ส่วนเราก็เล่นกับสามเหลี่ยมทองคำเธอ ที่เริ่มชุ่มชื้นด้วยน้ำรัก

 ด้วยปากและลิ้น

 อยากจะสอดนิ้วลงไปด้วยก็นึกถึงเรื่องเหยื่อพรหมจารีน้องหยก

     พอดีมือไปโดนน้องมายข้างๆ

 และตาเหลือบไปเห็นเธอนอนอ้าเต่าสวยงาม

 จึงเอามือที่ว่างไปลูบไล้เต่าน้องมาย พยายามแหวกเพื่อใช้นิ้วจิ้มเข้าไป

 แต่รู้สึกฝืด จึงเอานิ้วมายืมน้ำรักน้องหยกที่มีมากขึ้นไปหล่อลื่น

 แต่ไม่ได้ผลมากนัก ยังคงฝืดอยู่ ได้แต่ลูบเต่าน้องมายเล่นแต่ภายนอก

 เธอก็ยังไม่รู้สึกตัว มีแต่น้องหยกและเราที่เริ่มอาการเกร็งเป็นบางครั้ง

 เที่ยวนี้น้องหยกใช้ปากเธอได้เนี๊ยบมาก เรารู้สึกได้ถึงรสสัมผัสที่ดี มีเสียว 

มีตอดเล็กๆอยู่โดยตลอด เราเริ่มแย่แล้ว

 ชักเสียวมากขึ้นเรื่อยๆเพราะปากน้องหยก

 กับอั้นความอยากไว้นานจึงปล่อยความเสียวใส่ในปากน้องหยก

 กล้ามเนื้อเกร็งเต็มที่ น้องหยกเองก็เสียวเกร็งเหมือนกัน แต่ไม่มากนัก

 เรานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จึงกลับหัวไปหาเธอ

 แล้วหอมเธอพร้อมซบแบบหมดแรง เธอยิ้มทั้งหลับตา

 เอามือป้ายน้ำรักที่บริเวรปากออก แล้ว เราก็กระซิบข้างหูเธอ

"ขอบใจมากนะหยก ขอบใจมาก"

"หยกเก่งไหม นี่ขนาดไม่มีแรงนะ เอาอีกยกก็ได้นะค่ะ หยกชอบ"

"ยังไม่เสร็จดีใช่ไหม"

เราถามน้องหยก ห่วงเธออารมณ์ค้าง

"ความสุขของหยก บางทีไม่ต้องเสร็จหรอกอา

 แต่เห็นอาเสร็จหยกก็สุขแล้ว"

     เราหอมเธออีก เป็นการขอบใจในน้ำใจของเธอ

 แล้วเธอก็รับรู้ความรู้สึกนั้น เธอยิ้มให้ทั้งหลับตา แล้วหยกก็กระซิบว่า

"นอนกอดหยกให้หยกหลับก่อนนะอา แล้วค่อยไป"

     เรากอดเธอตามที่เธอต้องการได้พักใหญ่ จนมั่นใจว่าเธอหลับ

 เราจึงออกจากห้องเธอมาอาบน้ำใส่เสื้อผ้า แล้วลงมาเก็บถ้วยจานข้างล่าง 

พร้อมล้างทำความสะอาดจนหมดสิ้น

 เพราะวันนี้พวกเธอนอนเร็วกันกว่าปรกติ

 เวลาที่เหลืออยู่จึงมานั่งสำรวจพฤติกรรมตัวเอง ถามตัวเองว่า

 ที่เราทำอยู่มันถูกต้องแล้วหรือ ธรรมชาติ มโนธรรม จริยธรรม

 มนุษย์ธรรมดา เราผิดข้อไหนบ้าง แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดมันคืออะไรกัน

 คิดไปคิดมาจนดึกและง่วง เผลอหลับที่โซฟานั่นเอง

     แล้วเช้าวันใหม่ก็ถึง ประมาณหกโมง

 เราตื่นนอนเห็นน้องมายมานั่งหลับข้างๆ เอาหัวซุกที่โซฟาที่เรานอน

 ใส่เสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียว เราจึงจับหัวเธอ น้องมายขยับตัวตื่น

"น้องมายเป็นอะไรหรือป่าว ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้"

"มายลุกมาทานน้ำ อาบน้ำ มายปวดหัวนิดหน่อย

 เห็นอานอนอยู่เลยเข้ามาหา"

"คงจะเป็นเพราะทานเบียร์มากนะมาย

 เขาว่าให้จิบเบียร์ถอนสักก๊งคงจะหาย แต่อาว่าทานพาราสักสองเม็ดดีไหม 

อาจะไปเอามาให้ ทานแล้วไปนอน"

"ดีค่ะอา"

     เราไปหยิบพาราพร้อมน้ำให้เธอ ปล่อยเธอทานเอง

 เราไปเข้าห้องน้ำทำธุระของตัวเองจนเสร็จ

 ลงมายังเห็นเธอนอนอยู่ที่โซฟาที่เรานอน จึงเข้าไปถามเธอ

"เป็นไงบ้างน้องมาย ขึ้นไปนอนต่อไหม ยังเช้าอยู่เลย"

     เธอไม่ตอบ แต่ดึงแขนเราไปนั่งข้างตัวเธอที่โซฟา

 แล้วพยายามดึงตัวเราไปกอดเธอ

 เราก็ทำตามความปรารถนาของเธอ แล้วถามเธออีก

"น้องมายเป็นอะไรหรือป่าว"

     คราวนี้เป็นเรื่องจนได้ อยู่เธอก็ร้องไห้อึกสอื้นขึ้นมาเฉยๆ

 เราพยายามปลอบถามเธอว่าเธอเป็นอะไรกันแน่

 จนเธอรู้สึกดีขึ้นแล้วพูดว่า

"ไม่เป็นไรค่ะอา มายแค่อยากร้องไห้"

     น้องมายตอบมายิ่งทำให้อยากค้นหาว่า เธอเป็นอะไรกันแน่

 เราจึงดึงเธอมากอด

"มายมีเรื่องอะไรก็เล่าให้อาฟังได้นะ ถ้าช่วยได้รับรองอาช่วยแน่"

"ไม่มีอะไรจริงๆค่ะอา แค่อารมณ์เหงามันมาเยือนอีกเท่านั้นเอง

 เป็นปรกติของมายค่ะ

 มายว่ามายคงเป็นเด็กขาดความอบอุ่นอย่างเขาว่ากัน มันใช่เลย

 เท่านั้นเองค่ะ เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยได้หรอกค่ะอา"

"ช่วยได้สิมาย เรื่องของมายจะว่าแก้ง่ายก็ง่าย จะว่าแก้ยากมันก็ยาก

 มันอยู่ที่วิธีคิดเท่านั้นเอง ลองมาคิดกันว่าอากะมายใครควรเหงากว่ากัน

 อาอยู่คนเดียว มายยังมีแม่

 เห็นไหมว่าอาน่าจะยังขาดความอบอุ่นมากกว่ามายอีก"

"แล้วอาไม่มีใครเลยเหรอที่รักอา"

"มีซิ อาถึงไม่รู้สึกเหงา ตอนนี้ก็มีน้องหยก มีมายไงล่ะ"

"มายทำไมไม่รู้สึก ว่ามายมีอาเลยล่ะค่ะ อาเป็นของหยก"

"นี่ไงคือความผิดพลาดของมาย วิธีคิดมายต้องปรับใหม่ 

ถ้าเราคิดว่ามี เราก็มี ถ้าคิดว่าไมมี เราก็จะไม่มี

 อารมณ์ที่เราคิดมันหลอกราอยู่ เข้าใจไหม"

"ไม่เข้าใจค่ะ รู้แต่มายกอดอาตอนนี้คือของจริง อบอุ่นได้จริง เท่านี้ค่ะ"

"สรุปคือจะหาเรื่องกอดอาใช่หรือป่าว"

"ไม่รู้ รู้แต่ว่าอบอุ่นดี ฮิ ฮิ ฮิ"

"อ้าวหัวเราะได้ หายปวดหัวแล้วซินะ งั้นอาไปนอนกอดน้องหยกดีกว่า"

"ไม่นะอา ตอนนี้อาต้องกอดมายคนเดียว

 อุตส่าห์มานอนเฝ้ารออยู่ตั้งนาน มายไม่ยอมจริงๆด้วย"

     เธอพูดเสร็จก็ดึงเราลงไปนอนกอดที่โซฟา แล้วเราก็เสร็จเธอจนได้

"มายแค่อยากอยู่กับอาตามลำพังสองคน ไม่มีหยกบ้างแค่นี้เอง

 อาให้มายไม่ได้เชียวหรือค่ะ"

     น้องมายพูดเพียงเท่านี้ เราจึงเริ่มบรรเลงเพลงรักกับเธอ

 แบบให้เธอเป็นคนลุยเราให้สมอยาก

 เธอพลิกตัวขึ้นมานอนทับเราแล้วก็จูบเราเหมือนเราเป็นฝ่ายหญิง

 ไล่ไปทั่วตัว เอานมมาป้อนใส่ปากให้เราดูด

 มือเธอก็อ้อมไปจับมังกรน้อยเล่นชักขึ้นชักลง

 เราเลยไหลตามน้ำไปจับเต่าเธอเล่นบ้าง เธอสดุ้งเสียวเป็นครั้งคราว

 แล้วมาจบที่ท่ากลับหัวกับหาง เธอใช้ปากกับมังกรเรา

 เราก็ใช้ปากกับน้องจิ๋มเธอ จนบางครั้งเธอครางด้วยความเสียว

 จนน้ำรักจองเธอออกมาให้เห็น เราเปลี่ยนเป็นใช้นิ้วชอนชัยให้เธอ

 เหลือนิ้วหัวแม่มือไปคลึงเม็ดทับทิมเธอ เธอเด้งหนีความเสียวเป็นครั้งคราว 

ในที่สุดเธอต้องร้องขอให้พอด้วยตัวเอง

 เมื่อเรานวดคลึงด้วยหัวแม่มือในจุดกระสันเธอ

"พอแล้วค่ะ พอแล้ว พอแล้ว"

     เนื้อตัวเธอเกร็งกระตุกถี่กว่าทุกครั้ง

 แบบนานๆจะมีโอกาสอยู่กันสองต่อสอง และเราก็ช่วยใช้นิ้วหัวแม่มือ

 กดเม็ดทับทิมของเธอหนีบคาไว้กับกลีบกุหลาบเธอด้วย แบบดิ้นไม่หลุด

 เธอมาเที่ยวนี้ใส่เกียร์ห้าท้าชนกะให้สมใจอยาก แต่ที่สุดก็ถึงจุด

 เลยทนอยู่ดี หลังจากเธอสงบ เราแกล้งใช้นิ้วไปสัมผัสจุดกระสันเธออีก

 เธอถึงกับเกร็งตัวบิดแทบขาดใจร้องขอให้พออีกครั้งหนึ่ง

"พอแล้วค่ะ ทนไม่ไหวจริงๆค่ะ เสียวเหลือเกิน พอค่ะพอ"

     แล้วเธอก็นอนนิ่งไปพักนึง เราแกล้งถามเธอต่ออีกรอบไหม

 เธอส่ายหน้าบอกว่าเธอเสียวหลายรอบแล้วเที่ยวนี้

 เราเลยลองไปดูดนมเธอเล่น เธอกับเสียวได้ในทันทีผลักศีรษะเราหนีออก 

บอกทนไม่ไหว มันเสียวอย่างเดียวเลย เธอบอกว่าตอนนี้ทั้งตัวเธอ

 ถูกเมื่อไรก็จะขึ้นแบบทนเสียวได้ยาก มันต่างจากก่อนลงมือทำ

 กว่าจะถึง จะนาน แต่ถ้าถึงแล้วก็เป็นอีกเรื่องนึง

 เธอพักได้ครู่ใหญ่ก่อนจูบลาเราแล้วกลับขึ้นห้อง ไป

 เราก็ต้องไปเหมือนกัน ถึงแม้เที่ยวนี้จะไม่เสร็จ แต่ก็มีความสุข

 หัวมังกรชุ่มฉ่ำพอประมาณ แต่งตัวเสร็จดูนาฬิกาเกือบเก้าโมง

 จึงเข้าไปในห้องน้องหยก เห็นเธอยังหลับอยู่ น้องมายก็นอนอยู่ด้วย

 กวักมือให้เราไปนอนเล่นกอดเธอ ลูบคลำกันไปมาไม่รู้เบื่อ

 จนไปถูกน้องหยกตื่น น้องหยกทำเป็นงัวเงียเหมือนเดิม

 เราจึงพลิกตัวไปกอดเธอ เธอนอนยิ้มแฉ่งหันมาเล่นลูบคลำกับเราอีกคน

 ทั้งยังไม่ลืมตา เล่นกันอยู่ครู่นึง เสียงน้องมายก็ดังขึ้น

"เดี๋ยวมายไปหาอาหารเช้าไว้ให้พวกเราทานดีกว่า อาหลานจะได้คุยกัน"

"โอ้.....มายเธอน่ารักมากเลยวันนี้"

เสียงน้องหยกชมน้องมาย พร้อมกับลืมตา น้องมายลุกไปใส่เสื้อคลุมเสร็จ 

พูดต่อสองสามคำก็เดินออกจากห้องไป

"น่ารักทุกวันอยู่แล้วจ้ะหยก"

พอได้ยินเสียงประตูปิด เราก็นัวเนียกันสองคนกับน้องหยก

 เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เราใช้ภาษากายพลัดกันลูบตรงนั้นคำตรงนี้

 เป็นที่เพลิดเพลิน แล้วจู่ๆเราก็นึกขึ้นได้

"หยก.....อาอยากดูสาวพรหมจรรย์หยกแล้วตอนนี้"

"ก็ดูซิค่ะ หยกให้ดูได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว อาอยากดูเมื่อไรก็ดูเถอะนะค่ะ"

     เราจึงเปลี่ยนจากท่านอนเป็นนั่ง อ้าขาแล้ว ยกขาน้องหยกทั้งสองขึ้น

 แทรกตัวเองเข้าไปตรงกลาง ขาทั้งสองด้านอยู่ข้างลำตัวเธอ

 ก้นเธอมานั่งอยู่บนตักเรา ขาอ้ากอดตัวเราไว้ เต่าเธออยู่เกือบชนหน้าท้อง 

เราเอามือลูบเต่าเล่นไปมา เธอหลับตาเอานิ้วตัวเองมาใส่ปากกัดเล่นเบา

 พร้อมรอยยิ้มและเคลิบเคลิ้ม ขนปุกปุยของเธออ่อนสลวยหยิกหยกโศก

 ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป สวยงามยิ่งนัก หลังจากลูบไล้เล่นชั่วตรู่