ซ่งชิงหยูต้องข้ามมิติไปกว่าสิบครั้งเพื่อความอยู่รอด ก่อนที่จะได้กลับมาสู่โลกเดิมของเธอ เธออยากจะนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไร แต่โชคชะตากลับพาเธอไปติดอยู่ในป่าดงดิบ เเต่หลังจากที่เธอพบแมวตัวหนึ่ง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ซ่งชิงหยูต้องข้ามมิติไปกว่าสิบครั้งเพื่อความอยู่รอด ก่อนที่จะได้กลับมาสู่โลกเดิมของเธอ เธออยากจะนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไร แต่โชคชะตากลับพาเธอไปติดอยู่ในป่าดงดิบ เเต่หลังจากที่เธอพบแมวตัวหนึ่ง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ซ่งชิงหยูลูบหัวแมวเพื่อปลอบโยน โดยไม่ทันสังเกตเห็นใบหน้าที่มีขนฟูนุ่มใต้นิ้วของเธอที่เต็มไปด้วยความแข็งกระด้างและความหดหู่
เธอเพียงแค่บอกเจียงซูเหยียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลว่า "ขาหลังของมันหัก ตอนนี้ยังขยับไม่ได้"
เจียงซูเหยียนแสดงท่าทางโล่งใจอย่างโอเว่อร์จนต้องตบหน้าอกตัวเองราวกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
หยูมู่หวายกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "มิน่าล่ะ ผมเห็นคุณมองขาหลังของมันอยู่ตลอด"
ทุกคนต่างก็รู้ดีถึงสาเหตุที่ทำให้แมวตัวนี้กระดูกหัก
เจียงซูเหยียนรีบเปลี่ยนเรื่องพูด "แมวตัวนี้ยังไม่มีชื่อใช่ไหม?"
ซ่งชิงหยูพยักหน้าแล้วก้มลงมองเจ้าขนปุยในมือ
เมื่อลดสายตาลง เธอก็สบกับดวงตาแมวสีเขียวเข้มที่จ้องมองกลับมาอย่างฉับพลัน
ดวงตาคู่นั้นสว่างลึกดั่งทะเลสาบที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ดูงดงามจับใจ
และในขณะนั้น เจียงจื้อหานที่ตื่นเต็มตาก็พบว่าตัวเองกำลังสบตากับผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งโดยไม่ทันตั้งตัว
ผู้หญิงคนนี้มีผมยาวสีดำ ผิวละเอียดดั่งเครื่องลายคราม คล้ายหิมะที่สะท้อนแสงจันทร์
ดวงตารูปทรงดอกท้อของเธอแวววาวและน่าหลงใหล ทำให้ไม่อาจลืมเลือนได้เลย
เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้!
หลังจากฟื้นจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงจื้อหานก็พบว่าตัวเองกลายเป็นแมว
เพราะกังวลว่ารถอาจจะระเบิด เขาจึงต้องรีบหนีจากที่เกิดเหตุ แต่เพราะเพิ่งกลายเป็นแมว เขายังเดินไม่มั่นคงและเกือบจะประสบอุบัติเหตุอีกครั้ง
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ช่วยเขาไว้ได้ทันเวลา เกรงว่าเขาคงจะไม่สามารถเเม้เเต่จะเป็นแมวได้ด้วยซ้ำ!
เจียงจื้อหานกวาดตามองไปรอบๆ และมั่นใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่บนทะเล
ในช่วงที่สติยังเลือนลาง เขาได้ยินเสียงสนทนารอบๆ และรู้ว่าผู้หญิงที่ช่วยเขาเป็นนักแสดง และตอนนี้พวกเขากำลังถ่ายทำรายการอยู่...
แม้ว่าการเป็นสัตว์เลี้ยงของคนอื่นจะน่าขายหน้า แต่เจียงจื้อหานก็ไม่ใช่คนที่จะยอมรับความจริงไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนี้ยังช่วยชีวิตเขาไว้ ตราบใดที่ไม่ให้เธอรู้ถึงตัวตนของเขา ทุกอย่างก็ยังอยู่ในความควบคุม
ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น เจียงจื้อหานลืมความเจ็บปวดจากกระดูกขาหลังหักไปเสียสนิท ดูท่าทีเหมือนแมวที่ไร้ประโยชน์ จับหนูไม่เป็น
ซ่งชิงหยูคิดเช่นนั้นแล้วตอบกลับโดยไม่ทันคิด:
“ชื่อจื้อจื้อแล้วกัน”
ได้ยินชื่อนี้ เจียงจื้อหานแทบคิดว่า ซ่งชิงหยูรู้จักเขา แต่ก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้!
เขาพยายามจะปฏิเสธชื่อนี้ แต่พออ้าปากออกมากลับกลายเป็นเสียง "เหมียว~"
เสียงเหมียวแผ่วเบาน่ารักออกมา ทำให้เจียงจื้อหานถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
ซ่งชิงหยูเห็นแมวร้องออกมาแล้วไม่ขยับก็พึมพำว่า “หรือว่าหัวมันจะกระแทกแรงจนกลายเป็นแมวโง่ไปแล้ว?”
เจียงจื้อหานถึงกับกล้ำกลืน แม้จะถูกหาว่าเป็นแมวโง่แต่เขาก็ต้องทน ถ้าวันใดวันหนึ่งเขากลับเป็นคนได้ เขาจะไม่บอกใครเด็ดขาดว่าเขาเคยเป็นแมวมาก่อน!
"มันดูเชื่องดีนะ" เจียงซูเหยียนพูดพลางพยายามเอื้อมมือไปลูบแมว
แต่ทันทีที่ยื่นมือไป แมวตัวนั้นก็มองกลับมาด้วยสายตาเย็นชา
เจียงซูเหยียนถึงกับสะดุ้ง ถอนมือออกอย่างเก้อเขิน "ดูเหมือนว่าจะเชื่องแค่บางทีเท่านั้นแหละ"
หยูมู่หวายเห็นสายตาดุร้ายของแมวก็ยิ้มอ่อนโยน "สายตาของมันเหมือนลูกเสือเลย อาจจะช่วยเราได้"
“ถ้างั้นเราเลือกเข้าทีมเดียวกับชิงหยูได้ถูกคนแล้วล่ะ” เจียงซูเหยียนพูดเสริม
ซ่งชิงหยูรู้ว่าทั้งสองคนพูดปลอบใจเธอ เลยยิ้มอย่างมีความสุข
“เพราะพวกนายพูดแบบนี้ ตอนที่อยู่บนเกาะ ฉันจะไม่ทิ้งพวกนายแน่นอน ถ้าฉันมีข้าวกิน พวกนายก็มีน้ำซุปกินด้วย!”
หยูมู่หวายและเจียงซูเหยียนหัวเราะออกมา คิดว่าเป็นแค่คำพูดติดตลกของชิงหยูเท่านั้น
[พูดอะไรแบบนี้ได้เนี่ย ซ่งชิงหยูไม่ปกติหรือเปล่า?]
[บางคนแยกไม่ออกเลยเหรอว่าล้อเล่น?]
[บางทีเธออาจจะคิดแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ คิดว่าการเอาชีวิตรอดในป่าคือการเล่นขายของ แล้วเกาะนี้คือแม่ของเธอ!]
[พี่เจียงกับหยูมู่หวายอารมณ์ดีสุด ๆ!]
[ทีมอื่นเขาวางแผนขั้นหนึ่งสองสามกันแล้ว ทีมนี้เล่นแบบปล่อยปละละเลย?]
[หวังว่าซ่งชิงหยูจะอยู่ได้นานๆ ฉันแค่อยากดูสาวสวยเท่านั้น]
...
ท่ามกลางการถกเถียงในคอมเมนต์ เรือเร็วทั้งสองก็เข้าถึงฝั่งทีละลำ
กล้องจับภาพฝั่งบนเกาะที่ทั้งสองทีมลงไป ซึ่งดูมีพื้นที่กว้างขวาง ตรงกลางเป็นป่าที่มีระดับสูงต่ำต่างกัน รอบๆ เป็นชายหาดที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ ในท้องฟ้าสีครามที่ล้อมรอบด้วยทะเล เกาะนี้ดูเหมือนสวรรค์ที่ซ่อนเร้นจากโลกภายนอก
หลินซิงพอลงจากเรือปุ๊บ ก็รีบวิ่งไปหาหยูมู่หวายทันที
“พี่มู่หวาย พวกเรามีมีดและไฟแช็ก ทำอะไรได้สะดวกกว่าเยอะ พี่อยากมาร่วมกับพวกเราไหม?”
“ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ” เจียงมู่หวายถือถุงเกลือเดินไปหาซ่งชิงหยู ชัดเจนว่าเป็นการปฏิเสธ
หลินซิงเบ้ปาก พูดเสียงดังขึ้นอย่างตั้งใจ “เฮ้! ซ่งชิงหยู เธออยากมาร่วมทีมกับพวกเราไหม?”
ซ่งชิงหยูยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วตอบว่า “เธอเป็นเด็กที่เข้าห้องน้ำต้องจับมือกันหรือไง?”
“ฮ่าฮ่า” เจียงซูเหยียนหัวเราะออกมา
“เธอ! เธออย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ!” หลินซิงพูดอย่างโกรธจัด
"ฉันแค่หวังดีอยากช่วยพวกคุณ พวกคุณไม่เห็นบุญคุณก็แล้วไป! ถ้ามีปัญหาขึ้นมา หวังว่าพวกคุณจะยังมีศักดิ์ศรีเหมือนเดิมก็เเล้วกัน!"
ซ่งชิงหยูตอบว่า "โอ้ เธอเองก็เหมือนกันนะ"
หลินซิงกัดฟัน ตั้งท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นกล้องที่อยู่ไม่ไกลนัก ก็หันหลังเดินจากไปทันที
หึ! เธอจะคอยดูว่า ซ่งชิงหยูจะทนไปได้นานแค่ไหน!
เมื่อหลินซิงจากไป เจียงซูเหยียนก็ถามขึ้นว่า "แล้วตอนนี้พวกเราจะทำอะไรก่อนดี?"
"หาที่สร้างที่พักก่อนดีไหม?" หยูมู่หวาย ที่ได้ศึกษาเรื่องนี้มาก่อนเข้าร่วมรายการ เสนอความเห็น
ซ่งชิงหยูตอบว่า "ไม่ เราต้องไปเก็บขยะก่อน"
[เก็บขยะ นี่ฉันฟังผิดหรือเปล่า?]
[ตามปกติไม่ควรจะสร้างที่พักก่อน จากนั้นก็หาฟืนจุดไฟแล้วหาอาหารเหรอ?]
[นี่มันตรรกะอะไรเนี่ย?]
[ฉันไม่เข้าใจเลย]
[ขำจริงๆ]
ในขณะที่มีคำถามมากมายในคอมเมนต์ของไลฟ์สด เจียงซูเหยียนก็ดูสับสนเช่นกัน
แม้แต่เจียงจื้อหานก็อดที่จะเงยหน้ามองซ่งชิงหยูไม่ได้
"ขาหักแล้วก็อย่าขยับมาก" ซ่งชิงหยูกดแมวในมือลง แล้วอธิบายให้สองคนฟังว่า
"สิ่งที่ปกติเราไม่ใช้ อาจมีประโยชน์มากเมื่ออยู่ในป่า"
เจียงมู่หวายเข้าใจทันที "ก็จริง ของจากในทะเล อาจลอยมาเกยที่ชายหาด"
จากนั้น ทั้งสามคนและหนึ่งแมว ก็ตั้งเป้าหมายแรกในการเริ่มต้นการผจญภัย นั่นคือเก็บขยะ
[ดูเหมือนซ่งชิงหยูจะได้ศึกษามาก่อนแล้วนะ]
[ถึงจะศึกษามาก่อนก็แค่ครึ่งๆ กลางๆ แหละ!]
[พาแมวมาด้วยยังไงก็เป็นภาระอยู่ดี!]
[มีสคริปต์ไหม? ซีซั่นก่อนหน้าก็เหมือนเป็นไปตามสคริปต์นะ]
[หรือว่าทีมงานจะเอาของมาวางไว้ที่ชายหาดให้เธอเก็บ?]
"อาจารย์เจียงกับหยูมู่หวายไปทางนี้ ฉันไปอีกทาง ไม่เจอของที่ใช้ได้ก็ไม่เป็นไร อีกยี่สิบนาทีเรามาเจอกันที่นี่"
หยูมู่หวายพยักหน้า เป็นท่าทีที่ดูพร้อมปฏิบัติตาม
เจียงซูเหยียนจับคางอย่างครุ่นคิดแล้วพูดขึ้นว่า "ผมนึกถึงมุกตลกอันหนึ่ง"
ซ่งชิงหยูและเจียงมู่หวายต่างพูดพร้อมกันว่า "อ๋อ?"
เจียงซูเหยียนเล่าต่อว่า "เสี่ยวหงกับเสี่ยวหมิงนัดเจอกันที่ภูเขาหลังบ้าน สุดท้าย...พวกเขาทั้งคู่ก็ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ฮ่าฮ่าฮ่า..."
[ริมทะเลที่อบอุ่นกลับกลายเป็นเย็นเยือกขึ้นมาทันทีΣ(°△°|||)︴]
[บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที]
[ฉันเคยคิดมาตลอดว่าอาจารย์เจียงเป็นคนที่สุขุมและเคร่งขรึม ไม่นึกเลยว่า...]
[ตลกมาก ฉันเขินจนข่วนพื้นไปถึงเมืองแล้ว]
[อาจารย์เจียง คุณควรมีสติหน่อย!]
เจียงซูเหยียนเห็นทั้งสองคนไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ทำหน้าไร้เดียงสาแล้วถามว่า "ไม่ตลกเหรอ?"
ทั้งสองคนกับหนึ่งแมว: พูดไม่ออก
————
ในขณะเดียวกัน คลิปของซ่งชิงหยูที่อุ้มแมวเข้าร่วมรายการ "เอาชีวิตรอดในป่า" ได้ถูกตัดต่อเป็นคลิปสั้นๆ แล้วนำมาเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต
ในวิดีโอ ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่พูดอย่างหยิ่งผยองว่า 'ฉันคนเดียวก็เป็นทีมได้' แต่ยังพูดอย่างทะนงตัวกับหยูมู่หวายและเจียงซูเหยียนว่า 'ฉันจะไม่ทิ้งพวกนาย' ราวกับว่าการเอาชีวิตรอดในป่าเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้!
ทำให้คนดูมากมายรู้สึกหงุดหงิดและอยากจะเห็นเธอโดนตบหน้าในรายการ!
หลายคนจึงเข้ามาดูไลฟ์สด หวังจะได้เห็นความจริงสั่งสอนซ่งชิงหยูให้อยู่ในความเป็นจริง