี น่าอยู่มากเลยทีเดียว

“ไงเพื่อน ข้างนอกว่าสวยแล้ว พอเห็นข้างในไง ตะลึงเลยซิแก นั่นรางวัลสถาปนิกหน้าใหม่ดีเด่น 2 ปีซ้อนเลยนะโว๊ย ส่วนนั่น รางวัลนักธุรกิจหนุ่มดีเด่นสดๆร้อนๆเมื่อต้นปีนี้เอง ไงพอจะการันตีฝีมือพี่ชายฉันได้บ้างไหมเพื่อน

“คุ้มๆ สุดยอดเลยหวะ พี่ชายแก ฉันชอบนะจัดบ้านสไตล์แบบนี้ ดูอบอุ่น ไม่รก โล่งแต่ดูสะอาดตาดี”

“หนุ่มโสดก็แบบนี้หละโว๊ยเพื่อน ไงสนใจจะมาเป็นพี่สะใภ้ฉันไหม ถ้าไม่อยากจะแต่งงานกับอีตาสิงขรอะไรนั่นหนะ”

“ทำมาเป็นพูดเล่นไป ถ้าแกเชียร์แบบนี้ ถ้าฉันเอาขึ้นมาจะว่าไง เท่ห์หล่อ น่ารัก Perfect ออกขนาดนั้น ฉันเอาจริงๆนะ ถึงแกไม่ขอ ฉันก็จะเอา ว่าไงยกพี่แกให้ฉันรึเปล่าเพื่อน” เอียดมองหน้าแบบไม่นึกว่า นุ่นจะกล้าพูด แบบทีเล่นทีจริง เดาใจไม่ถูก

“พูดเล่นพูดจริงเนี่ยไอ้นุ่น ฉันแกเย้าแกเล่นๆเท่านั้น” นุ่นนิ่งไปพักนึง แล้วก็หลุดปากออกมา

“ฉันล้อเล่น ดูซิทำตาแบบนั้น หวงมากเลยเหรอ พี่ชายแกเนี่ย ฉันล้อเล่น พี่แกเค้าไม่มาสนใจเด็กกะโปโลอย่างฉันหรอก จืดก็จืด ไม่มีอะไรที่น่าดึงดูดและน่าสนใจ อีกอย่างวันก่อนฉันได้ยินว่าพี่แกมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนที่พูดโทรศัพท์หนะ”

“แกก็คิดมากน่าไอ้นุ่น ฉันล้อเล่น พูดไปสนุกๆแบบนั้นแหละ ถ้าไม่ขู่รับรองพี่กุ้งไม่ยอมออกจากถ้ำ มาเจอพวกเราง่ายๆหรอก”

“นี่ตกลงพี่แกมีบ้านกี่หลัง มีที่ทำงานกี่ที่เนี่ย ฉันเริ่มสับสนแล้ว”

“บ้านสองหลัง ที่นี่ 1 หลังปลูกไว้ตั้งแต่แรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะไปตั้งรกรากอยู่ที่ปากช่อง เพราะพี่กุ้งตัดสินใจ Take Over บริษัทนมสดแห่งหนึ่งที่กำลังจะเจ๊งมาบริหารต่อ ไม่เกิน 2 ปี โชคดีเข้าข้าง มีกำไร เจริญรุ่งเรือง ก็เลยเอาบ้านหลังนี้ไว้สำหรับพักผ่อนเวลามาทำงานหรือมาธุระที่กรุงเทพ ส่วนอีกหลังหนึ่งก็อยู่ที่ปากช่องในฟาร์มโคนมที่ชื่อว่า แสงตะวัน นั่นแหละ นมที่แกดื่มอยู่ทุกวันไง”

“จริงดิ โห เก่งมากๆเลยนะฟังดูแล้วพี่ชายแกนี่สู้ชีวิตและประสบความสำเร็จในชีวิตมากๆเลยนะโดยเฉพาะธุรกิจและการงาน แล้วครอบครัวหละ ทำไมพี่แกยังโสดวะ โปรไฟล์ดีออกอย่างนี้ ทำไมถึงยังไม่แต่งงาน ไม่มีสาวๆคนไหนมาตกบ่วง หรือตกหลุมรักพี่ชายแกบ้างเลยเหรอ” เอียดรีบเอามือปิดปากเพื่อน

“อย่าพูดเรื่องนี้ให้พี่กุ้งได้ยินเชียวนะแก แกไม่ชอบให้พูดถึงเรื่องนี้ มันมีอดีต แล้วว่างๆ ฉันจะเล่าให้แกฟังเอง”

   15 นาทีผ่านไป กุ้งก็เดินลงมาพร้อมชุดใหม่ที่น่าดูหน่อย

“ไป ไปนั่งที่สวนหย่อมหลังบ้านกัน ลมเย็นๆติดแม่น้ำไม่ร้อน เอียดเอาขนมมาบริการเพื่อนด้วยนะ”

“ค่า เจ้านาย” พูดจบเอียดก็จัดการเอาขนมใส่ถ้วย ใส่จานและตามออกไป

“เชิญนั่งก่อนครับ คุณ..” นุ่นนั่งลงและรีบบอกกุ้ง

“อย่าเรียกคุณเลยพี่ มันดูเหมือนห่าง นุ่นค่ะ นุ่นขอเรียกว่าพี่กุ้ง เหมือนเอียดได้ไหมคะ จะได้ดูไม่เหินห่าง”

“ได้ครับ เอาที่น้องสะดวกเลยแล้วกัน พี่ยังไงก็ได้”

“มันต้องแบบนี้ซิคะ น่ารักจริงๆ”

“อะไรนะครับ น้องว่าอะไรนะ”

“เปล่าๆไม่มีอะไรค่ะพี่ นั่นยัยเอียดมาแล้ว”

“คุยอะไรกันอยู่ค่ะสองคนนี้ รู้จักกันไม่ถึง 5 นาที ทำไมดูสนิทกันจังเลย นั่นแน่ หรือว่าแอบรู้จักกันมาก่อนแล้ว แล้วมาปิดบังแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน” เอียดแกล้งแซว แกล้งอำ สักพักก็หัวเราะออกมา

“โดน โดน หนูหลอกอีกแล้วทั้งสองคน งง เอ้า งง โดนหนูอำเข้าไป งงเลย”

“นี่แนะ” กุ้งเอามือเขกกบาลน้องสาวไม่แรงมาก หลังจากที่เอียดมานั่งลงข้างๆ

“เล่นไม่เลิกเลยนะแก ห่างมือมานาน โดนซะบ้าง” เอียดกอดพี่ชายแล้วก็อ้อนเหมือนตอนเด็กๆ

“ถ้าหนูไม่แกล้งพี่ แล้วจะให้หนูไปแกล้งใครหละคะ ตั้งแต่พ่อกับแม่ตายไป หนูก็มีแต่พี่นี่แหละ ที่เป็นเหมือนพ่อแม่คนที่สองของหนู หนูรักพี่มากนะพี่กุ้ง เรามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง ถ้าหนูไม่รักพี่ แล้วจะให้หนูไปรักใครหละ”

     เอียดเผลอน้ำตาซึมออกมาโดยไม่สนใจว่าเพื่อนนั่งอยู่แล้วก็หอมแก้มกุ้ง กุ้งก้มลงไปหอมที่หัวและหน้าผาก เอามือยีหัวน้องสาวจอมขี้แย “พี่ล้อเล่น พี่รู้ พี่ก็รักแกมากเหมือนกัน ไม่งั้นพี่จะฝากชีวิตแกไว้กับคุณอาเหรอ ไม่เอา ไม่ร้องนะหยุดได้แล้ว ไม่อายเพื่อนเรามั้งรึไง นั่นหนะ นั่งทำหน้างง อยู่ตรงนั้นหนะ” เอียดค่อยๆปล่อยมือจากเอวพี่ชาย แล้วเอามือมาปาดน้ำตา

     นุ่นงงมากจึงเอ่ยปากถามความจริงบางอย่างที่เธอเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน มารู้เอาก็วันนี้แหละ เพราะตั้งแต่คบกับเอียดมาก็รู้แค่ว่าเอียดเป็นลูกสาวของวิวัฒน์เท่านั้น “ช่วยอธิบายให้นุ่นฟังหน่อยได้ไหมค่ะพี่ ใครก็ได้ นุ่นงงไปหมดแล้ว ตกลงว่ายัยเอียดเป็นใคร พี่เป็นใคร เป็นอะไรกับคุณวิวัฒน์กันแน่” กุ้งมองหน้าเอียด แล้วก็เอามือโอบน้องสาวไว้ ก้มลงไปหอมหัว

“พี่เอง พี่จะเล่าความจริงให้ฟัง เรื่องนี้น้อยคนนักที่จะรู้ความจริงว่าเอียดเป็นใคร และพี่เป็นใคร พี่ขอย้อนเท้าความไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนั้นเอียดอายุได้เพียง 5 ขวบ แม่พี่ก็มาเสียชีวิตลงไปเพราะโรคหัวใจ พี่จึงต้องรับหน้าที่เลี้ยงเอียดมาตั้งแต่ตอนนั้น พี่จึงเปรียบเสมือนพ่อคนที่สองในทันที พ่อพี่เป็นแค่หัวหน้าโฟร์แมน อยู่มาวันหนึ่ง คุณวิวัฒน์ เจ้าของธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์เล็กๆแห่งหนึ่งในสมัยนั้น ได้มาว่าจ้างบริษัทที่พ่อพี่ทำงานอยู่ไปดำเนินงานสร้างตึกที่ทำงานให้ ก่อสร้างได้ไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์อาคารที่ก่อสร้างทรุดตัวถล่มลงมา เพราะโครงสร้างรากฐานผิดแบบพูดง่ายๆไม่ได้มาตรฐาน เพราะการโกงกินกันภายใน

     พ่อของพี่สามารถผลักคุณวิวัฒน์ออกไปให้พ้นจากเหตุการณ์นั้นได้ทัน แต่พ่อพี่ไม่รอด ถูกตึกถล่มลงมาทับต่อหน้าพี่ เสียชีวิตทันที คุณวิวัฒน์ซาบซึ่งบุญคุณในครั้งนี้ของพ่อพี่มาก จึงขอชดใช้ด้วยการรับเลี้ยง พี่และเอียด พี่ขอปฏิเสธ เลยยกเอียดน้องสาวของพี่ให้เป็นบุตรธรรมของคุณวิวัฒน์ และยอมให้เอียดเปลี่ยนนามสกุลไปใช้ของเขาทันที คุณวิวัฒน์ยอมรับขอเสนอนี้ เพราะเอียดยังเด็ก มากและขอส่งเสียการศึกษาให้พี่เรียนจนจบ เพราะพี่ไม่มีทางเลือกจริงๆในตอนนั้น พ่อและแม่ของพี่ได้เสียชีวิตลงไปไล่ๆกัน แม่เสียก่อนหลังจากนั้นอีกหนึ่งปี พ่อก็มาเสียชีวิตอีก เพราะช่วยชีวิตของคุณวิวัฒน์เอาไว้ เนื่องจากคุณวิวัฒน์แต่งงานมานานแล้ว แต่ไม่มีทายาท เมื่อพี่ยกเอียดให้เป็นลูก แกจึงรักและยกทุกอย่างให้เอียดเสมือนลูกแท้ๆเลยทีเดียว ไม่นานหลังจากนั้นอีก 4 ปีต่อมา ภรรยาคุณวิวัฒน์ก็เสีย เพราะโรคเบาหวาน เอียดจึงไม่มีแม่อีกเป็นครั้งที่สอง พี่จึงต้องรับภาระอีกครั้งในการมาดูแลเอียด สังคมภายนอกไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงพี่และเอียดเป็นใคร รู้แค่เพียงว่าเอียดเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณวิวัฒน์และพี่เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องของเอียดเท่านั้น”

     นุ่นรับฟังความจริงจากปากของกุ้ง ถึงกับอึ้งและนิ่งเงียบไป พูดอะไรไม่ออกเลย หันไปมองหน้าเพื่อนรักอย่างเอียด สักพักก็หลุดปากออกมา “แกน่าสงสารมากเลยนะเอียด ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงรักและเป็นห่วงพี่กุ้งแบบนี้ ไม่ว่าแกจะเป็นยังไง ไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณวิวัฒน์ ฉันก็ยังรักแกเหมือนเดิมนะเอียด” นุ่นยื่นมือทั้งสองข้างออกไป เอียดลุกขึ้นไปแล้วเดินไปกอดเพื่อน

“ฉันก็รักแกนะนุ่น ฉันไม่สนใจหรอก ถ้าใครจะรู้ความจริงว่าฉันเป็นใคร เพราะถ้าฉันไม่มีพี่กุ้ง ที่เลี้ยงฉันมา ฉันก็คงจะไม่มีอนาคตและชีวิตที่ดีแบบนี้แน่นอน ฉันคงจะกลายเป็นเด็กนั่งขอทานที่ไหนสักแห่งในประเทศไทยและไม่เจอแกก็ได้นะนุ่น”

“ขอบใจนะคะพี่กุ้งที่เลี้ยงเอียด อบรมเอียดมาอย่างดีและตัดสินใจในวันนั้นได้ถูก ให้อนาคตที่ดีกับเอียดมาตลอด เพื่อให้มาเจอกับหนู หนูขอขอบคุณพี่จริงๆจากใจเลยนะคะพี่” นุ่นยกมือไหว้กุ้งทันที ที่ทำให้เธอได้รู้จักกับเอียด เพื่อนที่แสนดีคนนี้

“เรื่องนี้ หนูขอสัญญานเลยนะคะว่า ความลับนี้จะไม่หลุดออกไปเข้าหูใครอีก จะจบลงที่นี่ บ้านหลังนี้ และจะอยู่กับหนูตลอดไปจนตาย แม้กระทั่งพ่อแม่ของหนูเอง ก็จะไม่บอกค่ะรวมถึงคุณวิวัฒน์ด้วย เค้าก็จะไม่รู้ว่าหนูความจริงเรื่องนี้ สบายใจได้”

“ขอบใจมากนะเพื่อน เรื่องนี้เราจะรู้กันแค่เพียงเท่านี้ 3 คนเราเท่านั้น ใช่ไหมพี่” กุ้งพยักหน้า

“มา เรื่องดราม่าคั่นเวลาก็จบ ผ่านไปแล้ว มาเอาเรื่องสำคัญที่มาในวันนี้ดีกว่าเนาะ” กุ้งเลยเปลี่ยนบรรยากาศให้ Soft ลง

“นั่นซิคะ นี่คะ” นุ่นยื่นรูปบ้านบิดๆเบี้ยวๆและแปลนภายในบ้านที่ เลอะเทอะไปหมดให้กุ้งดู

“อะไรเนี่ยนุ่น เอาอะไรมาให้พี่” กุ้งมองยังไงก็ดูไม่ออกว่าเป็นบ้าน นึกว่า รูปทรงคณิตศาสตร์

“บ้านค่ะ และนี่คือภายในบ้าน อิอิ” นุ่นหัวเราะเบาๆและเอามือปิดปากอายม้วนเลย

“แน่ใจนะว่าใช่บ้าน” กุ้งแกล้งแซว “ก็หนูคิดแบบบ้านไม่ออกและวาดไม่เป็นนี่คะ มันก็เลยออกมาแบบที่เห็นเนี่ย”

     นุ่นระบายออกมาเบาๆ “พี่หนะ ก็ถ้าไอ้นุ่นมันวาดเป็นทำเป็น หนูคงไม่ให้พี่มาช่วยมันหรอก” เอียดช่วยเพื่อน

“พี่ล้อเล่น มา เรามาเริ่มต้นกันเลย นุ่นต้องการบ้านแบบไหน พอเราได้ลักษณะของตัวบ้าน เราค่อยไปดูถึงการตกแต่งและจัดภายในกัน พอจะเข้าใจไหมครับ” นุ่นพยักหน้า “นุ่นบอกรายละเอียดพี่มาได้เลย” แล้วกุ้งก็หันไปหยิบสมุดโน้ตมาจดรายละเอียดทันที

“ที่อยู่แถวสายไหม เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ อยู่กันประมาณ 5 คน รวมคนใช้ด้วย หนูอยากได้บ้าน 2 ชั้น ชั้นบน ห้องนอน 3 ห้อง ก็มีของนุ่น พ่อกับแม่และห้องรับแขก มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ห้องนั่งเล่นมุมสบายๆด้านบน ห้องน้ำกลาง 1 ห้องและก็ระเบียง เอาไว้สำหรับเดินเล่นด้านบน ชั้นล่างก็มีห้องรับแขก ห้องครัว ห้องทานข้าว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำและห้องคนใช้ ส่วนรอบๆบ้าน ก็มีสนามหญ้า บ่อปลาไม่ใหญ่มาก โรงรถ สวนดอกไม้แปลงเล็กๆ ที่นั่งเล่นและสระว่ายน้ำ ก็คงจะเท่านี้หละค่ะ อ้อ ลืมไป นุ่นอยากจะทำ Office เล็กๆไว้ที่หน้าบ้านด้วยเพราะนุ่นจะเปิดกิจการเล็กๆ เนื่องจากนุ่นเห็นว่า มันติดกับถนนใหญ่ มันน่าจะได้ลูกค้าหนะค่ะพี่ ไหวไหมคะ”

“โอ้โฮเยอะแยะไปหมดเลยไอ้นุ่น พี่กุ้งรวยแน่คราวนี้” เอียดได้ฟังโครงการอภิมหาความต้องการของเพื่อน มันไม่ใช่เล็กๆแล้ว

