หยกเสียวซ่านจนทนไม่ไหว ครางแบบไม่ตั้งใจออกมาหลายรอบ แล้วดึงตัวเราให้ยืนเข่า ป้อนนมเข้าปากให้ดูดเลีย ส่วนมือเธอกำมังกรเรารูดขึ้นลงไปมา เราใช้นิ้วเราช่วยลูบไล้ สามเหลี่ยมทองคำให้กับเธอ เธอเสียวสุดทน
หยกเสียวซ่านจนทนไม่ไหว ครางแบบไม่ตั้งใจออกมาหลายรอบ แล้วดึงตัวเราให้ยืนเข่า ป้อนนมเข้าปากให้ดูดเลีย ส่วนมือเธอกำมังกรเรารูดขึ้นลงไปมา เราใช้นิ้วเราช่วยลูบไล้ สามเหลี่ยมทองคำให้กับเธอ เธอเสียวสุดทน
"หยกขอมาเลยจ๊ะ ยิ่งเป็นอย่างที่หยกพูด
อายิ่งต้องทำให้เต็มกำลังทั้งกายทั้งใจเลยจ๊ะ"
"หยกขอให้อาอย่าทำเหมือนท่านเล่าปี่
ที่เค้ายกเมืองให้ปกครองแล้วไม่ยอมรับ เพราะยึดถือคุณธรรม
ทำให้ตัวเองและประชาชนต้องเดือดร้อนล้มตายเป็นจำนวนมาก
ซ้ำยังต้องเสียเมียไปอีกหนึ่งคน แปลว่า ถ้ามีโอกาสร่วมหอลงโรงกับพี่กิ่ง
อาต้องทำอย่ารีรอเพราะ ยึดถือความดีแบบยุคของอา
ให้ยึดถือความดีแบบปฏิรูปได้ ให้อารู้ว่าโอกาสไม่ได้สร้างง่ายๆ
และไม่มีมาบ่อยๆ
อาต้องรีบจับจองเป็นเจ้าของหัวใจพี่กิ่งไว้ในกำมือได้เลย
ต้องไม่ขืนใจเธอด้วย ต้องให้เธอเต็มใจ สมัครใจน่ะค่ะ"
"หยกขออาแค่เนี้ยเองหรอจ๊ะ"
"ยังค่ะ ยังมีแต่.....แต่น่ะค่ะ.....แต่ อาห้ามปักธงพี่กิ่งในตอนนี้
แม่เธอจะร้องขอด้วยตัวเอง......เพื่ออะไร
เพื่อไม่ให้บ้านนี้ต้องลุกเป็นไฟอันเกิดจากความหึงหวง
เกิดจากตัวเองเป็นเจ้าของได้ครอบครองอาแบบสมบูรณ์แล้ว
นั่นคืออาเกิดพลาดไปปักธงพี่กิ่งเข้า ตราบใดที่อายังไม่ปักธงพี่กิ่ง
พี่กิ่งจะไม่สามารถอ้างการครอบครองในตัวอาด้วยความชอบธรรมได้
ทุกคนในบ้าน หยกหมายถึงสามสาวของอา หยกด้วย
จะอยู่ในภาวะที่เท่าเทียมกัน ในฐานะใกล้เคียงกัน สิ่งใหนต้องปิด
ก็ยังต้องปิดไว้ก่อน สิ่งไหนควรเปิด ก็จงค่อยๆเปิดมันอย่างระวัง
สิ่งที่อาจะได้จากการขอของหยกที่จะเห็นได้ชัดๆก็คือ
นอกจากบ้านเราไม่ลุกเป็นไฟแล้ว พี่กิ่งเปรียบเหมือนไม้ที่เริ่มแก่แล้ว
อีกทั้งยังมีอีโก้สูงเพราะถือว่าตัวเองเรียนสูง
พลังความรักความใคร่จะทำให้จิตใจเธออ่อนเหมือนเด็กแรกเกิด
อาสามารถดัดนิสัยพี่กิ่งได้ง่าย
ขึ้นอยู่กับแม่พิมพ์อย่างอาว่าจะให้พี่กิ่งเป็นแบบไหน
นี่คือประโยชน์เรื่องใหญ่ๆที่จะให้ผลดีกับทุกคนค่ะ
หวังว่าอาคงจะมองเห็นน่ะค่ะ"
"โอ้......อาขอบใจหยกมากที่เตือนอา คำของหยกอาพอมองเห็นภาพ
คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดกับเป็นตัวอาเอง ถ้าหยกไม่บอกอา
แล้วอาพลาดไป ไฟราคะอาจเผาทุกคนรวมทั้งตัวอาเอง
อาอาจจะไม่เหลืออะไรเลย ไม่เหลือใครสักคน
ทุกคนจะตกลงไปในไฟกันหมด อาคิดถูกไม๊หยก"
"ถูกต้องค่ะอา อย่างไรอาก็ได้ครอบครองพี่กิ่งแน่ๆ
ถึงมันอาจต้องรอจังหวะและโอกาสบ้าง เช่นให้มายเค้าทำใจได้บ้างก่อน
ส่วนหยกไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ค่ะ หยกว่าอาสมควรรอ
แค่อาได้เรียนรู้นิสัยพี่กิ่งเพิ่มขึ้น ก็คุ้มที่จะรอแล้วค่ะ
อันไหนไม่ชอบก็จะดัดได้ง่าย อันใหนที่ชอบจะได้เติมแต่งให้ดีขึ้นไปได้อีก
ด้วยพลังแห่งรักที่เผาใจพี่กิ่งให้อ่อน คู่ควรกับการดัด
โบราณเรียกว่าสันดานไงค่ะ
เพราะเราไม่รู้ว่าเค้ายังมีอะไรที่เรายังไม่รู้จัก ใช่ไม๊ค่ะ
นี่แหละคือคุณของการไม่ปักธงค่ะ"
น้องหยกแสดงความฉลาดลึกให้เราเห็นอีกครั้ง
เธอทำศึกไม่ได้คิดเพียงแต่จะบุกไปข้างหน้าแต่ฝ่ายเดียว
แต่เธอยังล้อมรั้วบ้านตัวเองป้องกันข้าศึกวกกลับมาตีทางด้านหลัง
ด้วยการพูดถึงประโยชน์ใหญ่สองข้อให้เราเห็น พอเราแค่ได้ยิน
ถ้าเราไม่เชื่อเธอก็เท่ากับเราจุดไฟเผาบ้านตัวเอง
ยิ่งน้องมายเป็นคนมีเหตุผลน้อยกว่าใครหมด
สามารถใช้อารมณ์รักอารมณ์ใคร่ของเธอ
ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าได้เพียงเพราะรักอา ดังคำพังเพยที่ว่า
เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร
เราจึงเปรีบเหมือนคนแบกภาระอันยิ่งใหญ่
ชะตากรรมของทุกคนฝากไว้กับการกระทำของเราจริงๆ
"ตกลงจ๊ะ อาจะทำแบบที่เราคุยกัน
เลยเป็นว่าคำขอของหยกเหมือนไม่ได้ขออะไรอาเลย
เพราะอาเองกับเป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากคำขอของหยก
อาเริ่มหิวน้ำแล้ว เราเข้าไปทานน้ำกันดีกว่า
เดี๋ยวค่อยออกมากันใหม่ ไปหยก"
เราเดินเข้าบ้านเพื่อไปทานน้ำกับน้องหยก
พร้อมกับคุยกันในเรื่องรายละเอียด
เล็กๆน้อยๆที่น้องหยกเจียระไนให้ฟังมาทั้งวัน
แล้วกลับออกมายังไม่ทันเดินถึงชิงช้าก็ได้ยินเสียงแตรรถ
ของน้องกิ่งกดเรียก เธอออกจากบ้านได้ แต่เข้าไม่ได้เพราะยังไม่มีกุญแจ
เราสองคนเดินไปเปิดประตูรั้วให้เธอ
พอประตูรั้วที่ทึบมองกันไม่เห็นเปิดออก ก็เห็นเธอยืนรออยู่หน้าประตู
เราเห็นเธอในชุดนักศึกษา
กระโปงสั้นเหนือเข่าแต่ไม่สั้นมากจนน่าเกลียด คิดในใจว่า
"น้องหยกเอ้ย....คนเราไม่ต้องแก้ผ้าก็สวยดูดีและเร้าใจได้เหมือนกันนะ"
ส่วนน้องหยกร้องทักแบบที่คุยบอกเราจริงๆ ส่วนเราได้แค่ยิ้มทักทายกัน
"พี่กิ่งมาแล้ว.....ได้ทานข้าวแล้ว....."
"อ้าว...น้องหยกหิวข้าวเหรอค่ะ ทำไมไม่ทานล่ะค่ะ"
"ก็คนสำคัญของงานเลี้ยงยังไม่มา หยกจะทานได้ไงค่ะ
งานนี้ของพี่กิ่งโดยเฉพาะเลยนะค่ะ"
"พี่ขอโทษ มัวแวะซื้อผลไม้มาไหว้พระขอพรเจ้าที่ให้อยู่เย็นเป็นสุข
กว่าจะได้ที่จอดรถต้องเดินย้อนกลับเป็นกิโลเลยจ๊ะ
แล้วเสียเวลาจะไปรับเพื่อนชวนให้มาทานด้วยดูที่อยู่ใหม่
กว่าแม่คุณจะบอกขอเลื่อน ขับรถซ๊ะเกือบถึงแน่ะ
งั้นเรารีบเข้าบ้านกันดีกว่า เดี๋ยวน้องหยกหิวแย่เลย"
พอน้องกิ่งขึ้นรถขับเข้าบ้าน น้องหยกอุทานกับเรา
"แผนเกือบพังแล้วค่ะอา ขืนพาเพื่อนมาจบเห่กันพอดี"
เรื่องทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่น้องหยกวางไว้ทุกประการ
จนกระทั้งเราสามคนร่วมนั่งล้อมวงเพื่อทานเลี้ยง
ต้อนรับสมาชิกใหม่ในครอบครัว
"พี่ซื้อวายมาเลี้ยงด้วยหรือค่ะ"
"วายนี่แหละพี่กิ่ง เป็นสิ่งสำคัญของงานเลยนะค่ะ
เป็นน้ำทิพย์จากพระเจ้า มีประวัติความเป็นมาว่า
พระองค์ไปงานเลี้ยงแห่งหนึ่งของบ้านสาวก
ท่านทำน้ำเปล่าธรรมดาๆให้กลายเป็นวายเลี้ยงคนทั้งงาน
สาวกของพระองค์จึงนิยมดื่มวาย เพราะถือเป็นของพระเจ้าประทานให้
แล้วหยกก็อยากลองด้วย แฮ่ แฮ่ แฮ่ อาเห็นว่าเป็นวันพิเศษของพี่กิ่ง
เลยอนุญาตให้หยกลอง หยกต้องกล่อมอาแบบที่เล่าให้ฟัง
อาถึงอนุญาตให้ลองดู อีกอย่างมันก็แค่สามดีกรีห้าดีกรีเองค่ะ
อ่อนกว่าเบียร์ตั้งเยอะ ขวดก็เล็กกว่าสองสามเท่าแน่ะ
คำนวณดูแล้วคงไม่พอเมาค่ะ แต่ทานแค่ให้เป็นมงคลกับงานต้อนรับพี่กิ่ง
เพราะเป็นน้ำทิพย์ของพระเจ้าก็เท่านั้น เค้าว่าทานจากขวด
อร่อยดีกว่าใส่แก้ว หยกเลยไม่ใช้แก้ว ไม่ต้องล้างแก้วดีด้วยค่ะ
ถ้าพี่กิ่งไม่ชอบเดี๋ยวหยกโทรสั่งเครื่องดื่มที่พี่ชอบให้ค่ะ"
"พี่ก็รู้มาอย่างน้องหยกว่านั่นแหละจ๊ะ พี่ก็อยากลอง
ขอลองจิบดูก่อนนะว่าจะทานได้หรือป่าว"
น้องหยกชักแม่น้ำทั้งห้าหวังให้น้องกิ่งดื่มวาย
น้องกิ่งเห็นชอบในเหตุผลและคำพูดน่าฟังของหยก
อีกอย่างก็คงจะเกรงใจที่ต้องโทรสั่งเครื่องดื่มใหม่เพื่อเธอคนเดียว
เลยขอลองดู
"โห.....รสชาติเยี่ยมใช้ได้เลยหยก หวานด้วย
อย่างนี้พี่ทานได้จ๊ะ พี่ชอบ สมัยเรียนตรีก็เห็นพวกผู้หญิงเค้าดื่มกัน
พี่อยากลองมานานแล้ว แต่พี่อยู่คนเดียวจึงต้องระวังมาก
เลยทำให้กลัวไปหมด ไม่กล้าที่จะลองอไรทั้งนั้นเลยจ๊ะ"
"แต่ตอนนี้ต้องให้อากล่าวต้อนรับพี่กิ่งและมอบของขวัญให้
ในฐานะเจ้าบ้านก่อนค่ะ เชิญอาค่ะ"
"มีของขวัญให้พี่ด้วยหรือนี่ แค่นี้พี่ก็เกรงใจมากแล้วจ๊ะ"
"พี่กิ่งอย่าคิดมาก รอเดี๋ยวเดียวหยกไปหยิบของขวัญให้อาก่อนค่ะ"
น้องหยกทำท่ากวีกวาดไปหยิบพวงกุญแจ
ขณะที่น้องกิ่งยังอยู่ในชุดนักศึกษาน่ารัก นั่งพับเพียบเรียบร้อย
ชายกระโปงลั้งขึ้นไปครึ่งหน้าขาด้านบน
ถ้าได้มุมที่ดีก็จะพอรู้ว่าเธอใส่กางเกงในสีอะไร
เธอไม่สำรวมเท่าวันแรกที่มา ที่นั่งหนีบขาแทบไม่ขยับอิริยาบถ
วันนี้เธอเป็นกันเองขึ้น กล้าที่จะใส่กระโปงสั้นนั่งร่วมวงกับเรา
หรือจะแคร์เรื่องนี้กับเราน้อยลงอย่างน้องหยกวิจัย
น้องหยกพอได้กุญแจก็ทำเป็นวิ่งมาหาเราแล้วกระโดดเข้าเกาะหลัง
เอื้อมมือทั้งสองมือค่อมบ่าเรามาข้างหน้าเพื่อส่งพวงกุญแจ
เหมือนเล่นขี้ม้าส่งเมือง
เหมือตอนที่เธอเมาเบียร์แล้วเราให้เธอขี่หลังไปส่งในห้อง
แต่เที่ยวนี้เธอทำท่าโยกไปโยกมาบนหลังเรา เอาแก้มมาเบียดข้างหูเรา
จงใจยั่วกิเลสน้องกิ่ง ซึ่งเน้องกิ่งก็ได้เห็นหลายครั้งแล้ว
ในตอนจัดกับข้าวขึ้นโต๊ะ น้องหยกทำตามแผนของเธอที่คิดไว้
เราพยายามหาโอกาสมองน้องกิ่งเวลาเธอเผลอ
หรือเวลาประสานตากันแบบไม่ตั้งใจ
ดูว่ามันจะกระตุ้นอารมณ์เธอได้แบบน้องหยกบอกหรือไม่
ช่วงแรกๆก็เหมือนจะไม่มีอะไรทานอาหารปรกติ
แต่พอเห็นท่าเธอยกขวดวายดื่ม
มันเป็นลักษณะของคนกำลังกลบเกลื่อนพฤติกรรมภายในของตนเองชัดๆ
น้องหยกพอได้ยั่วยุอารมณ์น้องกิ่งสักสองสามอึดใจ
เธอก็กลับไปนั่งที่ทานอาหารเดิม แล้วพูดว่า