Your Wishlist

ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ (ตอนที่ 4 .. “ ความรักที่งอกงาม ”)

Author: วีณา

เมื่อความรักที่ได้มันไม่ได้มาจากหัวใจ นับประสาอะไรกับความมั่นคงที่จะตามมา ถ้าความรักและความปรารถนามันมาจากเงินตรา สิ่งที่ตามมามันก็คงคือเกมส์ เกมส์ของชีวิต รักแท้อยู่ที่ใด คำตอบอยู่ที่ไหน หามันให้เจอ

จำนวนตอน :

ตอนที่ 4 .. “ ความรักที่งอกงาม ”

  • 27/07/2564

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย ไม่มีคำตอบ..จากหัวใจ

    เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. วีณา

นิสัยฉันเปลี่ยนตามสันดานเธอ - จ๊ะ อาร์ สยาม

https://www.youtube.com/watch?v=UoEdAwGiiwg

ขอขอบคุณ คุณ จ๊ะ อาร์ สยาม จาก ค่าย อาร์ สยาม ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 4 .. “ ความรักที่งอกงาม ”

“เป็นไปไม่ได้ ก็ก่อนที่ดิฉันจะไป ดิฉันยังมานอนอยู่ที่นี่เลย ดิฉันจำได้ ที่นี่แน่นอนไม่ผิดบ้านหรอกค่ะ” ยังไงดาวก็ยืนยัน

“ดิฉันเข้าใจแล้ว พี่กุ้งของน้องชื่อจริงชื่อคุณนรากรหรือเปล่าค่ะ” ภรรยานึกอะไรขึ้นมาได้

“ใช่ค่ะ นรากร พี่รู้จักพี่กุ้งใช่ไหม ช่วยไปตามพี่กุ้งให้หนูหน่อยซิ บอกเขาว่า หนูชื่อดาว เมียพี่เค้ากลับมาแล้ว เราทะเลาะกันนิดหน่อย ก็เลยไม่ได้คุยกัน นะนะพี่นะ” ภรรยามองหน้าสามี สามีก็รีบบอกดาวไปทันทีก่อนที่อะไรๆมันจะไม่ทันการเพราะนี่มันก็มืดมากแล้ว

“คุณนรากรขายบ้านหลังนี้ให้เราแล้วครับ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว คงหลังจากที่คุณไปออสเตรเลียนั่นแหละ แค่นี้นะครับ ผมสองคนขอตัว”

     จากนั้นสองสามีภรรยาก็เดินกลับเข้าบ้านทันที ดาวเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจดังเปรี้ยง มือที่กำลูกกรงรั้วอยู่ๆก็เหมือนหมดแรง ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นนั่งพิงประตูรั้วทันที จะทำยังไงต่อไปดีหละทีนี้ คนที่รักก็หาไม่เจอเสียแล้ว จะไปตามหาหัวใจที่ไหนดีหละเนี่ย จะถามเมฆก็ไม่กล้า จะกลับไปมีความสัมพันธ์ต่อกับมอญก็เริ่มไม่สนิทใจแล้ว เมื่อรู้ว่าผัวตัวเองในปัจจุบันดันเป็นเพื่อนกับผัวเก่าตัวเอง ดาวค่อยๆรวบรวมแรงเท่าที่เหลืออยู่พาตัวเองกลับมาขึ้นรถแล้วขับออกไปจากตรงนั้น แต่ที่แน่ๆไม่ได้เข้าบ้านมอญแน่นอน เธอพุ่งตรงกลับไปยังบ้านพ่อของตัวเองก่อนในอันดับแรก แล้วจากนั้นค่อยว่ากันใหม่อีกที ว่าจะตั้งหลักยังไงดี

***** ฿฿฿฿฿ *****

     ประมาณ 4 ทุ่ม เมฆขับรถมาส่งเพื่อนที่บ้านหลังจากดวลเบียร์กันมาจนชุ่มปอด มอญสังเกตุเห็นแล้วว่า รถเขาไม่อยู่ จึงหันหน้าไปบอกเมฆ “เป็นไง ผิดปากกูไหม ถ้าซื้อหวยกูรวยเละไปแล้ว บอกแล้วอีนี่มันต้องไม่อยู่ เอารถกูออกไปหาไอ้กุ้งแล้ว คงเจอหรอก”

“เอาน่า ช่างมันเถอะ อย่างที่กูบอก ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ กูส่งมึงแค่นี้นะ ดึกมากแล้วกูง่วงแล้วบายเพื่อน”

     มอญลงมาจากรถแล้วเกาะที่หน้าต่างโบกมือลาเพื่อน “ขอบใจโว๊ยที่มาส่ง ขับรถกลับบ้านดีๆหละมึง แล้วเจอกัน”

“เออ แล้วเจอกัน” จากนั้น เมฆก็ถอยรถออกไปและพุ่งตรงกลับบ้านไปเลยทันที ไม่นานมอญกำลังจะเดินขึ้นบ้าน รถของตัวเองก็พุ่งตรงเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ดาวเดินลงมาจากรถ ไม่พูดอะไรใช้มือซ้ายผลักมอญแล้วเดินแซงขึ้นบันไดไปเลยทันที

     มอญเข้าบ้านแล้วล๊อกประตูรั้ว เดินขึ้นบันไดและปิดบ้าน เดินตามเข้าห้องไป เห็นดาวกำลังเปลี่ยนชุดกำลังจะอาบน้ำ มอญเลยวัดดวงดูซิว่าดาวจะมีปฏิกิริยาเปลี่ยนไปเช่นใดบ้าง มอญเดินเข้าไปโอบกอดจูบลูบคลำ เล้าอารมณ์เมียทางด้านหลัง ทั้งหอมแก้ม จับและบีบนม ดาวสะบัดมอญออกแบบอารมณ์เสีย “อย่า ไม่มีอารมณ์” มอญเข้าใจเลยว่าดาวเปลี่ยนไปทันทีเมื่อรู้เรื่องของกุ้ง

     มอญไม่สนใจ เพราะยังไงก็ขอใช้สิทธิ์ความเป็นผัวและคนหาเลี้ยง มอญโยนเสื้อยืดของตัวเองออกไปจากตัวและรีบถอดกางเกงทั้งนอกและในออกทันที จากนั้นก็ผลักดาวลงบนที่นอน ทำหน้าที่ผัวตามสิทธิ์ของเขาอย่างไม่รอช้า มือทั้งสองข้างกำมือดาวดันขึ้นไปเหนือหัว ปากและลิ้นก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป ดาวนอนร้องไห้น้ำตาไหลนอนนิ่งเหมือนหุ่นยนตร์ไม่มีอารมณ์ร่วม ซังกะตาย

     มอญใช้เข่าขวาดันขาซ้ายของดาวให้แยกออกอย่างช้าๆแล้วจากนั้นเขาก็จัดการตามระเบียบ มอญทำหน้าที่ของเขาไปตามอารมณ์ที่มีตามความต้องการคงจะมีความสุขเพียงคนเดียว ซึ่งต่างจากดาวที่มีแค่ตัว แต่ไม่มีหัวใจ ร่างกายถูกมอญกระทำอยู่เพียงฝ่ายเดียว

     มอญไม่สนใจว่าดาวจะเป็นยังไง เขาจับขาของดาวข้างหนึ่งยกฟาดไหล่เขา แล้วก็ทำต่อไป ดาวนอนร้องไห้เหมือนตุ๊กตา ปล่อยให้มอญทำอยู่ฝ่ายเดียวไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่นานมอญก็เสร็จ “โอ๊ว..อ๊าว” มอญถึงสวรรค์แล้ว แต่ดาวซิตกนรก

     จากนั้นก็ปล่อยขาดาวลง ตัวเองก็นอนแช่ทับร่างของดาวอยู่ ไม่ถึงสิบนาที ดาวก็ผลักร่างของมอญออก มอญนอนหงายสภาพเปลือยหมดแรงหลับสนิทอยู่ข้างๆเธอ ดาวค่อยๆลุกขึ้นมา เอื้อมมือหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตกอยู่ขึ้นมาใส่ แล้วหันไปมองมอญแบบเกลียด

“ขอให้กูเจอพี่กุ้งก่อนเถอะไอ้มอญ แล้วมึงจะหมดโอกาสที่ทำกับกูเหมือนคืนนี้ สัตว์นรกมาเกิดชัดๆเลยมึงเนี่ย ไอ้เหี้ย”

     แล้วดาวก็เดินเข้าห้องน้ำชำระร่างกายที่บอบช้ำที่เกิดจากกระทำของซาตานอย่างมอญ เธออาบน้ำไปร้องไห้ไปตลอดทั้งคืน นี่นะเหรอคือผลกรรมของเธอที่ได้ทำกับกุ้งไว้ เธอจึงต้องมารับกรรม เจอสัตว์ป่าแบบมอญเข้าให้ สวรรค์คงลงโทษเธอแล้วหละในตอนนี้

----- ^^^^^ -----

     จากนั้นอีก 2 วันหลังจากที่กุ้ง Clear งานของเพื่อนอาตัวเองเสร็จ กุ้งก็ไม่ลืมที่จะไปหานิดที่ผับอีก ตามที่ได้เคยสัญญาไว้ นิดดีใจมากที่กุ้งมาตามสัญญา มาคราวนี้กุ้งไม่เมา แต่กลับมีความสุข อาจเป็นเพราะนิดก็เป็นได้ หรือนี่อาจจะเป็นความรักครั้งใหม่ของกุ้งแล้วก็อาจเป็นได้ อย่าว่าแต่กุ้งมีความสุขเลย นิดเองก็มีไม่น้อยไปกว่ากัน ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา ทั้งสองคนมีแต่รอยยิ้มให้กันตลอด

     ทั้งสองคนก็เริ่มสนิทและแลกเบอร์โทรกัน มีเวลากุ้งก็มารับนิดไปเที่ยวบ่อยขึ้น เท่าที่เวลาของเขาจะมีให้ได้ นานวันไป ยิ่งทำให้หัวใจของนิดรักและชอบกุ้งมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่ตัวกุ้งเองหละรักและชอบนิดเหมือนที่นิดรักและชอบเขาบ้างหรือไม่ ไม่มีใครรู้ กุ้งทำไปเพื่ออะไรหรือเพื่อแก้ปมในใจของตัวเองเท่านั้น เวลาเท่านั้นหละครับที่จะบอกได้ ขอมีความสุขในวันนี้ก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน

***** +++++ *****

     หลายวันต่อมา น้องมายืนรอเพื่อนอีก คราวนี้โกร๋นจึงเข้าไปทักทาย ประกอบกับน้องแค่มารอเพื่อน ไม่ได้ตั้งใจที่จะซื้อ ก็เลยไม่สนใจ พอโกร๋นเข้าไปทักไปคุย น้องก็แกล้งต่อราคาจนโกร๋นต้องอ้าปากค้าง นางไม่ได้ต่อแค่บาทสองบาท ต่อทีเป็น 100 เพราะไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว พอเพื่อนมาน้องก็รีบเดินไปเลยทันที โกร๋นเลยวิ่งออกมาต้อนหน้าต้อนหลัง แล้วร้องเพลงจีบเลยทันที

