Your Wishlist

คุณ​อาขาาาาเด็ด​จริงๆ​ (ความสับสน​ NC​)

Author: xxx555

หยกเสียวซ่านจนทนไม่ไหว ครางแบบไม่ตั้งใจออกมาหลายรอบ แล้วดึงตัวเราให้ยืนเข่า ป้อนนมเข้าปากให้ดูดเลีย ส่วนมือเธอกำมังกรเรารูดขึ้นลงไปมา เราใช้นิ้วเราช่วยลูบไล้ สามเหลี่ยมทองคำให้กับเธอ เธอเสียวสุดทน

จำนวนตอน :

ความสับสน​ NC​

  • 20/10/2568

เราจึงต้องเร่งลงมือทำให้เธอผ่อนคลายโดยเร็ว

 ด้วยการดึงเข่าเธอที่ตั้งฉากกับพื้นออก

 จนเต่าเธอที่ลอยอยู่ตกลงมาในปากเรา

 

 ให้เราเล่นกับเม็ดทับทิมเธอจนเธอทนไม่ไหว และเสร็จเราอีกครั้งหนึ่ง

 และแม้รู้ว่าเธอเสียวเสร็จแล้ว

 

 เราก็พยายามทำต่อเพื่อให้เธอหมดฤทธิ์จริงๆ เธอทั้งร้อง ทั้งคราง ทั้งบิด 

ทั้งเกร็ง ทั้งตีเบาะโซฟา บอกว่าเที่ยวนี้ใจจะขาดเกือบถึงตาย

 

 มันเสร็จหลายครั้งมากจนเธอเองไม่รู้ว่ากี่ครั้ง

 แล้วขอร้องอย่าทำซ้ำแบบนั้นอีก เพราะมันเลยสุข

 เข้าขั้นทรมานแม้จะเสียว เราจึงพูดกับเธอว่า

 

"อาขอโทษมายด้วย ทั้งหมดที่อาทำ ก็เพราะอยากจะบอกมายว่า

 มังกรไม่ต้องเข้าถ้ำก็เสียวได้มากมาย การ สอดใส่ถึงจะดี สมบูรณ์แบบ

 แต่นี่เป็นแค่การลองรักลองใคร่ตามข้อตกลงกันไว้

 

 เมื่อมายควบคุมอารมณ์ไม่ได้ อาจึงต้องทำเพื่อเตือนสติ เนื่องด้วยวันหน้า 

มันจะมีผลกับวิธีคิดและการกระทำที่เปลี่ยนไป

 

 

 จะเกิดการยึดติดที่แก้ไขได้ยาก หรือเรียกตราบาปของลูกผู้หญิง

 อาไม่อยากให้มายตกอยู่ในภาวะนั้น

 ไม่อยากเป็นผู้ชายที่สร้างตราบาปคนนั้น

 

 ในขณะที่ปากอาบอกว่ารักมาย แต่อาไม่ได้รักแบบชู้สาว

 เป็นแค่วิทยาศาสตร์การเรียนรู้ ในเรื่องชู้สาว ที่เรามีให้กัน

 บนจุดยืนของเหตุและผลเท่านั้น และ

 

 ที่ทำตามเหตุผลนี้ก็ด้วยเรากลัวการปลดปล่อย

 ความใคร่กับบุคคลที่เราควบคุมไม่ได้ไม่ใช่หรือ

 เราไม่อยากให้มันเป็นไปตามยถากรรมไม่ใช่หรือ

 

 นี่ก็เป็นครั้งที่สองที่มายขอให้มังกรอาเข้าถ้ำมายแล้ว

 อาอยากให้มายลองทบทวนเรื่องนี้ใหม่ เมื่อช่วงกลับไปอยู่บ้าน

 

 วันไหนถ้าเรารักกันแบบชู้สาวและถูกต้องได้จริง วันนั้นอาต้องทำแน่

 อาขอโทษมายจริงๆนะ"

 

"อาพูดเหมือนเราไม่รู้จักกัน เหมือนความรักมายไร้ค่า มายขอโทษ

 อาด้วยละกันที่ทำให้อาลำบากใจ"