“ไหนแกบอกว่าบ้านหลังเล็กๆ นี่อะไร มันอภิมหาอลังการเลยนะโว๊ยนุ่น” นุ่นมองหน้ากุ้ง เพราะกุ้งเงียบไปเลย

“บ้านะแก อภิมหาอลังการอะไร พี่กุ้งคะ พี่กุ้งว่าไงคะ หนักไปไหม นี่แหละ ที่หนูถึงบอกว่า มันเกินความสามารถของหนู”

“ตกลงพี่จะทำให้” กุ้งเงียบไปพักใหญ่กว่าจะเอ่ยปากออกมาได้ จนทั้งสองสาวหายใจไม่ทั่วท้องเลยโดยเฉพาะนุ่น  

“ขอบคุณมากๆเลยค่ะพี่ แล้วค่าใช้จ่ายหละคะ เยอะไหมต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ แพงไหม”

“พี่ขอคำนวณดูก่อนนะว่า ต้องใช้เนื้อที่สำหรับตัวบ้านเท่าไหร่ ถึงจะดีดราคาที่แท้จริงออกมาได้ เพราะพี่เชื่อว่า ห้องนอนกว้างยาวคงไม่ต่ำกว่า 7x8 เมตรแน่ จริงไหม อย่างต่ำต้องมี 10 เมตร จะได้อยู่แบบสบายๆเรื่องห้องนอนแบบจะออกมายังไงเดี๋ยวเราค่อยมาว่ากันอีกที นุ่นลองไปคุยไปปรึกษากับที่บ้านนะ ว่าในห้องนอนต้องการจะมีพื้นที่ใช้สอยอะไรบ้าง เพราะบางคนเอาเป็นห้องโล่งๆก่อน แล้วมาซอยเพิ่มนั่นทำนี่ ยิ่งมีห้องน้ำในตัวด้วย ค่อนข้างวางแบบยาก เพราะบางคนชอบมีห้องแต่งตัวซ่อนอยู่ก่อนห้องน้ำก่อนห้องนอนอีก พอจะเข้าใจใช่ไหม ที่พี่พูด เอาเป็นว่า เนื้อที่ 3 ไร่หนะเหลือเฟือย วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะรีบร่างแบบมาให้ดูคร่าวๆสัก 3-4 แบบนะ ถ้าภายนอกผ่าน ภายในแต่ละห้องค่อยว่ากันอีกที เครตามนี้นะ พี่ขอตัวก่อน พอดีบ่ายพี่มีประชุมที่บริษัทอีก”

     นุ่นจ้องมองกุ้งตาไม่กระพริบด้านข้างเพราะกุ้งนั่งเอียงมาชี้แบบให้กับทุกคนดู ขณะที่กุ้งกำลังนั่งอธิบายพร้อมกับชี้ไปที่แบบ โดยที่ไม่ได้มองหน้าผู้ใดเลย จนเอียดสังเกตุเห็น ปากก็บอกว่าไม่สนใจเค้า นุ่นเอ๊ย ตอนนี้ศรรักปักอกเข้าเต็มๆ จนเอียดรับรู้ได้ทันที

     จึงแอบยิ้ม จะมีพี่สะใภ้เป็นเพื่อนรักสมใจแล้วหละทีนี้ จริงๆแล้วนุ่นแอบหลงรักกุ้งตั้งแต่ได้เห็นรูปที่ตั้งไว้บนโต๊ะในห้องทำงานเอียดแล้ว ตั้งแต่วันนั้น พอได้ยินเสียงและเห็นตัวจริงในวันนี้ ยิ่งทำให้ใจของนุ่นเต้นระส่ำไปหมดแล้วตอนนี้ มือไม้แทบอ่อนแรงจนทำอะไรไม่ถูก ไม่ว่ากุ้งจะพูดอะไร บอกอะไร พูดอะไร นุ่นก็พยักหน้ารับไปหมดซะทุกอย่าง จนเอียดต้องสะกิด ไม่งั้น วันนี้ไม่ได้กลับบ้านแน่ “นุ่น ไอ้นุ่น ยัยนุ่น” นุ่นหลุดจากภวังค์ “อะไรเอียด” เอียดส่ายหัวนิดๆกับอาการที่ออกนอกหน้าของเพื่อน

“พี่เขาขอตัว ลุกไปนานแล้ว ไป กลับ จะนั่งเหม่อลอยอย่างนี้อยู่อีกนานไหมแก ไป หรือว่าจะเก็บผ้าผ่อน หอบมาอยู่ที่นี่เลย เอาไหม”

“บ้า จริงดิ เอานะ ได้ก็ดี ได้ด้วยเหรอ ฉัน Ok นะแก เอาเลยไหม” เอียดมองหน้าเพื่อนแบบแปลกๆ

“ไอ้นุ่น อีบ้า ไป ไปเลย พูดอะไรออกมา นั่นแน่ รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ ตาเนี่ยเยิ้มเลย เวลามองพี่กุ้งหนะ ยังไงก็เก็บอาการหน่อย เราเป็นผู้หญิงนะ กุลสตรีที่ดี ต้อง ไม่ทำตัวแบบนั้นให้ผู้ชายเขารู้ว่าเรามีใจ เดี๋ยวไก่ตื่นหมด เข้าใจไหม ยังไงฉันก็อยู่ข้างแก เชียร์แกเต็มที่จร้า ว่าที่พี่สะใภ้ คนอื่นฉันไม่สน ถ้าไม่ใช่แก ฉันก็ไม่เอา ไป ไปเตรียมงานกันดีกว่า สบายใจได้ ยังไงแกก็ต้องอยู่กับฉันตลอดไปเพื่อน”

***** ฿฿฿฿฿ *****

     เมฆหยิบผ้าเช็ดหน้าของโรสออกมาดูแล้วนึกถึงภาพด้านหลังของเธอ เท่าที่เขาจำได้ ขณะที่นั่งพักเหนื่อยกับการทำงานอยู่ที่ไซด์งานแห่งหนึ่ง เขามาควบคุมการก่อสร้างในฐานะที่เป็นวิศวกรควบคุมการก่อสร้างและดูแลโปรเจ็คนี้

     สักพักโฟร์แมนก็เดินเข้ามาเอาแบบมาให้เมฆดูและตรวจสอบอีกครั้ง เมฆเก็บผ้าเช็ดหน้านั้นแล้วลุกขึ้นใส่หมวกนิรภัยเดินออกไปดูและตรวจงานกลางแจ้งทันที เขาทำงานโดยไม่มีเวลาว่างที่จะมองใครเหมือนกุ้ง เพราะเขารู้ดีว่า เขาไม่ได้รวยมากมายเท่าใด ถึงจะไม่รวยแต่ก็ไม่ถึงกับจน เมฆเป็นคนอีสานโดยกำเนิด ที่เข้ามาเรียน กทม.ได้ ก็เพราะ ที่บ้านจำนองไร่นา เพื่อมาส่งให้เมฆได้เรียนตามความมุ่งหมาย อาศัยกับที่เมฆหัวดีเรียนเก่ง จึงใช้วิธีสอบชิงทุนเพื่อส่งตัวเองเรียนมาตลอด พอมีงานทำ ก็ส่งเงินกลับไปให้พ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด เพื่อไถ่ที่นาจนสำเร็จได้ แค่ไม่มีหนี้สิน เมฆก็พอใจและสบายใจแล้ว จึงพอมีเงินเก็บ เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายและส่งให้พ่อกับแม่บ้าง แค่นี้เมฆก็มีความสุขแล้ว ถ้าคิดจะมีครอบครัว ก็คงที่จะต้องเหนื่อยกันอีกพักใหญ่ เพราะค่าสินสอดปัจจุบันค่อนข้างจะแพงมาก

>>>>> ***** <<<<<

  หลังจากนั้นอีก 2 วันกุ้งก็ยอมไปเที่ยวกับนิดที่ภูกระดึง ตามที่เธอชวน เพราะถ้าไม่ไปคงทำให้นิดงอนอีกแน่ จึงต้องยอมตามใจไปก่อน แล้วค่อยว่ากันภายหลัง “กุ้งนี่ก็เก่ง ไม่เบาเหมือนกันนะ” นิดเดินไปเกาะแขนกุ้งไปตลอดทาง

“อะไรครับที่ว่าไม่เบาหนะ” กุ้งหนะสบาย เพราะเดินจนชินแล้วในฟาร์ม แต่นิดซิแย่ เพราะคงจะไม่เคยเจอแบบนี้

“เดินเก่งชะมัดเลยนะซิ นิดเดินไม่ไหวแล้วขอพักก่อนได้ไหมคะที่รัก นะพักเถอะ” นิดอ้อนกุ้ง

“ได้ครับ ไปนั่งตรงโน้นก่อน มีที่นั่งพักด้วย” แล้วกุ้งก็พานิดมานั่งพักที่จุดพัก นิดหันออกไปมองธรรมชาติด้านบน แล้วแอบมองกุ้ง

“ที่ผมเดินเก่งหนะ เพราะตอนเรียนมหาลัย ผมออกค่ายบ่อย เดินทางแบบนี้จึงถือเป็นเรื่องจิ๊บๆ เรื่องนี้จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับผม”

     กุ้งพูดไปเรื่อยๆสบายๆ โดยไม่ได้มองหน้านิด นิดมองไปด้านนอก ส่วนกุ้งมองไปด้านใน คนละทางกัน

“กุ้งคะ” กุ้งนั่งพักเหนื่อยเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดหน้าตัวเองอยู่ “ว่าไงครับ”

“รักนิดบ้างไหม” อยู่ดีๆนิดก็ยิงคำถามที่ตอบยากออกมาซะอย่างนั้น

“ทำไมถามแบบนั้นหละ ผมมากับคุณแบบนี้แล้ว ยังจะมาถามอีกเหรอ คุณเป็นอะไรของคุณหนะ ระยะหลังๆนี้คุณถามผมแปลกบ่อยมากเลยนะ มีอะไรในใจก็พูดออกมาได้เลยนะ ตั้งแต่รู้จักกันมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้คุณเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะนิด”

“ใช่ซิ ก็นิดหวงคุณนี่ เราเป็นแฟนกันนะ แต่ดูคุณทำซิ เหมือนไม่ใช่แฟน คนรักกันเค้าทำเหินห่างกันแบบนี้เหรอคะกุ้ง”

     กุ้งไม่รู้จะตอบยังไง จึงได้แต่ลุกขึ้นยืนและเอามือจับกิ่งไม้เอาไว้และพูดออกไป

“คุณคงกำลังเหนื่อย เลยพูดจาอออกไปแบบนั้น ผมเข้าใจ ไป ผมว่า เราไปกันต่อเถอะ อีกนิดเดียวก็จะถึงที่พักแล้ว พอได้พักผ่อนเต็มที่ คุณคงจะสบายใจมากกว่านี้” กุ้งหันไปประคองนิดแบบไม่สนใจสายตาของนิดเลย “กุ้ง เราต้องพูดกันให้รู้เรื่องนะ”

     กุ้งไม่สนใจสวมแว่นดำแล้วเดินต่อทันที นิดอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเหนื่อยเดี๋ยวก็หยุดเองแหละ พอถึงที่พักก็เอาข้าวของวาง นิดพอถึงที่นอนก็ล้มตัวลงหลับปุ๋ยไปเลย เพราะทั้งร้อนทั้งเหนื่อย ส่วนกุ้งก็ออกไปนั่งพักอยู่ริมเขาใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง เขาหยิบรูปดาวออกมา “จบกันเสียทีนะดาว 5 ปีกับสิ่งที่ดาวหลอกหลอนพี่มาตลอด” กุ้งฉีกรูปดาวจนละเอียดแล้วก็แบบมือออก ปล่อยให้สายลมพัดพาเอาเศษรูปนั้นปลิวไปยังดินแดนที่ไกลแสนไกลที่ไหนสักแห่งหนึ่งในโลกใบนี้

“โลกแห่งความฝันไม่มีอีกแล้ว ต่อไปนี้พี่จะขออยู่กับความเป็นจริงเสียที ขอบใจนะดาวที่ทำให้พี่รู้ว่า เงินมีค่ามากกว่าความจริงใจ

     กุ้งตัดใจจากดาวได้ขาดจริงๆคราวนี้และคิดว่าจะขอเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่มองเขาที่ตัวตนไม่ใช่เงินตรา นิดจะใช่คนนั้นไหม เราก็คงต้องมาตามดูกันต่อไป ชีวิตเรื่องความรักของกุ้งจะเป็นเช่นไร จะโชคดีเหมือนธุรกิจไหม ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร คำตอบของหัวใจของกุ้ง คงจะตอบและตัดสินใจได้เองในไม่ช้า เพราะไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะรัก หากเธอคนนั้น ไม่ได้รักและเข้าใจเขาจริงๆด้วยเงิน

****** ----- *****

     ดาวหลังจากที่ได้รู้จักกับสิงห์ ก็ได้ไปเที่ยวและทำความรู้จักกันบ่อยมากขึ้น แต่มาคราวนี้แปลก ตั้งแต่ที่ดาวรู้ว่าจะมีโอกาสได้พบกับกุ้งไม่วันใดวันหนึ่ง เธอไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจยอมนอนกับใครง่ายๆเหมือนตอนที่อยู่เมืองนอก สิงห์ก็พยายามที่จะหาโอกาสพิชิตตรงนั้นของดาวให้ได้เพราะรู้ว่าดาวเป็นผู้หญิงเช่นใด ยังหาโอกาสเหมาะๆที่จะพาไปกกไปกอดได้สักทีจึงได้แต่ยอมเปย์ไปก่อน

“วันนี้ดาวสวยมากเลย รู้ตัวหรือเปล่าครับ” สิงห์พาดาวมานั่งทานอาหารหรูที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ชั้นบนสุดกลางแจ้ง ท่ามกลางแสงเทียนพร้อมกับลมเย็นๆที่พัดผ่านอย่างเบาๆผมที่ยาวสลวยสวยนั้นพริ้วไหวอย่างช้าๆดูงดงาม ในสายตาของเสือผู้หญิงอย่างสิงห์   

“ปากหวานขึ้นทุกวันๆเลยนะคะสิงห์ ดาวรู้นะว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่”

     สิงห์ส่งสายตาเยิ้มไปให้ดาว “รู้แล้วไง ถ้าคุณรู้แล้วเมื่อไหร่คุณจะยอมทำตามใจตัวเองหละครับ ผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ”

“ยังคะ จนกว่าดาวจะมั่นใจในตัวคุณมากกว่านี้ อย่าคิดว่าดาวไม่รู้นะว่า ชื่อเสียคุณเป็นยังไง หนุ่มไฮโซและเสือผู้หญิงอย่างคุณหนะปิดไม่มิดหรอก ดาวยังไม่อยากเป็น 1 ในคอลเล็กชั่นของคุณค่ะ ถ้าดาวจะมีครอบครัวทั้งที มันต้องคุ้มค่า ดาวต้องการมีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์ ไม่ใช่มีความทุกข์เหมือนตกนรก หวังว่าคงจะเข้าใจในสิ่งที่ดาวพูดนะคะสิงห์ ดาวไม่ง่ายนะ กรุณารู้ไว้ด้วย”

     ดาวหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาพร้อมกับจิบเบาๆ และส่งสายตาที่เชิญชวนให้ไปนอนกกนอนกอดเสียจริงๆกับสิงห์ เธอสะบัดผมไปมาซ้ายขวาเล็กน้อย ดาวหยิบบุรี่ขึ้นมา สิงห์รีบดันมือถือไฟแช็คต่อไฟให้ ดาวพ่นควันออกไปข้างหน้าเบาๆ

“คุณนี้ Sexy จริงๆดูไม่ออกเลยว่าผ่านการมีสามีมาแล้วนับไม่ถ้วน” ดาวยกนิ้วชี้แล้วส่ายไปมาต่อหน้าสิงห์

“ไม่เอา ไม่พูด อย่าเอ่ยวาจาแบบนั้นออกมา มันไม่ดี ให้เกียรติ์กันหน่อยซิคะ สุภาพสตรีอย่างดิฉัน ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะ ถึงจะผ่านการมีสามีมาอย่างโชกโชนก็จริง แต่ดิฉันก็เลือกนะ ไม่ใช่อย่างคุณหรอก ที่คลำตรงไหนถ้าไม่มีหาง คุณก็ฟาดเรียบหมด”

“คุณนี่สุดแสบเลย ผมไม่นึกไม่คิดเลยนะครับว่า จะมาเจอคนแบบคุณ เห็นแรกๆดูติ๋มๆ ใสๆ แบ๊วๆ ที่ไหนได้”

“อะไรคะ” ดาวยื่นหน้าไปใกล้ๆและพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าสิงห์

“นางแมวยั่วสวาท ดีๆนี่เอง” สิงห์พูดนิ่มๆเบาๆออกไป แล้วใช้ความไว ดึงหน้าดาวมาจูบทันทีอยู่นาน ดาวสะบัดหน้าออกมาได้ และลุกขึ้นยืน ตบหน้าสิงห์อย่างแรง แล้วยกแก้วน้ำเปล่าสาดใส่หน้าสิงห์ด้วย สีหน้าไม่พอใจเอามากๆ

“อย่าทำแบบนี้อีกนะสิงห์ ถ้าคิดจะคบกับฉัน ฉันไม่ชอบ ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม ถึงฉันจะเงี่ยนจะร่านยังไง แต่ฉันก็เลือก”

     ดาวชี้หน้าสิงห์ “จำเอาไว้ คนอย่างแก ขาอ่อนฉัน แกก็ไม่มีสิทธิ์จะได้เห็น อย่าหวังให้มันสูงมากนัก แล้วไม่ต้องติดต่อกลับหาฉันอีกนะเพราะฉันขยะแขยงแก ไอ้ทุเรศ ไปตายที่ไหนก็ไปซะ” ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินจากไปแบบอารมณ์เสีย          

     สิงห์เอามือหยิบผ้ามาเช็ดน้ำที่หน้า แล้วเหวี่ยงลงไปที่โต๊ะ

“โธ่เว๊ย ผิดแผนไปได้ยังไงวะ กำลังจะดีอยู่แล้ว ไม่น่าเลยเรา ดาว ยังไงแกก็หนีฉันไม่พ้นหรอก ลงทุนไปขนาดนี้แล้ว ยังไง ฉันต้องขอเอาคืนบ้างหละ คิดเหรอว่าว่าแกจะหนีฉันรอด คนร่านๆอย่างแก มันต้องเจอฉัน มันถึงจะสมกัน ทำแอปเป็นคนดีไปเถอะ แกทำไม่ได้นานหรอก คนเคยกิน ถ้าไม่ได้กิน เดี๋ยวมันก็จะลงแดงเอง ไม่นานหรอก แกต้องมานอนอยู่ในอ้อมกอดฉัน อีดาว”

>>>>> ----- <<<<<

     ตกดึก กุ้งมานั่งก่อกองไฟอยู่ที่หน้าเต้นท์ นิดนั่งพิงอยู่ข้างๆ “หนาวจัง อากาศเย็นจริงๆนะกุ้ง” ขนาดนิดใส่ถุงมือยังบ่นออกมา เสื้อก็ใส่ซะบางออกขนาดนั้น รู้ทั้งรู้ว่าขึ้นมาบนนี้อากาศเป็นยังไง ยังใส่ชุดแบบนี้ได้ยังไง

“ผมว่าอากาศกำลังดีนะ คุณหนาวเหรอ”กุ้งหันไป พึ่งสังเกตุว่านิดแต่งตัวแบบไหนออกมานั่งพิงเขาอยู่ตั้งนาน

     กุ้งจึงตัดสินใจถอดเสื้อกันหนาวของเขามาห่มให้ “ขอบคุณคะ” นิดกระแซะเอาหัวพิงอกกุ้ง แล้วดึงแขนซ้ายของกุ้งมาโอบเธอไว้เสียเอง “แล้วคุณไม่หนาวเหรอ” กุ้งนั่งพิงไฟอยู่เพราะชินแล้ว จึงสบายๆไม่รู้สึกอะไร อากาศกำลังสบายในความรู้สึกเขา

“ไม่หรอก ใส่มาอย่างนั้นแหละ ความเคยชิน กำลังจะถอดพอดี เพราะเสื้อที่ผมใส่อยู่มันก็แขนยาวอยู่แล้ว พอดีคุณหนาวผมก็เลยให้คุณไป ก็เท่านั้น” นิดอยากจะลองดูอีกครั้งในคืนนี้ เพราะว่า บรรยากาศมันช่างให้เสียเหลือเกิน

     ทั้งสองคนนั่งชมดวงดาว ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่แสนจะสงบ สูดอากาศที่บริสุทธิ์และพูดคุยกันสัพเพเหระอย่างมีความสุข ข้างกองไฟอยู่นาน นิดเอาแขนสวมกอดกุ้งไว้ตลอดคืนจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ อาจเป็นเพราะความอบอุ่นของร่างกายกุ้งก็เป็นได้

     กุ้งอุ้มนิดเข้ามานอนในเต็นท์ และกำลังจะออกไปนั่งพิงไฟด้านนอกต่อ นิดสะดุ้งตื่นจึงดึงแขนขวาของกุ้งเอาไว้แล้วดึงเข้ากอด หน้ากุ้งลอยอยู่ที่หน้าเธอ นิดไม่พูดอะไร รีบดึงกุ้งลงมาจูบแล้วกอดและรีบถอดเสื้อผ้าของกุ้งออกทันที เก็บอาการเอาไว้ไม่ไหวไม่อยู่แล้วจริงๆ เพราะเธอรักกุ้งมาก ถ้ากุ้งจะโกรธจะเกลียดเธอก็ยอมขอให้ได้ในสิ่งที่เธอต้องการก็แล้วกัน อย่างอื่นค่อยว่ากันภายหลัง

     เนื่องจากนิดจู่โจมถึงขนาดนั้น กุ้งซึ่งกำลังเหงาและคิดตัดใจจากดาว จึงมองหาใครสักคนเป็นที่ระบายความเจ็บปวดของเขา จึงไม่รอช้าที่จะตอบสนองความต้องการของนิดในทันที ซึ่งเข้ามาเป็นตัวแปรให้กับเขาพอดีในคืนนี้ เมื่อนิดเสนอเขาจึงสนอง คืนนี้นิดจึงได้เสียกับกุ้ง เป็นของกันและกันในที่สุด กุ้งจัดหนักให้กับนิดแบบเต็มแม็กซ์ เพราะไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้วเป็นเวลาถึง 5 ปีเต็มๆ

     หลังจากที่เอากันจนมันส์ทั้งคืนไปจนถึงวันใหม่ รุ่งเช้าทั้งสองคนจึงหมดแรงนอนกอดกันอยู่อย่างมีความสุข ประมาณ 8 โมงนิดๆ นิดรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน เธออมยิ้มนิดๆเพราะมีความสุขที่ได้กุ้งเป็นสามีสมใจ เสียงด้านนอกเริ่มดังขึ้น เพราะเช้าแล้ว

     นิดค่อยๆปลุกกุ้งที่นอนคว่ำหน้ากอดเธออยู่ในสภาพที่เปลือย “กุ้ง กุ้ง” สงสัยกุ้งคงหมดแรงจริงๆ นิดจึงผลักตัวกุ้งให้พ้นตัวเธอก่อนเพราะหนักทับร่างกายเธออยู่ กุ้งนอนหงายอยู่ต่อหน้า นิดเขย่าตัวกุ้ง เขย่ายังไงก็ไม่ยอมลืมตา จึงตัดสินใจ ก้มลงไปเป่าปี่พระอภัยแต่เช้าเลยทันที สักพักกุ้งรู้สึกตัว เพราะนิดมาปลุกอารมณ์ให้นั่นเอง “นิด โอ๊ว”

     กุ้งเมื่อมีอารมณ์แล้ว ถ้าไม่ปลดปล่อยคงลำบาก นิดไม่รู้ว่าถ้าใช้วิธีนี้แล้ว ตัวเองต้องเจ็บตัว กุ้งรีบผลักตัวนิดลงนอนแล้วรีบจัดการต่อทันที นิดตกใจมาก เพราะตั้งตัวไม่ทันว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ “ผัวขา โอ๊ว ซี๊ด ผัวขา โอ๊ว” นิดพูดไม่เป็นภาษาแล้ว ไม่นานกุ้งก็เสร็จ ปล่อยตัวลงไป เอาปากดูดถันต่อทันที นิดมีความสุขมากในทริปนี้ ได้ทั้งผัวได้ทั้งสิ่งต้องการ

     นิดปล่อยให้กุ้งดูดของเธอจนเป็นที่พอใจ “กุ้ง นิดรักคุณมากนะ ตอนนี้คุณเป็นของนิดแล้ว คุณห้ามไปมีใครอีกนะ เพราะคุณเป็นสมบัติของนิดแต่เพียงผู้เดียวนั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์” ไม่นานหลังจากนั้นประมาณ 9 โมงทั้งสองคนก็เดินทางกลับ กทม.ทันที

***** ^^^^^ *****

     ณ.สนามบินนานาชาติ ดอนเมือง “มาหรือยังนม พี่พิณช่วยกันดูนะว่าพ่อออกมารึยัง” โรสตั้งน้าตั้งตารอพ่อจนอยู่ไม่สุขแล้ว

“ใจเย็น ซิคะคุณหนู เดี๋ยวท่านก็ออกมาเองแหละไหนจะโหลดกระเป๋า ไหนจะตรวจก่อนเข้าอีก ทำเป็นเด็กอายุ 5 ขวบไปได้”

“นั่นนั่นคุณหนู ท่านเดินออกมาแล้ว” พิณชี้ให้โรสดูพ่อตัวเอง “ไหนพี่” โรสมองตามมือที่พิณชี้ให้ดู

“ใช่ พ่อจริงๆด้วย พ่อ พ่อขา ทางนี้คะพ่อ” โรสกระโดดโบกไม้โบกมือให้พ่อแต่ไกล

     พ่อเห็นลูกสาวแล้ว จึงโบกมือตอบเช่นกัน ไม่นาน พ่อก็เดินมาถึงทั้งสามคน “ลูกพ่อ” ชัชวาลกอดลูกสาวสุดที่รัก โรสน้ำตาไหลทันที ที่ได้กอดบุพพาการีที่ไม่อยู่กับเธอเพราะไปทำธุรกิจเกือบเดือน

“พ่อขา หนูคิดถึงพ่อที่สุดในโลกเลย รู้ไหมค่ะ” พูดจบก็กอดคอพ่อและหอมซ้ายหอมขวาอีกครั้งทันที

“พ่อก็คิดถึงหนูเหมือนกัน เป็นไงเรา เจ้าพิณ สบายดีนะ ดูแลลูกฉันดีไหมเนี่ย ดูซิ ทำไมดูผอมลงไปตั้งเยอะ ก่อนไป ดูอ้วนกว่านี้นะ”

“โธ่ท่านเจ้าขา พิณดูแลอย่างดีที่สุดเลย ท่านตาฝาดไปรึเปล่า อายุเยอะแล้ว สายตาคงไม่ดีนะ อ้วนขึ้นกว่าเดิมเสียมากว่าเจ้าค่ะท่าน”

“นี่แนะ” ชัชวาลเขกกบาลพิณเบาๆทันที “มาว่าฉันแก่ สายตาไม่ดีอย่างนั้นเหรอ เชอะ” แล้วก็หันไปทักทายนมพลอย

“เป็นไงบ้างหละนม สบายดีนะ คงจะปวดหัวกับลูกสาวคนนี้น่าดูเลยหละซิใช่ไหม” นมพลอยยกมือสวัสดีเจ้านาย

“สบายดีค่ะท่าน เรื่องนั้นไม่ต้องพูดถึง เคยซนยังไง ตอนท่านไป จนท่านกลับ ก็ยังซนเหมือนเดิม เผลอๆ ยิ่งกว่าอีกด้วยซ้ำค่ะ”

“นมหนะ ช่วยกันเผาแต่หนูคนเดียว ไม่เอาแล้วหนูไม่พูดกับสองคนนี้แล้ว คุยกับพ่อของหนูดีกว่า” โรสอ้อนพ่อเพราะคิดถึง

“ไป พ่อว่า เรากลับ ไปคุยกันต่อที่บ้านดีกว่าไหม หรือว่าจะยืนคุยกันตรงนี้ พ่อจะได้กางเสื่อซะเลย ว่าไง”

     นานๆชัชวาลย์จะปล่อยมุขเด็จเสียที “พ่อหนะ ไป นม พี่พิณเรากลับบ้านกัน” พิณรีบเข็นรถบรรทุกกระเป๋าของเจ้านายไปยังรถที่จอดรออยู่ทันที ในขณะเดียวกัน กุ้งก็รีบมารับลูกค้าคนสำคัญของเขา รีบวิ่งเข้าไปโดยไม่ทันสังเกตุว่าโรสอยู่ที่นั่น กุ้งรีบวิ่งไปที่ช่องขาเข้า เพราะความรีบจึงทำให้กุ้งชนเข้ากับหญิงสาวสวยคนหนึ่งจนเธอล้มลงอย่างแรง “โอ๊ย” กุ้งหันไปดูและขอโทษ “ขอโทษครับ”

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 6 .. “ ชีวิตดินดิน ”

ตอนที่ 5 .. “ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะรัก ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า