อีฟ้าหลุดเข้ามาในเกมส้นตีxอะไรไม่รู้ มันติดอยู่ในหุบเขาประหลาด เจอผู้เล่นประสาทแดกมากมาย แถมยังต้องวิ่งหนีไอ้ผีหื่น ที่ไล่จับมันไป...เอ่อ........
อีฟ้าหลุดเข้ามาในเกมส้นตีxอะไรไม่รู้ มันติดอยู่ในหุบเขาประหลาด เจอผู้เล่นประสาทแดกมากมาย แถมยังต้องวิ่งหนีไอ้ผีหื่น ที่ไล่จับมันไป...เอ่อ........
อย่าน๊าา..อย่าหยุดสิ!!!
ฟ้ากับกายเดินลึกเข้าไปในป่าทึบ ท่ามกลางความเงียบที่อึมครึม มีเพียงเสียงลมพัดผ่านใบไม้ที่แห้งเหี่ยวและเสียงฝีเท้าของพวกเขาบนพื้นดินที่เต็มไปด้วยซากพืชซากไม้ ฟ้ารู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมเข้ามาในผิวหนัง และมันทำให้เธอขนลุกโดยไม่รู้ตัว
“รู้สึกไหมว่าอากาศเริ่มแปลกๆ?” ฟ้าห่อตัวเองด้วยแขน สายตาของเธอกวาดมองรอบตัวเหมือนหวาดระแวง
“ใช่ ฉันก็รู้สึกได้” กายตอบ แต่เสียงของเขาฟังดูเหมือนเสียงกระซิบจากทุกทิศทาง และมันทำให้ฟ้าสะดุ้งเล็กน้อย
ฟ้ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “นายพูดแบบนั้นทุกที...นายคิดว่าเราจะออกจากที่นี่ได้จริงๆ เหรอ?”
กายไม่ได้ตอบทันที เขาลอยตัวผ่านเธอไปอย่างช้าๆ โดยที่ขาของเขาไม่ได้แตะพื้น ฟ้าไม่สามารถละสายตาจากกายได้ เขาเคลื่อนตัวไปรอบๆ หัวไปทาง ตัวไปทาง ก่อนจะเอื้อมมือยาวๆมาเกาะไหล่เธอ
“ฉันหวังว่าเราจะเจอทางออก” กายพูดพลางหันกลับมามองเธอ แต่ในแววตาของเขามีความว่างเปล่าที่น่ากลัว
ฟ้าพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงที่ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“เฮ้ย! พวกเอ็งนั่นแหละ! หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!”
ฟ้าหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และพบกับชายหนุ่มในชุดเสื้อผ้าที่ดูเหมือนจะถูกปะติดปะต่อจากหลายยุคหลายสมัย เขามีรูปร่างผอมบาง ผมเผ้ายุ่งเหยิง และถือไม้เท้าที่ปลายมีหัวกระโหลกเล็กๆ ห้อยอยู่
“คุณเป็นใคร?” ฟ้าถามอย่างระวัง
“ข้าชื่อ คะนึง คะนึงอาภัพ!” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับชูไม้เท้าขึ้นสูง สีหน้าของเขาดูจริงจัง แต่ฟ้ากลับรู้สึกว่าชายคนนี้น่าจะไม่เต็มร้อย
“คะนึงอาภัพ?” กายเลิกคิ้ว “ชื่อที่แปลกจริงๆ”
“อย่าดูถูกนามของข้า! ข้าเป็นนักพยากรณ์แห่งหุบเขานี้” คะนึงประกาศด้วยความภาคภูมิใจ แต่ตาของเขาเหมือนหลบเลี่ยงไปที่อื่นในขณะที่พูด
“นักพยากรณ์? แล้วทำไมต้องมาขู่เราด้วยล่ะ?” ฟ้าถามขณะที่เธอพยายามจะไม่หัวเราะกับท่าทีของเขา
คะนึงอาภัพยักไหล่ “ข้าแค่พยายามจะช่วยพวกเอ็งน่ะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างพวกเอ็งควรอยู่”
“หมายความว่าไง?” กายลอยเข้ามาใกล้ คะนึงกระพริบตาแล้วก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย
“เอ่อ...คือ ข้าหมายถึงว่า พวกเอ็งไม่รู้หรอกว่าหุบเขานี้มันมีอะไรบ้าง ข้าจะช่วยพวกเอ็งออกไปจากที่นี่ก็ได้ แต่พวกเอ็งต้องตอบแทนข้าด้วย” คะนึงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูเจ้าเล่ห์
ฟ้ามองคะนึงด้วยความสงสัย “ตอบแทน? คุณต้องการอะไรจากเรา?”
คะนึงยิ้มกว้าง “ข้าต้องการแค่ของเล็กๆ น้อยๆ จากพวกเอ็ง ของที่มีค่าเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง”
“ของมีค่า? เราไม่มีอะไรจะให้หรอกนะ” ฟ้าพูดเสียงแข็ง “เราแค่ต้องการหาทางออกจากที่นี่เท่านั้น”
คะนึงยิ้มอีกครั้ง แต่คราวนี้ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความชั่วร้าย “งั้นก็เตรียมตัวพบกับความลับของหุบเขานี้ได้เลย พวกเอ็งจะได้รู้ว่าการเดินออกจากที่นี่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด”
ทันใดนั้น พื้นดินที่พวกเขายืนอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือน เสียงเหมือนต้นไม้ล้มดังขึ้นจากรอบๆ และเถาวัลย์ที่พันรอบต้นไม้ก็กระตุกและเคลื่อนตัวราวกับมีชีวิต ฟ้าตกใจจนเธอเกือบจะเสียหลักล้ม แต่กายลอยเข้ามาประคองเธอไว้
“ระวังหน่อย ฟ้า” กายพูดด้วยเสียงกระซิบที่เต็มไปด้วยความห่วงใย แม้จะเป็นผี แต่การสัมผัสของเขากลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
“อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ พวกเอ็งต้องผ่านการทดสอบของหุบเขานี้ให้ได้” คะนึงหัวเราะแล้วหายตัวไปในเงามืด ทิ้งฟ้าและกายไว้ท่ามกลางความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆ ตัวพวกเขา
ฟ้าพยายามจะลุกขึ้น แต่ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาในจิตใจของเธอ เถาวัลย์รอบข้างเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ เหมือนจะพันรอบตัวพวกเขา ฟ้ารู้สึกถึงความแน่นและหนาวเย็นที่เริ่มกัดกินเข้าไปในผิวหนังของเธอ
“กาย! ช่วยฉันที!” ฟ้าร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
กายไม่พูดอะไร แต่เขาลอยเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ราวกับว่าเขากำลังต่อสู้กับบางอย่างที่มองไม่เห็น เขาเอื้อมมือที่เย็นเยียบไปจับแขนของฟ้า และทันใดนั้น ความเย็นที่กัดกินร่างกายเธอก็หายไป
ฟ้าหันไปมองกาย สายตาของเขามีบางอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นแววตาที่ผสมผสานระหว่างความห่วงใยและความปรารถนาที่ลึกซึ้ง กายลูบแขนของเธอเบาๆ ขณะที่เขาพูดเสียงต่ำ “ฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไป ฉันจะxxxเธอ...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
ฟ้ารู้สึกถึงความอุ่นวาบที่วิ่งผ่านร่างกายของเธอ แม้ว่ามือของกายจะเย็นเยียบเหมือนน้ำแข็ง แต่สัมผัสของเขากลับทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและวาบหวามในเวลาเดียวกัน เธอเริ่มสับสนในความรู้สึกของตัวเอง แต่ก่อนที่เธอจะทันคิดอะไรได้ กายก็โน้มตัวเข้ามาใกล้มากขึ้น ลมหายใจของเขาเบาๆ รินรดที่ต้นคอของเธอ
“ฟ้า...” กายกระซิบเสียงต่ำ ใกล้หูของเธอจนทำให้เธอตัวสั่น “เธอไม่ต้องกลัว...ฉันจะอยู่กับเธอเสมอ คอยตอกรูxxเธอ”
"เอ่อ......"
ฟ้าไม่สามารถตอบอะไรได้ คำพูดจัญไรๆของกายทำให้เธอหมดคำจะพูดต่อ!! มือของเขาลูบไล้ไปตามต้นแขนของเธอ จากนั้นเขาก็ใช้ปลายนิ้วไล้เบาๆ ที่ไหล่ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่เอวของเธอ
หัวใจของฟ้าเต้นแรงจนเธอรู้สึกว่ามันจะกระเด็นออกจากอก ความรู้สึกที่กายทำให้เธอนั้นเป็นมากกว่าความกลัวหรือความหวาดระแวง มันคือความปรารถนาที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
กายใช้ปลายนิ้วของเขาค่อยๆ ลูบไล้ลงมาตามแนวกระดูกสันหลังของเธอ ขณะที่เขาโน้มตัวเข้ามากระซิบใกล้หูของเธอ “ฉันจะทำให้เธอรู้สึก...ว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่เธอยังไม่เคยสัมผัส”
ฟ้ารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกายที่แผ่วเบาบนผิวของเธอ ความร้อนวาบวิ่งผ่านร่างกายเธอ ความรู้สึกที่เหมือนน้ำแข็งและไฟที่หลอมรวมกันอยู่ภายในกายของเธอ
แต่ก่อนที่พวกเขาจะทำอะไรไปไกลกว่านั้น เสียงลมกระโชกก็ดังขึ้นอีกครั้ง และเถาวัลย์ที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ก็หยุดชะงัก ก่อนที่จะถอยกลับไปเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น ฟ้าหายใจหอบด้วยความตื่นเต้นและความสับสน กายยิ้มเล็กน้อยแล้วปล่อยเธอจากอ้อมแขน
“เราควรจะไปต่อได้แล้ว” กายพูดพลางหันกลับไปมองทางข้างหน้า “หุบเขานี้ยังมีความสนุกมากมายให้เราทำ”
"สนุกกับผีนายน่ะสิ ฉันตื่นขึ้นมาแบบนี้ ยังไม่รู้เหนือรู้ใต้อะไรด้วยซ้ำ"
ฟ้าบ่นเสียงดัง แถมยังหงุดหงิดที่กายหยุดทำ...ไปเสียดื้อๆ