Your Wishlist

ศึกสองนางพญา (ศึกสองนางพญา)

Author: xxx555

รัชกาลฉุงเจิงฮ่องเต้ แผ่นดินเกิดภัยพิบัติ​ทางการยังเก็บภาษีเพิ่มประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เหล่าโจรปล้นชิงทรัพย์ ขันทีโฉดครองเมือง กองกำลังแมนจูทางภาคเหนือยังรุกรานเข้ามา สั่นคลอนต่อบัลลังก์มังกร

จำนวนตอน :

ศึกสองนางพญา

  • 13/04/2568

จั่วหวินหลิงเงยหน้าตาม ก็เห็นคนชุดดำร่างอ้อนแอ้นแนบร่างอยู่บนเพดานห้องดุจจิ้งจกมหึมา

...ที่แท้คนร้ายไม่ได้หลบหนีออกจากตึก หากแต่ซ่อนตัวอยู่บนเพดานห้องเอง!

 

องครักษ์พิทักษ์ตึกสองคนตวัดทวนคู่มือขึ้น จั่วหวินหลิงพลันช่วงชิงทวนสะบัดซัดใส่คนชุดดำนั้นดุจประกายไฟ คนชุดดำใช้กระบี่สั้นปัดป่ายทวนพลิกตัวหลบทวนอีกเล่มหนึ่ง จั่วหวินหลิงตะปบคว้าทวนจากมือองครักษ์ข้างเคียงอีกเล่มหนึ่งซัดตามติดโดยกระชั้นชิด

 

ประกายทวนพุ่งวาบ ซัดถูกท้องของคนชุดดำได้ยินเสียงครางหนักๆ ทั้งคนทั้งทวนตกวูบลงมาโดยพร้อมเพรียง ร่างอ้อนแอ้นร่วงฟาดลงกับพื้นฟุบแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว

 

สือฉีสืบเท้าไป ใช้ทวนเขี่ยร่างของคนชุดดำพลิกกลับมา ยื่นมือดึงผ้าคลุมหน้าของอีกผ่ายออก สายตายามกวาดตามองต้องงงงันวูบ

 

หลังผ้าคลุมหน้าเป็นวงหน้าผุดผาด ขนคิ้วที่เรียวยาว ดวงตาทั้งคู่พริ้มสนิท ที่แท้เป็นสตรีนางหนึ่ง

สือฉีร้องโพล่งว่า

"เป็นสตรีนางหนึ่ง..."

ไม่ทันขาดคำ สตรีงามชุดดำพลันลืมตาขึ้น สือฉีเอากระบี่สั้นจี้ที่ลำคอนางบังคับให้ลุกขึ้นยืน

 

จั่วหวินหลิงกระชากเสียงถาม

"ใครใช้เจ้ามาลอบสังหาร"

ดรุณีชุดดำหลับตาขบกรามแน่น

จั่วหวินหลิงบันดาลโทสะ ตวัดมือตบฉาดจนนางหน้าหัน

 

"บัดซบ นางแพศยา ดูซิว่าเจ้าจะปิดปากได้นานแค่ไหน"

พูดจบหันไปกล่าวกับองครักษ์

"สือฉี เตรียมเครื่องทรมานเท้าลา!"

 

เสียงฮือฮาดังลั่นห้อง ดรุณีชุดดำสีหน้าซีดเผือด แม้แต่สาวรับใช้สองนางที่อยู่ในห้องก็มีใบหน้าแดงซ่าน แสดงให้เห็นว่าฑัณฑ์ทรมานชนิดนี้คงโหดร้ายเหลือคณา

 

ชั่วครู่สือฉีก็คุมทหารคงรักษ์สองคนลาก แท่นไม้ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายม้านั่งออกมา หากตรงกลางที่นั่งมีรูกลมๆขนาดเท่าข้อมือเจาะอยู่อย่างประหลาด

 

เสียงหัวเราะฮิฮะดังลั่นห้อง จั่วหวินหลิงก็แย้มยิ้มกล่าวเสียงเหี้ยมเกรียม

"สือฉี ทดลองเปิดกลไกให้นางชมดู"

 

องครักษ์สือฉีรับคำ เอื้อมมือไปกดกลไก ทันใดก็มีเสียงครืนครั่ง พร้อมกับมีท่อนไม้รูปร่างคล้ายอวัยวะเพศชายขนาดใหญ่ทะลวงขึ้นลงออกมาจากรูนั้น สตรีชุดดำที่กวาดตามองถึงกับตัวสั่นระริก นางรู้แล้วว่า จั่วหวินหลิงคงจะจับนางเปลือยกายนั่งลงบนม้า ปล่อยให้ท่อนไม้ทะลวงถ้ำหยกของนางนั่นเอง...

 

"พอแล้ว" จั่วหวินหลังสั่ง แล้วหันมามองหน้าสตรีชุดดำ "ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่เจ้า จะบอกหรือไม่?"

 

สตรีชุดดำเบิ่งตามองจั่วหวินหลิงด้วยความอาฆาต แล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง

จั่วหวินหลิงหัวเราะเสียงเหี้ยม

"ดีล่ะ เราคงจะได้ดูของสนุกกันคราวนี้ สือฉีถอดเสื้อผ้านางออก"

 

สือฉีก้าวเท้าเข้ามา ตะปบมือฉีกอกเสื้อนางของนางเสียงดังคว้ากกก

 

"อาาาาาา...."

 

เสียงฮือฮาดังขึ้นลั่นห้อง เมื่อปทุมถันอวบใหญ่ขาวผ่องหลุดผึงออกมาเต้นสั่นระริกอยู่ต่อหน้าคนทั้งหลาย ยอดปทุมถันมีสีชมพูระเรื่อ ปลายยอดนั้นเป็นเม็ดเล็กๆยังไม่ทันเบ่งบาน แสดงว่าสตรีชุดดำนี้ยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่

 

สตรีชุดดำเป็นยอดฝีมือผู้หนึ่ง พอถูกเหยียดหยามก็อดไม่ได้ที่จะต้องตวาดด่าด้วยความโกรธ

"คนเลวทราม เป็นถึงองครักษ์แต่พฤติกรรมไม่ผิดกับสัตว์ป่า"

จั่วหวินหลิงหาได้มีโทสะไม่ แต่สั่งต่อไปอย่างยิ้มแย้ม

 

"ถอดกางเกงนางออกด้วย! สือฉี! ถอดให้หมด!"

 

สือฉีรับคำ มือฉกปราดอย่างคล่องแคล่ว เสียงเสื้อผ้าขาดวิ่นอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดร่างของสตรีชุดดำก็เปลือยเปล่าอวดโฉมอยู่ต่อหน้าคนทั้งหมด

 

เรือนร่างของสตรีชุดดำงดงามสมบูรณ์ ปทุมถันของนางอวบอูมตูมตั้งกระเพื่อมไปมาอย่างเย้ายวนด้วยความกดดันจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เอวคอดกิ่ว ผิวขาวผ่อง 

 

ช่วงขาเรียวงามแฝงแรงดีดสะท้อนที่ทรงพลัง น่าเสียดายที่นางเอามือปิดอวัยวะสำคัญไว้ทำให้มองเห็นไม่ถนัด แต่ถึงกระนั้นพงขนก็ยังโผล่ให้เห็นรำไรจากฝ่ามือน้อยๆที่ปิดไว้ไม่มิด แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของสตรีนางนี้

 

เม้แต่ดรุณีรับใช้สองนางถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของสตรีชุดดำปรากฏอยู่ตรงหน้า!

 

"เอาตัวนางขึ้นนั่งได้" จั่วหวินหลิงร้องสั่งอย่างเหี้ยมเกรียม

 

องครักษ์สองคนก้าวเข้ามาจับที่แขนนาง

 

ทันใดนั้น สตรีชุดดำพลันลืมตาขึ้น ขบฟันในปากคราหนึ่ง บัดเกิดเสียงดังกร๊อบ ร่างอ้อนแอ้นของนางสะท้านเฮือกหนึ่ง มุมปากกรากฏโลหิตไหลซึมออกมา

 

สือฉีฉุกคิดว่าผิดท่า ยื่นมือรออยู่ที่ริมจมูกของนาง พบว่าไม่มีลมหายใจอีก จึงกล่าว

"นางขบยาพิษในปาก ชิงฆ่าตัวตายแล้ว"

พลางตรวจค้นเสื้อผ้านาง พบป้ายหยกอันหนึ่งซุกอยู่ จึงส่งมอบต่อจั่วหวินหลิง

จั่วหวินหลิงรับป้ายหยกไป ส่งมอบต่อเฉาฮั่วฉุน กล่าวว่า

 

"บิดา ท่านดู"

เฉาฮั่วฉุนพลิกดูป้ายหยกเที่ยวหนึ่ง กล่าวเสียงเครียดว่า

"นี่เป็นป้ายผ่านทางในวังหลวง คำนวณจากวิทยายุทธของคนร้ายนางนี้ คงต้องเป็นนางกำนัลที่มีวิทยายุทธติดตัวในวังหลวง"

 

"บิดา ในความคิดของท่าน คนร้ายผู้นี้เป็นผู้ใดส่งมา"

เฉาฮั่วฉุนกล่าวอย่างครุ่นคิด

"ในความคิดของเรา สมควรเป็นองค์หญิงเจาเหยิน"

 

...เจาเหยินกงจู้ (องค์หญิงเจาเหยิน) เป็นราชธิดาองค์รองของฉุงเจินฮ่องเต้

 

 

 

ภายในวังเวี้ยหัว กลางสระอบเชย

 

เจาเหยินกงจู๊เปลือยกายแหวกว่ายอยู่กลางสระ สรงสนานด้วยจิตใจสำราญ

นางเกล้าผมเป็นมวยลวกๆ ดวงตากลมโตดำขลับ วงหน้ากลมเกลี้ยงดั่งจันทร์เพ็ญ

 

 ช่วงคองามระหงเนินไหล่กลมมนละเอียดอ่อน ปทุมถันกลมกลึงเต่งตึง ปลายยอดเป็นสีชมพูระเรื่อ ยื่นนิ้วเรียวงามดุจลำเทียนทั้งสิบ วักน้ำเล่นด้วยความเบิกบาน

 

ที่ขอบสระนั่งไว้ด้วยนางกำนัลหน้าตาน่ารักหน้าเอ็นดูสองนางคอยเฝ้าปรนนิบัติเจาเหยินกงจู๊ นางหนึ่ง กำลังขบเคี้ยวของว่าง อีกนางนั่งเท้าแขนจับตาดูร่างเปลือยเปล่างดงามของเจ้าหญิงเจาเหยินแหวกว่ายน้ำไปมา ดวงตาของนางกำนัลน้อยดำขลับฉ่ำเยิ้มเป็นประกายสุกใส

 

นี่เป็นส่วนลึกในวังหลวง นอกจากนางกำนัลคนสนิทแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถเหยียบย่างเข้ามา นางกำนัลทั้งสองล้วนเป็นคนสนิทของเจาเหยินกงจู๊ คนแรกนั้นเรียกว่าแนเสี่ยวเชี่ยน ส่วนคนที่นั่งเท้าแขนเรียกว่าเฟยจินเอ๋อ

 

"พี่เสี่ยวเชี่ยน องค์หญิงรองของเราสวยจริงๆเลยนะ โดยเฉพาะถันนมนั้นกลมกลึงได้รูปดีเหลือเกิน เมื่อไหร่ข้าจะมีหน้าอกแบบนี้สักทีนะ"

 

แนเสี่ยวเชี่ยนหัวเราะเบาๆ

"อีกไม่นานหรอกน่าจินเอ๋อ ตอนนี้ก็เริ่มโตขึ้นแล้วไม่ใช่หรือ อายุเจ้าแค่นี้เอง ข้าว่านมเจ้าออกจะโตเกินวัยด้วยซ้ำ"

 

"ได้ยินว่า ถ้าให้ผู้ชายลูบๆคลำๆแล้วมันจะโตเร็วขึ้น จริงมั๊ยคะพี่เสี่ยวเชี่ยน"

แนเสี่ยวเชี่ยนหน้าแดง

 

"ใครบอกเจ้าล่ะ"

"ข้าได้ยินพวกนางกำนัลพูดกันน่ะ" เฟยจินเอ๋อพึมพำ สายตาจับจ้องมองเจาเหยินกงจู๊ที่เปลี่ยนเป็นนอนหงายตีกรรเชียง เห็นโคกหีของนางลอยปริ่มน้ำผลุบโผล่ๆ ขนหมอยดกดำปกคลุมโคกหีที่นูนเด่นเป็นรูปใบพลูไว้อย่างงดงามต้องเอ่ยถามต่อ

 

"พี่เสี่ยวเชี่ยน"

"อะไรอีกล่ะ"

"ขนตรงนั้นของพี่ขึ้นเยอะเท่ากับองค์หญิงรองหรือเปล่า"

แนเสี่ยวเชี่ยนหน้าแดงก่ำดุเบาๆ

 

"นี่จินเอ๋อ เจ้าชักจะทะลึ่งใหญ่แล้วนะ"

"โธ่ พี่เสี่ยวเชี่ยน ข้าไม่ได้ทะลึ่งนะ ข้าอยากรู้จริงๆ ของข้าทำไมขึ้นมานิดเดียว"

 

แนเสี่ยวเชี่ยนเห็นสีหน้าไร้เดียงสาของเฟยจินเอ๋อ ก็รู้ว่าไม่ได้แกล้งหยอกล้อนางจึงตอบตามตรง

"ของข้าก็พอๆกับองค์หญิงนั่นแหละ"

เฟยจินเอ๋อยิ้มอย่างซุกซน

 

"จริงเหรอพีเสี่ยวเชี่ยน งั้นพี่ก็เป็นสาวแล้วซิ อยากรู้จังว่าผู้ชายนะจะโชคดีคนไหนได้เย็ดหีพี่เสี่ยวเชียนเป็นคนแรก"

 

"บ้า!" แนเสี่ยวเชี่ยนร้องอุทาน พร้อมกับไล่ทุบเฟยจินเอ๋อที่หัวเราะคิกคักลุกขึ้นหนี แนเสี่ยวเชี่ยนรีบลุกขึ้นไล่ตามแล้วปล้ำกอดร่างนุ่มนิ่มของเฟยจินเอ๋อไว้ที่ริมสระ พร้อมกับเอามือจี้เอวของเฟยจินเอ๋อ นางกำนัลน้อยถึงกับหัวเราะไปวิงวอนไป

 

"อุ๊ย พี่เสี่ยวเชี่ยน ข้ายอมแพ้แล้ว อย่าจี้เอว คิก คิก พี่เสี่ยวเชี่ยนคนสวย ข้ายอมแล้ว คิกคิก"

 

เสียงหัวเราะหยอกล้อต่อกระซิกของสองนางกำนัลทำให้เจาเหยินกงจู๊หันมามองด้วยความสงสัย

 

"นี่เจ้าสองคนเล่นอะไรกัน" เจาเหยินกงจู๊ถามยิ้มๆ พร้อมกับแหวกว่ายมาใกล้ทั้งคู่

 

"ก็จินเอ๋อน่ะซิเพคะองค์หญิง มาล้อหม่อมฉันว่าจะมีชายไหนได้เย็ดหีหม่อมฉันเป็นคนแรก" แนเสี่ยวเชี่ยนรีบฟ้อง

 

เจาเหยินกงจู๊ทำท่าดุใส่นางกำนัลน้อย

"นี่จินเอ๋อเป็นเด็กเป็นเล็ก ก็หัดแก่แดดแล้ว โตขึ้นจะขนาดไหนเนี่ย"

เฟยจินเอ๋อเชิดปาก

 

"เด็กที่ไหนเพคะ อ่อนกว่าองค์หญิงแค่สองปีเอง"

"สองปีก็อ่อนกว่า อย่างน้อยข้าก็รู้อะไรมากกว่าเจ้าก็ละกัน"

 

"จริงอ่ะ? งั้นองค์หญิงรู้เรื่องผู้ชายกับผู้หญิงเย็ดกันรึยัง" เฟยจินเอ๋อถามตรงๆอย่างไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี ทั้งสามนางแม้จะได้ชื่อว่าเป็นนายบ่าว

 

 แต่จริงๆก็เติบโตมาด้วยกันและสนิทกันเหมือนพี่น้อง ยามอยู่ตามลำพังก็จะหยอกล้อกันโดยที่เจาเหยินกงจู๊ไม่เคยถือสา เพียงแต่ครั้งนี้จินเอ๋อออกจะหยาบคายมากกว่าทุกครั้ง

 

เจาเหยินกงจุ๊เบะปาก

"ทำไมจะไม่รู้ ข้าศึกษาตำรามาจนหมดสิ้นแล้ว"

แนเสี่ยวเชี่ยนหัวเราะคิก นางรู้ดีว่าเจาเหยินกงจู๊มากอย่างที่คุยหรอก แต่ทำเป็นอวดรู้ไปอย่างนั้นเองเพื่อข่มเฟยจินเอ๋อ

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป