Your Wishlist

ศึก​สายเลือด​ (วิมานสวาทสาวหม้าย)

Author: xxx555

ผมชื่อต้นคุณแม่ชื่อ ตุ๊ และน้องสาวชื่อ ตาล โดยมีน้องสาวฝาแฝดของคุณแม่ของผมชื่อต๊ะ พระ เจ้าผมเกือบถึงสวรรค์ตั้งแต่คุณแม่ใช้ลิ้นเลียผม "คุณแม่เทคนิคดีจังเลยครับ"เริ่มทนไม่ไหวใช้มือจับศีรษะคุณแม่ขึ้นลง อีกมือล้วงไปคลำหน้าอกคุณแม่

จำนวนตอน :

วิมานสวาทสาวหม้าย

  • 03/02/2568

ที่ใดมีสาวงาม...ที่นั่นคือแดนสวรรค์ นั่นคือความจริงที่ใคร ๆ ก็คัดค้านไม่ได้ ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่มีความเห็นสอดคล้องต้องกันทั้งนั้น

สาวงามคนที่ว่านี้ งามจริง ๆ งามทั้งใบหน้าและส่วนสัดในเรือนร่าง ใครได้พบเห็นแล้วจะต้องเก็บเอามาคิดมาฝันถึงเธอไปอีกนาน

ชุมศรีคือสาวงามผู้มีเสน่ห์ชอบให้ใฝ่ฝัน เธอมีอายุได้ 27 ปีเศษ แต่ถ้าใครไม่ทราบความจริงแล้ว จะคิดว่าเธอมีอายุเพียง 20 กว่าปีเท่านั้นเอง

เป็นที่น่าเสียดายที่เธอเป็นหม้าย สามีตายตั้งแต่วัยนี้ ทิ้งให้เธอผจญกับความว้าเหว่กับลูกชายวัย 5 ขวบเศษ มันเป็นของแน่ที่เธอจะต้องคร่ำครวญถึงชีวิตรักอันหวานชื่นของเธอซึ่งได้สลายตัวไปอย่างปัจจุบันทันด่วน วัยของเธอเป็นวัยที่กำลังต้องการความรักความทะนุถนอมอย่างแท้จริง เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ท่านลองคิดดูสิว่า ชุมศรีจะปวดร้าวและว้าเหว่เพียงไร เธอโศกสลดรันทดกับการตายของสามีได้ถึงปีกว่า เจ้าความเศร้าก็บินไปจากเธอทีละน้อย ๆ จนบัดนี้ เธอร่าเริงแจ่มใสมีชีวิตชีวาเหมือนผีเสื้อแสนสวยที่บินโฉบไปมาเพื่อหาความหวานชื่นจากเกสรดอกไม้

เธอเริ่มทำตนเป็นนักสังคมสงเคราะห์ เริ่มออกงานสังคมต่าง ๆ ยิ่งเธอเป็นคนสวยมีเสน่ห์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเยื้องกรายไปที่ใด ก็งามเด่นสะดุดตาอยู่เสมอ ถ้าใครไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน จะมิทราบเป็นอันขาดว่าเธอเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว

ด้วยความหงอยเหงาตั้งแต่แรก เธอจึงชวนน้องสาวร่วมบิดามารดามาอยู่เป็นเพื่อนถึงสองคน โดยการส่งเสียให้เรียนเสริมสวย คือคนพี่ชื่อชวนชื่นเรียนตัดเสื้อ คนหนึ่งชื่อชวนชมเรียนตัดผม

อันอุปนิสัยของสองพี่น้องนี้ ก็แตกต่างกันยิ่งนัก ชวนชื่นคนพี่นั้นมีนิสัยเยือกเย็นสุขุมละเอียดอ่อน เหมาะแก่วิชาที่เรียนอยู่แล้ว ส่วนชวนชมคนน้องนั้นมีนิสัยสนุก เจ้าอารมณ์ เปรี้ยวปรูดปราด เหมาะแก่สมัยนิยมปัจจุบัน แต่พี่น้องก็มีความรักใคร่กันเป็นอย่างดี

ชุมศรีจัดให้น้องทั้งสองขึ้นไปพักบนชั้นบนใกล้ ๆ กับห้องของเธอและลูกชาย ไม่ปะปนกับคนใช้ซึ่งอยู่เรือนแถวข้างล่าง อาศัยที่สามีที่ตายเป็นคนมีสมบัติมรดกมหาศาลจากบรรพบุรุษ สมบัติอันนั้นจึงตกทอดมาถึงเธอและบุตร อาศัยที่เธอเป็นคนฉลาด รู้จักสะสมและหารายได้จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาใช้จ่ายประจำเดือน ค่าเช่าบ้านและค่าเช่าที่ และรายได้อื่น ๆ เมื่อรวมกันเข้าแล้ว เธอก็มีพอที่จะใช้จ่ายได้อย่างสบาย เธอจึงไม่มีทุกข์มีร้อน ดิ้นรนหากินเหมือนแม่หม้ายเป็นส่วนมาก

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ทุกคนอยู่บ้านกันอย่างพร้อมเพรียง นาฬิกาตีบอกเวลา 10 นาฬิกาพอดี เด็กรับใช้คลานเข้ามาบอกว่ามีแขกต้องการพบคุณชุมศรีพร้อมกับยื่นนามบัตรให้

ไพศาล กาญจนเดช เป็นชื่อสกุลของเขา ชุมศรีรับมาอ่านอย่างงง ๆ ด้วยเธอไม่รู้จักชื่อนี้มาก่อนเลย สั่งให้เด็กรับใช้เชิญเขาเข้าไปยังห้องรับแขก แล้วเธอก็ตรงไปยังกระจกเงาเพื่อสำรวจความงามของใบหน้าและเครื่องแต่งกายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นว่าพร้อมแล้ว เธอจึงตรงไปยังห้องรับแขกทันที

ชายผู้นั้นลุกขึ้นต้อนรับเธออย่างอ่อนน้อม พร้อมกับยกมือคารวะเธอก่อนทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าวัยของเขาจะไม่น้อยนัก

"เอ้อ สวัสดีครับคุณชุมศรี"

"ค่ะ สวัสดีคุณไพศาล เชิญนั่งสิคะ ตามสบายเถอะค่ะ ถือเป็นกันเอง"

เธอหยุดเว้นระยะเมื่อเด็กรับใช้นำเครื่องดื่มเข้ามาให้

"เชิญดื่มสิคะ วันนี้อากาศค่อนข้างอบอ้าวซะด้วย"

"คุณมีธุระอะไรที่จะให้ดิฉันรับใช้คุณหรือคะ คุณไพศาล"

"ครับ ผมมีธุระที่ต้องการจะปรึกษาและขอคำแนะนำจากคุณ"

"เชิญเลยค่ะ ดิฉันยินดีจะช่วยเหลือและขอบคุณที่ให้เกียรติดิฉันค่ะ"

"คือยังงี้ครับ ผมขอแนะนำตัวของผมก่อนว่าผมเป็นชาวปักษ์ใต้ เป็นเจ้าของเหมืองแร่ที่มีรายได้พอประมาณ ขณะนี้ภรรยาของผมต้องการจะหย่าร้างกับผม แต่ผมรักเธอมากและคิดว่าจะอยู่โดยปราศจากเธอไม่ได้ ผมจึงมาขอความกรุณาคุณ ด้วยมีผู้แนะนำว่า คุณเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง โปรดให้คำแนะนำผมด้วยจะเป็นพระคุณที่สุด"

ชุมศรีนั่งฟังปัญหาชีวิตของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ เมื่อเขาเล่าจบ เธอก็พูดชมเขาอย่างอ่อนหวาน

"ขอประทานโทษนะคะ ถ้าหากว่าดิฉันจะถามซอกแซกไปหน่อย แต่ก็จำเป็น เพราะบางทีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราไม่คิดว่าจะเป็นสิ่งก่อความแตกร้าว แต่มันก็เป็น"

"ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีตอบคำถามของคุณทุกประโยค เชิญถามได้เลยครับ"

"ภรรยาของคุณอายุเท่าไรไม่ทราบคะ แก่หรืออ่อนกว่าคุณกี่ปี"

เขาทำท่านิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า

"จงจิต ภรรยาของผมอายุ 35 ปีครับ อ่อนกว่าผม 4 ปี ผม 39"

"อ้อ วัยก็สมกันดีนี่คะ มีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยรึเปล่าคะ"

"ไม่เคยทะเลาะกันเลยครับ เป็นความจริง"

"เอ น่าแปลก"

"มาระยะประมาณเดือนเศษ ๆ นี่แหละครับ ดูเธอเฉย ๆ ขรึม ๆ ไม่ค่อยช่างพูดและยิ้มหัวเราะเหมือนก่อน ๆ"

"ขอโทษคะ มีบุตรกี่คนคะ"

"คนเดียวครับ ผู้ชายอายุได้ 18 ปีพอดี"

เธอทำท่าอย่างใช้ความคิด เขานิ่งด้วยอาการอันสงบราวกับจำเลยกำลังรอฟังคำพิพากษาจากศาล

"จะรังเกียจมั้ยคะ ถ้าดิฉันจะขอเป็นแขกไปพักที่บ้านสัก 2-3 วัน เพื่อจะดูเหตุการณ์อะไรบางอย่าง"

"โอ ด้วยความยินดียิ่งเชียวครับ จะไปกับผมเลยรึไงครับ จะได้สะดวก"

"ไม่ดีหรอกค่ะ คุณกลับไปก่อน และอีกสองวัน ดิฉันจะตามไป ขอตำบลที่อยู่ให้ดิฉันด้วย"

เขาจัดการตามที่เธอบอกด้วยใบหน้าแช่มชื่นขึ้น และบอกแก่เธอว่า เขาจะมารับเธอที่สถานีรถไฟ แล้วเธอก็นัดหมายกับเขาให้บอกแก่ภรรยาว่า เธอเป็นญาติผู้น้อง ต้องการจะไปพักผ่อนตากอากาศสักหนึ่งอาทิตย์

แล้วไพศาลก็ลาเธอกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

อีกสองวันต่อมา ชุมศรีก็ได้ไปปรากฏตัวที่ปัตตานีอันเป็นที่อยู่ของไพศาล เขามารับเธอตรงตามที่นัดไว้ และได้แนะนำแก่ภริยาของเขาว่าเธอเป็นญาติผู้น้องตามที่ตกลงกันไว้ ชุมศรีเรียกเขาว่าพี่อย่างสนิทสนม ทำให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น

จงจิตเป็นคนสวยคมซึ้ง แววตาของเธอแสดงว่ามีอารมณ์ร้อนแรงอยู่มิใช่น้อย แต่ขณะนี้เธอดูเศร้าซึมไปเล็กน้อย เพราะเธอพยายามปกปิดอารมณ์ของเธอไว้มิแสดงออกมาโดยมารยาทของเจ้าของบ้าน

ชุมศรีกระซิบสั่งไพศาลว่า ขอให้เธอมีเวลาอยู่กับจงจิตให้มากที่สุดเพื่อเธอจะได้ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ภริยาของเขาต้องการจะหย่าร้าง

ดังนั้นไพศาลจึงออกไปทำงานในเหมืองเสียทั้งวัน จะกลับมาก็เฉพาะเวลารับประทานอาหารเท่านั้น และกลางคืนจงจิตก็จัดให้ชุมศรีได้นอนร่วมกับตนตามที่เธอต้องการ

ในห้องนอนอันรโหฐาน บนเตียงอันกว้างใหญ่ซึ่งรองรับฟูกอันอ่อนนุ่ม สองหญิงต่างก็ซ่อนร่างอยู่ในชุดนอนอันพราวพริ้ง นอนคุยกันอย่างถูกคอกัน ชุมศรีชวนสนทนาตามจุดที่ตนต้องการ เป็นการดีอยู่อย่างหนึ่งที่จงจิตเป็นคนเปิดเผย เธอถามอะไรก็เล่าให้ฟังตามตรงไม่ปิดบังอำพรางแม้แต่น้อย

ในที่สุด เธอก็จับจุดได้ว่า เป็นเพราะไพศาลรักงานมากเกินไปจนลืมเอาใจใส่ภรรยาของตน แม้กระทั่งเวลานอน ความเหน็ดเหนื่อยทำให้เขาหลับอย่างสนิท ซึ่งตรงข้ามกับเมียซึ่งแสนจะว้าเหว่นอนลืมตาโพลงเพื่อจะรอรับความรักความอบอุ่นจากเขาเหมือนเมื่อแต่งงานใหม่ ๆ แต่เขาก็มิได้รู้สึกถึงความต้องการของเมียเลยสักนิด บางคราวเป็นเวลาถึงเดือนเศษที่เขามิได้ยุ่งเกี่ยวหลับนอนฉันท์ผัวเมียทั้งหลาย ทั้ง ๆ ที่ก็นอนอยู่ด้วยกันทุกคืน อกเธอแทบจะระเบิดตายเสียให้ได้ แต่ความเป็นผู้หญิง ให้เร่าร้อนร่านระริกเพียงไร ก็สุดที่จะบอกให้ใครรู้ได้ แม้ว่าคนนั้นจะเป็นผัวของตนก็ตาม

"อือม์ ดู ๆ พี่ศาลไม่น่าจะเป็นถึงขนาดนี้เลยนะคะ เห็นออกเป็นสุภาพบุรุษ ดี๊ ดี พี่จิตก็ยังสาวและสวยด้วย ทำไมถึงไม่มีอารมณ์เอาซะเลยน้อ"

เธอเปรยขึ้นอย่างสงสัย พร้อมทั้งลูบไล้ช่วงแขนของเธอไปมาอย่างแผ่ว ๆ

"ค่ะ มอง ๆ ดูคุณศาลก็เป็นคนน่ารักอยู่มาก แต่น่าแปลก ทำไมไม่มีอารมณ์เอาซะเลย พี่ก็เจ็บใจตัวพี่เหลือเกินนะน้องชุม ทำไมถึงเกิดอารมณ์เมื่อเข้าใกล้เขาทุกที"

"มันเป็นของธรรมดาค่ะ พี่จิต ผัวกันเมียกันมันก็ต้องยังงั้นแหละ"

"รึคุณศาลจะนอกใจพี่ก็ไม่รู้"

"เคยไปค้างที่อื่นเสมอรึคะ"

"ไม่เคยเลยค่ะ"

2
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป