Your Wishlist

ความ​บังเอิญ​ (ความ​บังเอิญ​)

Author: xxx555

ผมยิ่งได้ใจ มือผมที่ว่างอยู่เริ่มล้วงลงไป จับก้นเธอแล้วลูบเล่น เธอสะดุ้งโหยงเลย แต่กลับไม่ร้อง ผมลูบไปได้ซักพักก็เริ่มอยากสัมผัสกับเนื้อจริง ๆ เลยล้วงเข้าไปในกระโปรงเธอเลย

จำนวนตอน :

ความ​บังเอิญ​

  • 05/09/2568

เพราะผมก็พึ่งมาหาแม่ แม่จะไปไหนได้ไง 

ผมจึงตัดสินใจเคาะเรียกอีกครั้ง

"เหมียวครับเหมียว"

 

ถ้าครั้งนี้ไม่มีเสียงตอบอีกก็แสดงว่าแม่ไม่อยู่บ้านแล้ว

 เพราะคราวนี้ผมเรียกเสียงดังเหมือนกัน

 ผมได้ยินเสียงคนเดินและผมก็ได้ยินเสียงแม่ถามออกมาเบา ๆ

"ใคร"

 

ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึกว่าแห้วซะแล้ว

"ผมเอ็มเองครับ เหมียว เปิดหน้าต่างให้ผมเข้าไปหน่อย"

 

เสียงแม่เงียบไปซักพัก เหมือนผมจะได้ยินเสียงแม่ถอนหายใจ

"คุณกลับไปเถอะ"

ผมใจแป้วเลยครับ จากเมื่อกี้ที่รู้สึกใจชื้น 

กลายเป็นตรงกันข้ามเลย

 

"ทำไมละครับเหมียว ขอผมเข้าไปก่อนได้มั้ย 

แล้วค่อยคุยกัน ผมกลัวคนมาเห็นน่ะ"

น้ำเสียงแม่เริ่มเย็นชา

 

 

 

"ฉันก็กลัวคนจะมาเห็นเหมือนกันนั่นแหละ

 เพราะฉะนั้นฉันเลยคิดว่าเราไม่ควรจะมาเจอกันอีก

 เรื่องระหว่างเราขอให้มันจบลงแค่นี้ก็แล้วกัน

 ฉันไม่อยากทำผิดไปมากกว่านี้"

 

ผมอึ้งไปเลยครับเมื่อได้ยินแม่พูดแบบนี้

 ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย

 

"เหมียวโกรธอะไรผมเหรอครับ ถ้าผมทำอะไรผิด

 หรือทำอะไรให้เหมียวไม่พอใจผมขอโทษนะ"

 

ผมไม่รู้ว่าผมไปทำอะไรให้แม่ไม่พอใจหรือเปล่า

 แต่ผมก็ลองยอมรับผิดไปก่อนเผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้น

 

"คุณไม่ได้ทำอะไรให้ฉันโกรธหรือทำอะไรผิดหรอก

 แต่ถ้าจะมีคนผิด ก็คงเป็นฉันมากกว่า

ที่ปล่อยให้เรื่องบานปลายมาจนถึงตอนนี้"

 

เฮ้อ อะไรกันเนี่ย ผู้หญิงทำไมเข้าใจยากจริง ๆ

 หรือรอบเดือนแม่จะมาเลยอารมณ์เสียหรือไงก็ไม่รู้

"เอาล่ะครับ ถ้าวันนี้เหมียวอารมณ์ไม่ดี

 เราค่อยมาคุยกันใหม่วันหลังแล้วกันนะครับ"

 

ผมตัดบททันที เพราะยังไง ๆ

 วันนี้คงไม่มีอะไรดีขึ้นแล้วล่ะ แม่ไม่พูดอะไร

 

ผมคอตกกลับบ้าน พอกลับมาถึงบ้านเจอพ่อนั่งดูโทรทัศน์อยู่

"อ้าวไงมึง วันนี้กลับบ้านเร็วได้ด้วยเหรอ"

 

พ่อแซว ผมได้แต่ยิ้มแหย ๆ แล้วก็เดินขึ้นห้องไป

 ไม่อยากต่อปากต่อคำกับแก ผมพยายามข่มตาหลับ

 แต่ก็ต้องตาค้างหลับไม่ลง 

นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าแม่เป็นอะไรกันแน่

 

ผมพยายามนึกทบทวนถึงเหตุการณ์

ในตอนนั้นที่แม่แสดงท่าทางตกใจหรือว่าที่แม่

 ตกใจก็เพราะจำได้ว่าเป็นผม แม่เลยแสดงอาการแบบนั้นออกมา

 

 แต่ว่าจะเป็นไปได้ยังไง ผมไปแสดงพิรุธตรงไหนให้แม่จับได้ล่ะ

 หน้าผมก็ใส่ไอ้โม้งอยู่ เสียงก็ดัดแล้ว นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

 จนสว่างผมก็ยังนอนไม่หลับ เลยไม่อยากพยายามที่จะนอนแล้ว

 

ผมลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน วันนี้ผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย

 เพราะในหัวมีแต่เรื่องท่าทางแปลก ๆ ของแม่

 ตกเย็นพอเลิกเรียนผมกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

เพื่อที่จะไปดักรอขึ้นรถคัน เดียวกับแม่

 เพราะบนรถเมล์แม่คงหนีผมไปไหนไม่ได้

 ผมจะได้ถามให้รู้เรื่องว่ามันเรื่องอะไรกันแน่

 

แต่ผมก็ต้องผิดหวัง เพราะแม่ไม่ได้อยู่บนรถคันนี้

 วันรุ่งขึ้น วันมะรืน รวมถึงวันถัด ๆ ไปก็เช่นกัน 

ผมไม่เจอแม่บนรถอีกเลย นี่มันอะไรกันแน่

 

 แม่หลบหน้าผมทำไม หลังจากนั้นผมก็พยายาม

เข้าไปหาแม่ที่บ้านอีกหลายครั้งในฐานะ "สามี"

 แต่แม่ก็ไม่เคยให้ผมเข้าไปในบ้านอีกเลย

 

ผมก็ไม่กล้าไปหาแม่ในฐานะ "ลูกชาย"

 เพราะแม่ห้ามไว้แล้วว่าไม่ให้ผมเข้าไป 

ผมคงหมดหวังซะแล้ว ผมรู้สึกท้อ 

 

และคิดว่ามันคงจะลงเอยแบบนี้แล้ว 

แม่คงไม่ยอมมีอะไรกับผมอีก

 ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ฐานะ "สามี"

 ของผมคงต้องยุติลงแล้ว....

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็ไม่เคยไปทำอะไรกับใครบนรถเมล์อีกเลย

 ไม่ใช่ไม่อยากหรอกครับ แต่ไม่คิดจะให้ใครมาแทนที่แม่ผม

 

 ผมอยากเก็บความทรงจำดี ๆ ระหว่างแม่กับผมไว้

 และผมก็ไม่เคยเข้าไปหาแม่อีกเลยไม่ว่าจะในฐานะไหนก็ตาม

 

 

 

ผมตั้งหน้าตั้งตาเรียน หาอะไรทำไปเรื่อยเพื่อให้ลืม ๆ เรื่องพวกนี้ไป

 แต่เวลาที่ผมอยู่คนเดียวมันก็จะแวบเข้ามาในหัวผมตลอด

 สิ่งที่ไม่ได้ครอบครองมักเย้ายวนใจเสมอคุณว่ามั้ย

 

วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในหลาย ๆ วันที่ผมคิดถึงแม่

 แต่ที่แปลกก็คือวันนี้ผมมีความรู้สึกที่อยากจะเจอแม่มาก

 ตลอดเวลาผมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ไปหาแม่

 

 เพราะกลัวว่าแม่จะไม่ให้การต้อนรับ 

แต่วันนี้ความรู้สึกลึก ๆ

 ของผมมันบอกว่าผมควรจะไปหาแม่

 

ผมเชื่อความรู้สึกตัวเองเสมอมา 

ผมเลยแต่งตัวและนั่งรถไปหาแม่ที่บ้าน

 ผมเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าบ้านแม่

 

 จะออกปากเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงลอดออกมา

 จะเคาะประตูมือมันก็ไม่ยอมขยับ สมองก็คิดไปต่าง ๆ

 นานาว่าถ้าแม่เห็นผมแม่จะว่ายังไง ไม่รู้ผมยืนอยู่นานเท่าไหร่

 ก็ต้องมาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกผมมาจากข้างหลัง

 

"อาร์ม"

ผมหันไปด้วยความตกใจก็พบว่าแม่ผมมายืนอยู่ข้างหลัง

 ในมือถือถุงอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด

 

 ผมยืนอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้นพูดอะไรไม่ออกเพราะความตกใจ

 แต่ดูเหมือนแม่จะมีอาการดีใจที่เห็นผมนะ หรือผมคิดไปเองก็ไม่รู้

 

"เอ้า ทำไมมายืนอ้าปากค้างอยู่นั่นแหละ

 แมลงวันบินเข้าไปหลายตัวแล้ว"

แม่พูดพร้อมกับหัวเราะในท่าทางของผม

 

 ผมรู้สึกโล่งอกมากเลยครับเมื่อเห็นว่าแม่ไม่ว่าอะไรที่ผมมาหา

 ผมยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้แม่พร้อมกับถามแม่ว่าแม่ไปไหนมา

 หิ้วของมาซะเยอะเลย และผมก็เข้าไปช่วยแม่ถือของเข้าบ้าน

 

แม่บอกว่าไปตลาดมาของในตู้เย็นหมดแล้วเลยต้องไปซื้อมาเพิ่ม

 ผมช่วยแม่เอาของแช่ในตู้เย็นเสร็จ

 

 แม่ก็ขอตัวไปอาบน้ำเพราะอากาศมันร้อนมาก

 แม่เข้าไปเปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนสั้น ๆ ออกมา

 ทำให้เห็นเนินอกและขาอ่อนแม่รำไร

 

ผมก็ถึงกลับต้องกลืนน้ำลาย เหมือนกับจะได้ยิน

เสียงเพลงของพี่ bird ลอยมาแต่ไกล

 "ถ่านไฟเก่ายังร้อน รอวัน รื้อฟื้นนนน" จนแม่เดินเข้าห้องน้ำไป

 

 ผมเลยได้แต่พยายามระงับอารมณ์ตัวเอง แล้วก็หันมาดูโทรทัศน์ต่อ

 พอแม่อาบน้ำเสร็จ แม่ก็เข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

 และออกมาพร้อมชุดอยู่บ้านที่ผมคุ้นเคย

 

จะไม่ให้คุ้นได้ไงล่ะครับ

 เพราะมันเป็นตัวที่แม่ใส่ในวันที่ผมเข้ามาเย็ดแม่ที่บ้าน

 เห็นแล้วทำให้ผมคิดฟุ้งซ่านไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

 

 ปากแม่ที่ดูดควยผม หีแม่ที่ฟิตแน่น เฮ้อ

 คิดแล้วก็เสียดายที่ไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกแล้ว

 

พอแม่มานั่งที่โซฟา ผมเลยถามแม่ว่าทำไมถึงยอมให้ผมเข้าบ้านแล้ว

 ไม่กลัวไอ้กรมันจะว่าเอาเหรอ

 และคำตอบของแม่ต้องทำให้ผมอึ้ง

 

เมื่อแม่บอกว่าแม่เลิกกับไอ้กรได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว

 ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าจะดีใจหรือเสียใจดี

 ที่ดีใจก็คือแม่จะได้ไม่ต้องมาทนอยู่กับคนอย่างมันแล้ว

 

 แต่ที่เสียใจคือมันไม่มีประโยชน์อะไรกับผมแล้ว

 เพราะแม่คงไม่ยอมมีอะไรกับผมอีก

 

ผมเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น 

แม่เล่าให้ฟังว่าวันนั้นทะเลาะกันอย่างรุนแรง

 และมันก็ลงมือซ้อมแม่เหมือนเดิม แต่คราวนี้หนักกว่าทุกครั้ง

 

 

 

 หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นแม่เลยขอเลิกกับมัน

 พอมันกลับมามีสติมันก็มาขอโทษแม่ในสิ่งที่มันทำ

 แต่แม่ไม่ยกโทษให้ และยืนยันที่จะขอเลิกกับมัน

 

มันคงโมโหหรือไม่ก็คงรู้สึกเสียหน้าเลยชี้หน้าด่าแม่ใหญ่เลย

 มันยังพูดว่าแม่ไม่รู้จักบุญคุณที่มันคอยหาเงินมาเลี้ยงดู 

ด่าว่าแม่เสีย ๆ หาย ๆ และทิ้งท้ายเอาไว้ให้แม่เจ็บใจว่า

 

"กูไปก็ได้ กูก็ไม่อยากทนอยู่กับแก่ ๆ อย่างมึงนักหรอกวะ

 บุญเท่าไหร่แล้วที่กูยอมเป็นผัวมึง

 ไม่งั้นชาตินี้มึงหาผัวใหม่ไม่ได้หรอกเว้ย"

 แล้วมันก็เก็บข้าวของออกไป

 

จริง ๆ มันอาจจะมีสาเหตุอื่นอีกก็ได้นะผมว่า

 เพราะแม่โดนมันทำร้ายร่างกายมาตั้ง 2 ปีแล้ว 

ซึ่งแม่ก็ยังทนอยู่ได้ แต่แม่ไม่ได้บอกผมก็เลยไม่รู้

 ผมได้ยินเสียงแม่ถอนหายใจ

 

"ก็คงจะจริงอย่างที่มันพูดแหละนะ แม่มันแก่แล้ว

 คงไม่มีใครมาเอาทำเมียแล้วล่ะ"

"ไม่จริงเลยครับ แม่ยังสาวอยู่เลย ถ้าผมเป็นคนอื่นล่ะก็

 ผมเอาแม่ทำเมียแน่"

 

 

 

ผมพูดโพรงออกมา กรรมเลยผม

 เสือกพูดออกมาได้ว่าจะเอาแม่ทำเมีย 

แม่หันมามองผมด้วยสายตาแปลก ๆ แล้วก็หันไปพึมพำเบา ๆ

 แต่ผมก็ยังได้ยิน

 

"ก็เอาทำเมียไปแล้วนี่ ยังจะมาพูดอีก" ผมหูผึงเลย

"ห๊ะ อะไรนะครับ เมื่อกี้แม่ว่าอะไรนะ"

"เปล๊าาา แม่บ่นอะไรของแม่ไปเรื่อยแหละ ตามประสาคนแก่น่ะ

 อย่าไปสนใจเลย" แม่ลอยหน้าลอยตาตอบ

 

 

ผมว่าผมได้ยินไม่ผิดนะที่แม่พูดเมื่อกี้

 นี่แสดงว่าแม่รู้แล้วว่าเป็นผมที่มอบความสุขให้กับแม่

 แต่ปัญหามันก็อยู่ที่ว่าแม่รู้ได้ยังไงแค่นั้น เดี๋ยวสิ

 

 นี่ก็แสดงว่าคราวที่แล้วที่แม่แสดงอาการแบบนั้น

กับผมก็แสดงว่าแม่คงจะโกรธ

 และรับไม่ได้ที่รู้ว่าผมมาทำแบบนี้กับแก

 และแม่คงไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีก

 

แต่แล้วทำไมคราวนี้แม่ถึงยอมให้ผมเข้ามาในบ้าน

 และดูเหมือนจะไม่ติดใจอะไรในเรื่องนี้แล้ว

 ก็แสดงว่า....ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดล่ะก็

 คืนนี้ผมคงมีโอกาสได้ทำกับแม่อีกแน่ ๆ

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า