ผมยิ่งได้ใจ มือผมที่ว่างอยู่เริ่มล้วงลงไป จับก้นเธอแล้วลูบเล่น เธอสะดุ้งโหยงเลย แต่กลับไม่ร้อง ผมลูบไปได้ซักพักก็เริ่มอยากสัมผัสกับเนื้อจริง ๆ เลยล้วงเข้าไปในกระโปรงเธอเลย
ผมยิ่งได้ใจ มือผมที่ว่างอยู่เริ่มล้วงลงไป จับก้นเธอแล้วลูบเล่น เธอสะดุ้งโหยงเลย แต่กลับไม่ร้อง ผมลูบไปได้ซักพักก็เริ่มอยากสัมผัสกับเนื้อจริง ๆ เลยล้วงเข้าไปในกระโปรงเธอเลย
เพราะผมก็พึ่งมาหาแม่ แม่จะไปไหนได้ไง
ผมจึงตัดสินใจเคาะเรียกอีกครั้ง
"เหมียวครับเหมียว"
ถ้าครั้งนี้ไม่มีเสียงตอบอีกก็แสดงว่าแม่ไม่อยู่บ้านแล้ว
เพราะคราวนี้ผมเรียกเสียงดังเหมือนกัน
ผมได้ยินเสียงคนเดินและผมก็ได้ยินเสียงแม่ถามออกมาเบา ๆ
"ใคร"
ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึกว่าแห้วซะแล้ว
"ผมเอ็มเองครับ เหมียว เปิดหน้าต่างให้ผมเข้าไปหน่อย"
เสียงแม่เงียบไปซักพัก เหมือนผมจะได้ยินเสียงแม่ถอนหายใจ
"คุณกลับไปเถอะ"
ผมใจแป้วเลยครับ จากเมื่อกี้ที่รู้สึกใจชื้น
กลายเป็นตรงกันข้ามเลย
"ทำไมละครับเหมียว ขอผมเข้าไปก่อนได้มั้ย
แล้วค่อยคุยกัน ผมกลัวคนมาเห็นน่ะ"
น้ำเสียงแม่เริ่มเย็นชา
"ฉันก็กลัวคนจะมาเห็นเหมือนกันนั่นแหละ
เพราะฉะนั้นฉันเลยคิดว่าเราไม่ควรจะมาเจอกันอีก
เรื่องระหว่างเราขอให้มันจบลงแค่นี้ก็แล้วกัน
ฉันไม่อยากทำผิดไปมากกว่านี้"
ผมอึ้งไปเลยครับเมื่อได้ยินแม่พูดแบบนี้
ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย
"เหมียวโกรธอะไรผมเหรอครับ ถ้าผมทำอะไรผิด
หรือทำอะไรให้เหมียวไม่พอใจผมขอโทษนะ"
ผมไม่รู้ว่าผมไปทำอะไรให้แม่ไม่พอใจหรือเปล่า
แต่ผมก็ลองยอมรับผิดไปก่อนเผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้น
"คุณไม่ได้ทำอะไรให้ฉันโกรธหรือทำอะไรผิดหรอก
แต่ถ้าจะมีคนผิด ก็คงเป็นฉันมากกว่า
ที่ปล่อยให้เรื่องบานปลายมาจนถึงตอนนี้"
เฮ้อ อะไรกันเนี่ย ผู้หญิงทำไมเข้าใจยากจริง ๆ
หรือรอบเดือนแม่จะมาเลยอารมณ์เสียหรือไงก็ไม่รู้
"เอาล่ะครับ ถ้าวันนี้เหมียวอารมณ์ไม่ดี
เราค่อยมาคุยกันใหม่วันหลังแล้วกันนะครับ"
ผมตัดบททันที เพราะยังไง ๆ
วันนี้คงไม่มีอะไรดีขึ้นแล้วล่ะ แม่ไม่พูดอะไร
ผมคอตกกลับบ้าน พอกลับมาถึงบ้านเจอพ่อนั่งดูโทรทัศน์อยู่
"อ้าวไงมึง วันนี้กลับบ้านเร็วได้ด้วยเหรอ"
พ่อแซว ผมได้แต่ยิ้มแหย ๆ แล้วก็เดินขึ้นห้องไป
ไม่อยากต่อปากต่อคำกับแก ผมพยายามข่มตาหลับ
แต่ก็ต้องตาค้างหลับไม่ลง
นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าแม่เป็นอะไรกันแน่
ผมพยายามนึกทบทวนถึงเหตุการณ์
ในตอนนั้นที่แม่แสดงท่าทางตกใจหรือว่าที่แม่
ตกใจก็เพราะจำได้ว่าเป็นผม แม่เลยแสดงอาการแบบนั้นออกมา
แต่ว่าจะเป็นไปได้ยังไง ผมไปแสดงพิรุธตรงไหนให้แม่จับได้ล่ะ
หน้าผมก็ใส่ไอ้โม้งอยู่ เสียงก็ดัดแล้ว นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
จนสว่างผมก็ยังนอนไม่หลับ เลยไม่อยากพยายามที่จะนอนแล้ว
ผมลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน วันนี้ผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย
เพราะในหัวมีแต่เรื่องท่าทางแปลก ๆ ของแม่
ตกเย็นพอเลิกเรียนผมกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เพื่อที่จะไปดักรอขึ้นรถคัน เดียวกับแม่
เพราะบนรถเมล์แม่คงหนีผมไปไหนไม่ได้
ผมจะได้ถามให้รู้เรื่องว่ามันเรื่องอะไรกันแน่
แต่ผมก็ต้องผิดหวัง เพราะแม่ไม่ได้อยู่บนรถคันนี้
วันรุ่งขึ้น วันมะรืน รวมถึงวันถัด ๆ ไปก็เช่นกัน
ผมไม่เจอแม่บนรถอีกเลย นี่มันอะไรกันแน่
แม่หลบหน้าผมทำไม หลังจากนั้นผมก็พยายาม
เข้าไปหาแม่ที่บ้านอีกหลายครั้งในฐานะ "สามี"
แต่แม่ก็ไม่เคยให้ผมเข้าไปในบ้านอีกเลย
ผมก็ไม่กล้าไปหาแม่ในฐานะ "ลูกชาย"
เพราะแม่ห้ามไว้แล้วว่าไม่ให้ผมเข้าไป
ผมคงหมดหวังซะแล้ว ผมรู้สึกท้อ
และคิดว่ามันคงจะลงเอยแบบนี้แล้ว
แม่คงไม่ยอมมีอะไรกับผมอีก
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ฐานะ "สามี"
ของผมคงต้องยุติลงแล้ว....
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็ไม่เคยไปทำอะไรกับใครบนรถเมล์อีกเลย
ไม่ใช่ไม่อยากหรอกครับ แต่ไม่คิดจะให้ใครมาแทนที่แม่ผม
ผมอยากเก็บความทรงจำดี ๆ ระหว่างแม่กับผมไว้
และผมก็ไม่เคยเข้าไปหาแม่อีกเลยไม่ว่าจะในฐานะไหนก็ตาม
ผมตั้งหน้าตั้งตาเรียน หาอะไรทำไปเรื่อยเพื่อให้ลืม ๆ เรื่องพวกนี้ไป
แต่เวลาที่ผมอยู่คนเดียวมันก็จะแวบเข้ามาในหัวผมตลอด
สิ่งที่ไม่ได้ครอบครองมักเย้ายวนใจเสมอคุณว่ามั้ย
วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในหลาย ๆ วันที่ผมคิดถึงแม่
แต่ที่แปลกก็คือวันนี้ผมมีความรู้สึกที่อยากจะเจอแม่มาก
ตลอดเวลาผมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ไปหาแม่
เพราะกลัวว่าแม่จะไม่ให้การต้อนรับ
แต่วันนี้ความรู้สึกลึก ๆ
ของผมมันบอกว่าผมควรจะไปหาแม่
ผมเชื่อความรู้สึกตัวเองเสมอมา
ผมเลยแต่งตัวและนั่งรถไปหาแม่ที่บ้าน
ผมเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าบ้านแม่
จะออกปากเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงลอดออกมา
จะเคาะประตูมือมันก็ไม่ยอมขยับ สมองก็คิดไปต่าง ๆ
นานาว่าถ้าแม่เห็นผมแม่จะว่ายังไง ไม่รู้ผมยืนอยู่นานเท่าไหร่
ก็ต้องมาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกผมมาจากข้างหลัง
"อาร์ม"
ผมหันไปด้วยความตกใจก็พบว่าแม่ผมมายืนอยู่ข้างหลัง
ในมือถือถุงอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด
ผมยืนอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้นพูดอะไรไม่ออกเพราะความตกใจ
แต่ดูเหมือนแม่จะมีอาการดีใจที่เห็นผมนะ หรือผมคิดไปเองก็ไม่รู้
"เอ้า ทำไมมายืนอ้าปากค้างอยู่นั่นแหละ
แมลงวันบินเข้าไปหลายตัวแล้ว"
แม่พูดพร้อมกับหัวเราะในท่าทางของผม
ผมรู้สึกโล่งอกมากเลยครับเมื่อเห็นว่าแม่ไม่ว่าอะไรที่ผมมาหา
ผมยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้แม่พร้อมกับถามแม่ว่าแม่ไปไหนมา
หิ้วของมาซะเยอะเลย และผมก็เข้าไปช่วยแม่ถือของเข้าบ้าน
แม่บอกว่าไปตลาดมาของในตู้เย็นหมดแล้วเลยต้องไปซื้อมาเพิ่ม
ผมช่วยแม่เอาของแช่ในตู้เย็นเสร็จ
แม่ก็ขอตัวไปอาบน้ำเพราะอากาศมันร้อนมาก
แม่เข้าไปเปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนสั้น ๆ ออกมา
ทำให้เห็นเนินอกและขาอ่อนแม่รำไร
ผมก็ถึงกลับต้องกลืนน้ำลาย เหมือนกับจะได้ยิน
เสียงเพลงของพี่ bird ลอยมาแต่ไกล
"ถ่านไฟเก่ายังร้อน รอวัน รื้อฟื้นนนน" จนแม่เดินเข้าห้องน้ำไป
ผมเลยได้แต่พยายามระงับอารมณ์ตัวเอง แล้วก็หันมาดูโทรทัศน์ต่อ
พอแม่อาบน้ำเสร็จ แม่ก็เข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
และออกมาพร้อมชุดอยู่บ้านที่ผมคุ้นเคย
จะไม่ให้คุ้นได้ไงล่ะครับ
เพราะมันเป็นตัวที่แม่ใส่ในวันที่ผมเข้ามาเย็ดแม่ที่บ้าน
เห็นแล้วทำให้ผมคิดฟุ้งซ่านไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
ปากแม่ที่ดูดควยผม หีแม่ที่ฟิตแน่น เฮ้อ
คิดแล้วก็เสียดายที่ไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกแล้ว
พอแม่มานั่งที่โซฟา ผมเลยถามแม่ว่าทำไมถึงยอมให้ผมเข้าบ้านแล้ว
ไม่กลัวไอ้กรมันจะว่าเอาเหรอ
และคำตอบของแม่ต้องทำให้ผมอึ้ง
เมื่อแม่บอกว่าแม่เลิกกับไอ้กรได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าจะดีใจหรือเสียใจดี
ที่ดีใจก็คือแม่จะได้ไม่ต้องมาทนอยู่กับคนอย่างมันแล้ว
แต่ที่เสียใจคือมันไม่มีประโยชน์อะไรกับผมแล้ว
เพราะแม่คงไม่ยอมมีอะไรกับผมอีก
ผมเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น
แม่เล่าให้ฟังว่าวันนั้นทะเลาะกันอย่างรุนแรง
และมันก็ลงมือซ้อมแม่เหมือนเดิม แต่คราวนี้หนักกว่าทุกครั้ง
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นแม่เลยขอเลิกกับมัน
พอมันกลับมามีสติมันก็มาขอโทษแม่ในสิ่งที่มันทำ
แต่แม่ไม่ยกโทษให้ และยืนยันที่จะขอเลิกกับมัน
มันคงโมโหหรือไม่ก็คงรู้สึกเสียหน้าเลยชี้หน้าด่าแม่ใหญ่เลย
มันยังพูดว่าแม่ไม่รู้จักบุญคุณที่มันคอยหาเงินมาเลี้ยงดู
ด่าว่าแม่เสีย ๆ หาย ๆ และทิ้งท้ายเอาไว้ให้แม่เจ็บใจว่า
"กูไปก็ได้ กูก็ไม่อยากทนอยู่กับแก่ ๆ อย่างมึงนักหรอกวะ
บุญเท่าไหร่แล้วที่กูยอมเป็นผัวมึง
ไม่งั้นชาตินี้มึงหาผัวใหม่ไม่ได้หรอกเว้ย"
แล้วมันก็เก็บข้าวของออกไป
จริง ๆ มันอาจจะมีสาเหตุอื่นอีกก็ได้นะผมว่า
เพราะแม่โดนมันทำร้ายร่างกายมาตั้ง 2 ปีแล้ว
ซึ่งแม่ก็ยังทนอยู่ได้ แต่แม่ไม่ได้บอกผมก็เลยไม่รู้
ผมได้ยินเสียงแม่ถอนหายใจ
"ก็คงจะจริงอย่างที่มันพูดแหละนะ แม่มันแก่แล้ว
คงไม่มีใครมาเอาทำเมียแล้วล่ะ"
"ไม่จริงเลยครับ แม่ยังสาวอยู่เลย ถ้าผมเป็นคนอื่นล่ะก็
ผมเอาแม่ทำเมียแน่"
ผมพูดโพรงออกมา กรรมเลยผม
เสือกพูดออกมาได้ว่าจะเอาแม่ทำเมีย
แม่หันมามองผมด้วยสายตาแปลก ๆ แล้วก็หันไปพึมพำเบา ๆ
แต่ผมก็ยังได้ยิน
"ก็เอาทำเมียไปแล้วนี่ ยังจะมาพูดอีก" ผมหูผึงเลย
"ห๊ะ อะไรนะครับ เมื่อกี้แม่ว่าอะไรนะ"
"เปล๊าาา แม่บ่นอะไรของแม่ไปเรื่อยแหละ ตามประสาคนแก่น่ะ
อย่าไปสนใจเลย" แม่ลอยหน้าลอยตาตอบ
ผมว่าผมได้ยินไม่ผิดนะที่แม่พูดเมื่อกี้
นี่แสดงว่าแม่รู้แล้วว่าเป็นผมที่มอบความสุขให้กับแม่
แต่ปัญหามันก็อยู่ที่ว่าแม่รู้ได้ยังไงแค่นั้น เดี๋ยวสิ
นี่ก็แสดงว่าคราวที่แล้วที่แม่แสดงอาการแบบนั้น
กับผมก็แสดงว่าแม่คงจะโกรธ
และรับไม่ได้ที่รู้ว่าผมมาทำแบบนี้กับแก
และแม่คงไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีก
แต่แล้วทำไมคราวนี้แม่ถึงยอมให้ผมเข้ามาในบ้าน
และดูเหมือนจะไม่ติดใจอะไรในเรื่องนี้แล้ว
ก็แสดงว่า....ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดล่ะก็
คืนนี้ผมคงมีโอกาสได้ทำกับแม่อีกแน่ ๆ