เป็นเรื่องจนได้ คบเด็กสร้างบ้านแท้ๆเรา

 

 

     เรารู้ว่า

 เธอพูดด้วยอารมณ์ที่เธอไม่สามารถต้านทานอานุภาพแห่งความใคร่ได้

 แยกเรื่องรักออกจากเรื่องใคร่ไม่ได้ เราจะทำอย่างไรดี

 

 จะปล่อยไปเช่นนี้หรือ เราจึงต้องพยายามลองคุยกับเธอใหม่

 ไปกอดเธอแล้วพูดกับเธอว่า

 

"มายใจเย็นๆนะ มายรู้หรือไม่ว่าความรักกับความใคร่มันเป็นคนละเรื่อง

 มายมีเส้นแบ่งความรักกับความใคร่อย่างไร"

 

"ความรักหรือความใคร่ของมายก็คืออันเดียวกัน เพราะรักจึงใคร่

 ถ้าไม่รักก็ไม่ใคร่ค่ะ"

 

"มายคุยอะไรไว้กับน้องหยก ก่อนที่พวกเราจะมาลองใคร่กัน

 จำคำว่าไม่ปักธงได้หรือไม่"

 

"มายจำได้ แต่มายไม่รู้นี่ ถ้าได้ใคร่แล้วมันจะรัก

 และถ้ารักมันก็ต้องให้เพศสัมพันธ์แก่กันซิค่ะ"

"แล้วถ้าน้องหยกเค้าคิดอย่างมายบ้าง พูดแบบมายบ้าง มายจะทำอย่างไร"

 

"มายไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้มายเป็นแบบนี้ค่ะ"

     เจอไม้นี้ของน้องมาย เราก็หมดทางเหมือนกัน

"เราไปหาน้องหยกให้เขาตัดสินเรื่องนี้กันไหมมาย เราต้องคุยกันแล้ว"

 

 

"หยกเค้าก็ต้องเข้าข้างอาซิค่ะ มายก็ต้องแพ้อยู่ดี

 แต่ที่แน่ๆมายรู้แล้วว่าอาไม่ได้รักมายเหมือนกับมายรักอา

 อาพูดมาทั้งหมดก็เพื่อทิ้งมาย ปัดปัญหาให้พ้นตัวใช่หรือไม่ค่ะ"

 

"อาว่าเราไปทำความสะอาดตัวเราก่อน

 แล้วไปนอนคุยกันกับน้องหยกพร้อมกัน 

เพราะถึงเราจะตัดสินใจอะไรไป น้องหยกก็ควรได้รับทราบอยู่แล้ว

 

 ส่วนหยกจะลำเอียงหรือไม่ เราค่อยคุยกันอีกทีดีไหมมาย

 อาว่าน่าจะลองดูนะ พรุ่งนี้ยังเป็นวันหยุด หยกคงไม่ว่าอะไร

 

 แต่อาไม่อยากให้มายไปพร้อมกับปัญหาของเราสามคน

 ที่ร่วมสร้างกันมานะ"

 

     ตกลงน้องมายยอมอ่อนข้อทำตามที่เราเสนอ

 เราจึงไปเข้าห้องน้ำทำความสะอาดร่างกายด้วยกัน

แล้วเข้าไปหาน้องหยกตามที่ ได้คุยกัน

 

     น้องหยกนอนได้พักใหญ่ เราเข้าไปขึ้นบนเตียงพร้อมน้องมาย

 เรานั่งพิงหัวเตียง ส่วนสองสาวนอนซ้ายขวา เราก้มไปหอมแก้มน้องหยก

 แล้วปลุกเธออย่างนิ่มนวล เธอตื่นมาแล้วยิ้มให้ เราจึงกระซิบข้างหูเธอว่า

 

"หยก อามีเรื่องสำคัญจะปรึกษา"

"ตอนนี้เลยหรือค่ะอา"

"ใช่ ต้องตอนนี้"

 

 

     แล้วเราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง เธอทำท่าครุ่นคิดอย่างหนัก

 ลุกขึ้นนั่งท่าทางจริงจัง ฟังไปผงกหัวรับทราบเรื่องราวต่างๆไป

 ก่อนจะพูดว่า

 

"หยกว่าเรื่องนี้ไม่มีใครผิดทั้งนั้น จะผิดก็ตรงเราไม่รู้จักความใคร่ดีพอ

 ไปเล่นกับมัน ทำให้อารมณ์ความใคร่จูงจมูกเรา

 

 แม้สัญญาที่คุยกันก่อนหน้านี้ ก็ไม่อาจสู้กับมันได้

 หยกเองบางครั้งก็มีความรู้สึกเหมือนกับมาย จึงอยากให้มาย

 ให้เวลากับตัวเองดูก่อนว่า เราอยู่ในอารมณ์ "บางครั้ง"

 

 อย่างหยกพูดหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป

 ถ้ามายลุกขึ้นมาเรียกร้อง หยกก็ขอเรียกร้องด้วย ได้หรือไม่ค่ะอา"

 

"แล้วเธอสอง คนจะเรียกร้องอะไรจากอา

 พวกเธอเป็นผู้ขออาให้ทำอย่างที่เธออยากจะทำ มาครั้งหนึ่งแล้ว

 ตอนนี้อาพูดไม่ออก เธอสองคนบอกมาจะให้ทำอย่างไร"

 

"มายก็แค่อยากให้อารักมายเหมือนมายรักอาค่ะ"

"หยกก็ต้องการแบบมายเหมือนกัน อาจะว่าอย่างไรค่ะ"

 

"อาก็รักเธอสองคนอยู่แล้วนี่ แล้วจะให้รักแบบไหนอีก"

"ก็รักมายแบบแฟน แบบคู่รักจริงๆซิค่ะ"

 

"ใช่....หยกก็ต้องการแบบมายแล้วตอนนี้ อาจะว่ายังไงค่ะ"

 

"อาไม่รู้ รู้แต่ว่ามันเริ่มเพี้ยนกันใหญ่แล้วตอนนี้

 สัญญาของเราก่อนหน้านี้มันหมดความหมายแล้ว ใช่ไหม

 เธอสองคนไม่แคร์แล้วใช่ไหม จะให้อามีแฟนพร้อมกันสองคนเลยหรือไง"

 

"มายว่าไง หยกก็คิดไม่ออกว่าเราจะมีแฟนเป็นคนๆเดียวกันได้อย่างไร

 หยก ทำใจไม่ได้นะมาย"

"มายก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน"

 

"หยกว่าเราให้เวลาตัวเองหนึ่งสัปดาห์ 

แล้วเรามาคุยกันใหม่ ดีไหมมาย ดีไม๊ค่ะอา"

"อาปวดหัวแล้ว แล้วแต่พวกเธอสองคนละกัน"

 

"ก็ได้ อีกหนึ่งสัปดาห์มาคุยกันใหม่"

"งั้นตกลงวันนี้เราแยกย้ายกันไปนอน คิดหาทางออกที่เหมาะสมให้ตัวเอง

 เมื่อได้แล้วเราจะคุยกัน หนึ่งสัปดาห์นี้ต้องพบทางออก"

 

"งั้นอาขอตัวไปนอนก่อนละกัน ปวดหัวแล้วตอนนี้"

"เดี๋ยวค่ะอา มาให้หยกกอดทีนึงก่อนแล้วค่อยไป นะค่ะ"

 

     หยกรักเรามาก ดึงเราไปกอดเพียงเพื่อหาโอกาสบอกเราว่า 

"เดี๋ยวหยกแก้ปัญหาเรื่องมายให้"

 

 เรารู้ได้ทันทีว่าน้องหยกเล่นละครหลอกน้องมายให้สงบ

 หนึ่งสัปดาห์ของหยกคือการซื้อเวลาเพื่อแก้ปัญหาของน้องมาย

 เราจึงรู้สึกสงบใจอย่างประหลาด เหมือนเรื่องนี้คืออารมณ์ของน้องมาย

 

 ที่ไม่กี่วันนี้น้องหยกจะจัดการได้ เราจึงบอกราตรีสวัสกับหยก

 แล้วหันไปกอดน้องมายบอกราตรีสวัสเช่นกัน

 

 น้องมายฝืนยิ้มให้ในขณะที่ใจเธอยังมีปัญหาอยู่ แต่ก็ดูน่ารัก

 แล้วเราจึงกลับห้องไปนอนอย่างสบายใจ เมื่อคิดถึงคำน้องหยก

 

     และเช้าวันใหม่ก็มาถึง เราตื่นนอนทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำตามปรกติ

 แล้วลงไปทานกาแฟข้างล่างโดยไม่ได้แวะห้องน้องหยก

 กะว่ามารอส่งน้องมายกลับบ้าน หลังจากดื่มกาแฟเสร็จเกือบชั่วโมง

 

 ก็เห็นน้องมายแต่งตัวสวยน่ารักแบบรัดกุมเดินลงมา เมื่อเจอเราจึงพูดว่า

"มายไปหาอาที่ห้องนึกว่าไปไหน มาอยู่นี่เอง 

มายต้องไปแล้วค่ะ ขอมายหอมที"

 

เธอมากอดเราแบบนิ่มนวลไม่ให้เสื้อผ้ายับ

 แล้วหอมแก้มเราๆก็หอมเธอตอบไปหนึ่งครั้ง

"ให้อาไปส่งไหม"

"ไม่ต้องค่ะ ช่วยเปิดประตูรั้วใหญ่ให้มาย แล้วฝากลาหยกด้วย

 ยังไม่ตื่นเลยค่ะ"

 

 

     เรารับคำทำตามที่เธอบอก ไปยืนรอเรียกรถแท็กซี่ให้เธอ

 พร้อมบอกเธอว่าอย่าคิดมาก และเมื่อรถมาเธอก็นั่งรถจากไป

 ใจเรารู้สึกหวิวอยู่น้อยๆ ไม่แน่ใจว่า

 

 ตัวเองอาลัยรักหรืออาลัยใคร่กับน้องมายกันแน่

 เดินกลับเข้าบ้านปิดประตูรั้วใหญ่แบบซึมเล็กน้อย

 แล้วขึ้นไปดูน้องหยก เธอยังคงนอนอยู่

 

 เราเลยไปนอนอยู่ข้างเธอเพื่อทบทวนพฤติกรรมตัวเองกับสองสาว

 รอน้องหยกตื่นนอน และไม่ทันที่เราจะคิดอะไร

 

 น้องหยกเปิดผ้าห่มที่ห่มไว้นิดหน่อย แล้วกลิ้งตัวมานอนกอดเรา

 แบบบอกให้เรารู้เป็นนัยว่าเธอตื่นนานแล้ว

 แต่ยังไม่อยากลุกโดยไม่ต้องพูดอะไร เรารู้สึกว่ากอดนี้อบอุ่นจริงๆ

 

 ไม่มีพิษมีภัยอะไร ให้แต่ความสุขอย่างเดียว

 เลยกอดเธอตอบแล้วลูบแผ่นหลังเธออยู่ไปมา เพื่อบอกให้เธอรู้เช่นกันว่า 

อาก็รักหยกด้วยใจบริสุทธิ์เหมือนกัน เรากอดกันนอนเงียบๆอยู่พักหนึ่ง

 

 น้องหยกก็ลุกไปเข้าห้องน้ำแบบไม่พูดอะไรเลย

 จนเธอเสร็จกิจส่วนตัวจึงมาดึงแขนเราพร้อมรอยยิ้มให้ลุกจากเตียง

 

 กอดเอวเราพากันเดินลงไปข้างล่าง

 หาอะไรทานนิดหน่อยแล้วไปนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยกัน

 แล้วคำพูดแรกของวันนี้ก็ออกจากปากเธอ

 

"ไปส่งน้องมายหรือป่าวค่ะ เป็นไงบ้างที่ต้องจากเธอ

 ตอนนี้แหละคือคำตอบสำคัญว่าเรารักเขาหรือไม่"

"มายเขาให้ส่งแค่ประตูรั้วหน้าบ้านจ๊ะ"

เราตอบน้องหยกไปแบบสั้นๆ

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า