< นางฟ้าหน้าราม - แช่ม แช่มรัมย์ > https://youtu.be/XKZobfIDF88

     พอเพลงจบ น้องก็ยกนิ้วกลางให้ แถมแลบลิ้นส่งให้อีกต่างหาก แล้วก็รีบลากเพื่อนเดินจากลับสายตาโกร๋นทันที จึงทำให้โกร๋นเกิดปิ๊งและชอบขึ้นมากับบุคลิกห้าวๆและยียวนกวนอารมณ์ของเธอ เป็นเรื่องหละซิ จึงเป็นที่มาให้โกร๋นต้องตามจีบและรู้จักน้องให้มากกว่านี้ เมื่อรู้ว่าน้องเป็นใคร เพราะตามสืบจนได้ว่า เรียนอยู่ที่ไหน ชื่ออะไร เป็นคนจังหวัดใด อายุเท่าใดและพักที่ไหน ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น จึงทำให้โกร๋นปฏิญานกับตัวเองทันที ว่าต้องจีบน้องเป็นแฟนให้ได้ ถึงจะยากเพียงใดก็จะทำ

“ชื่อเพลินพิศ นามสกุล โอฬาร ชื่อเล่น น้อง คนเมืองนครศรีฯ ใต้ซะด้วย อายุ 18 ปีเอง ยัยน้อง เธอหนีโกร๋นไม่พ้นหรอก ซิบอกหั้ย”

     โกร๋นสะแหยะยิ้มแล้วเอามือลูบรอบปาก “เด็กรามสวยแทบทุกคนเลย ไม่เสียแรงที่กูจบถาปัดมา กูจะออกแบบความรักของกูบ้างหละคราวนี้ ใครบอกว่ารักออกแบบไม่ได้วะ กูนี่หละ จะออกแบบความรักของกูในแบบฉบับของกูเองนี่แหละ คอยดู สาวใต้คนงาม”

----- ^^^^^ -----

   รุ่งเช้าวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม อยู่ดีๆก็มีช่อดอกไม้ช่อโต มาส่ง ณ.ที่ทำงานของเอียด พนักงานส่งดอกไม้เอามาให้ตั้งแต่เช้า 8.30 น.เอียดมาทำงาน 9.00 น.เป็นประจำทุกวัน พอเดินผ่านเคาน์เตอร์ เพื่อจะกดลิฟท์ขึ้นไปด้านบน ประชาสัมพันธ์รีบวิ่งถือช่อดอกไม้เอามาให้ทันที เพราะเรียกไม่ทัน “คุณเอียดขา” เอียดเดินมาพร้อมพ่อจึงหยุดและหันมา “ว่าไง” ประชาสัมพันธ์สาวยื่นช่อดอกไม้ให้

“ให้ฉัน เนื่องในโอกาสอะไร” ประชาสัมพันธ์สาวส่ายหน้า

“ไม่ใช่ค่ะ มีคนมาฝากไว้ให้เจ้านายตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวยิ้ม แล้วก็ยื่นช่อดอกไม้ให้

“ของฉัน” เอียดงง “รับไปก่อนเถอะลูก จะของใครก็ช่าง แล้วค่อยไปดูข้างบนว่าใครส่งมาให้ พ่อเมื่อยแล้ว”

     เอียดรับช่อดอกไม้จากประชาสัมพันธ์สาว แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปทำงานทันที พอถึงห้องก็วางกระเป๋าและช่อดอกไม้ลง วันทนีย์เห็นจึงถามออกมาแบบยิ้มๆ <วันทนีย์เป็นเลขาฯทั้งเอียดและวัฒน์> ห้องของทั้งสองอยู่ติดกัน พ่ออยู่ด้านขวา ส่วนลูกอยู่ด้านซ้าย วันทนีย์นั่งอยู่ด้านนอกตรงกลาง ระหว่างทั้งสองห้อง “ของใครไม่รู้ เธอถามก็ดีแล้ว ช่วยดูให้หน่อย พ่อขาวันนี้พี่กุ้งจะมาไหม มีนัดประชุมผู้บริหารไม่ใช่เหรอ อีกอย่าง งานประมูลก่อสร้างของบริษัทแสงเพชรที่ขอมา ยังไม่ได้สรุปเลยนะ แล้วไหนจะเรื่องของคุณสมชายอีก” เอียดหันไปถามเลขาฯ “ว่าไงพี่นี ของใคร” เลขาฯ ดึงการ์ดที่เสียบอยู่ในช่อออกมาอ่านชื่อ

“สิงขร มโนกุลวรภิรมย์ วงเล็บ สิงห์ ใครค่ะบอส แฟนบอสเหรอคะ”

“ไม่ใช่นะ ไม่รู้จัก ไหนดูซิ มีอะไรอีกไหม” วันทนีย์ เอียงซ้ายเอียงขวา เจอการ์ดเล็กๆอีก 1 อันห้อยอยู่ที่ปลายช่อด้านล่าง จึงดึงขึ้นมาดู     แล้วเปิดอ่าน “ขอให้มีความสุขมากๆและสุขภาพแข็งแรงนะครับน้องเอียดที่น่ารัก พี่สิงห์” วัฒน์จำนามสกุลนี้ได้จึงพูดออกมา

“นี่มันนามสกุลของคุณพฤกษ์นี่ สิงขร น่าจะเป็นลูกชายของเขา นี่ลูกรู้จักเขาด้วยเหรอเอียด”

“ไม่นี่คะพ่อ” เอียดไม่รู้จักจริงๆโดยตรง สักพักเอียดนึกขึ้นได้ ว่าสิงห์คนนี้น่าจะเป็นคนเดียวกับคู่หมั้นของนุ่น

     จึงรีบโทรหาเพื่อนแต่เช้า “ว่าไงเพื่อน วันนี้ทำไมถึงโทรหาฉันแต่เช้าได้” เอียดไม่รอช้ารีบยิงคำถามสำคัญกับเพื่อนทันที

“คู่หมั้นแก ชื่อจริงนามสกุลจริงอะไร” นุ่นงง และสงสัยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ตอบกลับไปนิ่มๆ

“สิงขร มโนกุลวรภิรมย์ มีอะไรเหรอ”

“มีเบอร์ติดต่อไหม ฉันขอหน่อยซิ”

“แกจะเอาไปทำอะไร ฉันไม่มีหรอก เพราะฉันไม่ได้สนใจอะไรเขา หรือว่าแกสนใจ”

“บ้า เอาน่าแกช่วยหาให้ฉันหน่อยซิ ได้ไหม”

“ไม่รับปากนะ เดี๋ยวฉันจะถามพ่อกับแม่ให้แล้วกัน ได้เรื่องยังไง แล้วฉันจะโทรไปบอกนะ”

“เออ ขอบใจมากเพื่อน” พอเอียดวางสายพ่อก็หันมาถาม

“ว่าไงลูกตกลงได้เรื่องไหม” เอียดส่ายหน้า แต่เลขาฯคนเก่ง กลับยื่นเบอร์โทรของสิงขรให้ตรงหน้า เพราะเก่งและไวแบบนี้แหละ วัฒน์จึงกล้าจ้างและให้เงินเดือนสูงๆสมกับความฉลาดของเธอ “นี่ค่ะ เบอร์ของคุณสิงขร”

“เธอเอามาได้ยังไง วันทนีย์” เอียดงงมาก

“โธ่ คุณเอียด ไฮโซชื่อดังเสือผู้หญิง อย่างคุณสิงขร Search หาแป๊บเดียว เดี๋ยวก็เจอ โทรไปเถอะค่ะ นี่ได้ข่าวว่า เบอร์ตรงเลยแหละ”

     เอียดตัดใจ ดึงเศษกระดาษจากมือของเลขาฯ “ถ้าพร้อมประชุมเมื่อไหร่ พ่อโทรบอกหนูด้วยแล้วกัน ขอ Clear อะไรบางอย่างก่อน” แล้วเอียดก็เดินเข้าห้องทำงานทันที จากนั้นเลขาฯก็หันมาบอกรายละเอียดของงานวันนี้กับวัฒน์ และแยกย้ายกันไปทำงน

     เอียดเข้ามาถึงห้องตัวเอง วางกระเป๋าสะพายและรีบกดมือถือหาสิงห์ทันที สิงห์กำลังนอนกกอีหนูอยู่พอดี จึงยกนิ้วบอกจุ๊ๆกับสาวน้อยคนนั้นให้เงียบ แล้วเขาก็เอื้อมมือมารับสาย “อรุณสวัสดิ์ครับคนปลายสาย ผมนายสิงห์มีอะไรให้รับใช้มิทราบ”

“คุณส่งดอกไม้มาให้ฉันทำไม ฉันไม่ใช่ยัยนุ่นคู่หมั้นคุณนะ อีกอย่างเราไม่เคยรู้จักกัน กรุณาอย่าทำแบบนี้อีก ดิฉันไม่ชอบ ช่วยให้เกียรติ์ยัยนุ่นเพื่อนฉันด้วย ถ้าเพื่อนฉันรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ มันคงจะไม่ดีแน่ อีกอย่างขอบอกไว้ให้รู้เลยว่า คุณไม่ใช่สเป็คฉัน”

“แหม นึกว่าใคร น้องเอียดคนสวยของพี่สิงห์นี่เอง” สิงห์ไม่สนใจคำด่าและว่ากล่าวจากเอียดเลยสักนิด แต่กลับพูดจาเกี้ยวต่ออีก

“คุณสิงห์ พูดให้ดีนะ ฉันไปเป็นคนของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าใครมาได้ยิน ฉันเสียนะจะบอกให้” เอียดโกรธมาก

“แหมๆๆ ทำเสียงแบบนี้ พี่ชอบ แล้วนี่รู้เบอร์พี่สิงห์ได้ยังไงจ๊ะที่รัก” ทางสาวน้อยก็ลูบคลำเล้าอารมณ์สิงห์อยู่ตลอดจนสิงห์ต้องหันไปหอมแก้มให้รางวัลและคุยต่อ “คิดถึงพี่เหรอจ๊ะ ถึงได้โทรหา” เอียดอยากจะร้องกรี๊ด จึงรีบวางสาย ก่อนวาง ก็ขอด่าสักหน่อย

“ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ แล้วอย่าโทรมาหาฉันและส่งอะไรมาให้ฉันอีกนะ ฉันไม่ต้องการ” แล้วเอียดก็วางสายทันที

     สิงห์หลังจากวางสายกับเอียดก็ไม่ได้สนใจอะไรไม่แคร์เพราะนี่พึ่งเริ่มต้นเกมส์ หันไปฟัดสาวน้อยอีหนูที่สอยมาจากไหนไม่รู้เมื่อคืนต่อทันที เพราะกำลังฟิน เอียดหยิบช่อดอกไม้นั้นเหวี่ยงลงถังขยะทันทีและกด Speak Phone ออกไปบอกนีเลขาหน้าห้องอย่างไว

“พี่นี ช่วยแจ้งประชาสัมพันธ์ข้างล่างด้วยนะว่า ถ้ามีช่อดอกไม้ส่งมาหาหนูอีก ให้ดูด้วยว่าใครส่งมา ถ้าเป็นของคนที่ชื่อสิงขร บอกไปเลยว่าไม่รับ ให้เขาเอากลับได้เลย แต่ถ้ามันเป็นหน้าที่ ก็รับไว้ แล้วเอาไปโยนทิ้งขยะได้เลยไม่ต้องเอามาให้หนู เข้าใจไหม”

“ค่ะบอส เดี๋ยวพี่จะจัดการให้ทันทีตอนนี้เลยค่ะ” วันทนีย์รับสายแต่ละครั้งไม่เคยสบายใจเลยพับผ่าเถอะ

“อ้อ แล้วอย่าลืมโทรตามพี่กุ้งให้หนูด้วยนะ รายนี้เหมือนกัน ไม่โทรก็ไม่ยอมโผล่หน้ามา ฝากด้วยนะ”

“ยินดีค่ะเจ้านาย รับรองบ่ายนี้ เจ้านายได้เห็นหน้าพี่ชายสุดหล่อสุดที่รักแน่นอนเจ้าค่ะ”

***** ฿฿฿฿฿ *****

     มอญมารายงานตัวเข้ารับตำแหน่งใหม่ที่กระทรวง จากนั้นหัวหน้าก็พาชมสถานที่และแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงาน

“งานของคุณ ส่วนใหญ่จะอยู่ภายนอกนะครับ ไปตรวจงานตามไซด์ งานที่ทำการประมูลมา ตรวจเช็ควัสดุว่าถูกต้องตามสเป็คที่แจ้งมาไหม ตรวจแบบที่ส่งมา ทั้งภายในและการออกแบบโครงสร้าง คงจะพอไหวนะ เพราะได้ข่าวว่าจบมาทางนี้นี่”

“ครับท่าน ผมจะทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุด ตามความสามารถที่ผมมีและร่ำเรียนมาเลยครับ”

“ขอบใจมากนะที่รับหน้าที่นี้ ผมรู้และเข้าใจว่ามันหนัก ราชการเงินเดือนมันน้อย ไม่เหมือนเอกชนที่คุณเคยอยู่และทำมา ตอนที่อยู่ออสเตรเลีย” หัวหน้างานพยายามอธิบายให้มอญเข้าใจ เพราะกลัวว่ามอญจะถอดใจเสียก่อน มอญยิ้มให้หัวหน้าด้วยความเต็มใจ

“ผมฝากด้วยนะครับ คุณภมร ค่อยๆทำไป ค่อยเป็นค่อยไป เอานี่ครับงานแรกของคุณในตอนนี้ เป็นงานที่ดองมานานหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่คนเก่าลาออกไป ยังไม่มีใครลงไปดูเลย ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง ถนนชนบทแถวๆบางบัวทอง ที่คู่ขนานกับเส้น 345 มันมีปัญหาอยู่ คุณช่วยลงไปดูและไปตรวจสอบให้ผมทีนะ รู้สึกว่าจะมีปัญหาเรื่องเหล็กเส้น แบบที่โดนแก้จนผิดแบบ ส่วนผสมของน้ำหนักปูนและค่าแรงคนงานอะไรนี่แหละ บริษัท Sub ที่ประมูลตัดตอนออกไป ตุกติก ลองเข้าไปดูนะ ตอนนี้ผมเลยสั่งระงับโครงการไว้ชั่วคราว ถ้าคุณสามารถแก้ปัญหาได้ หลังปีใหม่นี้คงจะสามารถดำเนินการต่อได้ ผมเสียดายลงมือทำไปกว่าครึ่งแล้ว อยากมีถนนให้ประชาชนใช้สักที ผมรบกวนหน่อยนะ ฝากด้วย ผมว่าคุณทำได้นะคุณภมร”

“ครับท่าน ผมจะทำให้ดีที่สุด” ภมรรับมอบงานชิ้นแรกจากหัวหน้า แล้วรีบออกไปทำงานทันทีโดยไม่รอช้า

     ที่เขาทำเช่นนั้น ก็เพื่อที่จะลืมเรื่องราวที่หนักๆของเขากับดาวนั่นเอง ภมรขับรถหรูคู่ใจ ทยานมุ่งไปสู่ไซด์งานทันที โดยไม่รอช้า

>>>>> ***** <<<<<

     โชติรส ไม่ดีขึ้นกับอาการเดิมๆอยู่บ้านก็ไม่มีความสุข วันนี้เลยตัดสินใจออกไปเดิน Shopping คนเดียวเพื่อที่จะให้หายเซ็ง จึงเดินออกไป กำลังจะก้าวขาขึ้นรถ แม่นมรีบตะโกนออกไปทันที

“กำลังจะทำอะไรหนะลูก จะไปไหน แม่เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าถ้าจะออกไปไหนให้เอาพิณไปด้วย ทำไมถึงขัดคำสั่งแม่ ออกไปคนเดียวได้ยังไง ไปเลยเข้าบ้าน เข้าบ้าน วันนี้แม่ไม่ให้ออกไปไหน ถ้าดื้อแบบนี้ โตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ ทำแบบนี้ได้ยังไง เดี๋ยวตีตาย”

“โธ่แม่ขา ให้หนูออกไปเถอะ หนูจะบ้าตายอยู่แล้ว นะแม่นะ” โรสอ้อมแม่นมอีก

“ได้ แต่ต้องเอาพิณไปด้วย ถ้าไม่ ก็ไม่ต้องไปว่าไง” พิณยืนทำตาบ้องแบ๊วรออยู่

“ค่ะๆ จะไปก็ไป เร็วเลยพี่ ไม่ต้องยืนหลบอยู่เลย หนูเบื่อสุดๆแล้ว เซ็งโคตรๆเลย”   

     พิณเตรียมตัวเรียบร้อยเพราะรู้ว่ายังไงวันนี้ได้เที่ยวแน่ จึงรีบวิ่งขึ้นรถทันที โรสรีบขับรถออกไปเลยทันทีอย่างเร็ว แม่นมส่ายหน้าเหลือกำลังเหลือเกินกับลูกสาวคนนี้ แต่ในใจลึกๆก็ยังคงหวังว่าสักวันสิ่งที่เธอคิดต้องสมหวังสักที ตอนนี้ได้แต่รอเวลานั้นเท่านั้นเอง

****** ----- *****

     บ่ายโมงตรงได้เวลาประชุม ทุกคนเข้ามานั่งประชุมกันพร้อมหน้า เหลืออยู่ 1 ที่นั่งที่ยังคงว่างอยู่ที่หัวโต๊ะ เอียดหันไปดูขวามือเธอ พี่ชายตัวดียังไม่โผล่หน้ามาสักที เอียดมองไปที่วันทนีย์เลขาซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ เวลาผ่านไป 15 นาที กุ้งจึงวิ่งถือแฟ้มเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ ที่มาช้า เพราะมัวแต่ไปเที่ยว ดีนะที่ยังจำได้ ถ้าวันทนีย์ไม่โทรไปเตือนก็ซวยกันหละวันนี้ วัฒน์ยิ้มออกเสียที ที่กุ้งมาได้ เพราะถ้าไม่มางานที่ประชุมในวันนี้ต้องกร่อยแน่ๆเลย จึงเริ่มเปิดประชุม หลังจากที่ทุกคนรอคอยกันมานานแล้ว

     และกุ้งก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง โครงการที่กุ้งรับผิดชอบทุกโครงการผ่านฉลุยหมด ทั้ง 5 โครงการ ผู้ถือหุ้นทุกคนยกมือให้ผ่านและยอมอนุมัติทุกโครงการ เพราะสิ่งที่กุ้งนำมา Present ในวันนี้ไม่มีจุดบอดเลยแม้แต่จุดเดียว ใครถามมากุ้งก็สามารถอธิบายได้หมด ทุกคนจึงหมดความแครงใจ ของเจ้าชายสายเสมอคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการสวนหย่อม โครงการสวนน้ำ หมู่บ้านจัดสรร รวมถึงที่ดินรกร้างที่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์แต่กุ้งก็สามารถอธิบายและพูดโน้มน้าวให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจและยอมลงทุนในที่แห่งนั้นได้

     วันนี้ใช้เวลาประชุมค่อนข้างยาวนานถึง 5 ชั่วโมงเต็มกับ 6 โครงการสำคัญๆ หลังจากประชุมเสร็จกุ้งก็รีบลงลิฟท์กลับทันที เอียดจะอ้าปากคุยถามเรื่องส่วนตัวแบบพี่กับน้องบ้างก็หมดโอกาส เอียดมองตามลงไปต้องแปลกใจที่เห็นสาวงามคนหนึ่ง เดินควงแขนกุ้งออกไปจากบริษัท เมื่อลงมาถึงชั้นล่างก่อนที่จะกลับบ้านจึงเดินเข้าไปถามประชาสัมพันธ์ เผื่อเธอจะรู้อะไรบ้าง

“กิ๊ฟ” กิ๊ฟกำลังจะกลับพอดี “ผู้หญิงคนนั้นใครหนะที่เดินควงแขนพี่กุ้งออกไป” กิ๊ฟตอบแบบซื่อๆ

“ไม่ทราบคะบอส แต่หนูมีชื่อพี่เค้าด้วยนะนี่ไงคะ อรทัย พี่เค้าน่ารักดีนะคะ หนูเห็นว่ามากับคุณนรากรบอกไม่ต้องลงชื่อแลกบัตรก็ได้ แกบอกไม่เป็นไร ให้ทำตามหน้าที่ สงสัยแฟนคุณนรากรแน่เลย เพราะเห็นตั้งแต่มาแล้ว เมื่อตอนบ่าย ตัวเนี่ยติดกันยังกะตังเมเลย สงสัยเร็วๆนี้บอสคงจะได้พี่สะใภ้แน่แล้วหละค่ะ พี่แกนั่งนิ่งมากเลย ตั้งแต่คุณนรากรขึ้นไปประชุมจนลงมา แกไม่ได้ลุกไปไหนเลยนอกจากไปห้องน้ำที่เดียวเท่านั้น โชคดีนะคะบอส หนูขอตัวกลับก่อนหละ” กิ๊ฟจากไปคงทิ้งความสงสัยไว้ให้กับเอียด

“อรทัย เธอเป็นใครนะฉันต้องรู้ให้ได้ เก่งเหมือนกัน ที่สามารถทำให้พี่ชายที่แสนจะเย็นชาของฉัน เปิดใจได้อีกครั้ง ไม่เบาๆ อรทัย”

***** +++++ *****

     โรสเดินเที่ยวเดิน Shop จนไม่รู้จะ Shop ยังไงแล้วก็ยังไม่หายเบื่อ ขนาดเข้าไปดูหนังจนออกมานั่งทานนั่นทานนี่ ก็ยังหงุดหงิดอยู่ดีเพราะนรากรไม่ยอมโผล่มาให้เห็นหน้าอีกเลย จนต้องมาหาที่พักนั่งสงบสติอารมณ์ และดูเหมือนสวรรค์ จะกลั่นแกล้ง ขณะที่โรสกำลังนั่งบีบขาอยู่ชั้นล่าง และเงยหน้าขึ้นไปมองไปมองมาเรื่อยเปื่อย ก็เหมือนว่าจะเห็นกุ้งเดินอยู่บนชั้น 2 ในห้างแห่งนี้ แต่ไม่เห็นนิด เพราะมันไกล โรสไม่แน่ใจ จึงรีบลุกขึ้นและวิ่งเพื่อจะตามไปดูว่าใช่กุ้งไหม ก็ชนเข้าให้กับเมฆอย่างจัง

     กาแฟเย็นที่เมฆถือมากระเด็นใส่เสื้อทันที เลอะเสื้อเต็มไปหมด เสื้อสีขาวชัดเจนจริงๆ เมฆหันไปดูแต่ไม่ทันแล้วว่าใครที่วิ่งชนเขา เห็นแต่หน้าอย่างชัดเจนและหลังไวๆ รู้ว่าสวยและน่ารัก เท่านั้น “คุณ..ไปแล้ว หมดกันเรา” ดีนะที่เลิกงานแล้ว ไม่งั้นแย่เลย

“คุณหนู ไปไหนคะ รอพิณด้วย” พิณวิ่งสวนตามไปผ่านเมฆอย่างไว เมฆหันกลับมาก้มลงดูตัวเอง

“ซวยจริงๆฉันวันนี้” แล้วก็สังเกตุเห็นว่ามีผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งหล่นอยู่ตรงรองเท้าของเขา จึงก้มลงไปเก็บขึ้นมา

“สงสัยจะเป็นของยัยคนนั้นที่ชนเราแน่เลย” เมฆมองสังเกตดูใกล้ๆพลิกไปมาก็มีชื่อปักอยู่

“Rose ดอกกุหลาบ” เมฆรำพึงออกมาเบาๆ Rose ที่แปลว่าดอกกุหลาบ เป็นตัวอักษรโรมันสีแดง

     แล้วเขาก็เก็บใส่กระเป๋ากางเกง และเดินเข้าร้านขายเสื้อผ้าชายทันที เพื่อหาเสื้อเปลี่ยน ไม่อยากเดินทั้งเปื้อนๆแบบนั้น ทางโรสวิ่งขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้นสองทันที “พี่กุ้ง ต้องใช่พี่กุ้งแน่นอน” โรสวิ่งดูเท่าที่แรงของเธอจะมี เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ก็ยังคงวิ่งหาจนกว่าจะเจอ แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่ากุ้งเดินหายไปทางไหน เวลาผ่านไปอีก 2 ชั่วโมง ประมาณเกือบ 2 ทุ่ม โรสหมดแรงที่จะตามหากุ้งชายในดวงใจของเธอแล้ว จึงมานั่งพักอีกครั้ง แต่สำหรับพิณหนะ นิ่งไปนานแล้ว เพราะไม่ไหว จึงขอไปนอนรอที่รถ

     ไม่นานโรสก็ลุกออกจากตรงนั้น ซึ่งเป็น ชั้น 5 โซนของศูนย์รวมความบันเทิงและร้านอาหาร หลังจากที่โรสลุกและเดินเข้าลิฟท์ไป กุ้งกับนิดก็เดินออกมาจากร้านอาหารตรงนั้น ตรงที่โรสนั่งอยู่เมื่อกี้ โรสขับรถออกไปจากห้าง ด้วยใจที่แตกสลายเป็นครั้งที่สอง

///// +++++ /////

     คืนนี้เอียดพยายามโทรหาพี่ชาย แต่ก็ไม่เป็นผล กุ้งปิดเสียงและเปิดสั่นเอาไว้ เพราะถือว่ามืดแล้วไม่อยากรับงานขอมีเวลาความเป็นส่วนตัวและร้ายไปกว่านั้น นิดมาทำงาน ไม่ยอมให้กุ้งห่างกายเธอ ลากกุ้งมาด้วย กุ้งนั่งอยู่ในผับค๊อกเทลเล้าน์ที่นิดทำงานด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ได้ยินแน่นอน จึงทำให้เอียดโมโหมาก ปาโทรศัพท์ทิ้งลงบนที่นอนอย่างแรง

“พี่กุ้ง คอยดูนะ หนูต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เจ็บแล้วไม่จำ ถ้าใจพังมาอีก คราวนี้ จะเหยียบซ้ำเลยคอยดู มีความรักแล้วแบบนี้ทุกที ลืมน้องลืมครอบครัวหมด พอเจ็บแล้วก็มานั่งฟูมฟายอยากจะตายขึ้นมาทุกที พี่กุ้งนะพี่กุ้ง อย่าให้เจอนะ น่าดู”              

***** ///// *****

     วันใหม่มาถึง โกร๋นพยายามดักเจอเพื่อที่จะพูดคุยและทักทายอย่างเป็นทางการกับน้องให้ได้ แต่ก็ยังไม่เป็นผลขนาดลงทุนตามจากหอพักไปจนถึงรั้วมหาวิทยาลัย ถึงคณะที่น้องเรียน ก็ยังคงแอบซุ้มดูอยู่ห่างๆ ยังไม่มีโอกาสเข้าถึงตัวของน้อง แต่โกร๋นก็ยังคงสู้

%%%%%% ----- %%%%%%

     โรสกลับมานั่งคิดและทบทวนอยู่นานกับสิ่งที่ได้เห็น “พี่กุ้งไปทำอะไรที่นั่น ถ้าตาฉันไม่ฝาด พี่กุ้งไม่ได้มาคนเดียว แล้วใครหละที่มาด้วย และพี่กุ้งหายไปไหนได้ยังไง ไม่เข้าใจ มันไม่ถูกต้อง” สักพักก็นึกขึ้นมาได้ “แล้วนี่เราจะไปนึกและคิดถึงเค้าทำไมเนี่ยโรส”

***** >>><<< *****

     ดาวยังคงทนอยู่กับมอญ ยอมเป็นสัตว์เลี้ยงให้มอญระบายความใคร่ไปวันๆ เพราะยังทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเลี้ยงชีพและเอาตัวรอดของเธอให้อยู่ได้ไปก่อน เนื่องจากตอนนี้เธอไม่มีอะไรจริงๆมีแต่ตัวเปล่าๆ สืบเนื่องจากเมียหลวงของอดีตผัวเก่าได้มาฉกและทวงคืนเอาสมบัติที่เธอเคยได้ไปหมดแล้ว เธอจึงพยายามเสาะหาตามหา ไปทุกที่ทุกแห่งที่คิดว่ากุ้งจะไป เบาะแสสุดท้ายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก็คือบ้านหลังนั้น แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนมือไปแล้ว ดาวจะทำยังไงต่อไปดีหละคราวนี้ เมื่อหมดหนทาง วิธีเดียวเท่านั้นที่จะรู้ว่ากุ้งอยู่ไหน นั่นก็คือเมฆเท่านั้น เพราะถ้าขืนบากหน้าไปถามมอญ มอญก็คงไม่บอกอะไรเธออย่างแน่นอน

     เมื่อคิดได้เช่นนั้น ดาวจึงนั่งพักลงในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งและคิดหาวิธีจะทำยังไงถึงจะได้เจอเมฆอีก เพราะเบาะแสอะไรกับตัวเมฆเธอก็ไม่มีเลย พอๆกับกุ้งที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เมื่อคิดไม่ออก ดาวจึงได้นั่งหลับตาและเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าใช้สมาธิในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในครั้งนี้ ไม่นานเธอก็พบกับทางออก และนั่นก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้

     ดาวรีบพิมพ์ชื่อและนามสกุลของกุ้งใน Google แต่ก็ไม่เจอ เพราะกุ้งไม่เคยใส่อะไรลงไปในข้อมูลข่าวสารในโลก Social เลยถึงแม้จะเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่อย่าง แสงตะวัน เพราะกุ้งไม่เคยใช้ชื่อตัวเองออกหน้า คงใช้ชื่อของเด่นที่เป็นผู้จัดการเท่านั้น

“ทำไมไม่เจอเลยหละ พี่กุ้ง นี่พี่ไม่มีแม้แต่เฟสเลยเหรอ คนอะไร บ้าจริงๆ แม่แต่ Facebook ก็ไม่มี แล้วนี่ฉันจะเจอตัวพี่ได้ยังไงเนี่ย”

     เมื่อหากุ้งไม่เจอ ก็ลอง Seach หาเมฆ โชคดีที่เมฆมีเฟส ดาวสุ่มจากชื่อเล่นของเมฆนั่นแหละ เพราะไม่เคยรู้ชื่อและนามสกุลจริงของเขา ไปเจอเข้ากับ “จอมเมฆิน ผู้น่ารัก .. นี่พี่เมฆนี่ โชคดีจัง” ดาวรีบกดขอเป็นเพื่อนทันที และนั่งรอว่าเมื่อไหร่เมฆจะรับเธอเป็นเพื่อน แต่เนื่องจากเมฆกำลังทำงานอยู่ในเวลางานเมฆจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เมื่อรอจนนานยังไม่มีสัญญานตอบกลับมา ดาวจึงไม่รอ แต่ก็ยังพอมีความหวัง จึงเก็บโทรศัพท์ใส่กางเกง และลุกขึ้นทันทีโดยไม่ได้มองว่ามีใครเดินผ่านมาบ้าง

     ดาวลุกขึ้นมาชนเข้ากับสิงห์อย่างแรง จนสิงห์เซออกไปทันที ขณะที่สิงห์กำลังเดินโทรศัพท์หาใครสักคนอยู่ สิงห์เกือบล้มลง จึงหยุดคุยโทรศัพท์และหันมาต่อว่าดาว แต่พอเห็นหน้าดาวเข้าชัดๆ ก็ด่าไม่ลง เพราะดาวสวยและน่ารักถูกใจ ตรงสเป็คสิงห์มาก

     สิงห์มองรูปร่างและสัดส่วนของดาวแล้วน้ำลายไหลขึ้นมาทันทีในใจ ดาวขอโทษสิงห์เพราะความซุ่มซ่ามของเธอ

“ขอโทษจริงๆนะคะคุณ ดาวไม่ทันระวัง เป็นอะไรมากไหมคะ”

     สิงห์เอามือเขามาประกบมือดาวทั้งสองข้างขณะที่ดาวเข้ามาขอโทษ

“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ซุ่มซ่ามที่เดินแล้วไม่ได้มองทางมัวแต่โทรศัพท์เพลินไปหน่อย เอาเป็นอันว่า ผมยกโทษให้คุณก็แล้วกัน”

“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ไม่เอาเรื่องดาว ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดาวต้องขอตัวก่อนนะคะ”

“จะไปไหนเหรอครับ ถ้าไม่มีธุระอะไรที่ไหน ผมขอชวนคุณไปนั่งทานอะไรสักหน่อยจะได้ไหมครับ”

“เออ..ดาว” ดาวเริ่มเขินๆอยู่ดีๆคนแปลกหน้าคนหนึ่งมาชวนไปนั่งทานอะไรซะแล้ว

     แต่ด้วยสัญชาติญานของสาวผู้กร้านโลกกร้านผู้ชายอย่างเธอ เธอมองตาของสิงห์แป๊บเดียวก็พอจะดูออกว่าผู้ชายคนนี้เป็นเช่นไร จึงหลุดปากออกไปโดยไม่รู้ตัว “ยินดีค่ะ งั้นถือว่า ขอเป็นการไถ่โทษที่ดาวชนคุณเมื่อกี้แล้วกันนะคะ”

“ก็ได้ครับ เชิญครับ” สิงห์ผายมือออกไปราวกับดาวเป็นเจ้าหญิงแล้ว เขาโค้งนิดๆ จากนั้นสิงห์ก็พาดาวมานั่งทานอาหารมื้อกลางวันที่ร้านอาหารแถวนั้นและพูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น จนทำให้ดาวลืมความทุกข์อันหนักหนาสาหัสของเธอไปได้ชั่วขณะทันที

<<<<< ===== >>>>>

     เอียดงานยุ่งทั้งวันจนลืมเรื่องของพี่ชาย พอนึกได้ก็รีบบอกให้เลขา พยายามติดต่อและโทรหาพี่ชายตัวเองให้ได้

“พี่นี” เอียดโทรหาเลขาหน้าห้องก่อนออกจากห้องประชุม “ติดต่อพี่กุ้งได้รึยัง”

“ยังไม่ได้เลยค่ะ คุณกุ้งไม่ยอมรับสาย แต่นีส่งข้อความไปบอกแล้วนะคะบอส ใจเย็นๆ พี่คิดว่าภายในสองวันนี้คุณกุ้งน่าจะติดต่อกลับเข้ามาอย่างแน่นอนถ้าไม่ยุ่งจนมากเกินไป เพราะเท่าที่ดูตารางงานของแก เยอะมากทีเดียว นะคะใจเย็นๆเชื่อพี่”

“ได้ๆ แค่นี้นะ” พอวางสายกับนี เอียดก็หันไปเห็นสมชายกำลังเดินเข้าไปที่ห้องประชุมเล็ก จึงเดินตามไปอย่างช้าๆเพราะอยากจะถามอะไรสักหน่อย มองเข้าไปเห็นพ่อตัวเองนั่งอยู่ จึงเสียมารยาทเปิดประตูเข้าไปทันที “คุณพ่อ”

“อ้าวยัยเอียด มีอะไรด่วนกับพ่อหรือเปล่าลูก” วัฒน์หันหน้าไปถามลูกขณะที่สมชายกำลังจะนั่ง เลยยืนอยู่ก่อน

“เอียดต้องขอโทษที่เสียมารยาท เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”

“ไม่เป็นไร พ่อไม่มีความลับอะไร เอ้ามีอะไรก็ว่ามา” เอียดหันไปที่สมชาย

“คุณอาคะ นี่คืออะไร” เอียดโยนแฟ้มของผลประกอบการที่มีปัญหาแฟ้มเดียวกันกับที่พ่อให้สมชายไป ลงที่โต๊ะดังโครม

“เอียดว่าจะถามคุณอามาตั้งหลายวันแล้ว เอียดพึ่งออกมาจากห้องประชุมสรุปผลประกอบการประจำปี แล้วเจอปัญหานี้ คุณอาช่วยอธิบายให้เอียดฟังหน่อยได้ไหมคะกับยอดเงินที่มันหายไปเหยียบสิบล้าน กับลายเซ็นต์ของคุณอา”

     สมชายยืนเหงื่อตก เพราะไม่คิดว่า เอียดจะรู้ได้เองเร็วถึงขนาดนี้ สมกับที่เรียนจบเอกการเงินมาจากต่างประเทศจริงๆ

“ว่าไงคะ คุณอามีอะไรที่จะบอกหนูได้ไหมคะ” สมชายรีบยกมือไหว้วัฒน์กับเอียดทันที และบอกความจริงไหนๆก็ไหนๆแล้ว

“ผมขอโทษด้วยครับท่าน ผมมีความจำเป็นจริงๆที่ต้องทำแบบนี้” วัฒน์โมโหมากที่เรื่องที่เขาสืบทราบมาเป็นความจริง

“คุณทำอย่างนี้กับผมได้ยังไงคุณสมชาย 1 ปีเต็มๆ ที่คุณยักยอกเงินบริษัทไป คุณทำได้ยังไง”

“ผมมีความจำเป็นจริงครับท่าน ยกโทษและให้อภัยผมด้วยเถอะ” สมชายทรุดลงคุกเข่าขอความเห็นใจจากคนทั้งสอง

     เอียดโมโหมาก ได้แต่ยืนกอดอกแล้วหันหน้าไปที่อื่นไม่มองสมชาย

“นี่ถ้าลูกสาวผมไม่มาบอก ไม่ตรวจสอบเจอ ผมคงจะโดนคุณหลอกอยู่อีกนานใช่ไหม มีอะไรทำไมถึงไม่บอกกันตามตรง ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่า เราเป็นครอบครัวเดียวกัน มีอะไรก็ขอให้บอกกันตามตรงเราจะช่วย”

“คือตอนนั้นลูกชายผมกำลังโคม่า ต้องรีบใช้เงินด่วนเพื่อใช้ในการผ่าตัดเหยียบล้าน ผมไม่มีทางเลือก ถ้าไม่มีเงินก้อนแรกไปวางให้กับโรงพยาบาล เขาบอกว่าจะไม่ผ่าตัดให้ ผมก็เลยต้องทำ ผมขอโทษด้วยนะครับท่าน”          

“คุณอาคะ เอียดไม่รู้หรอก ว่าครอบครัวของคุณอาเป็นยังไง แต่นี่มันเป็นเงินของลูกค้า คุณอาก็เป็นคนเก่าแก่ที่นี่ คุณอาก็น่าจะรู้ คุณอาไม่น่าทำ 1 ปี ไม่ใช่ 1 เดือน เมื่อรู้ว่าผิดแล้วทำไมถึงไม่เอาเงินมาใส่ให้มันเหมือนเดิมหละคะ เอียดยังคงที่จะมองผ่านทำเป็นมองไม่เห็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ให้ เพราะเอียดถือว่า เราอยู่กันมานาน ก่อนที่เอียดจะเกิดเสียอีก แต่คุณอาก็ไม่ทำ กับปล่อยเฉยและทำต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้เอียดรับไม่ได้ ก็แล้วแต่คุณพ่อนะคะ เอียดคงบอกได้เพียงเท่านี้ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพ่อเองแล้วหละ หนูให้เวลาพ่อคิด ไม่เกิน 5 นาที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเขามารออยู่นานแล้ว จะทำอะไรก็รีบทำนะคะ ก่อนที่เอียดจะเปลี่ยนใจเรียกตำรวจเข้ามาในตอนนี้” พูดจบเอียดก็เดินออกไปจากห้องนั้นทันที

     วิวัฒน์นั่งลง แล้วจับแฟ้มเจ้าปัญหาเหวี่ยงออกไปหน้าประตู “เอาหละคุณสมชาย ไหนๆคุณก็อยู่กับเรามานาน ความดีและผลงานก็มีมาก วิธีนี้ผมถือว่าดีที่สุด คุณคงเข้าใจนะว่าผมหมายถึงอะไร” สมชายพอที่จะทราบ จึงพูดออกไป

“เข้าใจครับท่าน ผมจะลาออกเอง และจะพยายามหาเงินมาคืนท่านเท่าที่จะทำได้มากที่สุด ขอขอบคุณท่านมานะครับที่ไม่เอาผมเข้าคุก ไม่งั้นแล้วครอบครัวผมคงจะแย่และลำบากอย่างแน่นอน ผมขอตัวหละครับ แล้วต่อไปนี้ ผมจะไม่มาให้ท่านเห็นหน้าอีกตลอดชีวิต ขอบคุณมากจริงๆครับ” แล้วสมชายก็เปิดประตูออกมา เห็นเอียดยืนหันหลังอยู่

“ผมลาก่อนนะครับคุณหนู ขอโทษจริงๆครับ” แล้วสมชายก็เดินออกไปด้วยใบหน้าที่หมองเศร้า เอียดยืนร่ำให้อยู่คนเดียวหน้าห้อง

     แล้วก็กดโทรศัพท์บอกเลขาฯ “ช่วยบอกคุณตำรวจ 2 คนที่มา ให้กลับได้และบอกถึงเหตุผลด้วยนะว่าทำไม” แล้วก็ให้ของฝากติดมือกลับไปด้วยคือนมสดแพ็คใหญ่จากบริษัทของกุ้งพี่ชายตัวเองอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้ทุกคนในบริษัทสงสัยว่าตำรวจมาทำไม

     วัฒน์เดินออกมาจากห้องประชุมเล็กเข้ามาปลอบใจลูกสาว “พ่อเข้าใจนะลูก ว่าลูกเป็นยังไง แต่กฎก็คือกฎ ลูกทำดีที่สุดแล้วนะ” เอียดหันไปซบไหล่ของพ่อและร้องไห้ออกมาไม่หยุด ขนาดคนใกล้ชิดคนเก่าแก่ที่ทำงานร่วมกันมาเกือบ 20 ปี ยังทำกันได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนแปลกหน้าไกลตัวอย่างสิงขร จะมาหวังดีอะไรกับเธอ นอกจากจะสร้างความไม่สบายใจในชีวิตเสียมากกว่า

***** ----- *****

     และแล้วสิ่งที่ดาวรอคอยก็สัมฤทธิ์ผล คืนนี้ดาวลองเข้าไปดูที่เฟสตัวเอง เมฆกดยอมรับเป็นเพื่อนแล้ว จึงรีบลุกออกมาจากเตียงหลังจากที่มอญพึ่งเก็บเกี่ยวความเป็นผัวเสร็จไปได้ไม่นานและนอนหลับอยู่ข้างๆเพราะหมดแรงเพลียจากการทำงานในวันนี้ ดาวรีบลุกขึ้นมาแล้วเอาเสื้อคลุมมาใส่ปิดบังร่างกายที่เปลือยและเดินออกไปยังหน้าบ้านรีบโทรหาเมฆด้วย Messenger ทันที

     เสียงดังขึ้นขณะที่เมฆกำลังนั่งดูทีวีอยู่อย่างเพลินใจ เมฆหันไปดูเห็นเป็นชื่อ ดาวดวงน้อย แต่ไม่ปรากฏใบหน้า เพราะดาวไม่ได้ใส่รูปตัวเองไว้ คงใส่แต่รูปดวงดาวไว้เฉยๆ “สวัสดีครับ” เมฆรับและพูดสายโดยไม่รู้ว่าเป็นดาว

“พี่เมฆ นี่ดาวนะ” เมฆตกใจมากที่ได้ยินเสียงเธอ จึงดูอีกที ว่าโทรมาจากอะไร

“รู้เฟสพี่ได้ยังไง” เมฆถามเพราะลืมไปว่าตัวเองกดรับเข้าไปเมื่อตอนเย็นๆโดยไม่รู้ว่าใคร นานๆมีคนขอเป็นเพื่อน จึงไม่ปฏิเสธ

“ไม่ต้องถามหรอกว่าหนูเอามาจากไหน” ดาวพูดไม่ดังมาก เพราะกลัวมอญได้ยิน จึงเอามือป้องปากเอาไว้

“แล้วดาวโทรมาหาพี่มีธุระอะไร” เมฆยิงคำถามไปตรงๆเลย เพราะในความรู้สึกคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องของกุ้งแน่นอน

“พี่รู้ใช่ไหมว่า พี่กุ้งอยู่ไหน นะพี่นะ บอกหนูหน่อย หนูอยากเจอ นะพี่นะ หนูไหว้หละ”

     ยังไม่ทันที่เมฆจะได้ตอบ มอญก็เข้ามาทำให้ดาวฝันสลายเสียก่อน

“อีดาว มึงทำอะไร มานี่ อีเมียเลว แอบโทรหาชู้ตอนกูหลับเหรอมึง” พูดจบก็ตบฉาดเข้าให้ มอญตบดาวด้วยหลังมือไปที่แก้มซ้ายของดาวจนล้มลง เสียงดังโครมครามจนเมฆต้องถาม

“ดาว ดาว เป็นอะไรหนะ” มอญดึงมือดาวขึ้นมาแล้วแย่งโทรศัพท์ แต่ไม่ทันได้ดูว่าใคร เขาพูดใส่เข้าไปในโทรศัพท์ทันที

“เป็นชู้กับเมียกูเหรอมึงหนะ ระวังตัวไว้ให้ดี จะไม่ตายดี ถุย” เมฆงงมาก นี่มันเรื่องอะไรกันวะ สักพักเสียงสัญญานก็ดับวูบหายไป

     มอญเหวี่ยงโทรศัพท์ดาวลงกับพื้นทันทีอย่างแรงจนแตกกระจายต่อหน้า จากนั้นก็อุ้มดาวกลับเข้าห้องและทำโทษเมียทันที โทษฐานที่ขัดใจทำให้โมโห คืนนี้มอญเลยจัดหนักให้กับดาว แบบซาดิสต์ไปเลย บางครั้งมอญก็ชอบความรุนแรงก่อนที่จะมี Sex มอญดึงผ้าคลุมที่ดาวใส่อยู่ออก จนร่างกายเปลือยเปล่าดังเดิม แล้วก็จัดการกับดาวเยี่ยงสัตว์ป่าที่หลงมาติดกับดักนายพรานอย่างมอญ แบบน่าสงสาร แต่จะทำยังไงได้ ถึงดาวจะดิ้นและไม่ยอมยังไง ก็คงไม่พ้นเงื้อมมือมัจจุราชอย่างมอญได้ในทุกๆคืน

     มอญไม่สนใจถึงแม้ว่าดาวจะร้องไห้และขืนขัดเท่าใด ยิ่งไม่ยอมยิ่งต่อต้านเขาก็ยิ่งทำ เพื่อให้รู้ว่า ดาวเป็นสมบัติของเขาแต่เพียงผู้เดียวคนอื่นไม่มีสิทธิ์ ดาวจึงต้องทนเจ็บและทุกข์ทรมานเสมอมา เวลาร่วมเพศทุกครั้ง ดาวจึงนอนนิ่งเหมือนผัก ไม่ตอบสนองอะไร

\\\\\ ----- /////

     2 วันต่อมา กุ้งติดต่อเข้ามาจริงๆผ่านมาทางวันทีย์เลขาฯส่วนตัว “มีอะไรด่วนเหรอคุณนี พอดีผมกำลังยุ่ง มีอะไรก็รีบว่ามา”

“เจ้านาย ตอนนี้เจ้านายอยู่ไหนคะ คุณเอียดเดือดใหญ่แล้ว เพราะเจ้านายหายไป ถ้าว่าง ยังไงช่วยเข้ามาก่อนให้นางเห็นหน้าสักนิดก็ยังดีจะได้ไหม ตอนนี้นีเองก็เข้าหน้าไม่ติดแล้ว วันก่อนก็พึ่งไล่คุณสมชาย ผู้จัดการคนเก่าคนแก่ออกไป นะเจ้านาย นึกว่านีขอหละ”

“นี่นี ที่ฉันยอมยกเธอให้เป็นเลขาคุณอากับเอียดเนี่ย ก็เพราะฉันไว้ใจ อย่าทำให้ฉันต้องดึงตัวเธอกลับมาจากที่นั่นนะ ถ้าเรื่องแค่นี้แก้ไขสถานการณ์ไม่ได้หละก็ สิ้นปีนี้เธอเตรียมตัวกลับมาทำงานที่แสงตะวันเหมือนเดิมได้เลย แค่นี้นะ เข้าใจไหม รู้ทั้งรู้ว่าฉันวุ่นแค่ไหน อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยไปซิ ทำไม เรื่องจิ๊บๆแค่นี้ เริ่มหมดไฟแล้วรึไง” กุ้งเริ่มหัวเสีย สงสัยเลขาคนเก่งน่าจะเริ่มหมดไฟ

“ไม่นะคะเจ้านาย นีขออยู่ที่นี่เหมือนเดิมหนะดีแล้ว ไม่อยากกลับไปปวดหัวที่แสงตะวันนะนะ ก็ได้ๆนีจะทำให้ดีที่สุด อ้อ อย่าพึ่งวางนะ” นีมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะพูดต่อ “มีอะไรก็รีบว่ามา” กุ้งรีบจริงๆ เพราะกำลังพูดคุยเรื่องต่อสัญญาส่งนมกับบริษัทแห่งหนึ่ง

“คือผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะนาย คนที่นายพามาด้วยเมื่ออาทิตย์ที่แล้วตอนประชุมหนะ ที่ชื่ออรทัยรึไงเนี่ย คุณเอียดหัวเสียเรื่องนี้หละนาย นะบอกนีหน่อย อย่างน้อยถ้านายบอกนี นีจะได้แก้ไขสถานะการณ์ให้นายได้ไงนะนะนิดนึง แฟนนายเหรอ”

“ไม่ใช่ เอาเป็นว่า เป็นคนสำคัญคนหนึ่งก็แล้วกัน แค่นี้นะฉันต้องไปแล้ว ถ้าไม่จำเป็น ไม่ต้องโทรมานะ มีอะไรเดี๋ยวจะติดต่อไปเอง”

“ค่ะๆนาย ดูแลตัวเองด้วยนะคะ นีเป็นห่วง” พอวางสาย กุ้งก็รีบเดินเข้าห้องประชุมของบริษัทลูกค้าทันที

     เอียดเดินเข้ามาพอดีหลังจากที่นีวางสาย “คุณเอียดคะ คุณเอียด” เอียดหันมาก่อนที่จะเข้าห้องทำงานตัวเอง “มีไร”

“นายโทรเข้ามาแล้วค่ะ” เอียดดีใจมาก “แล้วพี่กุ้งว่าไง จะมาหาเอียดวันไหน” นีส่ายหน้า

“นายไม่ได้บอกอะไร เพียงแค่ให้ฝากบอกคุณเอียดว่า ตอนนี้ติดงานอยู่ มีอะไรเดี๋ยวจะโทรหาเองไม่ต้องโทรไป”

“ติดงานหรือติดผู้หญิง ชิ พี่กุ้ง” พูดจบก็ดันประตูเดินเข้าห้องไป งอนพี่ชาย จนนีต้องรีบวิ่งเข้าไป Clear แทนนายตัวเอง

“โธ่ บอสขา บอสอย่าเข้าใจนายผิดอย่างนั้นซิคะ เรื่องนั้นนีถามให้แล้ว นายบอกว่าไม่ใช่แฟน เป็นแค่เพื่อนสนิท คนหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่คนสำคัญอะไรที่ไหนเหมือนอย่างที่บอสคิดนะคะ” เอียดทำหน้าไม่เชื่อ

“เชอะ เพื่อน กอดกันนัวเนีย ไม่ห่างกันขนาดนั้น อย่าแก้ตัวแทนเจ้านายของเธอเลย ช่วยกันปิดบังฉันดีนัก อย่าให้ฉันรู้เชียวนะว่าเธอช่วยกันปิดบังอะไรฉันเอาไว้ ถ้าฉันจับได้เมื่อไหร่ฉันส่งเธอกลับแสงตะวันทันที ถึงจะทำงานดีทำงานเก่งยังไง ฉันก็ไม่เอาไว้ คอยดู ไป จะไปไหนก็ไป ฉันเหม็นขี้หน้าเธอแล้ว ไป ไป ใช้ให้ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องเลย ไม่ได้ดังใจเลยสักคน พี่กุ้งหลบได้หลบไป ชิ..”

     พูดจบนีต้องรีบออกไปจากห้องทันที รู้แล้วว่า ภูเขาไฟกำลังปะทุ ไม่อยากให้ระเบิดออกมา จึงรีบชิ่งออกมาทันทีก่อนที่จะแย่

***** ///// *****

     2 อาทิตย์ผ่านไป นิดมาเซอร์ไพร์สกุ้งถึงที่ทำงานที่ปากช่อง

“สวัสดีค่ะ ที่นี่แสงตะวัน มีอะไรให้รับใช้คะ” เสียงใสๆของ ประชาสัมพันธ์สาวตอบกลับไป เมื่อเห็นนิดเดินเปิดประตูเข้ามา

“คุณนรากรอยู่ไหมค่ะ” นิดดีใจที่สุ่มมาถูก “นัดไว้หรือเปล่าคะ” ประชาสัมพันธ์ถามตามหน้าที่

“ไม่ได้นัดค่ะ” นิดตอบแบบซื่อๆ “งั้นต้องรอสักครู่นะคะ ไม่รู้ว่าเจ้านายว่างหรือยัง เพราะเมื่อกี้ประชุมอยู่ ขอโทรเช็คก่อนนะคะ”

     แล้วประชาสัมพันธ์สาวก็โทรเข้าไปสอบถามกุ้งด้านใน “นายค่ะ มีสาวสวยคนหนึ่งมาขอพบค่ะ จะอนุญาตให้เข้าพบไหมคะ”

“ได้ครับ ผมประชุมเสร็จแล้วบอกเขาเข้ามาได้เลย” หลังจากวางสาย ประชาสัมพันธ์ก็เดินมาบอกนิดทันที

“เชิญทางนี้ค่ะ นายอนุญาตให้เข้าพบแล้ว” นิดดีใจมาก เมื่อเห็นที่ทำงานที่แท้จริงของกุ้ง ไม่นึกว่าจะใหญ่แบบนี้ เกินคาด

     พอนิดโผล่หน้าเข้าไปซึ่งกุ้งกำลังก้มหน้าเซ็นต์เอกสารอยู่ พอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจมากที่เห็นนิดที่นี่ “คุณนิด” นิดลืมตัวและเผลอใจ เดินเข้าไปกอดและหอมแก้ม จนกุ้งตั้งตัวไม่ติด “อะไรกันครับเนี่ย คุณนิด นั่งๆก่อน”

     กุ้งลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ของตัวเองและจับนิดนั่งลงที่เก้าอี้ของเขานั่นแหละ นิดยังคงดีใจทีเลือกคบคนไม่ผิดดีใจที่กุ้งรวยและมีหน้าที่การงานที่ดี เธอดึงหน้ากุ้งมาจูบและกอดคออีกครั้งด้วยความคิดถึง “คิดถึงคุณจัง” แล้งนิดก็แกล้งงอนนิดๆหมุนเก้าอี้หันหลังให้

“น้อยใจ แฟนหายไป เงียบไม่ไปหากันเลย นิดก็รอแล้วรออีก นี่ถ้าไม่สุ่มมาหาที่นี่ นิดนึกว่าคุณหายไปแอบไปกกอีหนูที่ไหนซะแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆหละน่าดู นิดไม่ยอมจริงๆด้วย เห็นนั่งทำงานอยู่ตรงนี้ นิดให้อภัย” นิดใส่เป็นชุดจนกุ้งไม่ทันตั้งตัว

“โธ่..นิด ผมไม่ได้ไปไหน” กุ้งหมุนเก้าอี้กลับมาแล้วจับมือของนิดขึ้นมาหอม และยกขึ้นมาถือเอาไว้ตรงหน้าเขา ขณะที่กุ้งนั่งยองๆ

“งานยุ่งจริงๆ วิ่งไปวิ่งมาตั้งหลายที่ คุณก็ต้องเห็นใจผมบ้างซิครับคนดี” กุ้งเอามือลูบผมนิดขึ้นไป

     นิดสะบัดหน้าหนีนิดหน่อยพอเป็นกษัย พองาม มากไปเดี๋ยวกุ้งจับได้ หาว่าจะมาจ้องจับคนรวย ทั้งๆที่เธอรักกุ้งด้วยใจจริงๆ

“เอาว่าไป ที่ดั้นด้นมาหาผมถึงที่นี่ มีอะไรด่วนรึเปล่า” กุ้งเงยหน้าถามนิดแบบซื่อๆตรงๆ ไม่ได้คิดอะไร

“ทำไมคะ ถ้าไม่มีงานด่วน นิดมาไม่ได้เหรอ หรือว่ามีอะไรที่นี่ ปิดบังและซ่อนไว้ไม่ให้นิดรู้ นิดเป็นแฟนนะ นิดไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เลยเหรอว่าแฟนตัวเองอยู่ที่ไหนและเป็นยังไง บอกมาเดี๋ยวนี้นะ หรือว่าจะให้นิดออกไปถามแม่เลขาหน้าหวานด้านนอกของคุณ”

“มาได้ แหม ทำไมวันนี้เป็นอะไรนะ ดูซิเล่นเอาผมเดาอารมณ์คุณไม่ถูกเลย ไม่เอาซิ เอ้าว่ามา บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงของคุณที่ต้องการมาก่อนว่ามาทำไม” กุ้งพยายามใจเย็น เพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นกว่านี้ นิดขยับตัวมาด้านหน้า แล้วใช้มือขวาบีบจมูกกุ้งเล็กน้อย

“อย่าให้รู้เชียวนะว่าแอบมีใครซ่อนอยู่ที่นี่ นิดเอาคุณตายเลยจริงๆด้วย เอาไว้ให้นิด Clear งานที่ผับให้จบก่อนแล้วกัน จะมาคุมคุณที่นี่เลยไม่เชื่อก็คอยดู” กุ้งเริ่มอึดอัดกับแฟนคนนี้ จึงลุกขึ้นไปหอมแก้มและหน้าผากเป็นการดับโมโห เพื่อให้อารมณ์+ใจเย็นลง

“ตกลงจะบอกผมได้รึยังครับที่รัก ว่ามาทำไม เร็ว งานผมมีอยู่อีกเยอะเห็นไหม กองอยู่เต็มเลย”

“ก็แค่อยากจะมาชวนคุณไปเที่ยวที่ภูกระดึงเท่านั้น เห็นคุณหายเงียบไปเลย นิดเป็นห่วง เลยชวนไปพักสมอง นะคะกุ้ง ไปกับนิดนะ”

“นึกว่าเรื่องอะไร โทรมาก็ได้ ทำไมต้องถ่อมาเองถึงที่นี่” กุ้งลุกขึ้นแล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟาหน้าห้อง

“ก็บอกแล้วไงว่าอยากมาเซอร์ไพร์สคุณ ทำไมหวงเหรอคะ มาไม่ได้ ดี ต่อไปนิดจะไม่มาวุ่นวายที่นี่อีกเลย”

“ไม่เอาซินิด ไม่น่ารักเลย” กุ้งเดินไปที่โต๊ะ ยกหูแล้วโทรสั่งแกแฟเข้ามาสองที่ ไม่นานเลขาหน้าหวานก็เปิดประตูเข้ามา

     ตกใจเล็กน้อยที่เห็นนิดนั่งอยู่ที่เก้าอี้เจ้านาย “อุ๊ยขอโทษค่ะ บอสหละคะคุณ” นิดชี้ไปที่ห้องน้ำ แล้วก็วางกาแฟไว้ที่โต๊ะและรีบถอยกรูดออกไป จากนั้นก็รีบกวักมือเรียกเพื่อนๆเข้ามาเม้าส์มอยทันที

“เฮ๊ย สงสัยแฟนเจ้านาย Sure เลย ไม่งั้นจะกล้านั่งที่เก้าอี้นายเหรอ” เลขาหน้าหวานกระซิบกระทราบกับเพื่อนๆ

“จริงดิ จริงเหรอวะ” ประชาสัมพันธ์สาว โผล่หน้ามาแจมด้วย “มิน่าหละ บอสถึงให้เข้าไปเฉยเลย แบบไม่ต้องนัด”

“สวยไหมหวะแก” พนักงานสาวคนหนึ่งอยากรู้

“สวย น่ารักด้วย อายุไม่น่าจะเกิน 30 ดูการแต่งตัวของนางนะ ทันสมัยสุดๆน่าดูเลยหวะ ไม่เชื่อตอนนางออกมา ลองสังเกตุกันเอาเองก็แล้วกัน หุ่นนี้เซี๊ยะเลยแก ผิวสีน้ำผึ้ง เอวลอย กางเกงยีนส์มีรอยขาดนิดๆที่หน้าขาบน อินเทรนสุดๆ” เลขาหน้าหวาน กล่าวเสริม

“ฉันว่า ฉันล้ำสมัยแล้วนะ เพราะเป็นเลขานาย แต่เท่าที่ดู เทียบนางไม่ติดเลยหละแก”

“สงสัยอีกไม่นาน พวกเราคงจะได้นายหญิงเพิ่มมาใหม่อีกคนเสียแล้วหวะ” ประชาสัมพันธ์พูดต่อ

     ขณะที่กำลังเม้าส์มอยกันอยู่นั้น นิดเดินควงแขนกุ้งออกมาอย่างไม่แคร์สายตาพนักงานคนใดเลยในที่นี้ เหมือนจะประกาศเป็นนัยๆว่า ฉันนี้แหละจะมาเป็นนายหญิงที่นี่เร็วๆนี้ กรุณารับรู้ไว้ด้วย ให้เกียรติ์กันหน่อยอะไรแบบนั้น คิดในใจเอาเองนะคนเดียว

“คุณทิพย์” เลขารีบวิ่งมารับคำสั่ง วงแตกทันที ต่างคนต่างกลับไปประจำตำแหน่งเดิมของตัวเอง “ขาบอส มีอะไรคะ”

“ช่วงบ่ายผมไม่มีนัดที่ไหนใช่ไหม” ทิพย์รีบวิ่งไปเอาสมุดจดบันทึกของเธอมาดู

“ไม่มีคะ ว่างยาวไปจนถึงพรุ่งนี้ตอนสายๆนายนัดประชุมพวกเซล์ทั้งหมดและช่วงบ่ายพรุ่งนี้ มีนัดเซ็นต์สัญญากับคุณทาคาอิค่ะ”

“เคร ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะออกไปธุระ จะไม่กลับเข้ามาแล้วนะครับ ถ้ามีอะไรด่วนก็โทรเข้ามือถือผมแล้วกัน”

“ค่ะบอส” พูดจบกุ้งก็เดินออกไปทันที โดยมีนิดติดนึบไปตลอดทุกย่างก้าว

“เห็นไหมแก ดูชุดนางซิไม่ธรรมดาเลย พวกแกเชื่อฉันรึยัง” ทิพย์เลขาหน้าหวานพูดออกมาหลังจากที่กุ้งและนิดก้าวพ้นประตูออกไป

<<<<< ***** >>>>>

     วันนี้นุ่นเบื่อๆเซ็งๆเลยมาหาเอียดที่ทำงาน ก็ดี เพราะทำให้เอียดสบายใจขึ้นได้บ้าง ขณะที่เอียดกำลังไม่พอใจเรื่องพี่ชายสุดที่รักของตัวเองอยู่พอดี “เฮ้ย ไอ้เอียด” นุ่นส่งเสียงดังขณะที่เดินเข้ามาหาเอียดอย่างเงียบๆ “อะไรวะ อยู่ใกล้แค่นี้ ตะโกนซะดังเลย”

     นุ่นเดินอ้อมมานั่งข้างหน้า “ขอโทษ เห็นกำลังนั่งใจลอย ก็เลยแกล้งแกเล่นๆ โกรธหรา” เอียดทำหน้ามุ่ยๆ

“มีไร คราวหน้าไม่เอานะฉันตกใจ ถ้าฉันตายขึ้นมาเพราะตกใจฉันจะมาหลอกแกเป็นคนแรกเลย มีไร”

“ฉันจะปลูกบ้านใหม่” นุ่นพูดโพร่งๆออกมาซะอย่างนั้น ไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ตกลงแกยอมแต่งงานกับอีตาสิงห์นั่นแล้วเหรอ” นุ่นเบิกตาโพรงเลย แล้วรีบลุกขึ้นยืนทันที

“บ้า ไม่ใช่ ฉันไม่แต่งให้เสียดายร่างกายฉันหรอก”   นุ่นพูดไปพร้อมกับเอามือลูบตั้งแต่หัวไปจนถึงเท้า จนเอียดต้องมองตาม

“ดูพูดเข้า เข้าใจใช้ภาษานะ อ้อ ลืมไปว่าแกจบอักษร แล้วจะปลูกใหม่ทำไม” เอียดรีบกวักมือเรียกเพื่อนให้นั่งลง เพราะทำท่าแบบนั้น

“บ้านเก่าที่อยู่ทุกวันนี้ แม่ฉันจะขาย ไม่รู้ทำไม ขี้เกียจถาม พอดีแม่ฉันเขามีที่อยู่แถวๆถนนพหลโยธิน เขตสายไหม หลังโรงพยาบาลภูมิพล อยู่อีกแปลงนึงไม่ใหญ่มากประมาณ 3 ไร่ 350 ตารางวา” นุ่นนั่งพูดหน้าตาเฉยเหมือนไม่อยากทำ ไม่อยากย้าย

“นี่นะไม่ใหญ่ 3 ไร่แม่คุณ เอาส่วนไหนมาคิด” เอียดกระแนะกระแหนเพื่อน พร้อมให้สายตาสื่อสารแทนคำพูด

“เออ มันเรื่องของฉัน จะฟังต่อไหม” นุ่นโดนเพื่อนขัดคอ “เออ ไม่ขัดคอแล้ว แล้วตกลงว่าไง ต่อๆ”

“ฉันยังคิดแบบบ้านไม่ออกเลยนะซิ จำวันก่อนที่แกเห็นฉันขยำกระดาษทิ้งเป็นว่าเล่นได้ไหม”

“เออๆ จำได้ รู้ว่าจะปลูกบ้าน ยังคิดแบบบ้านไม่ออก แล้วไง” นุ่นลุกขึ้นอีกครั้ง แล้วเดินทำมือทำไม้ไปเรื่อยเปื่อย

“ก็ช่วยฉันคิดหน่อยซิ ช่วยออกแบบบ้านให้ทีนะนะ แล้วรวมถึงจะสร้างบ้านด้วย อย่างแรกเลย แบบบ้านฉันนึกยังไงก็นึกไม่ออก”

“โอ๊ยแก ฉันไม่ใช่นักออกแบบนะรบเล้าอยู่ได้ไอ้นุ่น แกนี่จริงๆเลย ตื้ออยู่ได้” นุ่นทำหน้ามุ่ยทันที หวังพึ่งเพื่อนก็ไม่ได้

     สักพักพอเอียดมีสติขึ้นมา เพราะเมื่อกี้ยังมึนๆกับเรื่องของพี่ชาย พอนึกถึงพี่ชายก็บ่นพึมพำออกมาเบาๆอยู่คนเดียวจนนุ่นงง

“สร้างบ้าน ออกแบบ ดีไซด์ สร้างบ้าน ออกแบบ ดีไซด์” เอียดบ่นอยู่แบบนี้หลายรอบ แล้วอยู่ดีๆก็ตะโกนขึ้นมาบ้างเสียงอย่างดังเลย

“เฮ๊ย แกเป็นอะไรของแก ยืนกันอยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง ฉันตกใจหมด ถ้าฉันตายไป ฉันจะมาหลอกแกเป็นคนแรกเลยนะไอ้เอียด”

“แกบอกจะสร้างบ้านใช่ไหม” เอียดหันไปถามย้ำเพื่อนรักอีกครั้ง

“เออใช่ ถึงได้มาปรึกษาแกไง มีอะไรเหรอ” นุ่นตอบแบบซื่อๆ

“คิดออกแล้ว” เอียดลืมคนใกล้ตัวไปได้ยังไง “อะไรแกคิดแบบบ้านออกแล้วเหรอ”

“ไม่ใช่” เอียดตอบแบบยิ้มๆ “โธ่ ไอ้เราก็นึกว่าคิดออก ไร้ประโยชน์สิ้นดี” นุ่นถอดใจ

“แกฟังฉันก่อนซิ ฉันว่างานนี้ ฉันต้องช่วยแกได้อย่างแน่นอน” นุ่นรีบเดินหลับมานั่งที่เดิม

“ยังไง ไหนลองพูดมาซิ แกจะช่วยฉันยังไง” นุ่นอยากรู้ จึงเอามือมานั่งท้าวคางฟังที่โต๊ะ

“ก็พี่ชายของฉันเขาจบทางนี้นะซิ บริษัทที่แกเหยียบอยู่นี่ นี่แหละฝีมือเขา”

     นุ่นเมื่อได้ฟังที่เพื่อนพูด จึงหันไปมองดูรอบๆ “จริงดิ งั้นก็วิเศษเลย ฉันว่าจะถามแกตั้งแต่เดินเหยียบเข้ามาครั้งแรกแล้วว่า ทำไมมันสวยแบบนี้ อยากจะได้คนออกแบบที่นี่ แต่ก็ลืมไปเลยมัวแต่คิดถึงเรื่องอื่นๆเอาๆถ้าเป็นพี่แกและคนออกแบบตึกนี้ฉันเอา เท่าไหร่เท่ากันฉันสู้ราคา เพราะมันถูกใจฉันมากๆเลยแก แล้วจะทำไงหละ ติดต่อพี่แกได้ไหมเอียดฉันใจร้อน อยากให้บ้านเสร็จเร็วๆ”

“ใจเย็นๆซิแก แบบก็ยังไม่ได้ออก อะไรก็ยังไม่ได้คุย” เอียดจึงรีบโทรหาพี่ชายตัวเอง

     ติดต่อยังไงก็ไม่ได้ เพราะกุ้งปิดเครื่อง ขอมีเวลาส่วนตัวอยู่กับหวานใจบ้างในวันนี้ เมื่อติดต่อพี่ชายสายตรงได้ ก็ต้องโทรออกไปบอกเลขาสปายลับของกุ้งทันที “พี่นี” เสียงใสๆตอบกลับเข้ามา “ขาบอส มีอะไรด่วนเหรอเจ้าคะ”

“ติดต่อพี่กุ้งให้ฉันด่วนเลย ถ้าวันนี้ติดต่อไม่ได้ โบนัสปีนี้อด โทรเข้ามือถือไม่ติดอีกแล้ว ไม่รู้ว่าปิดเครื่องทำไมก็ไม่รู้ เบื่อจริงๆ”

“โอ๊ยๆๆๆ บอสขา อย่าพูดแมวๆแบบนั้นซิเจ้าคะ ถ้าพี่ติดต่อนายไม่ได้ พี่ก็ซวยซิคะ นี่อีกไม่กี่วัน โบนัสก็จะออกแล้ว ไม่เอา ไม่พูด”

“ถ้าไม่อยากซวยต้อนรับปีใหม่ เธอก็ติดต่อเจ้านายตัวดีของเธอ และให้โทรหาฉันให้ได้ภายในวันนี้ เธอจะทำยังไงก็ได้แค่นี้นะพี่”

“โห นี่แกเล่นแบบนี้เลยเหรอ เห็นแบบนี้ก็ขาโหด เหมือนกันนะเนี่ยแก แล้วตกลงยัยเลขานั่นเป็นเลขาใครกันแน่ ฉันเห็นทำงานให้ทั้งคุณพ่อ แกและพี่ชายแกเนี่ย” นุ่นไม่เข้าใจการทำงานของนี ผู้หญิงตัวแค่นี้ ทำไมถึงได้เก่งนัก เธอไม่เคยเจอ

“วันทนีย์เนี่ย เมื่อก่อนเป็นเลขาของพี่กุ้งสมัยอยู่ที่แสงตะวัน” นุ่นทำหน้างง ว่าอะไรคือแสงตะวัน

“แสงตะวัน อะไรคือแสงตะวันวะ” เอียดค่อยๆอธิบายให้นุ่นฟัง เพราะนุ่นอยากรู้มาก

“ลืมไปว่าแกไม่รู้จัก คืองี้ แสงตะวันคือบริษัทที่ผลิตนมสดของพี่กุ้ง นี่ไง นมที่แกกำลังดื่มอยู่นี่แหละ” นุ่นหันไปหยิบนมมาดูใกล้ๆ

“แล้วพี่นีเนี่ยเป็นเลขาคนเก่งของพี่กุ้ง ฉลาดหัวไว มีไหวพริบ ซื่อสัตย์ทันคน และที่สำคัญ ยังโสด พอดีเลขาคนเก่าของพ่อฉันที่นี่มันไว้ใจไม่ได้ ไม่ซื่อสัตย์ มีนิสัยชอบยักยอกและลักขโมย พอๆกับเลขาของฉัน คือมาด้วยกันก็เป็นเหมือนกัน พอฉันจับทั้งคู่ได้ก็ไล่ออกไป ฉันก็เลยไม่ไว้ใจใครอีกเลย หาเลขาใหม่อยู่นาน ก็ไม่ถูกใจสักที พี่กุ้งก็เลยสงสาร ส่งพี่นีเลขาคนสนิทคนสำคัญของเขามาให้ฉันกับพ่อใช้แทน แล้วพี่กุ้งก็หาคนใหม่ที่นั่น เมื่อ 2 ปีก่อนนี้เอง” เอียดอธิบายแบบละเอียดยิบ

“โห แบบนี้นางไม่รับเงินเดือน สองทางเหรอ เก่งออกแบบนี้” นุ่นทำหน้าประหลาดใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ฟังโปรไฟล์คร่าวๆของนี

“ไม่หรอก เราก็แค่ให้เธอเยอะกว่าเดิมหน่อย เพราะเธอต้องรับภาระเยอะ เป็นเลขาให้ถึง 3 คนไปพร้อมๆกัน แต่ของพี่กุ้งหนะไม่ค่อยเท่าไหร่ แค่ลงตารางงานเท่านั้นสำหรับมาทำงานที่นี่ อย่าลิมดิพี่กุ้งไม่ได้ทำงานอยู่ที่นี่ คงมีเพียงฉันกับพ่อ 2 คนเท่านั้น เพราะพี่กุ้งมีบริษัทเป็นของตัวเองทางโน้น ทางนี้พี่กุ้งจะช่วยก็แค่บางครั้งบางคราวที่สำคัญๆงานใหญ่ๆเท่านั้น คราวนี้เข้าใจดีหรือยัง”

     นุ่นเริ่มสนใจพี่ชายเพื่อน ทั้งๆที่ยังไม่เห็นตัวจริง “เป็นอะไรไอ้นุ่น แหมพอเล่าเรื่องของพี่กุ้งให้ฟัง ตาเนี่ยเยิ้มเชียวนะ ถามจริงๆเถอะนี่แกแอบชอบพี่ชายฉันเหรอ นี่ขนาดยังไม่เห็นตัวจริงพี่กุ้งนะ ถ้าเห็นแล้วจะเป็นยังไงวะเนี่ยเพื่อนฉัน เป็นเอามาก แค่ได้ยินเสียงก็หลงซะแล้ว เอ้านี่ไง รูปพี่กุ้ง ดูซะ” เอียดชี้ให้เพื่อนดูรูป นุ่นหันไปมองแล้วก็เผลอยิ้มออกมา เอื้อมมือไปหยิบรูปกุ้งมาดูชัดๆ

“พี่กุ้ง” จนเอียดสังเกตุได้เลยว่า ศรรักปักอกเพื่อนเข้าให้แล้ว

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 5 .. “ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะรัก

ตอนที่ 4 .. “ ความรักที่งอกงาม ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป